สุพล จุลใส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สุพล จุลใส
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร
เริ่มดำรงตำแหน่ง
24 มีนาคม พ.ศ. 2562
(5 ปี 27 วัน)
ก่อนหน้าธีระชาติ ปางวิรุฬรักษ์
คะแนนเสียง41,231 (43.54%)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด4 มกราคม พ.ศ. 2510 (57 ปี)
อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
พรรคการเมืองประชาธิปัตย์ (2549–2561)
รวมพลังประชาชาติไทย (2561–2566)
รวมไทยสร้างชาติ (2566–ปัจจุบัน)
คู่สมรสนางรัชนี จุลใส

นายสุพล จุลใส (เกิด 4 มกราคม พ.ศ. 2510) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร 2 สมัย ปัจจุบันสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ[1]

ประวัติ[แก้]

สุพล จุลใส (ชื่อเล่น : ลูกช้าง) เกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2510 เป็นบุตรของนายบุญธรรม และ นางหนูจวน จุลใส และเป็นพี่ชายของนายชุมพล จุลใส สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการพัฒนาชุมชน จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี และระดับปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์ (นโยบายสาธารณะ)) จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา[2] สมรสกับ นางรัชนี จุลใส มีธิดา 1 คน

งานการเมือง[แก้]

สุพล เข้าสู่วงการการเมืองด้วยการเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาสัก เมื่อ พ.ศ. 2553 จากนั้นก็ได้รับเลือกให้เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร[3] ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ถึง พ.ศ. 2561 ก่อนที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปี พ.ศ. 2562 สังกัดพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยสามารถเอาชนะนายธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ อดีต ส.ส. ชุมพร 3 สมัย จากพรรคประชาธิปัตย์ ไปได้ และเป็นผู้สมัครเพียงคนเดียวของพรรคที่ได้รับการเลือกตั้งในระบบแบ่งเขตในการเลือกตั้งครั้งนี้

ต่อมานายสุพลได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2566 พร้อมกับนาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพจากพรรคเพื่อไทย[4]

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร[แก้]

สุพล จุลใสได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 2 สมัย คือ

  1. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จังหวัดชุมพร สังกัดพรรครวมพลัง
  2. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 จังหวัดชุมพร สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. เปิดรายชื่อสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
  2. นายสุพล จุลใส
  3. ไปไหนต่อ "สุพล จุลใส" หลังลูกหมี ต้อนรับป้อม-ธรรมนัส
  4. “ชวน” แจ้งสภา ส.ส.ลาออกอีก 5 -ให้ถอดแมสก์ประชุมได้
  5. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๕, เล่ม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๔, ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๙, ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔