หลี เหม่ยเสียน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
หลี่ เหม่ยเสียน
เกิดวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2509 (57 ปี)
หลี่เหม่ยเสียน
ฮ่องกง
คู่สมรส"เซียะซิ่งจ้าว" (พ.ศ. 2548-ปัจจุบัน)
คู่ครองเหลียงเฉาเหว่ย (พ.ศ. 2529-2530)
อาชีพนักแสดง
ปีที่แสดงปีพ.ศ. 2528-2544
ผลงานเด่น- บท "เตี่ยเมี่ยง" เรื่อง ดาบมังกรหยก (พ.ศ. 2529) ค่าย "ทีวีบี"
- บท "หลี่หยวนจื่อ" เรื่อง "ตำนานอักษรกระบี่" (พ.ศ. 2530)
- บท "ทิซิมลั้ง" เรื่อง "เดชเซียวฮื่อยี้" (พ.ศ. 2531)
- บท "เช็กฮวง" เรื่อง "มังกรสะท้านบู๊ลิ้ม" (พ.ศ. 2532)
- บท "ปอวา" แฝดผู้พี่ในเรื่อง "เหยี่ยวนรกทะเลทราย" (พ.ศ. 2535)
สังกัดทีวีบี
ฐานข้อมูล
IMDb

"หลี่เหม่ยเสียน" (จีน:黎美嫻) มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Kitty Lai "คิตตี้ ไหล่ (สำเนียงกวางตุ้ง)" เป็นอดีตนักแสดงหญิงชาวฮ่องกงที่มีชื่อเสียง ในยุค 80s เธอเป็นหนึ่งในนักแสดงสาวไม่กี่คน ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักแสดงหญิงที่สวมใส่ชุดจีนโบราณ ได้สวยมากที่สุดคนหนึ่ง ของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี[1][2][3] [4][5][6][7][8][9]และเคยถูกจัดอันดับโดยทีวีบีให้เป็นหนึ่งในสิบดาราจอแก้วแห่งยุค 80 ที่สวยที่สุดของทางช่อง[10]

ทางด้านการแสดง เธอเคยได้รับชมจากสื่อว่า เธอเป็นหนึ่งในนักแสดงไม่กี่คนที่สามารถเล่นบทร้องไห้ได้สะเทือนใจผู้ชม แต่เมื่อยิ้มก็ทำให้โลกสดใสได้ทันที ผลงานที่เป็นที่จดจำมากที่สุดของเธอคือการรับบท "เตี่ยเมี่ยง" ในละครเรื่อง ดาบมังกรหยก ปีพ.ศ. 2529 เวอร์ชันที่มี เหลียงเฉาเหว่ย แสดงนำ และยังเคยเป็นอดีตแฟนสาวของเขาอีกด้วย

ประวัติ[แก้]

หลี่เหม่ยเสียน เกิดวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2509 ในครอบครัวที่อบอุ่นและดูแลกันใกล้ชิด มีพี่น้อง 4 คน หลี่เหม่ยเสียน เป็นคนที่ 3

เธอเริ่มสนใจการแสดงตั้งแต่ 9 ขวบ หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ที่ "Shatin Pui Ying College" แล้ว หลีเหม่ยเสียน ได้ตัดสินใจเข้าเรียนในโรงเรียนสอนการแสดงของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ในปีพ.ศ. 2527 ในรุ่นเดียวกันกับ เติ้ง ชุ่ยเหวิน เส้า เหม่ยฉี กัวฟู่เฉิง และ เฉินถิงเว่ย ฯลฯ และเพื่อนร่วมรุ่นที่สนิทคือ เติ้งชุ่ยเหวิน หลังจากเรียนจบการแสดงเธอก็เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในช่อง "ทีวีบี" ทันที

เข้าสู่วงการละคร[แก้]

ในปีพ.ศ. 2528 ในเริ่มแรกสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ได้ให้เธอรับบทเป็นตัวสมทบ หรือ ตัวประกอบ ซึ่งน้อยคนนักจะรู้ ในหลายต่อหลายเรื่อง โดยเริ่มจากละครสากลย้อนยุคเรื่อง "เจ้าพ่อฮ่องกง" (The Battle Among the Clans :大香港 1985) ที่มีดาราดังอย่าง โจวเหวินฟะ แสดงนำและมี กงฉือเอิน เป็นนางเอก และยังมี หลิวชิงเหวิน และ กวนหลี่เจียะ ร่วมแสดง, ละครเรื่อง "3 ก๊ก ตอน ศึกสองแผ่นดิน" (The Battlefield :楚河漢界 1985) ที่มีดาราดังอย่าง อู๋ฉีหัว สือซิว เฉินอวี้เหลียน นำแสดง อีกทั้งยังได้ดาราดังอย่าง องเหม่ยหลิง มาเล่นรับเชิญ ให้อีกด้วย, ต่อมาเป็นตัวประกอบในละครดังเรื่อง "ซิยิ่นกุ้ย พิชิตตะวันออก" (The Legend of the General Who Never Was :薛仁貴征東 1985) โดยมี "ว่านจื่อเหลียง" และ "เติ้งชุ่ยเหวิน" นำแสดง

ปีพ.ศ. 2529 เธอเริ่มรับบทเด่นเป็นครั้งแรกในละครเรื่อง "สับคู่ชู้ชื่น" (Changing Partners :執位夫妻 1986) นำแสดงโดย เจิงเจียง และ เจิ้งอวี้หลิง ละครต่อมาเรื่อง "ตี้ชิง" (The Legend of Dik Ching :狄青 1985) โดยได้รับบทเด่นคู่กับ เหมียวเฉียวเหว่ย เป็นผลงานแจ้งเกิดของเธอในวงการบันเทิงทันที ผลงานต่อมา "จอมโจรอาหนิว" (The Ordeal Before the Revolution :賊公阿牛 1986) รับบทนางรอง ร่วมแสดงกับ หวงเย่อหัว, ละครแนวอภินิหารเรื่อง "เทพเจ้าหวังต้าเซียน" (Legend Of Wong Tai Sin :黃大仙 1986) รับบทสมทบร่วมแสดงกับ เจิ้งเส้าชิว เซี่ยะเสียน เฉิน ซิ่วจู จวง จิ้งเอ๋อ เหมาซุ่นจวิน และ นางเอกของเรื่อง "เติ้งชุ่ยเหวิน", ละครเรื่อง "วิระบุรุษโค่นอิทธิพลมืด" (Turn Around and Die :英雄故事 1986) ร่วมแสดงกับ ว่านจือเหลียง และนางเอกของเรื่องคือ "หลันเจี๋ยอิง" ผลงานเหล่านี้ทำให้เธอมีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น แต่ผลงานที่ทำให้เธอโด่งดังทั่วเอเชีย คือเรื่อง "ดาบมังกรหยก" (The New Heaven Sword and the Dragon Sabre :倚天屠龍記 1986)ในปีเดียวกันที่เธอรับบทนางเอกเต็มตัวเป็น "เตี่ยเมี่ยง" และมี เหลียงเฉาเหว่ย รับบท "เตียบ่อกี้" เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นผลงานที่ดังที่สุดในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ และในช่วงนี้เองที่ทำให้เธอได้พบรัก กับเหลียงเฉาเหว่ย ในกองถ่ายทำละครเรื่องนี้ กลายเป็นรักสามเส้า ระหว่างเขาและเธอ กับ ดาราสาวคนดังอีกคน เจิ้ง หัวเชียน ซึ่งเป็นแฟนของเหลียงเฉาเหว่ยในช่วงเวลานั่น ความรักของทั้งคู่เป็นที่เกรียวกราว และมีสีสันในตอนนั้นเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่แฟนคลับของแต่ละคนเขียนจดหมายไปต่อว่าอีกฝ่าย อย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับตัวเธอ มีทั้งในแง่บวกและลบ ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็มีข่าวลือว่า เจิ้งหัวเชี่ยน เข้าไปด่าเธอในห้องแต่งตัวที่กองถ่ายละครเรื่องหนึ่ง แต่ต่อมา หลีเหม่ยเสียน ออกมา ปฏิเสธว่า เจิ้งหัวเชียนไม่เคยเข้าไปด่าเธออย่างที่เป็นข่าวเลย

ต่อมาในปีพ.ศ. 2530 เธอมีผลงานละครฟอร์มใหญ่ เรื่อง "ตำนานอักษรกระบี่" The Legend of the Book and the Sword :書劍恩仇錄 1987) ที่มีดาราชื่อดังทั้งชายและหญิงมาร่วมแสดง อาทิเช่น เยิ่นต๊ะหัว สือซิว ชี เหม่ยเจิน เฉินหมิ่นเอ๋อ เหลียงเพ่ยหลิง และ หลอฮุ่ยเจี้ยน เป็นต้น ถึงแม้ว่าละครฟอร์มใหญ่เรื่องนี้ผลตอบรับจากผู้ชมในตอนนั้น จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่...ข่าวรักๆใคร่ๆของหลีเหม่ยเสียน กับ เหลียงเฉาเหว่ย ก็ส่งเสริมให้ทั้งคู่ดังอย่างต่อเนื่อง

ถัดมาในปีพ.ศ. 2531 จู่ ๆ ก็มีข่าวอื้อฉาวว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเหลียงเฉาเหว่ย จบลงเพราะฝ่ายชายประกาศกับสื่อว่า ได้คืนดีกับ เจิ้งหัวเชี่ยนแล้ว ทำให้ หลีเหม่ยเสียน เป็นฝ่ายที่เจ็บช้ำ เป็นการสิ้นสุดความรักที่โด่งดัง 2 ปีที่คบกันของคนทั้งคู่ ส่วนผลงานของเธอในปีนี้ มีหลายเรื่อง อาทิเช่น ละครประจำปี ที่มีความยาว 5 ตอนจบ เรื่อง "คนปาบ" (Behind Silk Curtains ;大都會 1988) มีดาราชั้นนำมากมายร่วมแสดง อาเช่น เจิ้งเส้าชิว หวังหมิงฉวน ชีเหม่ยเจิน และ โจวซิงฉือ เป็นต้น ผลงานถัดมาเป็นละครแนวย้อนยุคเรื่อง "วิมานทลาย" (Withered in the Wind :名門 1988) เรื่องนี้มีนางเอกหลักถึง 2 คน และเธอก็เป็นหนึ่งในนางเอกของเรื่อง เล่นประกบกับ จางเจ้าฮุย เซียะหนิง หลินจุ้นเสียน และถือว่าเป็นละครเรื่องแรก ๆ ของนักแสดงหนุ่ม จางเหว่ย์เจี้ยน อีกด้วย ต่อมาเธอได้ร่วมแสดงละครกำลังภายในเรื่อง "จอมยุทธไช่หลีฟ่อ" (南拳蔡李佛 1988) แสดงนำโดย เมิ่งเฟย ซึ่งเป็นผลงานเรื่องสุดท้ายขอว หวงซิ่วซิ่ว ก่อนอำลาวงการ และละครดังของปีนั้นเรื่อง "เดชเซียวฮื่อยี้" (Two Most Honorable Knights :絕代雙驕 1988) ที่สถานีโทรทัศน์ทีวีบี ได้ให้เธอมาเจอกับพระเอกคนรักเก่า อย่าง เหลียงเฉาเหว่ย ในละครเรื่องนี้ กลายเป็นละครที่มีกระแสฮือฮา เป็นอย่างมากเพราะทั้งคู่เพิ่งเลิกกันมาได้ไม่นานนัก แต่จริงๆ แล้วในเรื่องนี้เธอเป็นคู่พระนางกับ อู๋ไต้หยง ส่วน เหลียงเฉาเหว่ย เล่นเป็นคู่พระนางกับ เซียะหนิง ส่วนผลงานเรื่องอื่น ๆ ในปีนี้ อาทิเช่นเรื่อง "เตะโลกันต์หมัดสะท้านแผ่นดิน" (The Rise of a Kung Fu Master 南拳蔡李佛 1988) แสดงร่วมกับ หวง ซิ่งซิว, และละครสากลเบาสมองเรื่อง "ผัวรสมะนาว" (檸檬丈夫 1988) ร่วมนำแสดงโดย เหลียวเหว่ยสง เวินเจ้าหลุน และ หลิวเจียหลิง ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี

ในปีพ.ศ. 2532 ปีนี้เธอมีผลงานสากลแนวแอ็คชั่น 2 เรื่อง ได้แก่เรื่อง "หน่วยล่าท้าทรชน" (File Noir :無冕急先鋒 1989) ร่วมแสดงกับ เส้าจงเหิง เจิ้นจื่อตัน และอู๋เจิ้นหวี่ และเรื่อง "ตำรวจเมืองใหญ่" (The joy of being simple :大城小警 1989) แต่ผลงานดังของเธอในปีนี้ คือ ละครเรื่อง "กลับเมืองจีนกันดีกว่า" (Yanky Boy 回到唐山 :1988) ร่วมแสดงกับ หลีหมิง และ หลอเจียเหลียง และ ละครกำลังภายในเรื่อง "มังกรสะท้านบู๊ลิ้ม" (Deadly Secret 連城訣 :1989) นำแสดงโดย กัวจิ้นอัน รับบท เต็กฮุ้น เซียะหนิง รับบท จุ้ยเซ็ง และ หลี่เหม่ยเสียน รับบท เช็กฮวง และละครกำลังภายในเรื่อง "ผ่าฟ้ายุทธจักร" (the war heroes :天變 1989) ร่วมแสดงกับ กั๊วะจิ้นอัน และ เติ้ล ชุ่ยเหวิน ซึ่งการจับคู่ของ กัวจิ้นอัน กับ หลี่เหม่ยเสียน กลายเป็น คู่ขวัญในจอที่แฟนละคร ชื่นชอบเป็นอย่างมาก

ในปีพ.ศ. 2533 เป็นปีที่เธอได้มีโอกาสแสดงฝีมือการแสดงอย่างเต็มที่ เพราะทางสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ได้มอบบทบาทดราม่าให้เธอหลายเรื่อง อาทิเช่น ผลงานสุดฮิตประจำปีเรื่อง "เลือดเจ้าพ่อ" (Blood of Good and Evil :我本善良 1990) โด่งดังเป็นอย่างมาก แต่ทว่า..บทเด่นในละครเรื่องนี้ กลับเป็นนักแสดงชื่อดัง เส้าเหม่ยฉี เสียมากกว่า ละครเรื่องนี้สร้างชื่อเสียงให้กับ เส้าเหม่ยฉี เป็นอย่างมากจนเธอขึ้นมาเป็นนางเอกแถวหน้าของทางช่อง ทีวีบี ส่วน..บทบาทของหลีเหม่ยเสียน ในละครเรื่องนี้ กลับไม่เป็นที่พูดถึงมากนัก และไม่ค่อยดันให้เธอมีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้นเท่าใดนัก แต่ผลงานเด่นในปีเดียวกันอีกเรื่อง เป็นละครดราม่าเข้มข้นเรื่อง "มรสุมสายเลือด" (The Challenge of Life :人在邊緣 1990) ร่วมแสดงนำโดย หลีหมิง หลอฮุ่ยเจียน หลิวชิงหวิน บทบาทของเธอในเรื่องนี้ กลับได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก กับบทดราม่า หนักๆ ที่เธอแสดงออกมาได้ดีเยี่ยม และละครเรื่องนี้ทำให้เธอ ได้มีเพื่อนซี้ เพิ่มมาอย่างดาราสาว หลอฮุ่ยเจียน และ เฉินฝ่าหยง อีกด้วย ผลงานเรื่องอื่น ๆ ในปีเดียวกันมี เรื่อง "มือปราบคู่เดือด" (When Things Get Tough :午夜太陽 1990) แสดงร่วมกับ อู๋เจิ้นหวี่ หวงซิวเซิน และ กัวฟู่เฉิง

ในปีพ.ศ. 2534 ประเดิมละครกำลังภายในเรื่อง "มังกรเจ้ายุทธจักร" (MYSTERY OF THE PARCHMENT :天龍奇俠 1991) ร่วมแสดงกับ หลอเจียเหลียงและ หลิวซิหมิง และบทบาทเข้มข้นที่ทำให้เธอได้รับคำชื่นชมอย่างมาก ในละครเรื่อง "อำนาจโหด" (A New Life :命運迷宮 1991) ประกบ เจิ้นจื่อตัน เจิงเหว่ยฉวน และ นักแสดงสาวชื่อดัง อย่าง เจิงหัวเชี่ยน

ในปีพ.ศ. 2535 ผลงานชิ้นสุดท้ายก่อนที่เธอจะออกจากสถานีโทรทัศน์ทีวีบี คือเรื่อง "เหยี่ยวนรกทะเลทราย" (Land of the Condors :大地飛鷹 1992) เป็นผลงานที่สร้างจากอมตะนิยายของ โก้วเล้ง และเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ ท้าทายฝีมือการแสดงของเธออย่างมาก ในบทฝาแฝด ที่อีกคนหนึ่งแสนดี เรียบร้อยอ่อนหวาน กับอีกคนที่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวร้ายกาจ และเธอก็แสดงออกมาได้ดี ถือได้ว่าเป็นการทิ้งทวนการเล่นละครให้กับค่าย ทีวีบี ของเธออย่างสมศักดิ์ศรี

ในช่วงปีพ.ศ. 2535-2539 เธอหันไปรับงานแสดงภาพยนตร์และรับงานละครที่ไต้หวัน เป็นหลัก แต่ทว่าชื่อเสียงและความนิยมในตัวเธอกลับลดลงเป็นอย่างมาก

ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2539 เธอค่อย ๆ ถอนตัวออกจากวงการบันเทิงโดยประกาศรับงานน้อยลง เพราะเธอได้เริ่มทำงานเป็นพยาบาลให้กับ "องค์กรคริสเตียน" แห่งหนึ่งในฮ่องกง

ในปีพ.ศ. 2541 เธอได้หวนกลับมาเล่นละครให้กับสถานีโทรทัศน์ทีวีบี อีกครั้งในเรื่อง "รอยแค้นในดวงใจ" (Before Dawn 愛在暴風的日子 1998) ร่วมนำแสดงกับ ฟางจงซินและ หลินเหวินหลง แต่ทว่า..กลับไม่ได้รับความนิยม อย่างในอดีต หลังจากนั้นชื่อเสียงของเธอก็ค่อยๆ จางหายไป ถึงแม้ว่าเธอจะมีผลงานตามมาอีก ก็ไม่มีใครสนใจผลงานของเธออีกเลย

จนกระทั่งปีพ.ศ. 2544 เธอก็ออกจากวงการแสดง อย่างถาวร โดยนางเอกสาวได้หันไปทุ่มเทให้กับการทำงานเป็นพยาบาลอย่างเต็มที่ให้กับ "องค์กรคริสเตียน" ที่เธอศรัทธา

และในปีพ.ศ. 2548 หลี่เหม่ยเสียน ได้แต่งงานกับคุณ "เซียะซิ่งจ้าว" (謝興肇) ซึ่งมีอาชีพเป็น "กัปตัน" ของสายการบินคาเธย์ จนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน และยังอยู่ด้วยกันจนถึงปัจจุบัน

เพื่อนสนิทในวงการ[แก้]

ว่ากันว่า...ด้วยความที่เธอเป็นคนจริงใจ และพูดจาดี ทำให้ เธอมีเพื่อนในสนิทในวงการบันเทิงมากมายหลายคน อาทิเช่น เฉิน ฝ่าหยง (陳法蓉), เติ้ง ชุ่ยเหวิน (鄧萃雯), หลอ ฮุ่ยเจียน (羅慧娟), หลิว เหม่ยเจียน (劉美娟), ไช่ เส้าเฟิน (蔡少芬), หยางหลิง (杨羚), เหมา ซุ่นจวิน (毛舜筠).

ศาสนา[แก้]

ปัจจุบัน หลีเหม่ยเสียน เป็นสมาชิกใน สมาคมศิลปินคริสเตียนฮ่องกง (Hong Kong Artistes Christian Fellowship) เนื่องจากความเลื่อมใสศรัทธาในหลักคำสอนของพระคริสตเจ้าว่าด้วยความรักและการให้อภัย [11] โดยมี เติ้งชุ่ยเหวิน เป็น ประธาน ของสมาคมแห่งนี้

"สมาคมศิลปินคริสเตียนฮ่องกง" ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1985 โดย "เจิ้งหมิงหมิง" (ช่างแต่งหน้าคนสนิทของ องเหม่ยหลิง) ภายหลังจากที่ องเหม่ยหลิง เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายด้วยภาวะซึมเศร้าและเครียด คุณ เจิ้งหมิงหมิง เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงก่อตั้ง สมาคมขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือ ศิลปินคริสเตียน ในฮ่องกง

ผลงาน[แก้]

ละครสถานีโทรทัศน์ทีวีบี

(ปีพ.ศ. 2528):-

(ปีพ.ศ. 2529):-

(ปีพ.ศ. 2530):-

(ปีพ.ศ. 2531):-

(ปีพ.ศ. 2532):-

(ปีพ.ศ. 2533):-

(ปีพ.ศ. 2534):-

(ปีพ.ศ. 2535):-

(ปีพ.ศ. 2541):-

อ้างอิง[แก้]

  1. "錢銀官司難阻好姻緣 黎美嫻嫁元朗舖王灑幸福淚". 香港蘋果日報. 4月18日. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-07-06. สืบค้นเมื่อ 2018-08-03. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |year=, |date= และ |year= / |date= ไม่ตรงกัน (help)
  2. "ผลงานและประวัติโดยย่อ". โดย Blike.
  3. "หลีเหม่ยเสียน".
  4. "Li Meizhen". Baidu.
  5. 雪花新聞 (เผยแพร่ :7 เมษายน พ.ศ. 2561). "เรื่องราวของ หลีเหม่ยเสียน"". xuehua. สืบค้นเมื่อ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  6. 由 爆炸糖 發表于娛樂 (เผยแพร่ :1 มีนาคม พ.ศ. 2560). "51歲黎美嫻全家福曝光,梁朝偉的舊愛,不嫁富商嫁飛行員超幸福". kknews. สืบค้นเมื่อ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)[ลิงก์เสีย]
  7. 娱乐大爆炸. "5 สาวงามในชุดโบราณ". sohu. สืบค้นเมื่อ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  8. 由 爆炸糖 發表于娛樂 (เผยแพร่ :1 มีนาคม พ.ศ. 2560). "51歲黎美嫻全家福曝光,梁朝偉的舊愛,不嫁富商嫁飛行員超幸福". kknews. สืบค้นเมื่อ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)[ลิงก์เสีย]
  9. 娛 樂 名 人 (เผยแพร่ :18 เมษายน พ.ศ. 2548). "งานแต่งงาน". hk.entertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-07-06. สืบค้นเมื่อ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2561. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  10. 电影聚焦. "10ดาราจอแก้วยุค 80 ที่สวยที่สุดของทีวีบี จัดอันดับโดย TVB". จากqq. สืบค้นเมื่อ December 12, 2021.
  11. หน้าหลักสมาคมศิลปินคริสเตียนฮ่องกง:[ลิงก์เสีย]

แหล่งข้อมูล[แก้]