ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ด้วงกว่าง"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
pran boy |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
murmaidman |
|||
{{Taxobox |
|||
| name = |
|||
<br /> |
|||
| image =Dynastes hercules - Sankt-Peterburg.jpg |
|||
| image_width = 240px |
|||
| image_caption = [[ด้วงกว่างเฮอร์คิวลิส]] (''Dynastes hercules'') [[เพศผู้|ตัวผู้]] (ซ้าย) และ[[เพศเมีย|ตัวเมีย]] (ขวา) |
|||
| regnum = [[Animal]]ia |
|||
| phylum = [[Arthropod]]a |
|||
| classis = [[Insect]]a |
|||
| ordo = [[Coleoptera]] |
|||
| subordo = [[Polyphaga]] |
|||
| superfamilia = [[Scarabaeoidea]] |
|||
| familia = [[Scarabaeidae]] |
|||
| subfamilia = '''Dynastinae''' |
|||
| subfamilia_authority = [[William Sharp MacLeay|MacLeay]], [[ค.ศ. 1819|1819]] |
|||
| subdivision_ranks = เผ่าและ[[genus|สกุล]] |
|||
| subdivision =<center>ดูในเนื้อหา</center> |
|||
}} |
|||
'''ด้วงกว่าง''' หรือ '''กว่าง''' หรือ '''แมงกว่าง''' หรือ '''แมงกวาง'''<ref>[http://rirs3.royin.go.th/new-search/word-1-search.asp กว่าง ตาม[[พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542]]]</ref> หรือ '''แมงคาม''' เป็น[[แมลง]]ใน[[วงศ์ (ชีววิทยา)|วงศ์ย่อย]] Dynastinae จัดอยู่ในวงศ์ใหญ่ [[Scarabaeidae]] ใน[[อันดับแมลงปีกแข็ง]] (Coleoptera) |
|||
==ลักษณะ== |
==ลักษณะ== |
||
บรรทัด 33: | บรรทัด 18: | ||
ด้วงกว่างมีความผูกพันกับ[[มนุษย์]]มาอย่างยาวนาน โดยใช้ทำเป็น[[เครื่องประดับ]]หรือ[[กิน|รับประทาน]]เป็นอาหาร อีกทั้งยังเป็นที่นิยมในการเลี้ยงเป็น[[สัตว์เลี้ยง]]ด้วยในหลายพื้นที่ เพราะเหตุที่สามารถต่อสู้กันได้ จนเกิดเป็น[[เทศกาล]]หรือ[[ประเพณี]]ท้องถิ่น เช่น ที่[[ประเทศญี่ปุ่น]]และ[[ภาคเหนือ]]ของ[[ไทย]] |
ด้วงกว่างมีความผูกพันกับ[[มนุษย์]]มาอย่างยาวนาน โดยใช้ทำเป็น[[เครื่องประดับ]]หรือ[[กิน|รับประทาน]]เป็นอาหาร อีกทั้งยังเป็นที่นิยมในการเลี้ยงเป็น[[สัตว์เลี้ยง]]ด้วยในหลายพื้นที่ เพราะเหตุที่สามารถต่อสู้กันได้ จนเกิดเป็น[[เทศกาล]]หรือ[[ประเพณี]]ท้องถิ่น เช่น ที่[[ประเทศญี่ปุ่น]]และ[[ภาคเหนือ]]ของ[[ไทย]] |
||
[[ภาพ:Jbeetlelarva.jpg|thumb|200px|ตัว[[หนอน]]ของ[[ด้วงกว่างญี่ปุ่น]] (''Allomyrina dichotoma'')]] |
[[ภาพ:Jbeetlelarva.jpg|thumb|200px|ตัว[[หนอน]]ของ[[ด้วงกว่างญี่ปุ่น]] (''Allomyrina dichotoma'')]] |
||
[[ไฟล์:Xylotrupes gideon sumatrensis 2.JPG|thumb|200px|[[ด้วงกว่างโซ้ง]] หรือ ด้วงกว่างชน (''Xylotrupes gideon'') เป็นด้วงกว่างชนิดที่เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทย]] |
[[ไฟล์:Xylotrupes gideon sumatrensis 2.JPG|thumb|200px|[[ด้วงกว่างโซ้ง]] หรือ ด้วงกว่างชน (''Xylotrupes gideon'') เป็นด้วงกว่างชนิดที่เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทย|link=Special:FilePath/Xylotrupes_gideon_sumatrensis_2.JPG]] |
||
==การจำแนก== |
==การจำแนก== |
||
ปัจจุบันพบแล้วกว่า 300 ชนิด โดยแบ่งออกเป็น 25 สกุล<ref>Endrödi S. [[ค.ศ. 1985|1985]]. ''The Dynastinae of the World''. Dr. W. Junk Publishers</ref> <ref>Dechambre (R.-P.) & Lachaume (G.) ''The Beetles of the World'', volume 27, The genus Oryctes (Dynastidae), Hillside Books, Canterbury </ref> |
ปัจจุบันพบแล้วกว่า 300 ชนิด โดยแบ่งออกเป็น 25 สกุล<ref>Endrödi S. [[ค.ศ. 1985|1985]]. ''The Dynastinae of the World''. Dr. W. Junk Publishers</ref> <ref>Dechambre (R.-P.) & Lachaume (G.) ''The Beetles of the World'', volume 27, The genus Oryctes (Dynastidae), Hillside Books, Canterbury </ref> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:12, 4 ธันวาคม 2562
murmaidman
ลักษณะ
ด้วงกว่างมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากแมลงปีกแข็งจำพวกอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด คือ ตัวผู้มีขนาดที่ใหญ่ แลดูบึกบึน มีปีกที่พัฒนาเป็นเปลือกแข็ง 1 คู่หุ้มลำตัวด้านบนที่นูนอยู่เหมือนสวมชุดเกราะ มีสีดำคล้ำหรือน้ำตาลเข้มที่เงางาม ขณะที่บางชนิดอาจมีสีอ่อนกว่าหรือแม้กระทั่งสีทองก็มี มีจุดเด่นที่เห็นได้ชัด คือ มีอวัยวะบริเวณส่วนหัวที่งอกยาวออกมาคล้ายเขาจำนวนอย่างน้อย 1 คู่ อยู่ด้านบนและด้านล่างของส่วนหัว ซึ่งจะมีจำนวนและลักษณะสั้น-ยาวแตกต่างกันออกไปตามสกุลและชนิด ซึ่งพบมากที่สุดได้ถึง 5 เขา ขณะที่ตัวเมียจะมีขนาดเล็กกว่าและไม่มีเขา หรือมีแต่สั้นกว่ามาก มีผิวลำตัวที่ขรุขระหยาบและมีขีดร่องหรือเรียบกว่า จุดแทง ที่ส่วนปีกแข็งมาก ตามลำตัวในบางชนิดมีขนอ่อนคล้ายกำมะหยี่สีเหลืองหรือสีน้ำตาลปกคลุมอยู่บริเวณใต้ท้องทั้งตัวผู้และตัวเมีย ขาคู่หน้ามีช่องที่อยู่ในแนวขวางสามารถบิดขยับได้ มีหนวดเป็นรูปใบไม้[1]
ด้วงกว่างจะใช้เขานี้ในการต่อสู้ป้องกันตัวและต่อสู้กันเพื่อแย่งตัวเมียในการผสมพันธุ์ ซึ่งอาจจะต่อสู้กันข้ามสายพันธุ์หรือแม้แต่ต่างวงศ์กันได้ เช่น วงศ์ด้วงคีม (Lucanidae) ที่มีพฤติกรรมคล้ายกัน โดยจะใช้เขาอันนี้ขวิดและหนีบหรือแม้กระทั่งยกคู่ต่อสู้ให้ลอยพ้นพื้นได้ ซึ่งการต่อสู้ของด้วงกว่างนั้นไม่ดุเดือดจนถึงขั้นบาดเจ็บหรือล้มตายกันไปข้างเหมือนสัตว์ชนิดอื่น อย่าง ปลากัดหรือไก่ชน แต่อาจจะทำให้เขาหักกันได้
วงจรชีวิต
ด้วงกว่างทั้งหมดมีวงจรชีวิตที่คล้ายกัน คือ จะวางไข่และตัวอ่อน คือ ตัวหนอนและดักแด้ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธาตุอาหารทางระบบนิเวศ เช่น มีไม้ผุหรือมูลสัตว์ผสมอยู่ในนั้นเป็นจำนวนมากพอ ตัวหนอนของด้วงกว่างจะมีขนาดใหญ่และป้อมสั้นกว่าแมลงจำพวกอื่น มักมีลำตัวสีขาวหรือเหลืองอ่อนจะขดตัวเป็นรูปตัวซี (C) และจะมีความแตกต่างจากตัวหนอนของแมลงจำพวกอื่น คือ มีส่วนหัวขนาดใหญ่ที่มีสีเข้มกว่าลำตัวเรียกว่าหัวกะโหลก มีกรามหรือมีเขี้ยว และจะมีรูหายใจที่ข้างลำตัวโดยมีปล้องทั้งหมด 8 ปล้อง ปล้องละคู่ และจะมีขาจริงหลังส่วนหัวด้วยรวม 3 คู่ โดยปกติแล้วจะกินอาหารและอยู่เฉย ๆ ในดินเท่านั้นจะไม่เคลื่อนไหวเท่าใดนัก จึงมีลำตัวที่ใหญ่ ตัวหนอนจะกินธาตุอาหารต่าง ๆ ในดิน
ขณะเข้าสู่ระยะดักแด้ จนกว่าจะเป็นตัวเต็มวัยผุดขึ้นมาจากดิน กินระยะเวลานานราว 1 ปี ขณะที่บางชนิดอาจนานกว่านั้น คือ 2-3 ปี ขณะที่ช่วงระยะเวลาของการเป็นตัวเต็มวัยจะมีอายุเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น แต่บางชนิดอาจอยู่ได้นานถึง 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย ด้วงกว่างจึงจะอาศัยอยู่ในป่าหรือพื้นที่ที่มีระบบนิเวศที่อุดมเท่านั้น โดยปกติแล้วจะพบชุกชุมในช่วงฤดูฝน อันเป็นช่วงที่ตัวเต็มวัยจะผุดขึ้นมาดินและผสมพันธุ์ เมื่อตัวเต็มวัยปริตัวออกจากเปลือกที่เป็นดักแด้จะเริ่มปริจากส่วนหัวก่อน และจะรูดตัวออกจากทางส่วนปลายท้องคล้ายกับผีเสื้อ แต่การออกมาของด้วงกว่างนั้นมักวางอยู่พื้นดินเพื่อให้ขยับตัวหรือพลิกตัวคล่ำลงได้ง่ายเพื่อให้ส่วนปีกยืดกางได้เป็นอิสระ ขณะที่ออกมาระยะแรกตัวจะยังขาวซีด ซึ่งต้องใช้เวลาอีกนานเป็นวันเพื่อพัฒนาสีและความแข็งของเปลือกลำตัวให้สมบูรณ์ ขณะที่บางชนิดอาจจะอยู่ในเปลือกดักแด้อีกระยะหนึ่ง จึงค่อยผุดขึ้นมา[2][pai]
พฤติกรรมหากินและความผูกพันกับมนุษย์
หากินในเวลากลางคืน โดยจะกินยางไม้จากเปลือกไม้ของต้นไม้ใหญ่ในป่า รวมถึงผลไม้หรือพืชบางชนิดเป็นอาหารด้วย จึงจัดเป็นแมลงศัตรูพืชอย่างหนึ่ง และเหมือนกับแมลงอย่างอื่น คือ เมื่อพบแสงไฟก็จะบินเข้าหา
ด้วงกว่างมีความผูกพันกับมนุษย์มาอย่างยาวนาน โดยใช้ทำเป็นเครื่องประดับหรือรับประทานเป็นอาหาร อีกทั้งยังเป็นที่นิยมในการเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงด้วยในหลายพื้นที่ เพราะเหตุที่สามารถต่อสู้กันได้ จนเกิดเป็นเทศกาลหรือประเพณีท้องถิ่น เช่น ที่ประเทศญี่ปุ่นและภาคเหนือของไทย
การจำแนก
ปัจจุบันพบแล้วกว่า 300 ชนิด โดยแบ่งออกเป็น 25 สกุล[3] [4]
เผ่า Agaocephalini Burmeister, 1847
เผ่า Cyclocephala
- Dynastini MacLeay, 1819
- Allomyrina Arrow, 1911
- Chalcosoma Hope, 1837
เผ่า Dynastes
- Megasoma Kirby, 1825
- Xylotrupes
- Hexodontini
เผ่า Hexodon
- Hyboschema
- Oryctini Mulsant, 1842
เผ่า Coelosis Hope, 1837
- Enema Hope, 1837
- Heterogomphus Burmeister, 1847
- Megaceras Hope, 1837
- Oryctes
- Strategus Hope, 1837
- Trichogomphus Burmeister, 1847
เผ่า Oryctoderini
เผ่า Pentodontini Mulsant, 1842
- Bothynus Hope, 1837
- Pentodon Hope, 1837
- Pericoptus
- Thronistes Burmeister, 1847
เผ่า Phileurini Burmeister, 1847
- Homophileurus Kolbe, 1910
- Phileurus Latreille, 1807
หมายเหตุ
- ด้วงกว่างชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ด้วงกว่างเฮอร์คิวลิส (Dynastes hercules) พบในภูมิภาคอเมริกากลางจนถึงทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งมีสถิติบันทึกไว้ยาวถึง 220 มิลลิเมตร และมีเขาที่ยาวมาก นอกจากนี้แล้วยังถือว่าเป็นสัตว์ที่แข็งแรงที่สุดในโลกด้วยเมื่อเปรียบเทียบแล้ว โดยสามารถยกหรือลากสิ่งที่มีน้ำหนักมากกว่าตัวเองได้ถึง 850 เท่า[5]
- ด้วงกว่างชนิดที่พบได้บ่อยและเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในประเทศไทย คือ ด้วงกว่างโซ้ง หรือ ด้วงกว่างชน (Xylotrupes gideon) เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงฤดูฝนในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ มีการจัดเป็นประเพณีหรือเทศกาล มีการประกวดแข่งขันความสวยงามของด้วงกว่าง และการแข่งขันการชนกันด้วย [6]
- ด้วงกว่างชนิดที่ใหญ่ที่สุดที่พบได้ในประเทศไทย คือ ด้วงกว่างสามเขาจันทร์ (Chalcosoma caucasus) มีขนาดความยาวถึง 120 มิลลิเมตร และยาวได้ถึง 130 มิลลิเมตรในประเทศอินโดนีเซีย ในประเทศไทยพบเฉพาะที่จังหวัดจันทบุรีเท่านั้น[7]
- ด้วงกว่างเป็นแมลงที่มักถูกอ้างอิงหรือกล่างถึงวัฒนธรรมร่วมสมัยหลายอย่าง เช่น อะนิเมะชั่นหรือในมังงะหลายเรื่อง เช่น A Bug's Life ในปี ค.ศ. 1998 ของพิกซาร์ หรือ Mushiking: Battle of the Beetles ซึ่งเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น เป็นต้น[8]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ↑ พิสุทธิ์ เอกอำนวย, คู่มือคนรักแมลง 2 การเลี้ยงด้วง (มีนาคม พ.ศ. 2552) หน้า 152 ISBN 978-974-660-832-9
- ↑ พิสุทธิ์ เอกอำนวย, คู่มือคนรักแมลง 1 ด้วงปีกแข็ง แมลงลึกลับ กับเทคนิคการเพาะเลี้ยง (สิงหาคม พ.ศ. 2551) หน้า 28-29 ISBN 978-974-8132-25-9
- ↑ Endrödi S. 1985. The Dynastinae of the World. Dr. W. Junk Publishers
- ↑ Dechambre (R.-P.) & Lachaume (G.) The Beetles of the World, volume 27, The genus Oryctes (Dynastidae), Hillside Books, Canterbury
- ↑ สัตว์ ที่ แข็งแรงที่สุดในโลก (Strongest animal)
- ↑ กว่างนักสู้ภาคสอง
- ↑ Chalcosoma caucasus (Fabricius 1801)
- ↑ ด้วงกว่างญี่ปุ่นหรือมูชิคิง