โอสวัลดู โลเร็งซู ฟิลยู

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ออสวัลโด ฟิลโญ)
โอสวัลดู
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม โอสวัลดู โลเร็งซู ฟิลยู
วันเกิด (1987-04-11) 11 เมษายน ค.ศ. 1987 (37 ปี)
สถานที่เกิด โฟร์ตาเลซา บราซิล
ส่วนสูง 1.68 m (5 ft 6 in)
ตำแหน่ง กองหน้า
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2006–2008 Fortaleza 38 (11)
2007River (ยืมตัว)
2008–2012 Al-Ahli Dubai 21 (9)
2009–2010บรากา (ยืมตัว) 4 (0)
2011เซอารา (ยืมตัว) 36 (5)
2012–2014 เซาเปาลู 28 (8)
2015 อัลอะฮ์ลี ญิดดะฮ์ 10 (1)
2015–17 ฟลูมีเน็งซี 31 (1)
2017 Sport Recife 28 (3)
2018 โฟร์ตาเลซา 14 (2)
2018 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 16 (2)
ทีมชาติ
2013– บราซิล 2 (0)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2016
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 6 เมษายน 2013

โอสวัลดู โลเร็งซู ฟิลยู (โปรตุเกส: Osvaldo Lourenço Filho; เกิด 11 เมษายน ค.ศ. 1987) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวบราซิล และเป็นอดีตนักฟุตบอลตำแหน่งกองหน้าของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขามีความสามารถในด้านการเลี้ยงลูกฟุตบอลและการใช้ความเร็ว[1][2]

สโมสรอาชีพ[แก้]

ในวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 2012 โอสวัลดูเซ็นสัญญากับสโมสรเซาเปาลู ก่อนที่จะย้ายไปอัล-อะห์ลีดูไบด้วยค่าตัว 4.6 ล้านเรอัลบราซิล[3] ต่อมาเขาได้ย้ายไปเล่นให้กับฟลูมีเน็งซี เขาเป็นผู้เล่นที่มีความสำคัญ และได้รับข้อเสนอจากคาชิมะแอนต์เลอส์ แต่ทางฟลูมีเน็งซีได้ปฏิเสธข้อเสนอนั้นไป[4]

ในวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 2015 โอสวัลดูเซ็นสัญญาสามปีกับอัลอะฮ์ลี ญิดดะฮ์[5]

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด[แก้]

ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2018 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัวโอสวัลดู ฟิลยู จากสโมสรโฟร์ตาเลซา โดยเขาจะได้สวมเสื้อหมายเลข 17[6] ต่อมาในวันที่ 9 มิถุนายน โอสวัลดูลงเล่นนัดแรกให้กับบุรีรัมย์ในนัดที่บุกไปชนะบางกอกกล๊าสที่ลีโอสเตเดียม 2–1 โดยเขามีส่วนร่วมในการต่อบอลช่วยให้จีโอกูทำประตูได้สำเร็จ[7] ต่อมาวันที่ 12 กันยายน โอสวัลดูทำประตูแรกในลีกในนัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะสุโขทัย 4–1[8] ต่อมาในวันที่ 16 กันยายน เขาประตูที่ 2 ในลีกในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปชนะเอสซีจี เมืองทองที่เอสซีจีสเตเดียม 3–0[9] และในวันที่ 27 ตุลาคม การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศ โอสวัลดูทำหนี่งประตูในนัดที่บุรีรัมย์พ่ายแพ้เชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนามศุภชลาศัย 3–2[10]

ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ นัดชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก ฤดูกาล 2561 เจอกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ช้าง เอฟเอคัพ 2561 ที่สนามกีฬากองทัพบกในกรุงเทพมหานคร โอสวัลดูมีชื่อเป็นตัวสำรองในนัดนั้น สุดท้าย บุรีรัมย์ แซงเอาชนะ สิงห์ เชียงราย 3–1 ช่วยให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ สมัยแรก ได้สำเร็จ[11] หลังจากนัดนั้น โอสวัลดูก็ได้แยกทางกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อย

ทีมชาติบราซิล[แก้]

วันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2013 โอสวัลดูถูกเรียกตัวติดทีมชาติในนัดกระชับมิตรพบกับอิตาลีและรัสเซีย[12] ต่อมาวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 2013 เขาลงเล่นทีมชาติครั้งแรกในนัดที่บราซิลเอาชนะโบลิเวีย 4–0 โดยเป็นตัวสำรองแทนที่เนย์มาร์[13]

เกียรติประวัติ[แก้]

โฟร์ตาเลซา
  • Ceará State League: 2007, 2008
ชะบับอัลอะฮ์ลี
  • UAE Football League: 2008–09
เซอารา
  • Ceará State League: 2011
เซาเปาลู
  • Copa Sudamericana: 2012
อัลอะฮ์ลี
  • Saudi Crown Prince Cup: 2014–15
ฟลูมีเน็งซี
  • Primeira Liga: 2016
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

อ้างอิง[แก้]

  1. "Brazil - Osvaldo Lourenço Filho - Profile with news, career statistics and history". Soccerway.
  2. "Osvaldo Lourenço Filho". Goal.com.
  3. http://www.omelhordofutebol.com/2012/02/as-contratacoes-mais-caras-do-futebol.html[ลิงก์เสีย]
  4. "Reviravolta de Osvaldo faz São Paulo recusar oferta de clube japonês". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-26. สืบค้นเมื่อ 2018-10-11.
  5. "Após três temporadas no São Paulo, Osvaldo acerta com o Al-Ahli [After three seasons at São Paulo, Osvaldo joins Al-Ahli]". Lancenet (ภาษาโปรตุเกส). สืบค้นเมื่อ 18 January 2015.
  6. "บุรีรัมย์เสริมแหลกเปิดตัว โอสวัลดู". Goal.com. สืบค้นเมื่อ October 11, 2018.
  7. "บีจี 1-2 บุรีรัมย์ : ออสวัลโด้ ช่วยปราสาทฯ คว้าชัยเปิดหัวเลกสอง". FourFourTwo. สืบค้นเมื่อ October 11, 2018.[ลิงก์เสีย]
  8. "บุรีรัมย์ 4-1 สุโขทัย : ค้างคาวนำเร็วก่อนโดนปราสาทฯยิง4ลูกรวด". FourFourTwo. สืบค้นเมื่อ October 11, 2018.[ลิงก์เสีย]
  9. "เมืองทอง 0-3 บุรีรัมย์ : ปราสาทยำกิเลนฯคาบ้าน". FourFourTwo. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-16. สืบค้นเมื่อ October 11, 2018.
  10. "เชียงราย 3-2 บุรีรัมย์ : บิลล์ แฮตทริกพากว่างแซงปราสาทซิวแชมป์เอฟเอ คัพ". FourFourTwo. สืบค้นเมื่อ February 7, 2019.[ลิงก์เสีย]
  11. "บุรีรัมย์พลิกแซงเชียงราย 3-1 คว้าแชมป์ ออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนคัพ". สืบค้นเมื่อ September 4, 2019.
  12. Sem Lucas, Felipão convoca são-paulino Osvaldo à seleção
  13. Ficha técnica: Bolívia 0 x 4 Brazil

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]