ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระยาพิมพิสารราชา"
ล ย้อนการแก้ไขที่อาจเป็นการทดลอง หรือก่อกวนด้วยบอต ไม่ควรย้อน? แจ้งที่นี่ |
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{infobox royalty |
|||
{{กล่องข้อมูล เชื้อพระวงศ์ |
|||
| สีพิเศษ = #ffcc00 |
|||
| image = [[ไฟล์:เจ้าหลวงพิมพิสาร.jpg|200px]] |
| image = [[ไฟล์:เจ้าหลวงพิมพิสาร.jpg|200px]] |
||
⚫ | |||
|ภาพกว้าง = |
|||
⚫ | |||
|คำบรรยายภาพ = |
|||
| |
| successor = [[เจ้าพิริยเทพวงษ์]] |
||
| birth_style = เกิด |
|||
|พระนามเต็ม = องค์สมเด็จมหาราชหลวง (พระญาพิมพิสารราชา) |
|||
| birth_date = พ.ศ. 2356 |
|||
⚫ | |||
| death_style = อนิจกรรม |
|||
⚫ | |||
| death_date = พ.ศ. 2429 |
|||
|รัชกาลถัดมา = [[เจ้าพิริยเทพวงษ์]] |
|||
⚫ | |||
|ฐานันดร = เจ้าหลวง |
|||
⚫ | |||
|วันประสูติ = [[พ.ศ. 2356]] |
|||
⚫ | |||
|วันพิราลัย = [[พ.ศ. 2429]] |
|||
| spouse-type = ภริยา |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
|พระราชบิดา = |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
|พระราชมารดา = |
|||
⚫ | |||
|มารดา = |
|||
|พระชายา = [[แม่เจ้าแก้วไหลมาราชเทวี]] |
|||
⚫ | |||
|หม่อม =หม่อมจันทร์ |
|||
|พระราชสวามี = |
|||
|พระสวามี = |
|||
⚫ | |||
|บุตร/ธิดา = |
|||
⚫ | |||
}} |
}} |
||
{{เจ้าผู้ครองนครแพร่แห่งราชวงศ์เทพวงศ์}} |
{{เจ้าผู้ครองนครแพร่แห่งราชวงศ์เทพวงศ์}} |
||
'''พระยาพิมพิสารราชา''' หรือ '''เจ้าหลวงพิมพิสาร''' |
'''พระยาพิมพิสารราชา''' หรือ '''เจ้าหลวงพิมพิสาร''' เป็น[[รายพระนามเจ้าผู้ครองนครแพร่|เจ้าผู้ครองนครแพร่]] องค์ที่ 24 (องค์ที่ 3 แห่ง[[ราชวงศ์เทพวงศ์]]) ในรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ครองนครแพร่ต่อจาก[[พระยาอินทวิไชย]]ผู้เป็นราชมาตุลา |
||
==พระประวัติ== |
==พระประวัติ== |
||
พระยาพิมสารราชา หรือ '''เจ้าหลวงพิมพิสาร'''<ref name="เจ้านาย"/> |
พระยาพิมสารราชา หรือ '''เจ้าหลวงพิมพิสาร'''<ref name="เจ้านาย"/> มีนามเดิมว่าเจ้าพิมพิสาร เป็นโอรสของพระยาวังขวา (เฒ่า) กับ[[เจ้าปิ่นแก้ว|แม่เจ้าปิ่นแก้ว]] ราชธิดา[[พระยาเทพวงศ์]] [[รายพระนามเจ้าผู้ครองนครแพร่|เจ้าผู้ครองนครแพร่]] องค์ที่ 1 กับ[[แม่เจ้าสุชาดา]] ''(แต่พระราชพงศาวดารรัชกาลที่ 4 ระบุว่าเป็นน้องสาวพระยาแสนซ้ายเจ้าเมืองแพร่)'' |
||
เจ้าพิมพิสารได้รับราชการมีบรรดาศักดิ์เป็น''พระยาราชวงศ์'' เมื่อพระยาอินทวิไชยผู้เป็นราชมาตุลาถึงแก่ |
เจ้าพิมพิสารได้รับราชการมีบรรดาศักดิ์เป็น''พระยาราชวงศ์'' เมื่อพระยาอินทวิไชยผู้เป็นราชมาตุลาถึงแก่อนิจกรรมในปี พ.ศ. 2390 [[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]]จึงโปรดเกล้าฯ ตั้งเป็น''พระยาแพร่'' ขณะมีชันษาได้ 34 ปี เมื่อ[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ขึ้นครองราชย์ พระยาพิมพิสารไม่ลงไปเข้าเฝ้า จึงไม่ได้รับพระราชทานนามใหม่ขึ้นเป็นเจ้าอย่างเจ้านครเชียงใหม่ เจ้านครลำพูน เจ้านครลำปาง และเจ้านครเมืองน่าน<ref>{{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค)| ชื่อหนังสือ = พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑-๔| จังหวัด = กรุงเทพฯ| พิมพ์ที่ = ศรีปัญญา| ปี = 2555| ISBN = 978-616-7146-30-0| จำนวนหน้า = 2,136| หน้า = 1559}}</ref> |
||
พระยาพิมพิสาร ทรงเป็นเจ้าหลวงที่ปลูกฝังนิสัยเรื่องการประหยัด และการรู้จักประมาณตนแก่ชาวเมืองแพร่เป็นอย่างดี ดังมีเรื่องเล่ากันว่า หม้อน้ำที่ท่านตั้งไว้ข้างถนนสำหรับผู้สัญจรนั้น จะมีกระบวยใหญ่และกระบวยเล็กอย่างละ 1 อัน หากใครใช้กระบวยใหญ่ตักดื่มน้ำแล้ว เทน้ำที่เหลือทิ้ง หรือใช้กระบวยเล็กตักดื่มซ้ำเมื่อไม่อิ่ม ต่างก็โดนก๋งยิง (เป็นอาวุธที่ใช้ลูกหินขนาดเล็กเป็นกระสุนสามารถทำให้เจ็บตัวหรือเป็นแผลได้) ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่รู้จักประมาณตนเอง หรือไม่ประหยัด นอกจากนี้เจ้าหลวงพิมพิสารยังมีกิจการค้าไม้สัก ทำรายได้เข้าเมืองแพร่นับหลายล้านบาทต่อปี ทำให้เศรษฐกิจในเมืองแพร่มีความต่อเนื่องและเป็นไปได้ดี<ref name="เจ้าหลวง"/>และพระองค์ยังทรงบูรณะวัดหลวง เมืองแพร่ในปีพ.ศ. 2416 |
พระยาพิมพิสาร ทรงเป็นเจ้าหลวงที่ปลูกฝังนิสัยเรื่องการประหยัด และการรู้จักประมาณตนแก่ชาวเมืองแพร่เป็นอย่างดี ดังมีเรื่องเล่ากันว่า หม้อน้ำที่ท่านตั้งไว้ข้างถนนสำหรับผู้สัญจรนั้น จะมีกระบวยใหญ่และกระบวยเล็กอย่างละ 1 อัน หากใครใช้กระบวยใหญ่ตักดื่มน้ำแล้ว เทน้ำที่เหลือทิ้ง หรือใช้กระบวยเล็กตักดื่มซ้ำเมื่อไม่อิ่ม ต่างก็โดนก๋งยิง (เป็นอาวุธที่ใช้ลูกหินขนาดเล็กเป็นกระสุนสามารถทำให้เจ็บตัวหรือเป็นแผลได้) ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่รู้จักประมาณตนเอง หรือไม่ประหยัด นอกจากนี้เจ้าหลวงพิมพิสารยังมีกิจการค้าไม้สัก ทำรายได้เข้าเมืองแพร่นับหลายล้านบาทต่อปี ทำให้เศรษฐกิจในเมืองแพร่มีความต่อเนื่องและเป็นไปได้ดี<ref name="เจ้าหลวง"/>และพระองค์ยังทรงบูรณะวัดหลวง เมืองแพร่ในปีพ.ศ. 2416 |
||
พระยาพิมพิสาร ถึงแก่ |
พระยาพิมพิสาร ถึงแก่อนิจกรรมเวลาบ่าย 5 โมง แรม 7 ค่ำ เดือน 11 ปีจอ พ.ศ. 2429 สิริชันษา 73 ปี |
||
== ราชโอรส-ธิดา== |
== ราชโอรส-ธิดา== |
||
พระยาพิมพิสาร มีพระชายา และราชโอรส-ธิดา ดังนี้<ref name="เจ้าหลวง">{{cite web|title=เจ้าหลวงพิมพิสาร (พิมสาร หรือขาเค)|url=http://wungfon.com/index.php?option=com_content&view=article&id=701:2011-09-18-15-48-49&catid=142:2010-11-06-02-33-05&Itemid=184|publisher=วังฟ่อนดอตคอม|date=18 สิงหาคม 2011|accessdate= 9 กุมภาพันธ์ 2559}}</ref> |
พระยาพิมพิสาร มีพระชายา และราชโอรส-ธิดา ดังนี้<ref name="เจ้าหลวง">{{cite web|title=เจ้าหลวงพิมพิสาร (พิมสาร หรือขาเค)|url=http://wungfon.com/index.php?option=com_content&view=article&id=701:2011-09-18-15-48-49&catid=142:2010-11-06-02-33-05&Itemid=184|publisher=วังฟ่อนดอตคอม|date=18 สิงหาคม 2011|accessdate= 9 กุมภาพันธ์ 2559}}</ref> |
||
* '''[[แม่เจ้าแก้วไหลมา |
* '''[[แม่เจ้าแก้วไหลมา]]''' (พบหลักฐานในแผ่นศิลา-จารึกที่วัดหลวง) แต่ไม่ปรากฏมีว่าราชบุตร ด้วยกันหรือไม่ |
||
*'''แม่เจ้าธิดาเทวี''' มีราชโอรส-ธิดา 4 พระองค์ คือ |
*'''แม่เจ้าธิดาเทวี''' มีราชโอรส-ธิดา 4 พระองค์ คือ |
||
บรรทัด 84: | บรรทัด 73: | ||
|boxstyle_4=background-color: #bfc; |
|boxstyle_4=background-color: #bfc; |
||
|boxstyle_5=background-color: #9fe; |
|boxstyle_5=background-color: #9fe; |
||
|1= ''' |
|1= '''พระยาพิมพิสาร''' |
||
|2= เจ้าวังขวา |
|2= เจ้าวังขวา |
||
|3= แม่เจ้าปิ่นแก้ว |
|3= แม่เจ้าปิ่นแก้ว |
||
|4= |
|4= |
||
|5= |
|5= |
||
|6= [[ |
|6= [[พระยาเทพวงศ์]] |
||
|7= [[แม่เจ้าสุชาดา |
|7= [[แม่เจ้าสุชาดา]] |
||
|8= |
|8= |
||
|9= |
|9= |
||
บรรทัด 120: | บรรทัด 109: | ||
{{สืบตำแหน่ง |
{{สืบตำแหน่ง |
||
| รูปภาพ = |
| รูปภาพ = |
||
| ก่อนหน้า = [[พระยาอินทวิไชย]] |
| ก่อนหน้า = [[พระยาอินทวิไชย]] |
||
| ตำแหน่ง = [[รายพระนามเจ้าผู้ครองนครแพร่|เจ้าผู้ครองนครแพร่]] |
| ตำแหน่ง = [[รายพระนามเจ้าผู้ครองนครแพร่|เจ้าผู้ครองนครแพร่]] |
||
| ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์เทพวงศ์]] |
| ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์เทพวงศ์]] |
||
| ปี = |
| ปี = พ.ศ. 2390 — พ.ศ. 2429 |
||
| ถัดไป = [[เจ้าพิริยเทพวงษ์]] |
| ถัดไป = [[เจ้าพิริยเทพวงษ์]] |
||
}} |
}} |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:41, 7 มิถุนายน 2563
พระยาพิมพิสารราชา | |
---|---|
พระยานครแพร่ | |
ครองราชย์ | พ.ศ. 2390 — พ.ศ. 2429[1] |
ก่อนหน้า | พระยาอินทวิไชย |
ถัดไป | เจ้าพิริยเทพวงษ์ |
เกิด | พ.ศ. 2356 |
อนิจกรรม | พ.ศ. 2429 |
ภริยา | แม่เจ้าแก้วไหลมา แม่เจ้าธิดาเทวี แม่เจ้าคำใย้เทวี หม่อมจันทร์ |
พระบุตร | 5 พระองค์ |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์เทพวงศ์ |
พระบิดา | พระยาวังขวา |
พระมารดา | แม่เจ้าปิ่นแก้ว |
เจ้าผู้ครองนครแพร่แห่ง ราชวงศ์แสนซ้าย | |
---|---|
* | พระยาแสนซ้าย |
* | พระยาเทพวงศ์ |
* | พระยาอินทวิไชย |
พระยาพิมพิสารราชา | |
เจ้าพิริยเทพวงษ์ | |
พระยาพิมพิสารราชา หรือ เจ้าหลวงพิมพิสาร เป็นเจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 24 (องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์เทพวงศ์) ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครองนครแพร่ต่อจากพระยาอินทวิไชยผู้เป็นราชมาตุลา
พระประวัติ
พระยาพิมสารราชา หรือ เจ้าหลวงพิมพิสาร[1] มีนามเดิมว่าเจ้าพิมพิสาร เป็นโอรสของพระยาวังขวา (เฒ่า) กับแม่เจ้าปิ่นแก้ว ราชธิดาพระยาเทพวงศ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 1 กับแม่เจ้าสุชาดา (แต่พระราชพงศาวดารรัชกาลที่ 4 ระบุว่าเป็นน้องสาวพระยาแสนซ้ายเจ้าเมืองแพร่)
เจ้าพิมพิสารได้รับราชการมีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาราชวงศ์ เมื่อพระยาอินทวิไชยผู้เป็นราชมาตุลาถึงแก่อนิจกรรมในปี พ.ศ. 2390 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งเป็นพระยาแพร่ ขณะมีชันษาได้ 34 ปี เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์ พระยาพิมพิสารไม่ลงไปเข้าเฝ้า จึงไม่ได้รับพระราชทานนามใหม่ขึ้นเป็นเจ้าอย่างเจ้านครเชียงใหม่ เจ้านครลำพูน เจ้านครลำปาง และเจ้านครเมืองน่าน[2]
พระยาพิมพิสาร ทรงเป็นเจ้าหลวงที่ปลูกฝังนิสัยเรื่องการประหยัด และการรู้จักประมาณตนแก่ชาวเมืองแพร่เป็นอย่างดี ดังมีเรื่องเล่ากันว่า หม้อน้ำที่ท่านตั้งไว้ข้างถนนสำหรับผู้สัญจรนั้น จะมีกระบวยใหญ่และกระบวยเล็กอย่างละ 1 อัน หากใครใช้กระบวยใหญ่ตักดื่มน้ำแล้ว เทน้ำที่เหลือทิ้ง หรือใช้กระบวยเล็กตักดื่มซ้ำเมื่อไม่อิ่ม ต่างก็โดนก๋งยิง (เป็นอาวุธที่ใช้ลูกหินขนาดเล็กเป็นกระสุนสามารถทำให้เจ็บตัวหรือเป็นแผลได้) ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่รู้จักประมาณตนเอง หรือไม่ประหยัด นอกจากนี้เจ้าหลวงพิมพิสารยังมีกิจการค้าไม้สัก ทำรายได้เข้าเมืองแพร่นับหลายล้านบาทต่อปี ทำให้เศรษฐกิจในเมืองแพร่มีความต่อเนื่องและเป็นไปได้ดี[3]และพระองค์ยังทรงบูรณะวัดหลวง เมืองแพร่ในปีพ.ศ. 2416
พระยาพิมพิสาร ถึงแก่อนิจกรรมเวลาบ่าย 5 โมง แรม 7 ค่ำ เดือน 11 ปีจอ พ.ศ. 2429 สิริชันษา 73 ปี
ราชโอรส-ธิดา
พระยาพิมพิสาร มีพระชายา และราชโอรส-ธิดา ดังนี้[3]
- แม่เจ้าแก้วไหลมา (พบหลักฐานในแผ่นศิลา-จารึกที่วัดหลวง) แต่ไม่ปรากฏมีว่าราชบุตร ด้วยกันหรือไม่
- แม่เจ้าธิดาเทวี มีราชโอรส-ธิดา 4 พระองค์ คือ
- แม่เจ้าไข เสกสมรสกับ เจ้าชัยลังกา ไม่มีบุตร
- แม่เจ้าเบาะ สมรสกับ เจ้าหัวหน้า มีโอรส-ธิดา 2 คน
- 1.เจ้าฟองคำ สามีไม่ทราบนาม
- 2.เจ้าน้อยทวงศ์ สมรสกับแม่เจ้าขันคำ รสเข้ม (ไม่มีบุตร)
- แม่เจ้าอินทร์ลงเหลา เสกสมรสกับเจ้าหนานศรีทิ (เจ้านายเมืองน่าน) มีโอรส-ธิดา 3 คน
- 1.เจ้าศรีเมือง
- 2.แม่เจ้าฟอง บรรเลง สมรสกับนายหนานแสน บรรเลง โยมมารดา-บิดา พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ฟู อตฺตสิโว) อดีตเจ้าคณะตรวจการภาค 4 และ 5
- 3.แม่เจ้าแก้วเหลี่ยมเพชร
- เจ้าน้อยเทพวงศ์ ต่อมาคือ เจ้าพิริยเทพวงษ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่องค์สุดท้าย
- แม่เจ้าคำใย้เทวี มีโอรส 1 พระองค์ คือ
- เจ้าสุริยะจางวาง (น้อยมหาอินทร์ สารศิริวงศ์) เจ้าสุริยะจางวางนครแพร่ เสกสมรส 4 ครั้ง
- สมรสครั้งที่1 กับแม่เจ้าสุชาดา (ไม่มีบุตร)
- สมรสครั้งที่2 กับหม่อมฟองแก้ว มีธิดา 1 คน คือ
- เจ้าบุญนำ วังซ้าย (สารศิริวงศ์)
- สมรสครั้งที่3 กับหม่อมเป็ง มีโอรส 1 คน คือ
- เจ้าน้อย สารศิริวงศ์
- สมรสครั้งที่4 กับหม่อมแก้ว มีโอรส 1 คน คือ
- เจ้าน้อยเป็ด สารศิริวงศ์
- หม่อมจันทร์ (พบชื่อในประวัติพญาพรหมโวหาร) ไม่ปรากฏว่ามีราชบุตรด้วยกันหรือไม่
พระอิสริยยศ
- พ.ศ. 2356 เจ้าพิมพิสาร
- ก่อนพ.ศ. 2390 พระยาราชวงศ์
- พ.ศ. 2390 - พ.ศ. 2429 พระยานครแพร่
พงศาวลี
พงศาวลีของพระยาพิมพิสารราชา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 วรชาติ มีชูบท. เจ้านายฝ่ายเหนือและตำนานรักมะเมียะ. กรุงเทพฯ : สร้างสรรค์บุ๊คส์, 2556. 428 หน้า. หน้า 20. ISBN 978-616-220-054-0
- ↑ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค). พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑-๔. กรุงเทพฯ : ศรีปัญญา, 2555. 2,136 หน้า. หน้า 1559. ISBN 978-616-7146-30-0
- ↑ 3.0 3.1 "เจ้าหลวงพิมพิสาร (พิมสาร หรือขาเค)". วังฟ่อนดอตคอม. 18 สิงหาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)
ก่อนหน้า | พระยาพิมพิสารราชา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระยาอินทวิไชย | เจ้าผู้ครองนครแพร่ (พ.ศ. 2390 — พ.ศ. 2429) |
เจ้าพิริยเทพวงษ์ |