ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เฟดอร์ ฟ็อน บ็อค"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 27: | บรรทัด 27: | ||
}} |
}} |
||
'''เฟดอร์ ฟอน บอค''' ({{lang-de|Fedor von Bock}}) เป็นจอมพลแห่ง[[กองทัพบกเยอรมัน]]ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] เขาบัญชาการกองทัพบกกลุ่มเหนือระหว่าง[[การบุกครองโปแลนด์]]ในปี 1939 และบัญชาการกองทัพบกกลุ่มบีใน[[ยุทธการที่ฝรั่งเศส]]ในปี 1940 และต่อมาได้บัญชาการกองทัพบกกลุ่มกลางในการโจมตีสหภาพโซเวียตในปี 1941 และได้บัญชาการกองทัพบกกลุ่มใต้ในปี 1942 ซึ่งเป็นตำแหน่งบัญชาการครั้งสุดท้าย |
'''เฟดอร์ ฟอน บอค''' ({{lang-de|Fedor von Bock}}) เป็นจอมพลแห่ง[[กองทัพบกเยอรมัน (เวร์มัคท์)|กองทัพบกเยอรมัน]]ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] เขาบัญชาการกองทัพบกกลุ่มเหนือระหว่าง[[การบุกครองโปแลนด์]]ในปี 1939 และบัญชาการกองทัพบกกลุ่มบีใน[[ยุทธการที่ฝรั่งเศส]]ในปี 1940 และต่อมาได้บัญชาการกองทัพบกกลุ่มกลางในการโจมตีสหภาพโซเวียตในปี 1941 และได้บัญชาการกองทัพบกกลุ่มใต้ในปี 1942 ซึ่งเป็นตำแหน่งบัญชาการครั้งสุดท้าย |
||
บอคเกิดในเมืองคืชตริง (ปัจจุบันอยู่ในโปแลนด์) ในครอบครัวทหารชาวปรัสเซีย บิดาเป็นผู้บัญชาการหน่วยทหารใน[[สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย]]<ref>Mitcham 2009, p. 17</ref> ส่วนมารดาเป็นน้องสาวของเอริช ฟอน ฟัลเคินไฮย์ (Erich von Falkenhayn) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง<ref>Afflerbach 1996, p. 9</ref> บอคเข้าศึกษาที่วิทยาลัยการทหารในกรุงเบอร์ลิน และต่อมาได้เข้าร่วมรบใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] ด้วยความที่เกิดในครอบครัวทหารทำให้เขามีค่านิยมทหารมากกว่าคนอื่น ในสงครามครั้งนั้นเขาได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นทหารที่องอาจถึงขนาดพร้อมตายเพื่อปิตุภูมิจนได้รับสมญาว่า "เพลิงศักดิ์สิทธิ์แห่งคืชตริง"{{sfn|Turney|1971|p=6}}{{sfn|Turney|1971|p=6}} และได้รับเหรียญ[[Pour le Mérite|ปัวร์เลอแมริท]]ของจักรวรรดิเยอรมัน |
บอคเกิดในเมืองคืชตริง (ปัจจุบันอยู่ในโปแลนด์) ในครอบครัวทหารชาวปรัสเซีย บิดาเป็นผู้บัญชาการหน่วยทหารใน[[สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย]]<ref>Mitcham 2009, p. 17</ref> ส่วนมารดาเป็นน้องสาวของเอริช ฟอน ฟัลเคินไฮย์ (Erich von Falkenhayn) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง<ref>Afflerbach 1996, p. 9</ref> บอคเข้าศึกษาที่วิทยาลัยการทหารในกรุงเบอร์ลิน และต่อมาได้เข้าร่วมรบใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] ด้วยความที่เกิดในครอบครัวทหารทำให้เขามีค่านิยมทหารมากกว่าคนอื่น ในสงครามครั้งนั้นเขาได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นทหารที่องอาจถึงขนาดพร้อมตายเพื่อปิตุภูมิจนได้รับสมญาว่า "เพลิงศักดิ์สิทธิ์แห่งคืชตริง"{{sfn|Turney|1971|p=6}}{{sfn|Turney|1971|p=6}} และได้รับเหรียญ[[Pour le Mérite|ปัวร์เลอแมริท]]ของจักรวรรดิเยอรมัน |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:56, 11 สิงหาคม 2560
เฟดอร์ ฟอน บอค | |
---|---|
จอมพล เฟดอร์ ฟอน บอค ในปี 1939 | |
ชื่อเกิด | มอริทซ์ อัลแบรชท์ ฟรันซ์ ฟรีดริช เฟดอร์ ฟอน บอค |
เกิด | 03 ธันวาคม ค.ศ. 1880 คืชตริง, จักรวรรดิเยอรมัน |
เสียชีวิต | 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 โอลเดินบวร์ค, ประเทศเยอรมนี | (64 ปี)
รับใช้ | เยอรมนี เยอรมนี ไรช์เยอรมัน |
ประจำการ | ค.ศ. 1898–1945 |
ชั้นยศ | จอมพล |
บังคับบัญชา | Army Group North, 1939 Army Group B, 1940 Army Group Center, 1941 Army Group South, 1942 |
การยุทธ์ | |
บำเหน็จ | Pour le Mérite กางเขนเหล็กกางเขนอัศวิน |
เฟดอร์ ฟอน บอค (เยอรมัน: Fedor von Bock) เป็นจอมพลแห่งกองทัพบกเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาบัญชาการกองทัพบกกลุ่มเหนือระหว่างการบุกครองโปแลนด์ในปี 1939 และบัญชาการกองทัพบกกลุ่มบีในยุทธการที่ฝรั่งเศสในปี 1940 และต่อมาได้บัญชาการกองทัพบกกลุ่มกลางในการโจมตีสหภาพโซเวียตในปี 1941 และได้บัญชาการกองทัพบกกลุ่มใต้ในปี 1942 ซึ่งเป็นตำแหน่งบัญชาการครั้งสุดท้าย
บอคเกิดในเมืองคืชตริง (ปัจจุบันอยู่ในโปแลนด์) ในครอบครัวทหารชาวปรัสเซีย บิดาเป็นผู้บัญชาการหน่วยทหารในสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย[1] ส่วนมารดาเป็นน้องสาวของเอริช ฟอน ฟัลเคินไฮย์ (Erich von Falkenhayn) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง[2] บอคเข้าศึกษาที่วิทยาลัยการทหารในกรุงเบอร์ลิน และต่อมาได้เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ด้วยความที่เกิดในครอบครัวทหารทำให้เขามีค่านิยมทหารมากกว่าคนอื่น ในสงครามครั้งนั้นเขาได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นทหารที่องอาจถึงขนาดพร้อมตายเพื่อปิตุภูมิจนได้รับสมญาว่า "เพลิงศักดิ์สิทธิ์แห่งคืชตริง"[3][3] และได้รับเหรียญปัวร์เลอแมริทของจักรวรรดิเยอรมัน
ในปี 1935 อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แต่งตั้งบอคให้เป็นผู้บัญชาการกองทักบกกลุ่มที่สาม และเป็นหนึ่งในนายพลที่ไม่ถูกโยกย้ายเมื่อครั้งฮิตเลอร์ปฏิรูปกองทัพครั้งใหญ่เพื่อสั่งสมแสนยานุภาพก่อนสงครามโลกครั้งที่สองอุบัติ บอคเป็นพวกนิยมระบอบกษัตริย์และมักจะไปเยี่ยมเยือนวังของอดีตไกเซอร์เสมอ บอคบัญชาการการบุกเวียนนาในปี 1938 และเมื่อเยอรมันผนวกออสเตรียแล้ว บอคก็บัญชาการการรุกรานเชโกสโลวาเกีย ฮิตเลอร์ไม่ค่อยชอบนิสัยการพูดจาตรงไปตรงมาขวานผ่าซากของบอค สิ่งที่ฮิตเลอร์ชอบในตัวบอคอย่างเดียวคือเขาเป็นผู้บัญชาการมือฉกาจที่ประสบความสำเร็จในการรบ[4] บอคได้รับแต่งตั้งเป็นจอมพลในวันที่ 19 กรกฎาคม 1940 ขณะมีอายุ 60 ปี
ในปี 1941 บอคเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการในปฏิบัติการไต้ฝุ่นที่หมายเข้ายึดกรุงมอสโกก่อนฤดูหนาว การต่อต้านของฝ่ายโซเวียตที่เมืองมอซไฮสค์ (Mozhaisk) ประกอบกับสภาพอากาศฝนตกเฉอะแฉะทำให้การรุกคืบของเยอรมันเป็นไปได้ช้าลง บอคจึงเสนอฮิตเลอร์ให้ทำการถอนกำลังพลจากโซเวียตก่อนที่จะเป็นฝ่ายถูกโต้กลับแต่ฮิตเลอร์ก็ยังคงเดินหน้าต่อ ท้ายที่สุด การตอบโต้ของฝ่ายโซเวียตก็ทำให้เยอรมันต้องถอนกำลังพลจากโซเวียตอย่างที่บอคคาดการณ์ไว้
ความล้มเหลวในปฏิบัติการไต้ฝุ่นทำให้ฮิตเลอร์ไม่ลังเลอีกต่อไปที่จะปลดเขาจากตำแหน่งบัญชาการ หลังจากถูกปลดในวันที่ 13 กรกฎาคม 1942 เขาก็ไม่เคยเข้าร่วมการบัญชาการใดๆอีก[5] บอคเป็นนายทหารที่มีมนุษยธรรม หน่วยทหารของเขาไม่เคยกระทำการละเมิดมนุษยธรรมใดๆแก่พลเรือน หลังสงครามสิ้นสุดเขาจึงรอดพ้นจากการถูกตั้งข้อหา อย่างไรก็ตาม บอคพร้อมด้วยภรรยาและลูกเลี้ยงของเขาถูกสังหารโดยการกราดยิงจากเครื่องบินรบของอังกฤษในวันที่ 3 พฤษภาคม 1945 ขณะเดินทางโดยรถยนต์ไปยังฮัมบวร์ค เขาเสียชีวิตในวันต่อมา
อ้างอิง
- ↑ Mitcham 2009, p. 17
- ↑ Afflerbach 1996, p. 9
- ↑ 3.0 3.1 Turney 1971, p. 6.
- ↑ Battle of Russia, Battlefield: Battles that Won the Second World War—Series 2. Universal Pictures Video. 2 May 2005
- ↑ Glantz & House 2009, p. 192.