ข้ามไปเนื้อหา

วอยปัสลีญัสอาแอเรียส เที่ยวบินที่ 2283

พิกัด: 23°2′59″S 47°1′11″W / 23.04972°S 47.01972°W / -23.04972; -47.01972
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วอยปัสลีญัสอาแอเรียส เที่ยวบินที่ 2283
PS-VPB เอทีอาร์ 72-500 ลำที่เกิดเหตุ ถ่าย 1 ปีก่อนเกิดเหตุที่ท่าอากาศยานนานาชาติโปร์ตูอาแลกรี-ซัลกาโด ฟิลยู
สรุป
วันที่9 สิงหาคม ค.ศ. 2024
สรุปตกหลังร่อนลงแบบเกลียว; อยู่ระหว่างการสืบสวน
จุดเกิดเหตุวีเญดู รัฐเซาเปาลู ประเทศบราซิล
23°2′59″S 47°1′11″W / 23.04972°S 47.01972°W / -23.04972; -47.01972
อากาศยานลำที่เกิดเหตุ
ประเภทอากาศยานเอทีอาร์ 72-500
ดําเนินการโดยวอยปัสลีญัสอาแอเรียส
หมายเลขเที่ยวบิน IATA2Z2283[1]
หมายเลขเที่ยวบิน ICAOPTB2283[1]
รหัสเรียกPASSAREDO 2283
ทะเบียนPS-VPB[1]
ต้นทางท่าอากาศยานกัสกาแวล กัสกาแวล รัฐปารานา
ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติกวารุลยุส รัฐเซาเปาลู
จำนวนคน62
ผู้โดยสาร58
ลูกเรือ4
เสียชีวิต62
รอดชีวิต0
แผนที่
เส้นทางบินของวอยปัสลีญัสอาแอเรียส เที่ยวบินที่ 2283 (ข้อมูลแผนที่)

วอยปัสลีญัสอาแอเรียส เที่ยวบินที่ 2283[1] เป็นอดีตเที่ยวบินภายในประเทศบราซิล ซึ่งเดินทางจากท่าอากาศยานกัสกาแวลสู่ท่าอากาศยานนานาชาติเซาเปาลู/กวารุลยุส โดยเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2024 ขณะเครื่องบินเอทีอาร์ 72-500 ทำการร่องลง เครื่องบินเกิดการหมุนแบบแบนอย่างกะทันหันจนตกลงใกล้กับวีเญดู รัฐเซาเปาลู[2] ณ ขณะนั้นเครื่องบินทำการบินอยู่ที่ระดับความสูง 17,000 ฟุต (5,200 เมตร) ก่อนที่จะหมุนหลุดการควบคุมและร่วงหล่นอย่างรวดเร็วในเวลาประมาณ 13:22 น. ตามเวลาท้องถิ่น[3] โดยผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 62 คนเสียชีวิตทั้งหมด อุบัติเหตุในครั้งนี้ถือเป็นเหตุร้ายแรงครั้งแรกในบราซิลนับตั้งแต่นอร์ลีญัสอาแอเรียส เที่ยวบินที่ 4896 ในปี ค.ศ. 2011 และเป็นครั้งแรกของวอยปัสลีญัสอาแอเรียสตั้งแต่การก่อตั้งในปี ค.ศ. 1995[4][5] อุบัติเหตุในครั้งนี้ยังเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดตั้งแต่ตัมแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 3054 เมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2007[6]

อุบัติเหตุ

[แก้]

เครื่องบินกำลังเดินทางจากกัสกาแวลในรัฐปารานาไปยังเซาเปาลู[7] การติดต่อทางเรดาร์กับเที่ยวบินดังกล่าวขาดหายไปในเวลาประมาณ 13:22 น. ตามเวลาท้องถิ่น[8] นักดับเพลิงรายงานว่าเครื่องบินได้ตกในวีเญดู รัฐเซาเปาลู[9] ห่างจากตัวเมืองเซาเปาลู76 กิโลเมตร (47 ไมล์)[10]

ในบริเวณที่เกิดเหตุ มีการแจ้งเตือนผ่านระบบ SIGMET ว่ามีน้ำแข็งเกาะหนาแน่นที่ความสูงระหว่าง 12,000–21,000 ฟุต (3,700–6,400 เมตร)[11] ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าเครื่องบินมีอัตราการลดระดับ 13,000 ฟุต (4,000 เมตร) ต่อหนึ่งนาที[1][12] กองทัพอากาศบราซิลได้ออกแถลงการณ์ว่าเที่ยวบินที่ 2283 ไม่มีการประกาศสภาวะฉุกเฉิน[8]

ข้อมูลจากไฟลต์เรดาร์24 ระบุว่าเครื่องบินทำการบินที่ระดับความสูง 17,000 ฟุต (5,200 เมตร) เมื่อเวลา 13:21:00 ตามเวลาท้องถิ่น ความเร็วของเครื่องบินเพิ่มขึ้นเป็น 234 นอต (433 กิโลเมตรต่อชั่วโมง; 269 ไมล์ต่อชั่วโมง) และลดระดับลง 300 ฟุต (91 เมตร) ในสามวินาที และในอีกสองวินาทีต่อมาเครื่องบินก็ไต่ระดับกลับขึ้นมาถึง 17,200 ฟุต (5,200 เมตร) ก่อนที่จะร่วงหล่นในอัตรา 13,100 ฟุต (4,000 เมตร) และหลังจากนั้นไม่นานเครื่องบินก็เกิดหมุนแบบแบน[13][14] และลดระดับอย่างรวดเร็วจนตก การส่งข้อมูลครั้งสุดท้ายและการขาดสัญญาณเรดาร์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13:22 น. ก่อนการตก ข้อมูล ADS-B ระบุว่าเครื่องบินมีอัตราการลดระดับแนวดิ่งสูงสุดที่ 24,000 ฟุตต่อนาที (120 เมตรต่อวินาที)[15][16]

เครื่องบินตกใกล้กับคอนโดมิเนียมในย่านกาแปลา ในเขตเทศบาลวีเญดู[17] แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีรายงานบ้านหลายหลังได้รับความเสียหาย[7] เกิดเหตุเครื่องบินตกที่สนามหญ้าหน้าบ้านหลังหนึ่งในเขตชุมชน และไม่มีผู้ใดบนพื้นดินเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ[18] วิดีโอของเครื่องบินก่อนตกถูกแชร์กันอย่างกว้างขวางทางสื่อสังคม[7][10] ซึ่งแสดงให้เห็นเครื่องบินหมุนแบบแบน โดยเชิดหัวลงเล็กน้อย ช่องข่าวโทรทัศน์ของบราซิลโกลโบนิวส์ขัดจังหวะการถ่ายทอดสดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 เพื่อรายงานเหตุการณ์ในบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ โดยแสดงให้เห็นไฟและควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากลำตัวเครื่องบิน[9][19][20] ทั้งหมด 62 คนเสียชีวิตทั้งหมด โดยเป็นผู้โดยสาร 58 คน และลูกเรือ 4 คน รวมถึงสุนัข 1 ตัวของครอบครัวชาวเวเนซุเอลาได้เสียชีวิตไปด้วย[21][22] ศพส่วนใหญ่ที่พบในบริเวณที่เกิดเหตุถูกเผาไหม้จนหมด ทำให้ยากต่อการระบุตัวตน[23] พยานรายหนึ่งพบเห็นร่างของผู้โดยสารสามคนหลุดออกจากเครื่องบินและตกในสวนหลังบ้าน[24] โดยต่อมานักดับเพลิงได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีศพใดหลุดออกมาและพบศพทั้งหมดอยู่ในที่นั่ง

เครื่องบิน

[แก้]

เครื่องบินที่เกิดเหตุคือเอทีอาร์ 72-500 ทะเบียน PS-VPB โดย ณ เวลาเกิดเหตุ เครื่องบินอายุ 14 ปี และหมายเลขสายการผลิตที่ 908 เครื่องบินลำนี้ใช้เครื่องยนต์ แพตต์แอนด์วิตนีย์แคนาดา พีดับเบิลยู127เอฟ[25][26][27] ถูกส่งมอบครั้งแรกให้กับเบลล์แอร์ ต่อมาก็ขายให้กับนอร์ดิกเอวิเอชันแคปิตอล ก่อนจะปล่อยเช่าให้กับเปลิตาแอร์เซอร์วิสและวอยปัสตามลำดับ[28][29]

ผู้โดยสารและลูกเรือ

[แก้]

บนเที่ยวบินนี้มีดานีลู ซังตุส โรมานู อายุ 35 ปี เป็นกัปตัน และมีอุงแบร์ตู จี กังปุส อาเล็งการ์ อี ซิลวา อายุ 61 ปี เป็นนักบินผู้ช่วย[30] และมีพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินสองคน ได้แก่ แดโบรา โซเปร์ อาวีลา อายุ 28 ปี[31] และรูเบีย ซิลวา จี ลีมา อายุ 41ปี[30][32] ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดเป็นชาวบราซิล โดยผู้โดยสาร 4 รายถือสัญชาติ 2 สัญชาติ คือ สัญชาติเวเนซุเอลา 3 ราย และสัญชาติโปรตุเกส 1 ราย[33][34] ผู้โดยสารบนเครื่องเป็นแพทย์ 8 คน และยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง 6 คน ซึ่งอยู่บนเครื่องบินเพื่อร่วมการประชุมเรื่องมะเร็งในเซาเปาลู[35] ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐปารานาตะวันตก 4 คน เจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งปารานา 2 คน และเด็ก 1 คน[36][37] ผู้โดยสารอย่างน้อย 10 รายไม่สามารถขึ้นเครื่องบินทันเวลาหลังจากที่รอขึ้นเครื่องผิดประตูที่สนามบินท่าอากาศยานกัสกาแวล

ผลสืบเนื่อง

[แก้]

ณ เวลาเกิดเหตุ ลูอิส อีนาซียู ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล กำลังเข้าร่วมงานกิจกรรมทางตอนใต้ของประเทศ โดยเมื่อได้รับข่าว ลูลาขอให้มีการยืนสงบนิ่งในงานเพื่อไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิต[9] เย็นวันเดียวกันนั้นเขาได้ประกาศไว้อาลัยผู้เสียชีวิตทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน[38]

ตาร์ซีซียู จี เฟรย์ตัส ผู้ว่าการรัฐเซาเปาลู และราชีญู ฌูนีโยร์ ผู้ว่าการรัฐปารานา ประกาศว่าพวกเขาจะเดินทางกลับจากงานในรัฐเอชปีรีตูซังตู

การสืบสวน

[แก้]

ศูนย์สอบสวนและป้องกันอุบัติเหตุทางการบินแห่งชาติบราซิล (CENIPA) ได้เริ่มการสอบสวนแล้ว โดยได้มีเจ้าหน้าที่สอบสวนจากสำนักงานสอบสวนและวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยการบินพลเรือนของฝรั่งเศส (BEA) และคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งของแคนาดา (TSB) เข้าร่วมการสอบสวนด้วย โดยเป็นตัวแทนของประเทศที่ผลิตเครื่องบินและเครื่องยนต์ เอทีอาร์ 72 และแพตต์แอนด์วิตนีย์แคนาดา พีดับเบิลยู127เอฟ ตามลำดับ โดยมาร์แซลู โมเรนู หัวหน้า CENIPA กล่าวในวันที่เกิดอุบัติเหตุว่าได้เก็บกู้เครื่องบันทึกข้อมูลการบินแล้ว[39][40] ศพของผู้เสียชีวิตถูกส่งไปที่สถาบันการแพทย์ทางกฎหมายในกัมปินัสเพื่อดำเนินกิจทางกฎหมาย เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม หน่วยบริการฉุกเฉินในพื้นที่รายงานว่าศพทั้งหมดถูกเคลื่อนย้ายออกจากจุดเกิดเหตุแล้ว และได้ขนย้ายซากเครื่องบินได้ให้แก่ CENIPA เพื่อดำเนินการสืบสวนต่อไป ในวันเดียวกันนั้น CENIPA ประกาศว่าได้ดาวน์โหลดข้อมูลจากเครื่องบันทึกการบินแล้วและกำลังวิเคราะห์ข้อมูลนั้นอยู่

โดยภายหลังเกิดเหตุ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินคาดเดาว่าน้ำแข็งที่เกาะตัวอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เครื่องบินตก แต่ระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปผลใด ๆ[41] อุบัติเหตุในครั้งนี้ถูกนำมาเปรียบเทียบกับการตกของอเมริกันอีเกิล เที่ยวบินที่ 4184 เมื่อปี 1994 ซึ่งสูญเสียการควบคุมหลังจากเครื่องบินประสบกับสภาวะการจับแข็งรุนแรง[42][43]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 Martins, Carlos (9 August 2024). "Avião ATR 72 da Voepass que ia para Guarulhos cai em Vinhedo, no interior paulista" [Voepass ATR 72 plane heading to Guarulhos crashes in Vinhedo, in the interior of São Paulo]. Aeroin (ภาษาโปรตุเกส). สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  2. Field, James (9 August 2024). "Voepass ATR 72–200 Crashes Near Sao Paulo, Brazil". AviationSource News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  3. "Loss of control Accident ATR 72-212A (ATR 72–500) PS-VPB, Friday 9 August 2024". Aviation Safety Network. 9 August 2024. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  4. Munhoz, Fábio (9 August 2024). "Aviação comercial regular brasileira não registrava acidentes desde 2007" [Brazilian scheduled commercial aviation hasn't had an accident since 2007]. CNN Brasil (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  5. "Acidente da Voepass é o maior da aviação comercial desde 2007" [Voepass accident is the biggest in commercial aviation since 2007]. Poder360 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). 9 August 2024. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  6. "Queda de avião mata 61 pessoas em Vinhedo" [Plane crash kills 61 people in Vinhedo]. G1 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  7. 7.0 7.1 7.2 Stapleton, AnneClaire; John, Tara; Mendonça, Duarte; P. Murphy, Paul; Vargas Jones, Julia (9 August 2024). "Brazilian plane crash outside São Paulo killed 61, says airline". CNN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  8. 8.0 8.1 "Avião que caiu em Vinhedo não reportou emergência, diz FAB" [Plane that crashed in Vinhedo did not report emergency, says FAB]. G1 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). 9 August 2024. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  9. 9.0 9.1 9.2 Savarese, Mauricio; Sá Pessoa, Gabriela (9 August 2024). "Plane crashes in Brazil's Sao Paulo state, killing all 61 aboard, airline says". Associated Press (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  10. 10.0 10.1 Rogero, Tiago (9 August 2024). "No survivors from plane that crashed in Brazil with 61 people on board, officials say". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  11. "SIGMET Rio Galeão – Tom Jobim International Airport SBGL". METAR TAF Aviation Weather. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  12. "Flight Track Log ✈ PS-VPB 09-Aug-2024 (CAC / SBCA-GRU / SBGR)". FlightAware (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  13. Martins, Carlos (9 August 2024). "Avião ATR 72 da Voepass que ia para Guarulhos cai em Vinhedo, no interior paulista" [Voepass ATR 72 plane heading to Guarulhos crashes in Vinhedo, in the interior of São Paulo]. Aeroin (ภาษาโปรตุเกส). สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  14. Field, James (9 August 2024). "Voepass ATR 72–200 Crashes Near Sao Paulo, Brazil". AviationSource News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  15. Petchenik, Ian (9 August 2024). "VoePass ATR 72 crashes near São Paulo" (ภาษาEnglish). Flightradar24. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 August 2024. สืบค้นเมื่อ 10 August 2024.{{cite web}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  16. Hawkinson, Katie (10 August 2024). "Eight cancer doctors among dead in Brazil plane crash – as seven others changed flight at last minute". The Independent. สืบค้นเมื่อ 10 August 2024.
  17. "Queda de avião mata 61 pessoas em Vinhedo" [Plane crash kills 61 people in Vinhedo]. G1 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  18. "Queda de avião com 61 mortos em Vinhedo: o que se sabe e o que falta saber sobre a maior tragédia aérea desde 2007" [Plane crash with 61 dead in Vinhedo: what is known and what is yet to be known about the worst aerial tragedy since 2007]. G1 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  19. Nicas, Jack; Motoryn, Paulo (9 August 2024). "Passenger Plane Crashes in Brazil, Killing 61 On Board". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  20. Planas, Antonio (9 August 2024). "All 61 people aboard plane killed in Brazil crash". NBC News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  21. Savarese, Mauricio; Sá Pessoa, Gabriela; Koenig, David (10 August 2024). "Brazilian authorities are investigating the cause of the fiery plane crash that killed 62". Associated Press (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 10 August 2024.
  22. Plummer, Robert (11 August 2024). "Cancer doctors and family with dog among Brazil plane crash dead". BBC (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 August 2024.
  23. Nascimento, Simon (9 August 2024). "'Corpos estão carbonizados', diz secretário de segurança de SP após queda de avião" ['Bodies are charred', says SP security secretary after plane crash]. O Tempo (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). สืบค้นเมื่อ 10 August 2024.
  24. Eduardo de Sousa, Luis (9 August 2024). "Jovem diz que viu corpos espalhados e que ajudou idosos em quintal onde avião caiu" [Young man says he saw bodies scattered around and that he is helping elderly people in the yard where the plane crashed]. Folha de S.Paulo (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). สืบค้นเมื่อ 10 August 2024. (ต้องรับบริการ)
  25. Hradecky, Simon (9 August 2024). "Crash: Voepass AT72 at Sao Paulo on Aug 9th, 2024, spun out of control and lost height" (ภาษาEnglish). The Aviation Herald. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.{{cite web}}: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์)
  26. Kaminski-Morrow, David (9 August 2024). "Voepass ATR 72 crashes near Sao Paulo". FlightGlobal. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  27. Wells, Ione; Plummer, Robert (9 August 2024). "Plane crash in Brazil's São Paulo state kills all 61 on board". BBC News. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  28. Buzeli, Adriano Moura (11 September 2022). "VOEPASS recebeu na tarde de hoje seu mais novo ATR72-500" [VOEPASS received its newest ATR72-500 this afternoon]. Revista Piloto Ribeirão (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  29. "ATR 42/72 MSN 908". Airfleets.net. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  30. 30.0 30.1 "Comissária de Ribeirão Preto, SP, é uma das vítimas de acidente com voo da Voepass" [Flight attendant from Ribeirão Preto, SP, is one of the victims of the Voepass flight accident]. G1 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). 9 August 2024. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  31. "Comissária de avião da Voepass que caiu em Vinhedo se dizia 'apaixonada pela aviação'" [Flight attendant on Voepass plane that crashed in Vinhedo said she was 'passionate about aviation']. G1 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). 9 August 2024. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  32. "Queda de avião da Voepass mata 61 pessoas no interior de SP" [Voepass plane crash kills 61 people in the interior of São Paulo]. Poder360 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). 9 August 2024. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  33. Ribeiro, Manuel (10 August 2024). "Portuguese national among those killed in Brazil plane crash". euronews (ภาษาอังกฤษ). Associated Press. สืบค้นเมื่อ 10 August 2024.
  34. "Corpo de cachorro é encontrado aos pés de família venezuelana que morreu em tragédia aérea em Vinhedo" [Dog's body found at the feet of Venezuelan family who died in plane crash in Vinhedo]. G1 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). 2024-08-10. สืบค้นเมื่อ 2024-08-10.
  35. Giovani, Bárbara; Piovezan, Stefhanie (9 August 2024). "Avião que caiu em Vinhedo levava médicos que iam a congresso de oncologia" [Plane that crashed in Vinhedo was carrying doctors who were going to an oncology conference]. Estadão (ภาษาโปรตุเกส). สืบค้นเมื่อ 10 August 2024.
  36. Savarese, Mauricio; Pollastri, Tatiana (11 August 2024). "Families of Brazilian plane crash victims gather in Sao Paulo as experts work to identify the dead". Associated Press (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 August 2024.
  37. "Saiba quem são as 62 vítimas do voo da Voepass". Poder360 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). 11 August 2024. สืบค้นเมื่อ 11 August 2024.
  38. "Plane crashes in Brazil's Sao Paulo state, killing all 61 aboard, airline says". AP News. 2024-08-09. สืบค้นเมื่อ 2024-08-09.
  39. "Queda de avião da Voepass mata 61 pessoas no interior de SP" [Voepass plane crash kills 61 people in the interior of São Paulo]. Poder360 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). 9 August 2024. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  40. Kaminski-Morrow, David (10 August 2024). "Flight recorders retrieved from crashed Voepass ATR 72–500" (ภาษาอังกฤษ). Flight Global. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 August 2024. สืบค้นเมื่อ 10 August 2024.
  41. "Hipótese de acúmulo de gelo em asa de avião que caiu em Vinhedo é explicada por especialistas; entenda" [Hypothesis of ice accumulation on the wing of an airplane that crashed in Vinhedo is explained by experts; understand]. G1 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). 9 August 2024. สืบค้นเมื่อ 9 August 2024.
  42. Nicas, Jack; Ionova, Ana (2024-08-10). "What Caused a Plane to Fall From the Sky in Brazil?". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 2024-08-11.
  43. "Voo com a mesma aeronave que caiu em SP perdeu o controle em 1994, nos EUA, em rota com condições severas de gelo" [Flight with the same aircraft that crashed in São Paulo lost control in 1994, in the U.S., on a route with severe icing conditions]. O Globo (ภาษาโปรตุเกส). 2024-08-10. สืบค้นเมื่อ 2024-08-11.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
ภาพจากแหล่งข้อมูลภายนอก
image icon Pre-accident pictures of aircraft at JetPhotos.com
วิดีโอหลายคลิปจากแหล่งข้อมูลภายนอก
video icon Video from X (formerly Twitter) at the moment of the crash