ภัยพิบัติท่าอากาศยานเตเนรีเฟ
สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น | |
---|---|
วันที่ | 27 มีนาคม ค.ศ. 1977 |
สรุปผล | |
สถานที่ | ท่าอากาศยานลอสรอดีออส (ปัจจุบันคือ ท่าอากาศยานเตเนรีเฟ-นอร์ท) เตเนรีเฟ หมู่เกาะคะเนรี สเปน |
ผู้โดยสาร | (1) 380 คน (2) 234 คน |
ลูกเรือ | (1) 16 คน (2) 14 คน |
ตาย | 583 คน (แพนแอม 335 คน + เคแอลเอ็ม 248 คน) |
บาดเจ็บ | 61 คน |
ประเภทอากาศยาน | (1) โบอิง 747–121 (2) โบอิง 747-206B |
ผู้ควบคุม | (1) แพนแอม (2) เคแอลเอ็ม |
การจดทะเบียน | (1) N736PA (2) PH-BUF |
ภัยพิบัติท่าอากาศยานเตเนรีเฟ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1977 เมื่อเครื่องบินโดยสารโบอิง 747 ของสายการบินแพนแอมและเคแอลเอ็ม ชนกันบนทางวิ่งของท่าอากาศยานลอสรอดีออส (ปัจจุบันคือท่าอากาศยานนอร์ทเตเนรีเฟ) ที่เตเนรีเฟ หมู่เกาะคะเนรีของสเปน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 583 คน นับเป็นอุบัติเหตุทางการบินที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การบิน จากผลของอิทธิพลขององค์กร สภาพแวดล้อม และการกระทำที่ไม่ปลอดภัยที่นำไปสู่หายนะครั้งนี้เป็นตัวอย่างในการทบทวนกระบวนการและกรอบงานสำหรับการสอบสวนหายนะและการป้องกันอุบัติเหตุทางการบิน[2]
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์เกิดจากเหตุระเบิดที่ท่าอากาศยานแกรนแคนาเรียและมีการขู่วางระเบิดลูกที่สอง ทำให้เครื่องบินหลายลำต้องเปลี่ยนมาลงที่ท่าอากาศยานลอสรอดีออสซึ่งเล็กกว่าแทน เจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานจึงต้องทำงานอย่างหนักในการจัดระเบียบเครื่องบินที่มาลงจอดที่นี่ เพื่อรอเวลาที่ท่าอากาศยานแกรนแคนาเรียจะเปิดใช้อีกครั้ง
เมื่อท่าอากาศยานแกรนแคนาเรียเปิดใช้อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ได้พยายามจัดการทางวิ่งที่มีเครื่องบินหลายลำจอดรออยู่ รวมถึงเครื่องบินของสายการบินแพนแอม เที่ยวบินที่ 1736 ที่เดินทางมาจากลอสแอนเจลิสโดยแวะพักที่นิวยอร์กและเครื่องบินของสายการบินเคแอลเอ็ม เที่ยวบินที่ 4805 ที่เดินทางมาจากอัมสเตอร์ดัม หมอกที่ลงจัดทำให้หอบังคับการบินมองไม่เห็นเครื่องบินทั้งสองลำ อีกทั้งเครื่องบินทั้งสองลำก็ไม่มีเรดาร์ภาคพื้นดิน ทำให้หอบังคับการบินไม่ทราบตำแหน่งและต้องใช้วิธีการสื่อสารแทน ผลของการสื่อสารที่ผิดพลาดทำให้นักบินของเครื่องบินเคแอลเอ็ม ตัดสินใจบินขึ้นในขณะที่เครื่องบินของแพนแอมยังอยู่บนทางวิ่ง ทำให้เกิดการชนกันและระเบิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบินเคแอลเอ็ม ทั้งหมด 248 คนเสียชีวิต ส่วนผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบินแพนแอมเสียชีวิต 335 คน บาดเจ็บ 61 คน รวมยอดผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ 583 คน
เนื่องจากอุบัติเหตุเกิดขึ้นในดินแดนของสเปน เจ้าหน้าที่จากประเทศสเปนจึงเข้ามาสอบสวนสาเหตุ เหตุการชนเกี่ยวกับเครื่องบินจากสหรัฐอเมริกาและเนเธอร์แลนด์ ทั้งสองประเทศจึงเข้ามาสืบสวนสาเหตุเช่นกัน จากการสืบสวนพบว่าสาเหตุหลักของอุบัติเหตุคือเที่ยวบินเคแอลเอ็มแล่นขึ้นโดยยังไม่ได้รับสัญญาณจากหอบังคับการบิน การสอบสวนระบุว่ากัปตันไม่ได้ตั้งใจแล่นขึ้นโดยไม่อาศัยสัญญาณ แต่เนื่องจากความเข้าใจผิดของลูกเรือเที่ยวบินเคแอลเอ็มและหอบังคับการบิน ทำให้เขาเชื่อว่าเขาได้รับสัญญาณให้แล่นขึ้นแล้ว ผู้สืบสวนชาวดัตช์ให้ความสนใจเหตุครั้งนี้มากกว่าผู้สืบสวนชาวอเมริกันและสเปน แต่ในที่สุดแล้ว เคแอลเอ็มยอมรับว่าลูกเรือมีส่วนให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ และสายการบินชดเชยค่าเสียหายให้ญาติผู้เสียชีวิต
อ้างอิง[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- "Tenerife airport disaster - Spanish Report (Part 1)". Project Tenerife.
- "Tenerife airport disaster - Spanish Report (Part 2)". Project Tenerife.
- "Tenerife airport disaster - Final Report". Netherlands Aviation Safety Board.
- "Tenerife airport disaster - Aircraft Accident Report". Air Line Pilots Association.
พิกัดภูมิศาสตร์: 28°28′54″N 16°20′18″W / 28.48165°N 16.3384°W