หลิน เปียว
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
หลิน เปียว | |
---|---|
林彪 | |
รองประธานแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่หนึ่ง คนที่สอง | |
ดำรงตำแหน่ง 1 สิงหาคม ค.ศ. 1966 – 13 กันยายน ค.ศ. 1971 | |
ประธาน | เหมา เจ๋อตง |
ก่อนหน้า | หลิว เช่าฉี |
ถัดไป | โจว เอินไหล (1973) |
รองประธานแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน | |
ดำรงตำแหน่ง 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1958 – 13 กันยายน ค.ศ. 1971 | |
ประธาน | เหมา เจ๋อตง |
รองนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่หนึ่ง คนที่สอง | |
ดำรงตำแหน่ง 21 ธันวาคม ค.ศ. 1964 – 13 กันยายน ค.ศ. 1971 | |
หัวหน้ารัฐบาล | โจว เอินไหล |
ก่อนหน้า | เฉิน ยูน |
ถัดไป | เติ้ง เสี่ยวผิง |
รองนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน | |
ดำรงตำแหน่ง 15 กันยายน ค.ศ. 1954 – 13 กันยายน ค.ศ. 1971 | |
หัวหน้ารัฐบาล | โจว เอินไหล |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ คนที่สอง | |
ดำรงตำแหน่ง 17 กันยายน ค.ศ. 1959 – 13 กันยายน ค.ศ. 1971 | |
หัวหน้ารัฐบาล | โจว เอินไหล |
ก่อนหน้า | Peng Dehuai |
ถัดไป | Ye Jianying |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 5 ธันวาคม ค.ศ. 1907 หวงกัง, มณฑลหูเป่ย์, จักรวรรดิชิง |
เสียชีวิต | 13 กันยายน ค.ศ. 1971 ออนดอร์กฮาน, สาธารณรัฐประชาชนมองโกเลีย | (63 ปี)
พรรคการเมือง | Communist Party of China (1927-1971) |
คู่สมรส | Zhang Mei [zh] (1937–42) Ye Qun (1942–71) |
บุตร | Lin Xiaolin [zh] (daughter) Lin Liguo (son) Lin Liheng (daughter) |
ศิษย์เก่า | โรงเรียนการทหารหวงผู่ |
รางวัล | Order of Bayi (First Class Medal) เครื่องอิสริยาภรณ์เอกราชและเสรีภาพ (First Class Medal) Order of Liberation (First Class Medal) |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | สาธารณรัฐประชาชนจีน |
สังกัด | People's Liberation Army |
ประจำการ | 1925–1971 |
ยศ | Marshal of the People's Republic of China Lieutenant general of the National Revolutionary Army, Republic of China |
บังคับบัญชา | กองทัพน้อยที่หนึ่ง กองทัพน้อยกองทัพแดงที่หนึ่ง, กองทัพแดงจีน กองพลที่ 115, กองทัพสายที่ 8 กองทัพปลดปล่อยประชาชน |
หลิน เปียว | |||||||||||||||||||||
"Lin Biao" in regular Chinese characters | |||||||||||||||||||||
ภาษาจีน | 林彪 | ||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
หลิน เปียว (5 ธันวาคม ค.ศ., 1907 – 13 กันยายน ค.ศ. 1971) เป็นจอมพลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เป็นผู้มีส่วนสำคัญในชัยชนะของพรรคคอมมิวนิสต์ในสงครามกลางเมืองจีน โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน หลินเป็นนายพลที่คอยบัญชาการในช่วงการทัพเหลียวเซินและพิงจินอย่างเด็ดขาด ซึ่งเขาได้มีส่วนร่วมนำกองทัพภาคแมนจูเรียไปสู่ชัยชนะและนำกองทัพปลดปล่อยประชาชนเข้าสู่ปักกิ่ง เขาได้ข้ามแม่น้ำแยงซีในปี ค.ศ. 1949 ได้เอาชนะพรรคก๊กมินตั๋งอย่างเด็ดขาดและเข้าควบคุมมณฑลชายฝั่งในทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของจีน เขาได้ตำแหน่งยศเป็นจอมพลซึ่งอยู่ในอันดับที่สามของทั้งสิบจอมพล จู เต๋อและเผิง เต๋อหวยได้ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับชั้นอาวุโสของหลินและหลินอยู่ในอันดับที่สูงกว่า ฮี ลอง และ หลิว โบชาง
หลินว่างเว้นจากการมีบทบาทเคลื่อนไหวในการเมือง ภายหลังจากสงครามกลางเมืองยุติลงในปี ค.ศ. 1949 เขาได้เป็นผู้นำส่วนหนึ่งของระบบข้าราชการพลเรือนของรัฐบาลในฐานะที่หนึ่งในรองนายกรัฐมนตรีร่วมกันของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1954 เป็นต้นมา กลายเป็นรองนายกรัฐมนตรีคนแรก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1964 หลินกลายเป็นบุคคลที่เคลื่อนไหวในทางการเมืองมากขึ้น เมื่อได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานร่วมกันของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในปี ค.ศ. 1958 เขาได้ควบสามตำแหน่งที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ได้แก่ รองนายกรัฐมนตรี รองประธาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1959 เป็นต้นมา จนถึงทุกวันนี้ หลินดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งชาติแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน หลินกลายเป็นเครื่องมือในการสร้างรากฐานสำหรับลัทธิบูชาต่อเหมาเจ๋อตงในช่วงต้นปี ค.ศ. 1960 และได้รับรางวัลสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของเขาในการปฏิวัติทางวัฒนธรรมโดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากเหมาในฐานะที่เป็นรองประธานแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนแต่เพียงผู้เดียว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1966 จนกระทั่งเสียชีวิต
หลินเสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 1971 เมื่อเครื่องบินฮ็อคเกอร์-ซิดเดลี่ย์ ไทรเดินท์ ที่เขาโดยสารอยู่เกิดตกลงในเมืองออนดอร์กฮาน ประเทศมองโกเลีย เหตุการณ์ที่แน่นอนของ"อุบัติเหตุของหลิน เปียว"นี้ เป็นที่มาของการคาดเดาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คำอธิบายอย่างเป็นทางการของรัฐบาลจีนคือหลินและครอบครัวของเขาพยายามที่จะหลบหนี ภายหลังจากการก่อรัฐประหารเพื่อโค่นล้มอำนาจของเหมาซึ่งประสบความล้มเหลว ส่วนคนอื่นๆ ต่างโต้แย้งว่า พวกเขาหลบหนีเพราะกลัวว่าพวกเขาจะถูกกำจัด เนื่องจากความสัมพันธ์ของหลินกับผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์คนอื่นๆ นั้นย่ำแย่ลงในช่วงไม่กี่ปีสุดท้ายของชีวิตเขา ภายหลังจากการเสียชีวิตของหลิน เขาได้ถูกประณามว่าเป็นคนทรยศอย่างเป็นทางการโดยพรรคคอมมิวนิสต์ นับตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 1970 หลินและเจียง ชิง ภรรยาของเหมา(พร้อมกับสมาชิกคนอื่นๆ ของแก๊งออฟโฟร์) ได้ถูกระบุว่าเป็นแกนนำที่สำคัญของ"กองกำลังต่อต้านการปฏิวัติ"ของการปฏิวัติทางวัตนธรรม ได้รับการกล่าวประณามอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีนสำหรับความเลวร้ายที่มากเกินไปในช่วงเวลานั้น