วัดปากน้ำโจ้โล้

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วัดปากน้ำโจ้โล้
อุโบสถสีทองทั้งหลัง
แผนที่
ชื่อสามัญวัดปากน้ำโจ้โล้, วัดปากน้ำ
ที่ตั้งตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา
ประเภทวัดราษฎร์
นิกายมหานิกาย
พระพุทธศาสนา ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา

วัดปากน้ำโจ้โล้ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ในตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา

วัดปากน้ำโจ้โล้เดิมเป็นสำนักสงฆ์อยู่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย หน้าวัดมีคลองไหลผ่านมารวมกับแม่น้ำบางปะกง พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของทัพพม่า ซึ่งมีทั้งทัพบกและทัพเรือ ได้ต่อสู้และพ่ายแพ้ทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ขึ้น ณ ที่แห่งนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ (แต่ต่อมาเจดีย์นี้ถูกน้ำกัดเซาะพังทลายลงไปหมด กรมศิลปากรจึงได้สร้างขึ้นมาใหม่ในบริเวณเดิม) คำว่า "โจ้โล้" มาจากการที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชทรงวางแผนยุทธการการสงครามเข้าตีทหารพม่าโดยการที่ทรงโล้เรือมาตามน้ำ ให้ทหารพม่าเห็นว่าทรงมาเพียงลำพังให้ทัพพม่าตายใจ แล้วให้ทหารซุ้มล้อมโจมตีจนได้ชัยชนะ และได้เรียกกันต่อมาว่า "เจ้าโล้" แต่ต่อมาเพี้ยนมาเป็น "โจ้โล้" และอีกประวัติหนึ่งคือ ลำน้ำนี้มีปลากระพงชุกชุม และชาวจีนเรียกว่า โจ้โล้ จากข้อมูลกรมการศาสนา ระบุว่าตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2336

เอกลักษณ์ของวัด คือ อุโบสถสีทองทั้งหลัง หลังคาประดับด้วยพญานาคและธรรมจักรตรงกลางมีบุษบกยอดฉัตร ส่วนบริเวณกำแพงแก้วชั้นนอกตกแต่งด้วยลวดลายธรรมจักรสลับกับโคมไฟรูปช้างสามเศียรเป็นระยะ ๆ ภายในอุโบสถมีองค์หลวงพ่อโตเป็นพระประธาน จำลองมาจากพระพุทธชินราช ด้านหน้าพระประธานมีรูปพระเจ้าตากสิน ไหว้ด้วยพานเครื่องทองน้อยแทนการจุดธูปเทียน ด้านบนขออุโบสถมีการสร้างบุษบกไว้ที่ด้านบนอุโบสถเพื่อบรรจุพระบรมธาตุ ภายในอุโบสถมีการนำลวดลายปูนปั้นจำหลักหรือใช้แม่พิมพ์สร้างงานขึ้นมาประดับตกแต่งภายในอุโบสถซึ่งใช้สีทองทั้งหมดเหมือนกับภายนอก แทนการใช้ภาพจิตรกรรมฝาผนัง[1]

นอกอุโบสถมี ศาลาปู่หมอชีวกโกมารภัทร ปู่นารอดปู่ตาไฟ และ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงประทับท่านั่งพระหัตถ์สองข้างกำดาบที่วางอยู่บนพระเพลา ด้านข้างเป็นรูปปั้นทหารองครักษ์[2]

อ้างอิง[แก้]

  1. "วัดปากน้ำโจ้โล้". กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-04-26. สืบค้นเมื่อ 2021-04-26.
  2. "ยลความงาม "อุโบสถสีทอง" สุดวิจิตรหนึ่งเดียวในไทยที่ "วัดปากน้ำโจ้โล้"". ผู้จัดการออนไลน์.