ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เลดีกากา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
แทนที่เนื้อหาด้วย "=== 2016-2017 : Joanne และการแสดงพักครึ่งซูเปอร์โบว์ลครั้งที่ 51=..."
ป้ายระบุ: ถูกแทน
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}}
{{ความหมายอื่น|[[ศิลปิน]][[เพลง]][[ป็อป]][[ชาวอเมริกัน]]|นักฟุตบอลชาวบราซิล|กาก้า}}
{{กล่องข้อมูล นักดนตรี
| ชื่อ = เลดี้ กาก้า
| ประเภท = นักร้อง
| ชื่อจริง = สเตฟานี โจแอนน์ แอนเจลินา เจอร์มาน็อตต้า
| ภาพ =Lady Gaga performing Come to Mama at Hillary Clinton rally.jpg
| คำบรรยายภาพ = เลดี้กาก้า ร้องเพลง Come to Mama ในการหาเสียงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
| ขนาดภาพ = 109 KB
| ภาพแนวนอน =
| ชื่อเล่น = กาก้า
| ฉายา = Mother Monster (แม่ของเหล่าปีศาจ)
| วันเกิด = {{birth date and age|mf=yes|1986|3|28}}
| วันที่เสียชีวิต =
| กลุ่มแฟนคลับ = Little Monster (ปีศาจตัวน้อย)
| อาชีพ = [[นักร้อง]] [[นักแต่งเพลง]] [[นักธุรกิจ]] [[นักแสดง]]
| แนวเพลง = [[ป็อป]]<ref>{{cite web|url=http://www.allmusic.com/album/the-fame-r1421208|title=Lady GaGa: Biography|last=Birchmeier|first=Jason|publisher=Allmusic|accessdate=2009-01-02}}</ref> [[แดนซ์]]<ref name="To Watch">{{ cite web | url=http://www.digitalspy.co.uk/music/a139140/ones-to-watch-in-2009-lady-gaga.html | title=Ones To Watch In 2009: Lady GaGa | work=[[Digital Spy]] | publisher=Digital Spy.co.uk | author=Nick Levine | date=2008-12-31 | accessdate=2009-01-08 }}</ref> [[ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์|อิเล็กทรอนิกส์]]<ref>{{cite web | url=http://www.dailymail.co.uk/tvshowbiz/article-1110125/Why-world-going-gaga-electro-pop-diva-Stefani.html | title=Why the world is going gaga for electro-pop diva Stefani | work=[[Daily Mail]] | publisher=Mail Online| author=Adrian Thrills | date=2009-01-09 | accessdate=2009-01-12 }}</ref> [[แจ๊ส]]
| ช่วงปี = [[ค.ศ. 2001]] – ปัจจุบัน
| ค่าย = [[อินเตอร์สโคป]] [[คอนไลฟ์]] [[สตรีมไลน์]]
| ส่วนเกี่ยวข้อง =
| เว็บ = [http://www.ladygaga.com www.ladygaga.com]
<br />[[ไฟล์:Ladygaga sig.svg|90px]]<br />ลายเซ็นของเลดี้กาก้า
| สมาชิก =
| อดีตสมาชิก =
}}

'''สเตฟานี โจแอนน์ แอนเจลินา เจอร์มาน็อตตา'''({{lang-en|Stefani Joanne Angelina Germanotta<ref name="BBC">{{cite web|title=BBC Sound of 2009: Lady GaGa|publisher=[[BBC]]|date=2008-12-05|url=http://news.bbc.co.uk/2/hi/entertainment/7766439.stm|accessdate=2009-01-09}}</ref>}}) หรือที่รู้จักในนาม '''เลดี้ กาก้า''' ({{lang-en|Lady Gaga}}) เป็น[[ศิลปิน]]เพลง[[ป็อบ]][[ชาวอเมริกัน]]เชื้อสาย[[อิตาลี]] เกิดเมื่อวันที่ [[28 มีนาคม]] [[ค.ศ. 1986]] เริ่มแสดงดนตรีครั้งแรกกับวงร็อกใน[[นิวยอร์ก]] ในปี [[ค.ศ. 2003]] เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนศิลปะทิสช์ แห่ง[[มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก]] ต่อมาได้อยู่ในสังกัด[[อินเตอร์สโคป]] และต่อสัญญากับค่าย[[สตรีมไลน์]] ในเครืออินเตอร์สโคปในปี [[ค.ศ. 2007]] เธอเคยเขียนเพลงให้กับศิลปินร่วมสังกัด ทำให้ความสามารถด้านการร้องเพลงของเธอได้รับความสนใจจาก [[เอค่อน|Akon]] และได้เซ็นสัญญากับ [[คอนไลฟ์ดิสทริบิวชัน]]

'''[[เดอะเฟม|The Fame]]''' อัลบั้มแรกของเธอ ได้วางจำหน่ายเมื่อวันที่ [[19 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2551|ค.ศ. 2008]] สามารถขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งใน[[สหราชอาณาจักร]] [[แคนาดา]] [[ออสเตรีย]] [[เยอรมนี]] [[สวิตเซอร์แลนด์]] และ[[ไอร์แลนด์]] และสามารถติดชาร์ต 1 ใน 10 อันดับแรกในอีกหลายประเทศ รวมทั้งใน[[สหรัฐอเมริกา]] ที่สามารถทำสถิติขึ้นชาร์ตบิลบอร์ด 200 ในอันดับที่ 2 และขึ้นอันดับหนึ่งในชาร์ตอัลบั้มเพลงแดนซ์/อิเล็กทรอนิกส์ ของ[[บิลบอร์ด]] และอีกสองเพลงเปิดตัว คือ [[จัสต์แดนซ์|Just Dance]] และ [[โป๊กเกอร์เฟซ|Poker face]] ที่กาก้าร่วมแต่งและผลิตกับ[[เรดวัน]] ก็เป็นที่นิยมและติดอันดับหนึ่งในหลายประเทศ รวมถึงอันดับต้น ๆ ของบิลบอร์ดฮอต 100 ในสหรัฐอเมริกา อัลบั้ม The Fame ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่มากถึง 6 สาขารางวัล และได้รับรางวัลในสาขาอัลบั้มเพลงอิเล็กทรอนิกส์/เพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม และรางวัลเพลงแดนซ์ยอดเยี่ยมจากเพลง Poker Face ต้น [[พ.ศ. 2552|ค.ศ. 2009]] เธอออกทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกในชื่อ [[เดอะเฟมบอลทัวร์|The Fame Ball Tour]] และในปลายปีเดียวกัน เธอได้ประกาศวางจำหน่ายอัลบั้มเสริม '''[[เดอะเฟมมอนสเตอร์|The Fame Monster]]''' เป็นอัลบั้มต่อจากอัลบั้มเปิดตัว The Fame อัลบั้มนี้ทำให้เธอได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่ 6 สาขารางวัล สามารถขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งด้วยซิงเกิลเปิดตัวอัลบั้ม คือ [[แบดโรแมนซ์|Bad Romance]] และได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สอง [[เดอะเฟมมอนสเตอร์บอลทัวร์|The Monster Ball Tour]] ตั้งแต่เดือน[[พฤศจิกายน]]

กาก้าได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงแนว[[แกลมร็อก]] โดยมีศิลปินอย่าง[[เดวิด โบวี]] และ[[วงควีน]] รวมทั้งนักร้องเพลงป็อป เช่น [[มาดอนนา]] และ[[ไมเคิล แจ็กสัน]] อีกทั้ง[[แฟชั่น]] ก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงและการแสดงของเธอ กาก้าอยู่ในอันดับที่ 73 ของศิลปินยุคคริสต์ทศวรรษที่ 2000 โดยการจัดลำดับของบิลบอร์ด ในเดือน[[สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2553|ค.ศ. 2010]] ยอดขายอัลบั้มของเธอทะลุ 15 ล้านสำเนา และ 51 ล้านซิงเกิลทั่วโลก<ref>{{cite web|url=http://www.billboard.com/#/charts-decade-end/artists-of-the-decade?year=2009&begin=71&order=position|title=Artists of the Decade: Lady Gaga|date=2009-12-21|accessdate=2010-05-21|work=Billboard|publisher=Nielsen Business Media, Inc}}</ref> นิตยสารไทม์ส จัดลำดับให้เลดี้ กาก้า อยู่ในรายชื่อ[[ไทม์ส]] 100 ที่รวบรวมบุคคลทรงอิทธิพลต่อโลกประจำ ค.ศ. 2010 และใน 100 อันดับบุคคลที่มีชื่อเสียงที่มีอิทธิพลต่อโลก ส่วนนิตยสาร[[ฟอบส์]] ได้จัดอันดับให้เธออยู่ในอันดับที่ 7 ของผู้หญิงทรงอำนาจที่สุดในโลกประจำ ค.ศ. 2010<ref>{{cite news|url=http://newsroom.mtv.com/2010/08/12/lady-gaga-los-angeles/|title=Spotted: Lady Gaga Celebrates Success In Los Angeles|date=2010-08-12|publisher=[[MTV News]]|accessdate=2010-08-18}}</ref><ref>{{cite web|first=Dorothy|last= Pomerantz |first2= Lacey|last2= Rose |url=http://www.forbes.com/2010/06/22/oprah-winfrey-lady-gaga-twilight-business-entertainment-celeb-100-10-intro.html |title=The World's Most Powerful Celebrities |work=Forbes|date= |accessdate=2010-06-29}}</ref><ref>{{cite web|first=Dorothy|last= Pomerantz |first2= Lacey|last2= Rose|url=http://www.forbes.com/lists/2010/53/celeb-100-10_Lady-Gaga_8UOG.html |title=The Celebrity 100: #4 Lady Gaga|work= Forbes |date= |accessdate=2010-06-29}}</ref><ref>{{cite news|url=http://www.mtv.com/news/articles/1649491/20101006/lady_gaga.jhtml|title=Lady Gaga, Beyonce Among Forbes' 100 Most Powerful Women |last=Johnson|first=Jamey|Date=2010-10-06|accessdate=2010-11-03|work=''MTV''|publisher=[[MTV Networks]]}}</ref> เลดี้ กาก้า มีผลงานอัลบั้ม ที่ทำยอดขายสูงสุดในโลกประจำปี 2010 <ref>http://www.mediatraffic.de/albums-2010.htm</ref> ภายใน 2 ปี เธอมียอดขายอัลบั้มมากกว่า 55 ล้านชุด <ref> http://livemusiconpc.blogspot.com/2011/06/american-pop-singer-lady-gaga.html</ref>

== ช่วงชีวิต ==
=== 1986 - 2004: วัยเด็ก ===
[[ไฟล์:Ladygaga b8dn415 1209.jpg|thumb|left|การแสดงที่[[สตอกโฮล์ม]] [[ประเทศสวีเดน]] เมื่อค.ศ. 2008]]โจแอนน์ สเตฟานี แองเจลินา เจอร์มานอตต้า เกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1986 เวลา 9.53 น. ที่โรงพยาบาลในย่านแมนฮัตตันที่ชื่อว่า Lenox Hill Hospital รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในครอบครัวอิตาเลียน-อเมริกัน ที่ยองเกอร์ส [[นครนิวยอร์ก]] ต่อมาย้ายไปอยู่ที่เขต[[แมนแฮตตัน]] กาก้าเป็นลูกสาวคนโตของโจเซฟ เจอร์มานอตต้า นักลงทุนทางอินเทอร์เน็ต กับ​ซินเธีย (สกุลเดิม บิสเซตต์) เธอมีน้องสาวหนึ่งคนชื่อ "นาตาลี" กาก้าเริ่มเล่น[[เปียโน]]ตั้งแต่อายุได้ 4 ปี เมื่ออายุ 11 ปี เธอได้เข้าเรียนที่โรงเรียนคอนแวนต์แซเครดฮาร์ต โรงเรียนเอกชนคอนแวนต์คาทอลิกใน[[อัปเปอร์อีสต์ไซด์]] [[แมนแฮตตัน]]<ref name="Bio">{{cite web | url=http://www.ladygaga.com/bio/ | title=Biography of Lady Gaga | publisher=LadyGaga.com | accessdate=2009-01-09}}</ref> เนื่องจากครอบครัวกาก้าไม่ได้มีฐานะร่ำรวย เธอจึงถูกต่อต้านจากกลุ่มเพื่อนในโรงเรียน เธอพูดถึงพ่อกับแม่ "ทั้งสองมาจากชนชั้นแรงงาน ดังนั้นจึงทำงานทุกอย่างเพื่อพวกเรา แม่กับพ่อทำงานในสายงานโทรคมนาคม ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม จึงได้กลับบ้าน"<ref name="Times Online.co.uk">{{cite news|url=http://entertainment.timesonline.co.uk/tol/arts_and_entertainment/music/article5325327.ece?token=null&offset=0&page=1|title=Lady GaGa: the future of pop?|date=2008-12-14|work=The Sunday Times|publisher=News International| first=Collins |last=Hattie |accessdate=2009-12-06 | location=London}}</ref><ref name="independent">{{cite news|url=http://www.independent.co.uk/arts-entertainment/music/features/lady-gaga-how-the-world-went-crazy-for-the-new-queen-of-pop-1684375.html|title=Lady Gaga: How the world went crazy for the new queen of pop|last=Sturges|first=Fiona|date=2009-05-16|work=[[The Independent]]|publisher=[[Independent News & Media]]|accessdate=2009-05-26 | location=London}}</ref>

ด้วยความต้องการเล่นละครในสมัยไฮสกูล เธอจึงได้รับโอกาสแสดงเรื่อง Guys & Dolls โดยรับบทเป็น เอดิเลด และได้แสดงซีรี่ยส์ A Funny Thing Happened on the Way to the Forum รับบทเป็น ฟิลเลีย กาก้าเล่าถึงชีวิตนักเรียนในโรงเรียไฮสกูลว่า "เป็นสิ่งที่เธออุทิศตัวมากที่สุด ตั้งใจเรียนมากที่สุด และเคร่งครัดในกฎระเบียบมาก แต่ก็ไม่มั่นคงนัก" ตามที่เธอให้สัมภาษณ์ว่า "ฉันเคยถูกล้อเลียนว่าเป็นคนก้าวร้าวและบ้าระห่ำ ดังนั้นจึงปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น แต่ฉันรู้สึกว่าไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับโรงเรียนได้ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนประหลาด"<ref name='growingupgaga'>{{cite news | first= Vanessa| last=Grigoriadis | coauthors= |authorlink= Vanessa Grigoriadis | title=Growing Up Gaga| date=2010-03-28 | publisher=New York Media Holdings | url =http://nymag.com/arts/popmusic/features/65127 | work =[[New York (magazine)|New York]] | pages =7 | accessdate = 2010-03-29 }}</ref> แต่เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอตอนนั้นกลับแย้งว่ากาก้าเป็นนักเรียนดี มีแค่เพื่อนกลุ่มเล็ก ๆ หน้าตาคล้ายเด็กชาย แต่มีน้ำเสียงดี ร้องเพลงเก่ง<ref>{{cite news | first=Jon | last=Bream | coauthors= |authorlink= | title=Don't Gag on Gaga | date=2009-03-21| publisher=The Star Tribune Company | url =http://www.startribune.com/entertainment/music/41533957.html?elr=KArksLckD8EQDUoaEyqyP4O:DW3ckUiD3aPc:_Yyc:aUUsZ | work =[[Star Tribune]] | pages = | accessdate = 2010-01-23 | language = }}</ref><ref>{{cite news | first=Seth | last=Poppell | title=Lady Gaga was surprisingly normal | date=2009-12-22 | publisher=[[Bauer Media Group]] | url =http://www.intouchweekly.com/2009/12/in_touch_exclusivelady_gaga_wa.php | work =[[In Touch Weekly]] | accessdate = 2010-01-23 }}</ref> ด้วยบุคลิกของเธอที่มีอารมณ์ลึกซึ้งและเป็นอิสระอย่างศิลปินเนื่องจากถนัดมือซ้าย กาก้าให้สัมภาษณ์กับนิตยสารแอลว่าเธอนั้นถนัดมือซ้ายจริง ๆ <ref>{{cite news | first=Joe | last=Zee | coauthors= |authorlink= | title=Lady Gaga – An Exclusive Interview with ELLE's January Cover Girl | date=2009-12-01| url =http://www.elle.com/Pop-Culture/Cover-Shoots/Lady-Gaga | work =Elle | publisher=[[Hachette Filipacchi Médias]]|accessdate = 2010-05-05}}</ref>

เมื่ออายุได้ 17 ปี เธอได้รับสิทธิให้เข้าเรียนก่อนเกณฑ์ในโรงเรียนศิลปะทิสช์แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และพักอยู่ในหอพักของมหาลัยบนถนนที่สิบเอ็ด ที่นั่น เธอได้เรียนวิชาดนตรีและพัฒนาทักษะการเขียนเพลงของตัวเอง จากการแต่งร้อยแก้วและบทวิเคราะห์ที่มุ่งประเด็นไปในด้านศิลปะ ศาสนา ประเด็นต่าง ๆ ในสังคม และการเมือง เธอรู้สึกว่าตัวเองมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าเพื่อนร่วมชั้น เธอจึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อมองหาโอกาสในอาชีพทางดนตรีในภาคเรียนที่สองขณะเรียนชั้นปีที่ 2 <ref name="Bio">{{cite web | url=http://www.ladygaga.com/bio/ | title=Biography of Lady Gaga | publisher=LadyGaga.com | accessdate=2009-01-09}}</ref><ref> {{cite web |url=http://www.artistdirect.com/nad/news/article/0, ,4931544, 00.html |title= Interview: Lady GaGa |accessdate=2009-02-18|last=Florino|first= Rick |date=2009-01-30|publisher=[[Artistdirect]]. Artistdirect, Inc.}}</ref> พ่อของเธอยินยอมที่จะออกค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ให้เป็นเวลา 1 ปี โดยมีเงื่อนไขว่า หากไม่ประสบความสำเร็จด้านอาชีพ จะต้องกลับมาเรียนใหม่<ref name="mtv 55">{{cite news|url=http://www.mtv.com/news/articles/1589013/20080609/lady_gaga.jhtml|title=Lady GaGa Brings Her Artistic Vision Of Pop Music To New Album |last=Harris|first=Chris|date=2008-06-09|accessdate=2009-05-07|work=MTV|publisher=[[MTV Networks]]}}</ref> สเตฟานีต้องย้ายออกจากบ้านไปเช่าอพาร์ตเมนต์ย่านดาวน์ทาวน์ราคาถูกและไม่มีลิฟต์ เธอเริ่มต้นทำงานที่คลับละแวกนั้นตอนอายุเพียง 18 ปี<ref name='growingupgaga'>{{cite news | first= Vanessa| last=Grigoriadis | coauthors= |authorlink= Vanessa Grigoriadis | title=Growing Up Gaga| date=2010-03-28 | publisher=New York Media Holdings | url =http://nymag.com/arts/popmusic/features/65127 | work =[[New York (magazine)|New York]] | pages =7 | accessdate = 2010-03-29 }}</ref>

=== 2005 - 2007: เริ่มต้นสู่อาชีพศิลปิน ===
กาก้าเซ็นสัญญาครั้งแรกกับค่าย[[เดฟแจม]] เมื่ออายุ 19 ปี แต่ 3 เดือนต่อมา ต้นสังกัดกลับยกเลิกสัญญา ไม่นาน ผู้บริหารค่ายเดฟแจมได้แนะนำเธอให้รู้จักกับเรดวัน นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ที่เคยร่วมงานกับผู้บริหารคนนี้

เพลงแรกที่กาก้าร่วมแต่งกับ[[เรดวัน]] คือ [[บอยส์ บอยส์ บอยส์|Boys Boys Boys]] ที่ได้แรงบันดาลใจจากเพลง [[เกิลส์ เกิลส์ เกิลส์|Girls Girls Girls]] ของ เมิทลีย์ ครือ และเพลง [[ที.เอ็น.ที|T.N.T.]] ของวง [[เอซี/ดีซี]] ที่ผสมผสานกัน เธอย้ายไปอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ในฝั่งตะวันออกทางใต้ และได้บันทึกเสียงหลายเพลงกับนักร้อง[[ฮิปฮอป]] แกรนด์มาสเตอร์ เมลล์ เมล เพื่อประกอบหนังสือเสียงสำหรับเด็ก The Portal in the Park ของ คริกเก็ต แคซีย์ เธอเริ่มตั้งวงร็อกในชื่อ สเตฟานี เจอร์มาน็อตต้า ซึ่งเป็นชื่อของเธอเอง ร่วมกับเพื่อน ๆ ที่มหาวิทยาลัย<ref>{{cite news | url=http://blogs.villagevoice.com/dailymusto/2010/01/lady_gaga_did_a.php| title=Lady Gaga Did a Children's Book In 2007! | date=2010-01-19|work=[[The Village Voice]]|publisher=|last=Musto|first=Michael|accessdate=2010-01-19}}</ref> พวกเขาได้บันทึก[[อีพี]]เพลงบัลลาดที่แต่งเองในสตูดิโอใต้ร้านเหล้าแถบ[[นิวเจอร์ซีย์]] ต่อมาได้เล่นประจำที่คลับแถวดาวน์ทาวน์ ในฝั่งตะวันออกทางใต้<ref name='growingupgaga'>{{cite news | first= Vanessa| last=Grigoriadis | coauthors= |authorlink= Vanessa Grigoriadis | title=Growing Up Gaga| date=2010-03-28 | publisher=New York Media Holdings | url =http://nymag.com/arts/popmusic/features/65127 | work =[[New York (magazine)|New York]] | pages =7 | accessdate = 2010-03-29 }}</ref> หลังจากนั้นกาก้าเริ่มเสพ[[โคเคน]]เมื่อครั้งการแสดง[[นีโอ-เบอร์เลสก์]] พ่อไม่เข้าใจเหตุผลที่เธอเสพยาและไม่อาจทนเห็นลูกสาวของตนตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นได้ จึงพาไปบำบัดจนกระทั่งหายขาด<ref name="Times Online.co.uk">{{cite news|url=http://entertainment.timesonline.co.uk/tol/arts_and_entertainment/music/article5325327.ece?token=null&offset=0&page=1|title=Lady GaGa: the future of pop?|date=2008-12-14|work=The Sunday Times|publisher=News International| first=Collins |last=Hattie |accessdate=2009-12-06 | location=London}}</ref>

ต่อมาโปรดิวเซอร์เพลง ร็อบ ฟูซารี เป็นคนช่วยเธอแต่งเพลงขึ้นอีกหลายเพลง โดยเขาเปรียบเทียบเสียงร้องของเธอว่าคล้ายกับเสียงของ[[เฟรดดี้ เมอร์คิวรี]]<ref name="Times Online.co.uk">{{cite news|url=http://entertainment.timesonline.co.uk/tol/arts_and_entertainment/music/article5325327.ece?token=null&offset=0&page=1|title=Lady GaGa: the future of pop?|date=2008-12-14|work=The Sunday Times|publisher=News International| first=Collins |last=Hattie |accessdate=2009-12-06 | location=London}}</ref><ref name="Contactmusic.com">{{cite web |url=http://www.contactmusic.com/info/lady_gaga |title=Lady GaGa Profile|accessdate=2009-02-20|last=Reporter|first=Staff |publisher=[[Contactmusic.com]] }}</ref> ฟูซารีเป็นคนที่คิดชื่อในวงการให้เธอว่า '''เลดี้ กาก้า''' หลังจากได้ฟังเพลงเรดิโอ-กาก้า ของวงควีน ซึ่งตอนนั้นกาก้ากำลังอยู่ในระหว่างคิดหาชื่อเพื่อใช้ในการแสดง เมื่อฟูซารีส่งความถึงเธอว่า "Lady Gaga" สเตฟานีจึงตัดสินใจใช้ชื่อนี้<ref name="Contactmusic.com">{{cite web |url=http://www.contactmusic.com/info/lady_gaga |title=Lady GaGa Profile|accessdate=2009-02-20|last=Reporter|first=Staff |publisher=[[Contactmusic.com]] }}</ref> และเป็นที่รู้จักทั่วไปหลังจากนั้น
[[ไฟล์:Lady Gaga at Lollapalooza 2007.jpg|thumb|right|กาก้าร่วมแสดงบนเวทีอเมริกันลอลลาพาลูซ่า ค.ศ. 2007 กับเลดี้สตาร์ไลต์]]

อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ รายงานว่า เรื่องที่ฟูซารีอ้างถึงที่มาของชื่อ "เลดี้ กาก้า" นั้นไม่เป็นความจริง และจริง ๆ แล้ว ชื่อ "เลดี้ กาก้า" ได้มาจากการพบกันทางธุรกิจกับเลดี้สตาร์ไลต์ ศิลปินแสดงสด ในค.ศ. 2007<ref name='whos-that-lady'>{{cite news | first=Maureen |last=Callahan|first2= Sara|last2= Stewart | title=Who's that lady? | date=2010-01-22 | publisher= News Corporation| url =http://www.nypost.com/p/entertainment/music/who_that_lady_CBlHI927dRlLmIwjVfGrwK | work =[[New York Post]] | accessdate = 2010-03-26 }}</ref> และกาก้าได้ร่วมงานกับเธอนับแต่นั้นมา สตาร์ไลต์เป็นยังเป็นผู้สร้างสรรค์แฟชั่นบนเวทีการแสดงเองด้วย<ref name="Blast">{{cite news|url=http://www.thaindian.com/newsportal/entertainment/meet-the-woman-who-inspired-lady-gaga_100324226.html|title=Meet the woman who inspired Lady Gaga|last=Cassis|first=Christine|date=2010-02-22|publisher=[[Thaindian News]]|accessdate=2010-02-03}}</ref> ทั้งคู่เริ่มงานแสดงที่คลับในดาวน์ทาวน์นิวยอร์ก ชื่อ เมอร์คิวรี่เลานจ์ และเดอะบิตเทอร์เอนด์ รวมไปถึง เดอะร็อกวูดมิวสิกฮอล ด้วยความสามารถในศิลปะการแสดงสดและจำอวดของพวกเธอที่เป็นที่พูดถึงแล้ว ทำให้เป็นที่รู้จักในชื่อ "การแสดงเบ็ดเตล็ดของเลดี้ กาก้าและสตาร์ไลต์" โดยถูกยกย่องว่าเป็น "การแสดงป็อป-เบอร์เลสก์ชุดสุดท้าย" การแสดงของกาก้าและสตาร์ไลต์มีกลิ่นอายของยุคคริสต์ทศวรรษที่ 1970 ในเดือน[[สิงหาคม]] ค.ศ. 2007 ทั้งสองได้รับเชิญให้ขึ้นแสดงสดบนเวทีในเทศกาลดนตรีอเมริกันลอลลาพาลูซา ค.ศ. 2007<ref name="seattleweekly">{{cite news|url=http://www.seattleweekly.com/2008-11-19/music/lady-gaga-some-like-it-pop/|title=Lady GaGa: Some Like it Pop|last=Hobart|first=Erika|date=2008-11-18|publisher=[[Village Voice Media]]|work=[[Seattle Weekly]]|accessdate=2009-01-10}}</ref><ref name="METRO">{{cite news|url=http://www.metro.co.uk/metrolife/461127-profile-just-who-is-lady-gaga|title=Just Who Is Lady GaGa?|last=Lee|first=Ann|date=2009-01-06|work=[[Metro (Associated Metro Limited)|Metro]]|publisher=[[Associated Newspapers]]|accessdate=2009-02-26}}</ref> การแสดงของพวกเธอในครั้งนั้นได้รับการตอบรับดีมาก และได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวก ด้วยความสนใจในการทดลองแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ กาก้าค้นพบความสามารถทางดนตรีในตัวเองเมื่อตอนที่เริ่มผสมทำนองดนตรีป็อปกับเพลงแนวแกลมร็อกของเดวิด โบวี ลงในเพลงที่แต่งเอง<ref name="Electro Pop Diva">{{cite news | url=http://www.dailymail.co.uk/tvshowbiz/article-1110125/Why-world-going-gaga-electro-pop-diva-Stefani.html | title=Why the world is going gaga for electro-pop diva Stefani | work=[[Daily Mail]] | publisher=Associated Newspapers| first=Adrian |last=Thrills | date=2009-01-09 | accessdate=2009-01-12 }}</ref>

[[ไฟล์:Gaga at bazaar.jpg|thumb|left|กาก้าขณะแสดงที่ผับใต้ดินนิวยอร์ก]]
ฟูซารีนำเพลงที่เขาและกาก้าได้แต่งร่วมกัน ส่งให้เพื่อนของเขาที่เป็นโปรดิวเซอร์และผู้บริหารค่ายเพลง ชื่อ วินเซนต์ เฮอร์เบิร์ต เฮอร์เบิร์ตเซ็นสัญญากับกาก้าทันที ภายใต้สังกัด[[สตรีมไลน์เรคอดส์]] ในเครือ[[อินเตอร์สโคป]]<ref name="trans26">{{cite video|title=Transmission Gaga-vision: Episode 26|date=2008-12-16|publisher=Lady Gaga Official website|people=Haus of GaGa|accessdate=2009-12-17}}</ref> ในช่วงของการก่อตั้งค่ายเพลงค.ศ. 2007 เธอยกย่องเฮอร์เบิร์ตว่าเป็นผู้ชายที่เห็นความสามารถของเธอ และกล่าวว่า "ฉันรับรู้ว่า เราได้สร้างประวัติศาสตร์ป็อปอีกครั้ง และกำลังทำให้มันเดินต่อไป" กาก้าได้เป็นนักแต่งเพลงคนใหม่ในค่าย[[เฟมัสมิวสิกพับลิชชิง]] แต่ต่อมาตกอยู่ภายใต้ความครอบครองของบริษัท[[โซนี่/เอทีวีมิวสิกพับลิชชิง]]<ref name="trans26">{{cite video|title=Transmission Gaga-vision: Episode 26|date=2008-12-16|publisher=Lady Gaga Official website|people=Haus of GaGa|accessdate=2009-12-17}}</ref> ดังนั้นเธอจึงถูกว่าจ้างให้แต่งเพลงให้กับ[[บริทนีย์ สเปียร์ส]] และนักร้องร่วมค่ายอย่าง [[นิว คิดส์ออนเดอะบล็อก]] [[เฟอร์กี้]] และวง[[พุสซี่แคทดอล]]<ref name="bbcover">{{cite news|last=Harding|first=Cortney|date=2009-08-15|title=Lady Gaga: The Billboard Cover Story |work=Billboard|publisher=Nielsen Business Media, Inc|url=http://www.billboard.com/news/lady-gaga-the-billboard-cover-story-1004001347.story|accessdate=2010-05-06}}</ref> ระหว่าการเขียนเพลงให้กับอินเตอร์สโคป เอคอน นักร้องและนักแต่งเพลง ได้เห็นความสามารถในเสียงทรงพลังของเธอ เมื่อได้ร้องเดโมเป็นตัวอย่างสำหรับเพลงในแทร็กของเอคอน หลังจากนั้นเอคอนได้ขอร้องประธานบริษัทอินเตอร์สโคป-เกฟเฟน-เอแอนด์เอ็ม และจิมมี ไอโอวีนซีอีโอของบริษัท ให้เขาร่วมกับบริษัทได้ปั้นกาก้าให้เป็นนักร้องร่วมกัน และให้เธอเซ็นสัญญากับเขาภายใต้ค่าย [[คอนไลฟ์ดิสทริบิวชัน]] เอคอนเรียกเธอว่า "แฟรนไชส์เพลเยอร์" กาก้ายังคงร่วมงานกับเรดวันต่อไปในสตูดิโอ เพื่อร่วมกันทำอัลบั้มแรกของเธอ พร้อมทั้งเตรียมเพลงใหม่ "Just Dance" และ "Poker Face" นอกจากนั้นเธอยังได้ร่วมงานกับค่าย[[เชอร์รี่ทรี]] สังกัดอินเตอร์สโคป ที่ก่อตั้งขึ้นโดยโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลง [[มาร์ติน เคียร์เซนบาอัม]] ทั้งสองได้แต่งเพลงด้วยกันถึง 4 เพลง หนึ่งในนั้นมีเพลงดังอย่าง [[เอ, เอ (นอตติงเอลส์ไอแคนเซย์)|Eh, Eh (Nothing else I can Say)]]<ref name="totallygaga">{{cite news |url=http://thescotsman.scotsman.com/features/Lady-GaGa-Totally-GaGa.4891798.jp |title=Lady GaGa: Totally Ga-Ga|accessdate=2009-02-20|last=Cowing|first= Emma |date=2009-01-20 |work=[[The Scotsman]]|publisher=[[Johnston Press]]}}</ref>

=== 2008 - 2010: อัลบั้ม The Fame และ The Fame Monster ===
ในปี 2008 กาก้าได้ย้ายไปอยู่ที่ลอสแอนเจลิส, แคลิฟอร์เนีย และได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับต้นสังกัดที่นั่น และเร่งทำอัลบั้มเปิดตัว The Fame ให้เสร็จ โดยผสมผสานแนวเพลงที่แตกต่างกันลงในอัลบั้ม โดยใช้จังหวะมือจากกลองเมทัลของเออร์บานแทร็ค <ref name="Contactmusic.com">{{cite web |url=http://www.contactmusic.com/info/lady_gaga |title=Lady GaGa Profile|accessdate=2009-02-20|last=Reporter|first=Staff |publisher=[[Contactmusic.com]] }}</ref> สอดคล้องกับสรุปผลการวิจารณ์ดนตรีโดยเมต้าคริติค ให้คะแนนอัลบั้ม The Fame 71คะแนนจาก 100 เต็ม <ref name="thefamemeta">{{cite web | url=http://www.metacritic.com/music/the-fame| title=Lady Gaga: The Fame | publisher=[[Metacritic]] | accessdate=2009-01-09}}</ref> อัลบั้มนี้ขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งในออสเตรีย, สหราชอาณาจักร, แคนาดา และไอร์แลนด์ ติดท็อปชาร์ต 5 อันดับแรกที่ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา
[[ไฟล์:Fame_Ball_Montreal_-_Paparazzi.jpg|right|226x226px|thumb|กาก้าร้องเพลงปาปารัซซี่ใน [[เดอะเฟมบอลทัวร์]]]]

อัลบั้ม The Fame ทำยอดขายได้มากกว่า 12ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก ด้วยเพลงเปิดตัวอัลบั้ม Just Dance ที่แตะชาร์ตอันดับ 1 ในกว่า 6 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย, แคนาดา, เนเธอร์แลนด์, ไอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา <ref>{{cite news | url=http://jam.canoe.ca/Music/Artists/L/Lady_GaGa/2009/01/14/8022056-jam.html | title=Lady GaGa's 'Fame' rises to No. 1 | work=[[Jam!]] |publisher=[[Canadian Online Explorer]] | first=John |last=Williams | accessdate=2009-01-14|date=2009-01-14}}</ref> <ref>{{cite web|url=http://acharts.us/album/37558|title=Lady Gaga – The Fame – World Charts|publisher=aCharts.us|accessdate=2009-01-08}}</ref> ต่อมาถูกเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่ ในสาขาเพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม <ref name="Grammy">{{cite web|url=http://www2.grammy.com/grammy_awards/51st_show/list.aspx|title=The 51st Annual Grammy Awards Nominations List|publisher=[[National Academy of Recording Arts and Sciences]]|accessdate=2009-01-02}}</ref> เพลงที่สอง Poker Face นับเป็นความประสบสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง เมื่อเพลงนี้ขึ้นท็อปชาร์ตอันดับ 1 ในเกือบทุกตลาดเพลงหลักในโลก รวมทั้งสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา เพลง Poker Face ได้รับรางวัล "เพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม" ในงานประกาศผลรางวัลแกรมมี่ครั้งที่ 52 รวมถึงได้รับการเสนอให้เข้าชิงรางวัลในสาขา "เพลงแห่งปี" "บันทึกเสียงแห่งปี" และ รางวัลใหญ่ "อัลบั้มแห่งปี" ด้วย แต่ได้รับรางวัลในสาขาอัลบั้มเพลงอิเล็กทรอนิก-แดนซ์ยอดเยี่ยม แม้ว่าการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกของเลดี้กาก้าจะเป็นเพียงการแสดงเปิดเวทีให้กับนักร้องร่วมสังกัด นิว คิดส์ ออน เดอะ บล็อก <ref>{{cite news|title=International Pop Star Lady Gaga Set to Tour With New Kids on the Block|work=Reuters|publisher=Thomson Reuters|date=2008-10-31|last=Reporter|first=Staff|url=http://www.reuters.com/article/idUS16002+04-Oct-2008+PRN20081004|accessdate=2009-01-08|date=2009-01-08}}</ref> ในที่สุดเธอตัดสินใจออกเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกของตัวเอง [[เดอะเฟมบอลทัวร์|The Fame Ball Tour]] ที่เริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 2009 และได้รับคำชื่นชมพอควร <ref name="billboardreview">{{cite news|url=http://login.vnuemedia.com/bbbiz/search/article_display.jsp?vnu_content_id=1003969033|title=Lady Gaga / May 2, 2009 / New York (Terminal 5)|last=Menze|first=Jill|date=2009-05-29|work=Billboard|publisher=Nielsen Business Media, Inc|accessdate=2009-05-05}}</ref>

กาก้าขึ้นปก[[โรลลิ่งสโตน|นิตยสารโรลลิ่งสโตน]] ฉบับเดือนพฤษภาคม 2009 ในสภาพกึ่งเปลือยกาย สวมเพียงชุดฟองน้ำพลาสติดที่ปกปิดเพียงของลับเท่านั้น ในคอลัมน์ Hot 100 เธอได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเริ่มต้นสู่เส้นทางอาชีพสายดนตรี และได้พบรักกับมือกลองวงเฮฟวี่เมทัลขณะเล่นดนตรีอยู่ที่ไนท์คลับในนิวยอร์ก เธอเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอและสุดท้ายก็เลิกรากันไป เธอบอกว่าเขาเป็นเบื้องหลังแรงบันดาลใจในการทำอัลบั้ม The Fame <ref name="rsannual">{{cite journal|last=Hiatt|first=Brian|date=2009-05-30|title=The Rise of Lady Gaga|journal=Rolling Stone|publisher=[[Jann Wenner]]|location=New York|volume=1080|issue=43|accessdate=2009-06-02|issn=0035-791X}}</ref> ต่อมากาก้าได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิง[[รางวัลเอ็มทีวี วิดีโอมิวสิก]]ประจำปี 2009 ทั้งหมด 9 สาขารางวัล แต่ได้รับรางวัลในสาขาศิลปินหน้าใหม่แห่งปี ส่วนเพลง Paparazzi ได้ชิงสองรางวัลคือ รางวัลการกำกับศิลป์ยอดเยี่ยมและรางวัลเทคนิคพิเศษในวิดีโอยอดเยี่ยม ในเดือนตุลาคมเธอได้รับรางวัลดาวรุ่งปี 2009 จากนิตยสารบิลบอร์ด<ref>{{cite news|url=http://www.billboard.com/news/beyonce-accepts-billboard-s-woman-of-the-1004018301.story|title=Beyonce Accepts Billboard's Woman Of the Year Award, Lady Gaga Is Rising Star|last=Caulfield|first=Keith|date=2009-10-03|work=Billboard|publisher=Nielsen Business Media, Inc|accessdate=2009-10-06}}</ref>
[[ไฟล์:The Monster Ball - Alejandro revamped4.jpg|left|243x243px|thumb|กาก้าในคอนเสิร์ต[[เดอะมอนสเตอร์บอลทัวร์]]]]

เดือนเดียวกันกับที่เธอร่วมงานชุมนุมรวมพลังเพื่อความเท่าเทียม ณ [[กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.]] <ref name="E!">{{cite news |url=http://uk.eonline.com/uberblog/b148428_kanye_who_lady_gaga_teams_up_with.html |title=Kanye Who? Lady Gaga Teams Up With President Obama |accessdate=2009-12-12|first=Fowler |last=Brand |date=2009-10-12|work=[[E! Entertainment Television]] |publisher=E! Online}}</ref> <ref>{{cite news |url=http://www.washingtonpost.com/wp-dyn/content/article/2009/10/11/AR2009101101892_2.html?hpid=topnews&sid=ST2009101101924 |title=For Gay Activists, The Lady Is a Champ |accessdate=2009-12-12|last=Zak|first=Dan|date=2009-10-12|work=[[The Washington Post]]}}</ref> เธอประกาศวางจำหน่ายอัลบั้ม The Fame Monster เพลงทั้ง 8 แทร็คกล่าวถึงด้านมืดของความมีชื่อเสียงโด่งดังที่จากประสบการณ์ในช่วงที่เธอทัวร์คอนเสิร์ตระหว่างปี 2008-2009 และถ่ายทอดผ่านคำ"Monster" (ปีศาจ) ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สองของเธอ "The Fame Monster Ball Tour" จัดขึ้นเพื่อโปรโมตอัลบั้มนี้ และเริ่มทัวร์ในเดือนพฤศจิกายน 2009 <ref name="bbannounceball">{{cite news|url=http://www.billboard.com/news/lady-gaga-unveils-monster-ball-tour-dates-1004022735.story|title=Lady Gaga Unveils 'The Monster Ball'|accessdate=2009-10-15|date=2009-10-15|last=Herrera|first=Monica|work=Billboard|publisher=Nielsen Business Media, Inc}}</ref> <ref name="finance2">{{cite news|url=http://www.prnewswire.com/news-releases/lady-gaga-returns-with-8-new-songs-on-the-fame-monster-63780227.html|title=Lady Gaga Returns With 8 New Songs on 'The Fame Monster'|last=Release|first=Press|date=2009-10-08|publisher=[[PR Newswire]]|accessdate=2009-10-09}}</ref> "Bad Romance" เป็นเพลงเปิดตัวอัลบั้ม และติดชาร์ตอันดับหนึ่งใน 18 ประเทศทั่วโลก และติดชาร์ตอันดับ 1 สองครั้ง ในสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เดือนธันวาคม <ref>{{cite web|url=http://acharts.us/song/51422|title=Lady Gaga – Bad Romance – World Charts|publisher=acharts.us|accessdate=2010-04-17}}</ref>
กาก้าได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ [[สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร|สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2]] ณ โรงละครแบล็กพลู ประเทศอังกฤษ ในการแสดงรอยัลวาไรตี้ ประจำปี 2009 และได้ใช้เพลง [["Speechless"]] แสดงสดต่อหน้าพระพักตร์ด้วย เธอสวมชุดผ้ายางลาเท็กซ์เลียนแบบฉลองพระองค์ของ[[สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ|สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1]]ที่หลายคนเห็นว่าไม่เหมาะสม <ref>{{cite news|url=http://www.mirror.co.uk/celebs/news/2009/12/08/lady-gaga-meets-the-queen-at-royal-variety-performance-115875-21881111/|title=Lady GaGa meets the Queen at Royal Variety Performance|last=Lawter|first=Daniel|date=2009-12-08|work=[[Daily Mirror]]|publisher=[[Trinity Mirror]]|accessdate=2009-12-09}}</ref>

กาก้าได้ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 10 บุคคลน่าชื่นชมมากที่สุดแห่งปี 2009 โดยบาร์บารา วอลเทอร์ส ระหว่างรายการวอลเตอร์ส แอนนวล เอบีซี สเปเชียล ในระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการเธอเลี่ยงที่จะตอบคำถามในข้อกล่าวหาที่ว่าเธอเป็น[[กะเทยแท้]] ที่มีสองเพศในตัวเองตามข่าวลือ และตอบกลับไปว่า "ตอนแรก ๆ เรื่องนี้มันแปลกแต่ทุกคนก็คิดว่ามันก็เป็นแค่เรื่องธรรมดาทั่วไปนั่นแหละ แต่ฉันเองเชื่อว่า ตัวเองมีภาพลักษณ์ของกะเทยจริงๆ และฉันเองก็รักพวกกะเทยด้วยนะ"<ref name="walters">{{cite web|url=http://abcnews.go.com/video/playerIndex?id=9640579|title=Lady Gaga: 'I Love Androgyny'|publisher=[[ABC News]]|accessdate=2010-05-03|last=Walters|first=Barbara|date=2009-12-30|authorlink=Barbara Walters}}</ref>

เดือนมกราคม 2010 เธอได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท[[โพลารอยด์]] ให้เป็นหัวหน้าทีมครีเอทีฟและให้เริ่มต้นสร้างสรรค์[[แฟชั่น]], [[เทคโนโลยี]] และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพ <ref>{{cite news |title=Lady Gaga wears hat made entirely from her own hair|url=http://www.nydailynews.com/lifestyle/fashion/2010/01/08/2010-01-08_lady_gaga_wears_hat_made_entirely_from_her_own_hair.html |last=Eisinger|first=Amy|work=Daily News|publisher=News Corporation|date=2010-01-08|accessdate=2010-01-10}}</ref> เดือนกุมภาพันธ์ ซิงเกิลที่สองในอัลบั้ม The Fame Monster คือ "[[เทเลโฟน|Telephone]]" ได้นักร้องหญิง[[อาร์แอนด์บี]] คือ [[บียอนเซ่]]มาร่วมฟีเจอร์ริ่งด้วย กลายเป็นเพลงลำดับสี่ของเธอที่สามารถขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งในสหราชอาณาจักรได้ <ref>{{cite web|title=Lady GaGa's Telephone video|url=http://www.telegraph.co.uk/culture/music/rockandpopfeatures/7466152/Lady-GaGas-Telephone-video.html|publisher=The Daily Telegraph (London)|author=McCormick, Neil|date=2010-03-17|accessdate=2010-12-13}}</ref>

มีนาคม 2010 ร็อบ ฟูซารีฟ้องร้องบริษัทต้นสังกัดของเลดี้กาก้า เมอร์เมด มิวสิก แอลแอลซี ให้ข้อหาว่าได้รับส่วนแบ่งอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งควรจะได้รับ 20% จากยอดขายอัลบั้ม ชาร์ลส์ ออร์ทเนอร์ ทนายความของกาก้าฟ้องกลับฟูซารีว่าสัญญาที่กาก้าได้ทำกับฟูซารีนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่ขอออกความเห็นใด ๆ ต่อสื่อมวลชน ท้ายที่สุดในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน <ref>{{cite news|url=http://www.telegraph.co.uk/culture/music/rockandpopmusic/7486678/Lady-Gaga-bites-back-at-music-producer.html|title=Lady Gaga bites back at music producer|work=[[The Daily Telegraph]]|accessdate=2010-03-20|publisher=Telegraph Media LLC|last=Reporter|first=Staff | location=London | date=2010-03-20}}</ref> ศาลฎีกาสูงสูดนครนิวยอร์ก ยกฟ้องคำร้องของร็อบ ฟูซารี <ref>{{cite news|url=http://www.telegraph.co.uk/culture/music/rockandpopmusic/7486678/Lady-Gaga-bites-back-at-music-producer.html|title=Lady Gaga bites back at music producer|work=[[The Daily Telegraph]]|accessdate=2010-03-20|publisher=Telegraph Media LLC|last=Reporter|first=Staff | location=London | date=2010-03-20}}</ref> <ref>{{cite news|url=http://www.reuters.com/article/idUSTRE6895NZ20100910|title=Lady Gaga and jilted producer drop legal dispute|date=2010-09-10|work=[[Reuters]]|publisher=[[Thomson Reuters]]|accessdate=2010-09-11}}</ref>

เดือนเมษายนปีเดียวกัน มีรายงานว่ามิวสิกวิดีโอของเธอมียอดคนดูมากกว่าพันล้านครั้งบนเว็บไซต์ [[Youtube]] และกลายเป็นศิลปินคนแรกที่มียอดดูในหลักพันล้าน <ref>{{cite news|url=http://www.bbc.co.uk/worldservice/news/2010/03/100326_lady_gaga_billion_hits.shtml|title=Lady Gaga becomes a 'billion-hit' artist|last=Kooch|first=Eileen|date=2010-03-26|work=[[BBC]]|publisher=[[BBC Online]]|accessdate=2010-04-19}}</ref> เดือนเดียวกันกาก้าได้รับการเสนอชื่อจากนิตยสารไทมส์ ให้เป็นหนึ่งใน100 ของบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกแห่งปี 2009 ระหว่างให้สัมภาษณ์กับไทมส์นั้น เธอพูดเปรย ๆ ว่า กำลังป่วยด้วย[[โรคลูปัส]] ซึ่งเป็นโรคเนื้อเยื่อติดเชื้อรุนแรงในร่างกาย <ref name="time2010">{{cite news|url=http://www.time.com/time/specials/packages/completelist/0,29569,1984685, 00.html |title=The 2010 TIME 100|work=Time|publisher=[[Time Inc.]]|accessdate=2010-05-06|date=2010-05-02}}</ref> สองเดือนต่อมาเธอให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทอล์กโชว์ของ[[ลาร์รี่ คิง]] ว่า ไม่ได้ป่วยด้วยโรคลูปัสแต่เล่าถึงผลการตรวจร่างกาย "พบว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็น" เพราะโรคลูปัสเป็น[[พันธุกรรม|กรรมพันธุ์]]ในครอบครัว และป้าเธอเพิ่งเสียชีวิตไปด้วยโรคนี้

ปลายปี 2010 อัลบั้ม The Fame Monster ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่ ในสาขาอัลบั้มเพลงป็อบยอดเยี่ยมและอัลบั้มแห่งปี<ref> http://www.usatoday.com/life/music/awards/grammys/2010-12-01-grammy-nominations-list_N.htm?loc=interstitialskip</ref>

กาก้าและ[[เอลตัน จอห์น]] ได้ปล่อยเพลงดูเอ็ตที่ร้องร่วมกันในชื่อ ''"Hello Hello"'' เพื่อใช้ประกอบภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นของ[[ดิสนีย์]] ''"Gnomeo and Juliet"'' <ref>{{cite web|title=Elton John and Lady Gaga record duet|url=http://www.guardian.co.uk/music/2010/oct/25/elton-john-lady-gaga-duet|author=Michaels, Sean|date=2010-10-25|accessdate=2010-12-15|publisher=The Guardian (London)}}</ref> และเดือนกันยายน 2010 กาก้าได้เซ็นสัญญาทางธุรกิจกับโคตี้ อินคอร์ปเปเรชั่น เพื่อผลิตน้ำหอมร่วมกันที่มีชื่อ "มอนสเตอร์" และออกวางจำหน่ายในปี 2012

=== 2011 - 2012: Born this way ===
เดือนมีนาคม 2010 กาก้าเปิดเผยว่า ได้เริ่มทำสตูดิโออัลบั้มใหม่ และเขียนธีมหลักของอัลบั้มเสร็จแล้ว สามเดือนต่อมา เธอประกาศว่าสตูดิโออัลบั้มที่สองใกล้เสร็จสมบูรณ์ "มันเร็วมาก ฉันทำงานนี้เป็นเดือน ๆ และรู้สึกได้ว่ามันเสร็จแล้ว ศิลปินบางคน อาจใช้เวลานานเป็นปี แต่ไม่ใช่ฉัน ฉันเขียนเพลงทุก ๆ วัน"<ref>{{Cite news|url=http://www.guardian.co.uk/music/2010/jun/23/lady-gaga-new-album-finished|title=Lady Gaga's new album 'finished'|last=Michaels|first=Sean|date=2010-06-23|accessdate=2010-06-23|work=The Guardian}}</ref>
[[ไฟล์:Bad Romance on The Today Show.jpg|thumb|right|เลดี้กาก้าร้องเพลง Bad Romance ที่จตุรัสไทมแควร์ [[นิวยอร์ก]], [[ประเทศสหรัฐอเมริกา]] สิงหาคม 2010]]
กาก้าประกาศชื่ออัลบั้มใหม่ที่จะออกวางจำหน่ายในปี 2011 นี้ว่า "[[บอร์นดิสเวย์|Born This Way]]"<ref name="BadChurch">{{Cite news|title=Lady Gaga to Release first Born This Way Single in February |url=http://www.mtv.com/news/articles/1653302/20101201/lady_gaga.jhtml|date=2010-12-01|last=Vena |first=Jocelyn|publisher=MTV (MTV Networks)|accessdate=2010-12-01}}</ref> <ref>{{Cite news|url=http://www.rollingstone.com/music/news/17386/202983|title=Lady Gaga Names Her New Album 'Born This Way'|last=Kreps|first=Daniel|date=2010-09-13|work=[[Rolling Stone]]|publisher=[[Jann Wenner]]|accessdate=2010-11-11}}</ref> ในระหว่างขึ้นรับรางวัลวิดีโอแห่งปีบนเวทีเอ็มวีมิวสิกวิดีโออวอร์ดส์ ประจำปี 2010 <ref>{{cite news|url=http://music-mix.ew.com/2010/09/12/lady-gaga-announces-new-album-name-in-vma-speech-steals-show/|title=Lady Gaga Announces New Album Name in VMA Speech|date=2010-09-12|accessdate=2010-09-13|work=Entertainment Weekly}}</ref> โดยกาก้าได้นำเพลงจากอัลบั้มใหม่มาใช้ร้องสดในทัวร์คอนเสิร์ตของเธอ คือ Born this way และอีกเพลงคือ [[ยูแอนด์ไอ (เพลงเลดี้ กาก้า)|Yoü and I]] ซึ่งเธอร้องเพลงนี้บนเวทีเทศกาลดนตรีลอลลาพาลูซา 2010 เพลง Born this way จะเป็นซิงเกิลเปิดตัวอัลบั้ม ที่จะจำหน่ายในวันที่ 13 กุมภาพันธํ 2011 เธอกล่าวถึงอัลบั้มนี้ว่า "จะเป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดในทศวรรษนี้" "เป็นสิ่งพาให้เรานอนดึกและรู้สึกสะพรึงกลัว" "เด็กเลวมุ่งสู่โบสถ์" และ "ความสนุกสนานขึ้นไปอีกระดับ" กาก้าอธิบายถึงเพลงใหม่ของตัวเองว่า "เป็นอะไรที่ลึกซึ้งกว่าผมปลอม ลิปสติก หรือ เสื้อผ้าที่เห็น"<ref>{{Cite news|title=Lady Gaga Says Born This Way Will Be 'Greatest Album Of This Decade'|url=http://www.mtv.com/news/articles/1653141/20101129/lady_gaga.jhtml|date=2010-11-09|last=Dinh|first=James|publisher=MTV (MTV Networks)|accessdate=2010-11-30}}</ref>

แล้วเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งเป็นวันประกาศผลรางวัลแกรมมี่ อวอร์ส ซึ่งกาก้าได้ไปร่วมงานนี้พร้อมสร้างความตกตะลึงเมื่อกาก้าปรากฏตัวโดยนอนอยู่ในไข่ใบยักษ์ที่มีคนแบกเข้ามา โดยไข่นี้เป็นหนึ่งในการโปรโมทเพลงใหม่ที่กาก้าจะใช้เปิดตัวเพลงใหม่ในการแสดงงานนี้ และในงานแกรมมี่ ปีนี้ กาก้ากวาดรางวัลไปถึงสามรางวัล โดยอัลบั้มอีพี The Fame Monster ได้รับรางวัล อัลบั้มเพลงป็อปยอดเยี่ยม และ ศิลปินเพลงป็อปหญิงยอดเยี่ยม จากเพลง Bad Romance โดยในการแสดงกาก้าได้ร่วมแสดงในงานนี้ด้วย พร้อมเปิดตัวเพลงใหม่ Born This Way โดยกาก้าแสดงและเปิดตัวที่นี่ครั้งแรก พร้อมปล่อยลงโซเชียลมีเดียในวันเดียวกัน โดยเพลงBorn This Way ทำสถิติขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในสหราชอาณาจักร แคนาดา สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และอีกหลายๆประเทศ และเพลง Born This Way ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กาก้าดดยมียอดดาวน์โหลดสูงถึง ห้าแสนครั้งภายในเวลา 5 ชั่วโมง ได้สร้างประวัติศาสตร์ยอดดาวน์โหลดสูงสุดที่ดาวน์โหลดผ่านทางเว็บไซต์ อแมซอน และ ไอทูนส์ และสองอาทิตย์ต่อมาได้ปล่อยมิวสิควีโอเพลง Born This Way ออกมาก็ได้สร้างความตกตะลึงอีกครั้งกับยอดคนดูในยูทูปที่มียอดเกิน 2 ล้านวิวภายใน 1 วัน
[[ไฟล์:Lady Gaga LoveGame Manchester.jpg|215x215px|thumb|left|เลดี้กาก้าในคอนเสิร์ต[[เดอะบอร์นดิสเวย์บอลทัวร์]]]]

เพลง Born This Way ได้ประสบกับคำวิจารณ์อย่างหนักจนถึงปัจจุบัน โดยมีหลายคนเห็นถึงความคล้ายคลึงระหว่างเพลง Born This Way และเพลง Express Yourself ของมาดอนน่า ที่คล้ายกันมากเหมือนใช้คอดเพลงตัวเดียวกัน อีกทั้งเพลง Born This Way ได้ถูกตัดส่วนที่พูดถึงชาวรักร่วมเพศออกไปเพื่อเปิดในวิทยุของประเทศมาเลเซีย โดยมีกฎหมายออกมาอย่างทางการ พร้อมกับปรับเงินกับสถานีที่เปิดเพลงตัวเต็ม ที่ชาวรักร่วมเพศถือว่ายังเป็นสิ่งรับไม่ได้กับประเทศนี้ที่มีคนนับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งในประเทศจีนยังถูกห้ามไม่ให้มีใครเปิดเพลง หรือจำหน่ายอัลบั้มของเธอในประเทศนี้

หลังจากหลายเดือนต่อมา กาก้าประกาศว่าเธอจะปล่อยเพลง Judas ที่มีเนื้อหาเพลงจากพระคัมภีย์ไบเบิ้ล โดยจะปล่อยพร้อมกับมิวสิควีโโอ แต่ไม่ทันจะปล่อย ก็ถูกต่อต้านอย่างหนักจากชาวคริสต์ ว่ากาก้าไม่สมควรเอาเรื่องจากพระคัมภีย์มาล้อเล่น หรือมาล้อเลียน เพราะกาก้าเธอเคยประกาศไว้ว่าจะนำเรื่องราวในพระคัมภัย์มาดัดแปลงทำเป็นมิวสิควีดีโอ แต่ในความจริง กาก้าแต่งเพลงJudas ขึ้นมาก็เพื่อประชดประชันแฟนเก่าของเธอที่ทรยศเธอ เหมือนจูดาสที่ทรยศต่อพระเยซูเพียงเท่านั้นเอง

หลังจากนั้นหนึ่งเดือน กาก้าได้ปล่อยเพลง The Edge Of Glory ซึ่งเพลงนี้กาก้าได้รับแรงบันดารใจจากการเสียชีวิตของคุณปู่ของเธอ ที่ถึงจุดบั้นปลายของชีวิต โดยเหมือนเราอยู่ที่ขอบเหวที่ไม่สามารถหนีหรือเดินต่อไปได้ จึงต้องจบชีวิต เพราะจุดสิ้นสุดที่เราจะเดินต่อไปแล้ว หลังจากนั้น

ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2554 กาก้าได้เปิดตัวอัลบั้ม บอร์นดิสเวย์ โดยทำสถิติขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอีกหลายๆประเทศ มียอดขายเกิน 1 ล้านชุด ภายในไม่ถึง 5 วัน และมียอดดาวน์โหลดอัลบั้มทางอแมซอนและไอทูนส์ สูงเป็นประวัติศาสตร์ของวงการดนตรี โดยปีนี้กาก้าได้ถูกจัดอันดับจากนิตยสารฟอบส์ให้เป็นผู้ทรงอิทธิพลอันดับ 1ของโลก และผู้ที่มีรายได้มากที่สุดของปี 2011 โดยเธอได้รายได้ส่วนหนึ่งจากยอดขายอัลบั้มและคอนเสิร์ต The Monster Ball ที่ปิดทัวร์ ก่อนขายอัลบั้ม

เมื่อต้นปี 2012 กาก้าและซินเธีย แม่ของเธอได้จัดตั้ง[[มูลนิธิบอร์นดิสเวย์]]ขึ้น เพื่อเรียกร้องสิทธิเด็กและเพศที่สาม โดยปี 2012 นี้กาก้าได้เริ่มต้นทัวร์คอนเสิร์ตของเธอโดยใช้ชื่อว่า[[เดอะบอร์นดิสเวย์บอลทัวร์]]เป็นทัวร์รอบโลกโดยเริ่มที่แถบเอเชียก่อนและไปต่อที่แถบโอเซียเนียและยูโรป รวมถึงการแสดงในประเทศไทยที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถานเมื่อวันที่ [[25 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2555]] ด้วย

=== 2013 - 2014: Artpop และ Cheek to Cheek ===
ในต้นปี 2013 ในระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ตของกาก้า เดอะบอร์นดิสเวย์บอลล์ กาก้าได้รับบาดเจ็บ จึงทำให้กาก้าต้องยกเลิกโชว์กว่า 20 โชว์ และใช้เวลา เกือบ 4 เดือนพักฟื้น และในเดือนกรกฎาคม กาก้าได้ประกาศอัลบั้มอย่างเป็นทางการ ในงานเลี้ยงของทีมงาน นั้นแสดงให้รู้ว่า หมดยุคของบอร์นดิสเวย์ เข้าสู่ยุคอาร์ตป็อปแล้วนั้นเอง
[[ไฟล์:Lady-gaga-performsa-at-2013-mtv-vma-in-new-york 1.jpg|212x212px|thumb|เลดี้ กาก้าแสดงเพลง "[[Applause]]" ในงาน MTV Video Music Awards 2013 ]]
[[ไฟล์:Lady Gaga, ARTPOP Ball Tour, Bell Center, Montréal, 2 July 2014 (48) (14376652128).jpg|left|200px|thumb|เลดี้ กาก้าในคอนเสิร์ต[[อาร์ตป๊อปบอลทัวร์]] ]]
ซิงเกิลแรกของอัลบั้มคือเพลง [[Applause]] ที่กาก้าประกาศวันวางจำหน่ายเพลงในวันที่ 19 สิงหาคม แต่เนื่องจากมีแฮกเกอร์ ผู้เจาะข้อมูลพยายามดึงบางส่วนของเพลงออกมาปล่อยลงโซเชียล จนกระทั่งหลุดทั้งเพลง กาก้าจึงไม่สามารถทนสภาพของการดาวน์โหลดเพลงฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ จึงตัดสินใจปล่อยเพลงออกมาขายทางไอทูนส์ ในวันที่ 12 สิงหาคม เพื่อให้แฟนเพลงได้โหลดเพลงอย่างถูกกฎหมาย ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ดันไปชนกับวันเดียวกันกับวันขายซิงเกิลใหม่ ของเคที เพอร์รี กับซิงเกิล รอร์ จากอัลบั้มใหม่ของเธอ ปริซึม ซึ่งทำให้เกิดประเด็นระหว่างแฟนคลับกันเอง ซึ่งมิวสิควีดีโอได้ถูกเผยในวันที่ 19 สิงหาคมที่รายการ Good Morning America กำกับโดย Inez van Lamsweerde และ Vinoodh Matadin ซึ่งถ่ายทำในสตูดิโอที่ลอสแอนเจลิส ต่อมาเธอได้ประกาศซิงเกิลที่ 2 คือเพลง Venus วางจำหน่ายในวันที่ 27 ตุลาคม แต่เนื่องจากเพลง ดูวอทยูวอนต์ มียอดขาย และกระแสที่ดีกว่า กาก้าจึงเปลี่ยนเป็นซิงเกิ้ลแทนวีนัส

ซิงเกิ้ลที่ 2 ของอัลบั้มนี้ มีชื่อว่า " [[ดูวอทยูวอนท์]] กาก้าประกาศอย่างเป็นทางการผ่านทวิตเตอร์ ว่าจะเป็นซิงเกิ้ลที่ 2 ของอัลบั้มต่อจากเพลงแอพพลอส ที่จะออกจำหน่ายในรูปแบบดิจิตอลดาวน์โหลดผ่านทางไอทูนส์ เนื่องจากเพลงนี้มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดในอัลบั้ม กระแสดีเกินคาด และเป็นเพลงที่ขึ้นอันดับ 1 ได้เร็วที่สุดในปี 2013 กาก้าจึงประกาศเปลี่ยนเพลงนี้ที่เป็นเพลงโปรโมทก่อนอัลบั้มวางจำหน่าย เป็นซิงเกิ้ลที่ 2 แทน ซึ้งเปลี่ยนเพลงวีนัส ให้เป็นเพียงโปรโมทซิงเกิ้ลเท่านั้น

"[[G.U.Y]]" ได้มาเป็น ซิงเกิ้ลที่ 3 อย่างเป็นทางการเมื่อกาก้ามีแผนที่จะพรีเมียร์มิวสิควีดีโอใหม่ของเธอในรายการโทรทัศน์ จึงได้มีการคอนเฟริมในทวิตเตอร์ของทางโปรดิวเซอร์รายการว่าเพลงที่จะเดบิวต์ในรายการนั้นคือ G.U.Y<ref>http://www.hiphopdx.com/index/news/id.25751/title.t-i-twista-too-short-r-kelly-slated-to-appear-on-lady-gaga-s-artpop-album</ref>

[[ไฟล์:Lady_Gaga_%26_Tony_Bennett_(17358129821).jpg|thumb|เลดี้ กาก้ากับ[[โทนี เบนเนต]] ที่คอนเสิร์ต Cheek to Cheek Tour|197x197px]]
ในวันที่ 10 พฤศจิกายน กาก้าจัดงาน artRave ขึ้นมาที่นิวยอร์ก เพื่อให้แฟนเพลงได้ชมและร่วมงานเปิดตัวอัลบั้มอย่างเป็นทางการ ในงานกาก้าได้นำปติมากรรมทางศิลปะของเจฟ คูนส์ มานำเสนอในงานด้วย รวมถึงรูปปั้นปติมากรรมของเลดี้ กาก้า ที่นำไปใช้ในหน้าปกอัลบั้ม ที่เจฟ คูนส์ปั้นขึ้น ในงานกาก้าแสดงเพลง เป็นมินิคอนเสิร์ตของเธอ ซึ้งเธอแสดงไปทั้งหมด 9 เพลงจากอัลบั้ม

กาก้าประกาศคอนเสิร์ตของเธอขึ้น โดยใช้ชื่อว่า Artrave: Artpop Ball Tour
กาก้าได้ร่วมงานกับ[[โทนี เบนเนต]] กับอัลบั้มเพลงแจ๊ซชื่อ Cheek to Cheek ถูกปล่อยเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2014 อัลบั้มนี้ทำรายได้ 131,000 ก๊อปปี้ในอาทิตย์แรก และได้รับ[[รางวัลแกรมมี่]]ปี 2015 สาขา Best Traditional Pop Vocal Album กาก้ากับโทนี่เปิดคอนเสิร์ตร่วมกัน Cheek to Cheek Tour

=== 2015: American Horror Story ===
22 กุมภาพันธ์ 2015 เลดี้กาก้าได้ไปร่วมงานประกาศผลรางวัล[[ออสการ์]] และขึ้นแสดงโชว์เมดเล่ย์ The Sound of Music เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปี ภาพยนตร์ [[มนต์รักเพลงสวรรค์]] (The Sound of Music) โดยตอนจบการแสดง[[จูลี่ แอนดรูว์ส]]เดินขึ้นมาเซอไพรส์บนเวที

เลดี้กาก้าได้ออกมิวสิควิดิโอเพลง Til It Happens To You เพลงประภาพยนตร์สารคดี ''The Hunting Ground'' เพื่อนำรายได้ของวิดิโอและเพลง ไปบริจาคให้กับองค์กรที่ช่วยเหลือแก่ผู้ที่เคยถูกทำร้ายหรือถูกละเมิดทางเพศ และเพลงนี้ยังติดชาร์ตอันดับ 1 Billboard Dance Club Song (ในเวอร์ชัน Remix) ในต้นปี 2016 อีกด้วย

20 กันยายน 2015 เลดี้กาก้าได้ไปร่วมงานประกาศผล[[รางวัลเอ็มมี]] โดยเธอได้เดินพรมแดงด้วยชุดที่เรียบหรู ธรรมดา ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึงในความเปลี่ยนไปของเธอ เธอยังได้เข้าชิงรางวัลในสาขา Outstanding Variety, Music or Comedy Special ร่วมกับ[[โทนี เบนเนต]]อีกด้วย

เลดี้กาก้าได้ร่วมแสดงซีรีส์ American Horror Story ซีซั่น 5 ในตอนที่ชื่อว่า Hotel โดยกาก้าแสดงเป็น อลิซาเบธ เจ้าแม่แฟชั่นและเป็นเจ้าของโรงแรมที่มีชื่อว่า Cortez เธอยังได้เข้าชิงสาขารางวัลเกี่ยวกับละครโทรทัศน์อีกหลายสาขาอีกด้วย

เลดี้กาก้า ได้ไปร่วมงาน Billboard Women in Music 2015 โดยเธอได้รับรางวัล Woman of the Year ทำให้เธอได้รับการยอมรับจากศิลปินมากมาย เช่น [[เคธี เบตส์]],[[เอลตัน จอห์น]],[[จูลี่ แอนดรูว์ส]],[[โทนี เบนเนต]] ทั้งผลงานการแสดง และผลงานเพลง

=== 2016-2017 : Joanne และการแสดงพักครึ่งซูเปอร์โบว์ลครั้งที่ 51===
=== 2016-2017 : Joanne และการแสดงพักครึ่งซูเปอร์โบว์ลครั้งที่ 51===
เลดี้กาก้าได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงในสาขา Best Performance in a Miniseries or Television Film จาก American Horror Story: Hotel ในงานประกาศผล[[รางวัลลูกโลกทองคำ]] ครั้งที่ 73 ถือเป็นการคว้ารางวัลถ้วยแรกของการเป็นนักแสดงของเธอเลยทีเดียว และเพลง Til It Happens to You ของเธอที่ร่วมกันแต่งกับ[[ไดแอน วาร์เรน]] จากภาพยนตร์สารคดี "The Hunting Ground" ก็ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลในงานประกาศผล[[รางวัลออสการ์]] ครั้งที่ 88 ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์แห่งปี และก่อนหน้านี้ก็ได้เข้าชิง Best Song Written for Visual Media จากงานประกาศผล[[รางวัลแกรมมี่]] ครั้งที่ 58 และได้รับรางวัล Satellite Awards ครั้งที่ 20 ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์แห่งปีอีกด้วย[[ไฟล์:Lady Gaga Super Bowl 50 National anthem.jpg|thumb|209x209px|เลดี้กาก้าหลังจากร้องเพลง National Anthem ในศึก[[ซูเปอร์โบวล์]] ครั้งที่50|left]]วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2016 เลดี้กาก้า ได้รับเชิญให้ไปร้องเพลงชาติ[[สหรัฐอเมริกา]] หรือ [[เดอะสตาร์สแปงเกิลด์แบนเนอร์]] ในศึกการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล[[ซูเปอร์โบวล์]] ครั้งที่ 50 เพื่อเป็นการเปิดการแข่งขันนั่นเอง
เลดี้กาก้าได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงในสาขา Best Performance in a Miniseries or Television Film จาก American Horror Story: Hotel ในงานประกาศผล[[รางวัลลูกโลกทองคำ]] ครั้งที่ 73 ถือเป็นการคว้ารางวัลถ้วยแรกของการเป็นนักแสดงของเธอเลยทีเดียว และเพลง Til It Happens to You ของเธอที่ร่วมกันแต่งกับ[[ไดแอน วาร์เรน]] จากภาพยนตร์สารคดี "The Hunting Ground" ก็ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลในงานประกาศผล[[รางวัลออสการ์]] ครั้งที่ 88 ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์แห่งปี และก่อนหน้านี้ก็ได้เข้าชิง Best Song Written for Visual Media จากงานประกาศผล[[รางวัลแกรมมี่]] ครั้งที่ 58 และได้รับรางวัล Satellite Awards ครั้งที่ 20 ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์แห่งปีอีกด้วย[[ไฟล์:Lady Gaga Super Bowl 50 National anthem.jpg|thumb|209x209px|เลดี้กาก้าหลังจากร้องเพลง National Anthem ในศึก[[ซูเปอร์โบวล์]] ครั้งที่50|left]]วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2016 เลดี้กาก้า ได้รับเชิญให้ไปร้องเพลงชาติ[[สหรัฐอเมริกา]] หรือ [[เดอะสตาร์สแปงเกิลด์แบนเนอร์]] ในศึกการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล[[ซูเปอร์โบวล์]] ครั้งที่ 50 เพื่อเป็นการเปิดการแข่งขันนั่นเอง
บรรทัด 139: บรรทัด 16:
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เลดี้กาก้าได้ขึ้นแสดงเพลง Moth Into Flame คู่กับวงร็อค[[เมทัลลิกา]] ในงานประกาศผล[[รางวัลแกรมมี]] ครั้งที่ 59
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เลดี้กาก้าได้ขึ้นแสดงเพลง Moth Into Flame คู่กับวงร็อค[[เมทัลลิกา]] ในงานประกาศผล[[รางวัลแกรมมี]] ครั้งที่ 59


เมื่อ 16 เมษายน เลดี้กาก้าได้ขึ้นแสดงโชว์ที่งาน Coachella Valley Music and Arts Festival 2017 ซึ่งกาก้านั้นได้ขึ้นแสดงแทน[[บียอนเซ่ โนวส์|บียอนเซ่]] เนื่องจากบียอนเซ่นั่นได้ตั้งครรภ์ลูกแฝดนั่นเอง ในงานก็มีผู้ชมมากมาย รวมทั้งศิลปินดังๆคนอื่น เช่น [[เคที เพร์รี]] [[รีแอนนา]] [[ลานา เดล เรย์]] เป็นต้น ในขณะที่กาก้าแสดงนั้น เธอก็ได้ร้องเพลงใหม่ของเธอที่มี่ชื่อว่า '''The Cure''' แต่งโดย DJ White Shadow และโปรดิวซ์โดย Nick Monson เมื่อวางจำหน่ายบน iTunes เพลงนี้ก็สามารถทยานขึ้นอันดับ 1 ใน Itunes Chart ได้ถึง 62 ประเทศ และอันดับ 1 บน Itunes Worldwide และทยานขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตประเทศฟินแลนด์และอันดับ 3 ในประเทศนิวซีแลนด์
เมื่อ 16 เมษายน เลดี้กาก้าได้ขึ้นแสดงโชว์ที่งาน Coachella Valley Music and Arts Festival 2017 ซึ่งกาก้านั้นได้ขึ้นแสดงแทน[[บียอนเซ่ โนวส์|บียอนเซ่]] เนื่องจากบียอนเซ่นั่นได้ตั้งครรภ์ลูกแฝดนั่นเอง ในงานก็มีผู้ชมมากมาย รวมทั้งศิลปินดังๆคนอื่น เช่น [[เคที เพร์รี]] [[รีแอนนา]] [[ลานา เดล เรย์]] เป็นต้น ในขณะที่กาก้าแสดงนั้น เธอก็ได้ร้องเพลงใหม่ของเธอที่มี่ชื่อว่า '''The Cure''' แต่งโดย DJ White Shadow และโปรดิวซ์โดย Nick Monson เมื่อวางจำหน่ายบน iTunes เพลงนี้ก็สามารถทยานขึ้นอันดับ 1 ใน Itunes Chart ได้ถึง 62 ประเทศ และอันดับ 1 บน Itunes Worldwide และทยานขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตประเทศฟินแลนด์และอันดับ 3 ในประเทศนิวซีแลนด์
[[ไฟล์:Lady_Gaga_A-Yo_Tacoma_(cropped).jpg|thumb|209x209px|เลดี้กาก้าขณะแสดงเพลง A-Yo ในคอนเสิร์ต Joanne World Tour|left]]

กลางเดือนเมษายน เลดี้ กาก้า ได้เริ่มเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง '''A Star Is Born''' ที่[[รัฐแคลิฟอร์เนีย]] รีเมคมาจากเวอร์ชันปี 1937 เธอใช้ชื่อในการแสดงว่า '''สเตฟานี่ เจอร์มาน็อตตา''' ซึ่งเป็นชื่อจริงๆของกาก้าเอง โดยเธอรับบทเป็น แอลลี่ นางเอกของเรื่อง ซึ่งแสดงคู่กับ[[แบรดลีย์ คูเปอร์]] ซึ่งเป็นผู้กำกับด้วย
กลางเดือนเมษายน เลดี้ กาก้า ได้เริ่มเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง '''A Star Is Born''' ที่[[รัฐแคลิฟอร์เนีย]] รีเมคมาจากเวอร์ชันปี 1937 เธอใช้ชื่อในการแสดงว่า '''สเตฟานี่ เจอร์มาน็อตตา''' ซึ่งเป็นชื่อจริงๆของกาก้าเอง โดยเธอรับบทเป็น แอลลี่ นางเอกของเรื่อง ซึ่งแสดงคู่กับ[[แบรดลีย์ คูเปอร์]] ซึ่งเป็นผู้กำกับด้วย


สิงหาคม กาก้าได้เริ่มทัวร์คอนเสิร์ต "Joanne World Tour" ในทวีปอเมริกาเหนือ ทั้งประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา ซึ่งทุกรอบการแสดงของเธอในปี 2017 นั้นสามารถขายบัตรได้หมดเกลี้ยงทุกรอบ ทำให้ Joanne World Tour ติดอันดับที่ 2 ทัวร์ของศิลปินหญิงที่ทำรายได้มากที่สุด รองจาก Celine Dion Live 2017, ระหว่างทัวร์ในเดือนกันยายน กาก้าได้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังที่ร่างการหรือ [[ไฟโบรไมอัลเจีย]] ทำให้เธอต้องยกเลิกทัวร์ที่เมือง[[รีโอเดจาเนโร]] ประเทศ[[บราซิล]]
== ฉายาที่มีผลต่อภาพลักษณ์ในวงการ ==
กาก้า เธอมีภาพลักษณ์ต่อสังคมที่ทำให้เธอดูโดดเด่นไปจากศิลปินอื่นโดยสิ้นเชิง แม้ในบางแง่มุมอาจจะมองเธอเป็นคนบ้าที่ไร้สติ แต่งตัวเกินความงามและลิมิตของตน แต่มันก็สร้างความโดดเด่นเป็นที่รู้จักให้เธอ แม้กระทั่งนักวิจารณ์ด้านแฟชั่นบางคนอย่างยกให้กาก้าเป็นเจ้าแม่แห่งวงการแฟชั่น และให้การแต่งตัวของเธอเป็นแรงบันดาลใจทุกครั้ง ตั้งแต่กาก้าเข้าวงการปี 2008 เธอก็สร้างเอกลักษณ์ของตนเองขึ้นมาแล้ว โดยในสมัยยุคเดอะเฟม กาก้าก็ก็ภาพลักษณ์ในแบบของตนเอง จนสมัยยุคเดอะเฟมมอนสเตอร์ กาก้ามีลุคที่ประหลาดมากขึ้น การแต่งตัว สีผม การใส่รองเท้ารูปทรงประหลาด โดยเฉพาะในงาน MTV Vma 2010 กาก้าปรากฏกายในชุดเนื้อสด ที่สร้างความประหลาดใจไปทั่วโลก จนยุคบอร์นดิสเวย์ กาก้าเริ่มเปลี่ยนลุค ในแบบของเธอ โดยแฟชั่นแบบซีลีโคนโหนกที่แหลมออกมาจากใบหน้า และไหล่ ที่ดูเหมือนเอเลี่ยน (ซึ่งเธอมีจุดประสงค์ให้มองในแง่นั้นเพื่อโปรโมทเพลงบอร์นดิสเวย์) การเปลี่ยนสีผม จนยุคล่าสุด อาร์ตป็อป กาก้าเริ่มเปลี่ยนลุคไป เช่น ทำทรงผมให้ฟูเหมือนสิงโต (เธอสื่อถึงวีนัส) ใส่บีกีนี่เปลือกหอย การเปลี่ยนสีผมเป็นสีดำ ซึ่งไปอาจแปลกใจที่กาก้าจะมีแฟนเพลงมากอันดับหนึ่งของโลก และนิตยสารหลายฉบับยกให้กาก้าเป็นผู้ทรงอิทธิพลต่อโลก โดยกาก้ามีแฟนคลับจำนวนมาก เธอจึงเรียกแฟนเพลงของเธอว่า "ลิตเติ้ลมอนสเตอร์" (Little Monster) โดยแฟนคลับเธอจะเรียนตัวเธอเองว่า "Mother Monster" หรือในชื่อที่เรียกต่างๆมากมายเช่น Mama Monster, มอนสเตอร์ ตัวแม่, เจ้าแม่แฟชั่น ซึ่งมันทำให้กาก้ามีเอกลักษณ์ในวงการที่แตกต่างจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง

== ความเป็นศิลปิน ==
=== แนวเพลงและแรงบันดาลใจ ===
[[ไฟล์:Carnegie Hall1.jpg|thumb|right|เลดี้ กาก้าและ[[เอลตัน จอห์น]] ใน Carnegie Hall|204x204px]]
เลดี้กาก้าได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินแกลมร็อก เช่น [[เดวิด โบวี]] และ[[วงควีน]] รวมถึงนักร้องเพลงป็อบเช่น [[มาดอนนา]], [[บริทนีย์ สเปียร์ส]] [[ไคลี มิโนก]]และ[[ไมเคิล แจ๊กสัน]] เพลงเรดิโอ-กาก้า ของวงควีนนั้นเป็นแรงบันดาลใจของชื่อที่เธอใช้ในวงการ<ref name="Allmusic bio">{{cite web|url={{Allmusic|class=artist|id=lady-gaga-p1055684|pure_url=yes}}|title=Allmusic<nowiki>|</nowiki> Lady Gaga |last=Birchmeier|first=Jason|date=2008-04-20|publisher=[[Allmusic]]. [[Rovi Corporation]]|accessdate=2010-01-03}}</ref><ref>{{cite news|url=http://www.popcrunch.com/britney-spears-lady-gaga-collaboration-in-the-works/|title=Britney Spears/Lady Gaga collaboration in the works|work=The Sun|accessdate=2010-06-20|publisher=Pop Crunch|last=Reporter|first=Staff | location=London | date=2010-02-10}}</ref><ref name="DR">{{Cite news|url=http://www.thefreelibrary.com/THE+FEAR+FACTOR%3B+Lady+Gaga+used+tough+times+as+inspiration+for+her...-a0213005824|last=Dingwall|first=John|title=The Fear Factor; Lady Gaga used tough times as inspiration for her new album|work=[[Daily Record (Scotland)|Daily Record]]|pages=48–49|date=2009-11-27|accessdate=2009-05-06|accessdate=2010-05-06}}</ref>

เมื่อพูดถึงการเปรียบเทียบระหว่างตัวเธอกับมาดอนนา กาก้ายืนยันว่าไม่อยากได้แค่เพียงคำทักท้วง แต่เธอมีเป้าหมายของตัวเองที่จะปฏิวัติดนตรีป็อบ การเปลี่ยนแปลงป็อบครั้งก่อนเกิดขึ้นโดยมาดอนนาเมื่อ 25 ปีที่แล้วและครั้งนี้จะเป็นของเธอ ส่วนนักร้องนักแสดง[[เกรซ โจนส์]] ก็เป็นอีกแรงบันดาลใจของเธอ รวมทั้ง[[เด็บบี้ แฮร์รี่]] นักร้องนำแห่งวง[[บลอนดี้]]<ref name="DR">{{Cite news|url=http://www.thefreelibrary.com/THE+FEAR+FACTOR%3B+Lady+Gaga+used+tough+times+as+inspiration+for+her...-a0213005824|last=Dingwall|first=John|title=The Fear Factor; Lady Gaga used tough times as inspiration for her new album|work=[[Daily Record (Scotland)|Daily Record]]|pages=48–49|date=2009-11-27|accessdate=2009-05-06|accessdate=2010-05-06}}</ref><ref name="soundtrack">{{cite news|url=http://www.guardian.co.uk/music/2009/sep/06/lady-gaga-popandrock|title=Soundtrack of my life: Lady Gaga|work=The Guardian|publisher=Guardian News and Media|last=Thomson|first=Graeme|date=2009-09-06|accessdate=2010-05-06 | location=London}}</ref><ref name="Prefix magazine">{{cite web|url=http://www.prefixmag.com/news/lady-gaga-grace-jones-androgynous-robo-future-fash/26057/|title=Lady GaGa: "Grace Jones, Androgynous, Robo, Future Fashion Queen"|first=Alexandra |last=Symonds|work=Prefix |accessdate=2009-07-11|date=2009-07-10}}</ref><ref>{{cite news|url=http://www.thisislondon.co.uk/showbiz/article-23694934-debbie-harry-would-love-to-perform-with-lady-gaga.do|title=Debbie Harry Would Love To Perform With Lady Gaga|date=2009-10-25|last=Smith|first=Liz|work=[[Evening Standard]]|publisher=[[Daily Mail and General Trust]]|accessdate=2009-10-30}}</ref>

เสียงร้องของกาก้าถูกนำไปเปรียบเทียบกับเสียงของมาดอนนาและ[[เกว็น สเตฟานี]] บ่อยครั้ง ในขณะที่โครงสร้างทางดนตรีของเธอคล้ายคลึงกับเพลงคลาสสิกป็อบยุค 1980 และเพลงยูโรป็อบในยุค 90<ref>{{cite news|url=http://www.guardian.co.uk/music/2009/jul/01/lady-gaga-review|title=Lady Gaga: Academy, Manchester|last=Simpson|first=Dave|date=2009-07-01|accessdate=2009-10-30|work=The Guardian|publisher=Guardian News and Media | location=London}}</ref> ในการวิเคราะห์อัลบั้มเปิดตัว The Fame หนังสือพิมพ์เดอะซันเดย์ไทมส์ กล่าวว่า เป็นการผสมผสานทางดนตรี, แฟชั่น, ศิลปะ และเทคโนโลยี เลดี้กาก้าได้ปลุกกระแสความเป็นมาดอนนา, [[ไคลี มิโนก]] และเพลงฮอลลาแบ็คเกิร์ลของ[[เกว็น สเตฟานี]]ในปี 2001 หรือ เกรซ​ โจนส์ เช่นเดียวกับซาร่าห์ รอดแมน นักวิจารณ์แห่งหนังสือพิมพ์เดอะบอสตันโกลบวิจารณ์ว่า "เธอได้แรงบันดาลใจจากมาดอนนารวมถึงเกว็น สเตฟานี และแฝงความเป็นเด็กสาวของเธอเอง แต่มีเสียงร้องที่ทรงพลังและจังหวะเร้าอารมณ์ แม้ว่าเนื้อร้องจะขาดสาระไปบ้าง เธอได้พาคุณเข้าไปสู่โลกแห่งความสุขโดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากเลย"<ref>{{Cite news|last=Rodman|first=Sarah|title=Lady Gaga|url=http://www.boston.com/ae/music/cd_reviews/articles/2008/10/27/lady_gaga/|work=[[The Boston Globe]]|date=2008-10-27|accessdate=2009-08-09}}</ref><ref name="popmatters">{{cite web|url=http://www.popmatters.com/pm/review/68939-lady-gaga-the-fame/|title=Lady GaGa The Fame|last=Sawdey|first=Evan|date=2009-01-12|publisher=[[PopMatters]]|accessdate=2009-04-30}}</ref> ไซมอน เรโนลดส์ เขียนไว้ว่า "ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเลดี้กาก้ามาจากอิเล็กโทรแคลช ยกเว้นดนตรีซึ่งไม่ได้มาจากยุค 1980 และเป็นเพลงป็อบที่คุ้นหูโดยผ่านโปรแกรม[[ออโต้ทูนส์]]กับจังหวะ[[อาร์แอนด์บี]]

กาก้ายังระบุว่า แฟชั่นก็คือแรงบันดาลใจหลักของ เธอชื่นชม[[โดนาเทลลา เวอร์ซาส]] ว่าเป็นต้นแบบความคิด<ref>{{cite news|url=http://www.koreatimes.co.kr/www/news/art/2009/03/143_40885.html|title=Lady Gaga Burning Up Album Charts|first=Cathy |last=Garcia|date=2009-03-08|accessdate=2009-03-10|publisher=[[Hankook Ilbo]]|work=[[The Korea Times]]}}</ref> และเธอมีทีมครีเอทีฟประจำตัวที่ชื่อ เฮ้าส์ ออฟ กาก้า ที่จัดการบริหารด้วยตัวเอง ทีมเฮ้าส์ออฟกาก้าออกแบบและสร้างสรรค์เสื้อผ้า ทรงผม และการแสดงบนเวทีให้แก่เธอ ซินเธีย ผู้เป็นแม่มีอิทธิต่อความหลงใหลในแฟชั่นต่อกาก้า ที่ยืนหยัดว่า "พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความงาม" สำนักโกลบอล แลงกวิจ มอนิเตอร์ ระบุว่า เลดี้กาก้าเป็นคำค้นหาแฟชั่นในอันดับต้น ๆ ของ เครื่องหมายการค้า "No Pant" ไม่มีขา (กางเกง) ในอันดับที่สาม<ref name="mtv 55">{{cite news|url=http://www.mtv.com/news/articles/1589013/20080609/lady_gaga.jhtml|title=Lady GaGa Brings Her Artistic Vision Of Pop Music To New Album |last=Harris|first=Chris|date=2008-06-09|accessdate=2009-05-07|work=MTV|publisher=[[MTV Networks]]}}</ref> นิตยสารเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จัดอันดับให้เครื่องแต่งกายของเธอเป็นหนึ่งในสิ่งสุดยอดแห่งปลายศตวรรษ 2000 แม้จะเป็นชุดที่ทำจากหุ่นมือกบตัวเขียว หรือชุดฟองน้ำพลาสติกที่ปกปิดเพียงอวัยวะเพศ การแต่งกายแบบพิสดารจากคนทั่วไปทำให้เธอสามารถนำศิลปะการแสดงสดเข้าสู่สื่อกระแสหลักได้<ref>{{cite journal|last=Geier|first=Thom|date=2009-12-11|title=The 100 Greatest Movies.. Trends That Entertained Us Over The Past 10 Years|work=Entertainment Weekly|volume=1079/1080|issue=74|pages=84|publisher=Time Inc.|accessdate=2010-05-06|issn=10490434}}</ref><ref>{{cite web|url=http://www.nytimes.com/slideshow/2009/12/24/style/YEARGAGA1227_index.html?ref=lady_gaga|title=The Year in Style <nowiki>|</nowiki> Lady Gaga|last=Buckner|first=Michael|date=2009-12-28|accessdate=2010-06-17|work=The New York Times}}</ref>

จากคำวิจารณ์ต่อดนตรีของเธอ, อิทธิพลทางแฟชั่น และภาพลักษณ์ของเธอที่ผสมผสานกันทำให้เธอมีสถานะเป็นนางแบบ, ผู้นำแฟชั่น และแฟชั่นไอคอน ทั้งได้รับการยอมรับและถูกปฏิเสธ อัลบั้ม The Fame อัลบั้มแรกของเธอได้รับคำวิจารณ์ในทางบวกและให้ตำแหน่งเธอในฐานะที่ทำเพลงป็อบอันมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร และสิ่งจำเป็นที่จะขับเคลื่อนวัฒนธรรมใหม่ ๆ ความสนใจในตัวเธอกลายประเด็นทางสังคมที่สำคัญ ความสามารถทางศิลปะในตัวเธอ และถูกมองว่าเป็น "ผู้เพิ่มความนับถือในตัวเอง" ก็เป็นอีกบทบาทหนึ่งที่กาก้ามีต่อแฟนเพลงที่ได้รับการยกย่อง เธอได้ทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่นกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงเศรษฐกิจกำลังซบเซา<ref>{{cite news|url=http://new.music.yahoo.com/blogs/newmusicalexpress/2110/lady-gaga-vs-roisin-murphyspot-the-difference/|title=Lady Gaga Vs. Roisin Murphy – Spot The Difference|last=Lewis|first=Luke|date=2009-08-09|accessdate=2010-06-18|publisher=Yahoo!}}</ref><ref>{{cite news|url=http://new.music.yahoo.com/blogs/newmusicalexpress/2110/lady-gaga-vs-roisin-murphyspot-the-difference/|title=Lady Gaga Vs. Roisin Murphy – Spot The Difference|last=Lewis|first=Luke|date=2009-08-09|accessdate=2010-06-18|publisher=Yahoo!}}</ref><ref>{{cite journal|issn=10490434|title=Is Lady GaGa a saviour of Pop?|last=Browne|first=David|date=2010-01-09|volume=1091|issue=02|work=Entertainment Weekly}}</ref> <ref>{{cite news|url=http://out.com/detail.asp?id=26601|title=Heather Cassils: Lady Gaga's Prison Yard Girlfriend|last=Andres|first=Joanna|date=2010-04-09|accessdate=2010-06-18|work=[[Out (magazine)|Out]]}}</ref><ref>{{cite web|url=http://www.elle.com/Fashion/Fashion-Spotlight/Celebrity-Fashion-Lady-Gaga|title=Lady Gaga Fashion – Vote on 15 of Lady Gaga's Outfits |date=2009-12-01|accessdate=2010-06-18|work=Elle}}</ref><ref>{{cite news|url=http://www.hollywoodnews.com/2010/06/15/kyle-minogue-thinks-theres-an-element-of-her-in-lady-gaga/|title=Kylie Minogue thinks there's an element of her in Lady Gaga‎ |date=2010-06-13|accessdate=2010-06-18|publisher=Hollywood News}}</ref>

การแสดงสดของเธอได้รับการชื่นชมว่า "เป็นความสนุกสนานและแปลกใหม่ที่สุด" โดยอ้างถึงการแสดงในงานแจกรางวัลเอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิก 2009 ในเพลง Paparazzi เธอสวมเสื้อซึ่งระเบิดออกมาเป็นเลือด ได้รับคำวิจารณ์จาก[[เอ็มทีวี]]ว่า "ชวนให้ผู้ชมตาค้าง"<ref>{{cite news|url=http://www.mtv.com/news/articles/1621395/20090913/lady_gaga.jhtml|title=Lady Gaga Lets It Bleed During Eye-Popping VMA Performance |date=2009-09-13|accessdate=2010-06-18|last=Vena|first=Jocelyn|publisher=MTV}}</ref> และยังใช้ธีม "โชกเลือด" นี้ ในทัวร์คอนเสิร์ต เดอะ เฟม มอนสเตอร์ บอล ด้วย ในฉากหนึ่งของการแสดงที่เมือง[[แมนเชสเตอร์]] ประเทศ[[อังกฤษ]] กาก้าสวมชุดรัดรูปสีดำและจู่ ๆ ก็ถูกทำร้ายจากชายลึกลับที่เพิ่งกระโดดขึ้นเวที (ที่จริงแล้วเป็นแดนเซอร์ของเธอเอง) ใช้มีดปาดคอเธอ ทำให้ "เลือดปลอม" ไหลท่วมตัวเธอ สร้างความตกใจให้กับผู้ชมโดยไม่รู้ว่านี้คือการแสดง ครอบครัวและแฟนเพลงที่เข้าชมการแสดงในรอบนี้รู้สึกไม่พอใจต่อการแสดงนี้ ที่ยังรู้สึกสะเทือนใจต่อเหตุการณ์คนขับแท็กซี่ใช้อาวุธปืนยิงชาวเมือง[[คัมเบรีย]]ถึง 12 คน ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นบนเกาะอังกฤษไม่กี่เดือนก่อนนี้<ref>{{cite news|url=http://www.nydailynews.com/entertainment/music/2010/06/03/2010-06-03_fans_protest_lady_gagas_bloodspattered_monster_ball_show_in_england_after_shooti.html|title=Fans protest Lady Gaga's blood-spattered Monster Ball show in England after shooting spree|last=Roberts|first=Sorya|date=2010-06-03|accessdate=2010-06-23|work=New York Daily News}}</ref><ref>{{cite news|url=http://www.hindustantimes.com/Gaga-s-bloody-stage-show-sparks-fury/Article1-552890.aspx|title=Gaga's bloody stage show sparks fury|date=2010-06-04|accessdate=2010-06-23|work=[[Hindustan Times]]}}</ref><ref name="guardian">{{cite news|url=http://www.guardian.co.uk/music/2010/feb/21/lady-gaga-men-arena-manchester|title=Lady Gaga at MEN arena, Manchester|date=2010-02-21|accessdate=2010-06-18|last=Empire|first=Kitty|work=The Guardian|location=london}}</ref>

เดือนกันยายน 2010 เลดี้กาก้ากลับไปรับรางวัลในงานเอ็มทีวี วิดีโอมิวสิกวิดีโอ 2010 ที่แอลเอ ด้วยชุดเดรสยาวสุดล้ำสไตล์[[โกธิค]] และรองเท้าส้นสูง 12 นิ้วลายพิมพ์หนังงูเหลือมและที่ยิ่งฮือฮากว่านั้นเมื่อเธอเปลี่ยนชุด "เนื้อสด" เพื่อขึ้นรับรางวัลวิดีโอแห่งปี เป็นชุดตัดจากเนื้อวัวสด รวมทั้งแอคเซสซอรี่ต่าง ๆ หมวก กระเป๋า และรองเท้าบูท ฝีมือการตัดเย็บของแฟรงค์ เฟอร์นันเดซ ดีไซเนอร์ชาวอาร์เจนตินา สร้างความคิดเห็นเป็นสองฝ่ายทั้งปลุกความสนใจจากสื่อมวลชนทั่วโลกและสร้างความไม่พอใจให้กับองค์การพิทักษ์สัตว์ ([[PETA]]) อย่างไรก็ดี<ref>{{Cite web|title=Lady Gaga's meat dress divides opinion|url=http://www.telegraph.co.uk/culture/music/music-news/8001267/Lady-Gagas-meat-dress-divides-opinion.html|date=2010-14-09|accessdate=2010-06-12|last=Roberts|first= Laura|work=The Daily Telegraph}}</ref>กาก้าออกมาย้ำว่าไม่ได้ตั้งใจจะดูหมิ่นเหยียดหยามมใครหรือองค์การใดทั้งสิ้น และปรารถนาให้ชุดของเธอสื่อความหมายไปในทางสิทธิความเป็นมนุษย์และสิทธิเพื่อ[[เพศที่สาม]] <ref>{{Cite web|title=Five interpretations of Lady Gaga's meat dress|url=http://www.bbc.co.uk/news/magazine-11297832|date=2010-14-09|accessdate=2010-06-12|first=Denise |last=Winterman |first2= Jon |last2=Kelly|publisher=BBC (BBC Online)}}</ref><ref>{{Cite web|title=Lady Gaga defends meat dress by claiming she's no 'piece of meat'|url=http://www.metro.co.uk/music/840850-lady-gaga-defends-meat-dress-by-claiming-shes-no-piece-of-meat|date=2010-14-09|accessdate=2010-06-12|last=Lee|first= Ann|work=[[Metro (British newspaper)|Metro]]}}</ref>

เธอเรียกแฟนเพลงของตัวเองว่า "ลิตเทิล มอนสเตอร์ -เจ้าปีศาจตัวน้อย" นั่นก่อให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างมาก เพราะเป็นธรรมดาของธุรกิจดนตรีและภาพลักษณ์ที่มีมูลค่ามหาศาล ในขณะที่หลายคนเชื่อว่า คำนี้ใช้แบ่งแยกตัวเองและขัดต่อวัฒนธรรมของคนทั่วไป คิตตี้ เอ็มไพร์ แสดงความเห็นต่อคำว่า ลิตเทิล มอนสเตอร์ ลงหน้าหนังสือพิมพ์การ์เดียนของอังกฤษว่า "ทำให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ที่ผิด ๆ โดยขาดการไตร่ตรองตั้งแต่แรก หัวใจหลักของการแสดงของเธอคือการอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวและโดนสังคมต่อต้าน และที่กล่าวว่า คอนเสิร์ตมอนสเตอร์ บอล ทัวร์ที่พวกเราทั้งหมดจะถูกปลดปล่อยนั้น ช่างเป็นเรื่องที่ไร้สาระทีเดียว ผู้คนมากมายที่ยอมเสียเงินให้กับธุรกิจดนตรีอันเจ้าเล่ห์ของกาก้า ไม่ได้จำกัดแต่เพียงพวกข้ามเพศ คนบ้าแฟชั่น และมนุษย์ราตรี ตามที่เธอหวังไว้ตามแรงบันดาลใจเท่านั้น แต่ตัวเธอเองกลับดูเหมือนจะจริงใจต่อแฟน ๆ มากกว่า"<ref>{{cite news|url=http://www.couriermail.com.au/news/opinion/lady-gagas-grab-for-attention-enough-to-make-you-gag/story-e6freri6-1225923966643 |title=Lady Gaga's grab for attention enough to make you gag|first=Jane |last=Fynes-Clinton|work=[[The Courier-Mail]]|date=2010-09-15|accessdate=2010-10-04}}</ref>

เดือนกันยายน 2010 คามิลล์ แพ็กเลีย เขียนหนังสือชื่อ Lady Gaga and the death of sex มีเนื้อหาโจมตีกาก้าอย่างรุนแรงว่า ว่าเป็น "นักเลียนแบบที่ไร้เพศ" และไม่ได้เป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นแปลกประหลาดอย่างหลาย ๆ คนเข้าใจ จึงควรเรียกเธอใหม่ว่า "นักเลียนแบบหัวขโมยมากกว่าผู้ริเริ่มการแสดงยั่วยวนทางกามารมณ์ที่ถูกห้าม"<ref>{{cite web|url=http://www.shakenstir.co.uk/index.php/features/gaga-and-the-death-of-sex/features/20608/ |title=Lady Gaga and the death of sex|authorlink=Camille Paglia|last=Paglia|first=Camille|date=2010-09-12|accessdate=2010-10-04|work=The Sunday Times}}</ref>

=== ภาพลักษณ์ในสังคม ===
[[ไฟล์:Lady Gaga as Jo Calderone at 2011 MTV Video Music Awards.jpg|thumb|right|เลดี้กาก้าในงาน[[เอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์]] 2011]]
การแต่งตัวสไตล์ประหลาดพิสดารของเลดี้กาก้าตรงข้ามกับสไตล์ในช่วงแรก ๆ ที่เพิ่งเริ่มเข้าวงการใหม่ ๆ ดังที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ อธิบายไว้ "เหมือนผู้ลี้ภัยจากละครเรื่องเจอร์ซีย์ ชอร์ ในผมพองฟูมหึมาน้ำตาลเข้ม, การแต่งดวงตาดำเข้ม และชุดรัดติ้วที่เปิดเผยเนื้อหนังมากไป กาก้ามีผมสีน้ำตาลเข้มโดยกำเนิด เธอฟอกผมเป็นสีบลอนด์ เพราะเคยถูกเข้าใจผิดว่าเป็น[[เอมี ไวน์เฮาส์]] ศิลปินเพลง[[โซล]] เธอมักเรียกแฟนเพลงของตัวเองว่า ลิตเทิล มอนสเตอร์ และสักลายคำ ๆ นี้ลงบนแขนข้างที่ถือไมโครโฟน เพื่อแสดงถึงการอุทิศตัวเพื่อแฟนเพลง เธอมีรอยสักที่สังเกตเห็นได้ 6 แห่งด้วยกัน เช่น สัญลักษณ์สันติภาพของ[[จอห์น เลนนอน]] ฮีโรในดวงใจ และ[[คำคม]]ในรูปตัวเขียนเยอรมัน ของ[[เรนเนอร์ มาเรีย ริลค์]] [[กวี]]และ[[นักปราชญ์]]ชาว[[เยอรมัน]]ที่ชื่นชอบ เธอบอกว่าคำคมที่พูดถึงความสันโดษนี้ความหมายต่อตัวเธอ <ref name="monsters">{{cite news|url=http://www.nydailynews.com/gossip/2010/02/03/2010-02-03_lady_gaga_dedicates_her_new_little_monsters_tattoo_to_her_fans.html|title=Lady Gaga dedicates her new 'Little Monsters' tattoo to her fans|publisher=News Corporation|work=Daily News|accessdate=2010-04-02|last=Odell|first=Amy|date=2010-02-03}}</ref>

ปลายปี 2008 แฟชั่นของกาก้าถูกนำไปเปรียบเทียบกับนักร้องซุเปอร์สตาร์ [[คริสตินา อากีเลรา]] ทั้ง ๆ ที่ไม่ความเหมือนกันเลยในสไตล์ของพวกเธอทั้งทรงผม และการแต่งหน้า อากิเลราให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า "แทบไม่ได้รู้จักหล่อน (กาก้า) เลยและไม่รู้ด้วยว่าหล่อนเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่"<ref name="who copied?">{{cite news | url=http://www.dailymail.co.uk/tvshowbiz/article-1135704/So-copied-Lookalikes-Lady-GaGa-Christina-Aguilera-embroiled-style-row.html | title=So who copied who? Lookalikes Lady GaGa and Christina Aguilera | work=Daily Mail | first=Daily Mail |last=Reporter | date=2009-02-03| accessdate=2009-02-06|publisher=Associated Newspapers}}</ref> กาก้ายอมรับการเปรียบเทียบนี้ว่าทำให้เธอได้เป็นที่รู้จักทั่วไป เธอขอบคุณอากีเลราว่าทำให้เธอได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในอเมริกาหลังจากการเปรียบเทียบนี้ มันทำให้เธอเป็นที่รู้จักในวงการ <ref>{{cite news|url=http://www.ok.co.uk/celebnews/view/6299/GaGa-I-m-thankful-for-Christina/|title=GaGa: I'm thankful for Christina|date=2008-12-31|publisher=[[Northern & Shell]]|work=[[OK!]]|accessdate=2009-01-08|last=Temple|first=Sonic}}</ref>

การเปรียบเทียบนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปี 2010 เมื่ออากีเลราปล่อยมิวสิกวิดีโอของเธอ "Not Myself Tonight" นักวิจารณ์สังเกตเห็นความคล้ายคลึงกันหลายจุดทั้งเพลงและมิวสิกวิดีโอว่าเหมือนกับเพลงและมิวสิกวิดีโอ [[แบดโรแมนซ์|Bad Romance]] ของกาก้า<ref>{{cite news|url=http://www.dailymail.co.uk/tvshowbiz/article-1269136/Christina-Aguilera-copies-Lady-GaGa-dons-PVC-outfit-new-video.html|title=Christina Aguilera Copies Lady GaGa|date=2010-05-02|accessdate=2010-05-10|work=Daily Mail|publisher=Associated Newspapers|last=Thrills|first=Adrian}}</ref> และเปรียบเทียบความคล้ายคลึกในสไตล์การแต่งตัวของกาก้ากับแฟชั่นไอคอนอย่าง [[เดล บอสซิโอ]]แห่ง[[วงมิสซิง เพอร์สัน]] บางคนวิจารณ์ภาพลักษณ์ของทั้งด้วยความเคารพว่า เหมือนกันอย่างแปลกประหลาด ถึงแม้ว่า แฟนเพลงของบอสซิโอจะบอกว่า เธอเป็นผู้ริเริ่มสไตล์นี้เมื่อกว่า 30 ปีก่อนแล้ว"<Ref>{{cite news|url=http://musicblog.dallasnews.com/archives/2009/12/dale-bozzio-should-be-flattere.html|title= Dale Bozzio should be flattered...maybe |last=Tarradell|first=Mario|date=2009-12-14|accessdate=2010-11-03|work=[[Dallas Morning News]]}}</ref>

เลดี้กาก้ามีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมและสังคมยุคใหม่ จนทำให้มหาวิทยาลัยเซาธ์แคโรไลนา ได้เปิดสอนหลักสูตรใหม่ในสาขาวิชา "เลดี้กาก้าและสังคมวิทยาความโด่งดัง"โดย มีจุดประสงค์เพื่อเปิดเผยประเด็นทางสังคมในมุมมองความมีชื่อเสียงโด่งดังของกาก้าที่เกี่ยวข้องกับเพลง วิดีโอ แฟชั่น และความพยายามทางศิลปะของเธอ <ref>{{Cite news|title=US College Offering Lady GaGa Degree|url=http://www.mtv.co.uk/artists/lady-gaga/news/244144-us-college-offering-lady-gaga-degree|work=''MTV''|publisher=MTV Netweoks|last=Vena|first=Jocelyn|accessdate=2010-11-03|date=2010-10-30}}</ref> <ref>{{Cite web|title=SOCY 398D – Lady Gaga and the Sociology of the Fame |first= Mathieu |last=Deflem|url=http://www.cas.sc.edu/socy/faculty/deflem/gaga.html|publisher=[[University of South Carolina]]|accessdate=2010-03-11}}</ref>

ในปี 2015-2016 เลดี้กาก้าได้มีการเปลี่ยนลุคที่ทำให้ตัวเองดีขึ้น ไม่หลุดแนวเหมือนกับเมื่อก่อน ทำให้เธอเป็นที่ให้การยอมรับแก่ผู้คนและดารานักแสดงมากมาย เช่น [[จูลี่ แอนดรูวส์]] [[เคธี เบตส์]] และอีกมากมาย

=== พืช ===
ปี 2012 ได้มีการค้นพบพืชจำพวกเฟิร์นสายพันธุ์ใหม่โดยองค์กรชีววิทยา ได้ตั้งชื่อเฟิร์นพันธุ์นี้ว่า "GAGA" เหตุที่ใช้ชื่อเลดี้ กาก้า เป็นชื่อเฟิร์นชนิดใหม่เนื่องจาก ดีเอ็นเอของเฟิร์นตระกูลนี้ จำแนกออกมาแล้ว เรียงตัวตามลำดับเป็น Guanine, Adenine, Guanine, Adenine, และ เพื่อเป็นเกียรติให้กับนักร้องอเมริกันคนนี้ ที่ต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวเกย์และชาวรักร่วมเพศมาโดยตลอด
อีกเหตุผลหนึ่งคือ "เลดี้ กาก้า" เคยสวมชุดที่เป็นแรงบันดาลใจจากเฟิร์น "เกมีโตไฟท์" ในการแสดงบนเวที นอกจากนี้ ชุดที่เป็นเอกลักษณ์ของเลดี้ กาก้า ที่เหมือนกางเกงขอบยื่น เป็นแบบเดียวกับใบอ่อนของเฟิร์นที่ม้วนเป็นก้อนกลม
มีเฟิร์น 2 สปีชี่ย์ ที่เป็นการค้นพบใหม่ คือ "กาก้า เจอร์มาน็อตต้า" พบที่คอสตาริกา และได้ชื่อตามชื่อสกุลของเลดี้กาก้า กับ "กาก้า มอนสตราพาร์วา" ที่หมายถึง "ลิตเติล มอนสเตอร์" ชื่อที่เลดี้ กาก้า ใช้เรียกสาวกของตนเอง<ref>http://www.wired.com/wiredscience/2012/10/lady-gaga-fern/</ref> <ref>http://www.eonline.com/news/357155/lady-gaga-gets-fern-species-named-after-her-check-out-the-resemblance</ref>

=== น้ำหอม ===
[[ไฟล์:Lady Gaga Fame Profumo.jpg|200px|thumb|right|น้ำหอมเฟม น้ำหอมตัวแรกของเลดี้กาก้า]]
[[ไฟล์:Eau de Gaga.jpg|200px|thumb|left|น้ำหอมออ เดีย กาก้า น้ำหอมตัวที่สองของเลดี้กาก้า]]

[[เลดี้กาก้าเฟม]] ซึ่งเป็นน้ำหอมแรกของเลดี้ กาก้า ผลิตโดยเฮาส์แลบอราทอรีส์ (Haus Laboratories) ร่วมกับบริษัทโคตี (Coty, Inc.) โดยใช้เทคโนโลยี push-pull ในการผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ซึ่งมาในรูปแบบน้ำสีดำ โดยจำหน่ายในเมริกาที่ห้างเมซีส์ (Macy's) <ref>{{cite web|url=http://nymag.com/daily/fashion/2010/07/lady_gaga_rumored_to_be_workin.html|title=Lady Gaga Rumored to Be Working on a Fragrance|last=Odell|first=Amy|date=2010-07-13|work=[[New York (magazine)|New York]]|publisher=New York Media LLC|accessdate=2012-07-09}}</ref> เฟม เป็นน้ำหอมแบรนด์แรกของโลกที่มีน้ำเป็นสีดำสนิท โดยกาก้ากล่าวว่า น้ำหอมเป็นสีดำ แต่เมื่อฉีดโดนผิวหนังแล้ว จะไม่มีคราบสีดำติดผิวหนัง แม้จะเป็นผ้าสีขาวบริสุทธิ์ น้ำหอมเฟมยังขึ้นเป็นน้ำหอมขายดีอันดับ 1 ของ[[สหรัฐอเมริกา]] [[ฝรั่งเศส]] [[สหราชอาณาจักร]] และอีกหลายๆประเทศที่น้ำหอมขึ้นท็อปส์อันดับ 1 น้ำหอมเฟม มีสโลแกนว่า '''''THE FIRST EVER BLACK eau de PARFUM''''' น้ำหอมเฟม จำหน่ายได้ 28 ล้านขวด ภายในอาทิตย์แรกที่วางจำหน่าย ซึ่งมียอดขายมากกว่าน้ำหอมศิลปินอื่น อาทิเช่น [[บียอนเซ่]] [[มาดอนน่า]] [[บริทนีย์ สเปียร์ส]] [[เคที เพอร์รี่]] ปัจจุบันน้ำหอมเฟมมียอดขายตั้งแต่เปิดตัวรวม 30 ล้านขวด ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จมาก

[[ออ เดีย กาก้า]] เป็นน้ำหอมยี่ห้อที่สองของ เลดี้กาก้า ผลิตโดยเฮาส์แลบอราทอรีส์ (Haus Laboratories) ร่วมกับบริษัทโคตี (Coty, Inc.) เปิดตัววันแรกเมื่อ 1 กันยายน 2014

=== ฉายาและแฟนคลับ ===
บรรดาแฟนคลับของเธอจะเรียกตัวเธอว่า Mother Monster แม่ของเหล่าปีศาจ และเหล่าแฟนคลับก็เรียกว่า Little Monster ซึ่งเรียกได้ว่าแม่กับลูก ๆ นั้นเอง

== กิจกรรมการกุศล ==
[[ไฟล์:US Election 2016 (32570136870) (cropped).jpg|left|thumb|181x181px|เลดี้ กาก้าที่ [[Camden, New Jersey]] ]]

=== การเมือง ===
ในเดือนกรกฎาคม 2016 เลดี้กาก้า ได้เป็นหัวหน้าแกนนำในการจัดคอนเสิร์ตที่ [[Camden, New Jersey]] [[ประเทศสหรัฐอเมริกา]] เพื่อสนับสนุน[[ฮิลลารี คลินตัน|นางฮิลลารี คลินตัน]] จาก[[พรรคเดโมแครต (สหรัฐ)|พรรคเดโมแครต]] ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยเลดี้กาก้าได้นำชุดสูทของ[[ไมเคิล แจ็กสัน]] ครั้นที่มาเยือนทำเนียบขาวเมื่อปี 1990 มาใส่กล่าวปราศัย และจัดคอนเสิร์ตกับ[[บอน โจวี]] ท้ายสุดฮิลลารี คลินตันขึ้นมากล่าวปราศัย

=== เกย์ไอคอน ===
กาก้ายกความสำเร็จที่ได้รับในช่วงแรก ๆ ของการเป็นศิลปินกระแสหลักให้แก่แฟนเพลงชาว[[เกย์]] และถูกยกย่องให้เป็นขวัญใจชาวเกย์ ก่อนหน้าปี 2009 เป็นเรื่องยากมากที่ดีเจจะยอมเปิดเพลงของเธอออกอากาศบนคลื่นวิทยุในอเมริกา เธอระบุว่า "จุดเปลี่ยนของฉันคือกลุ่มชาวเกย์, ฉันมีแฟนเพลงชาวเกย์มากมายที่ชื่นชอบในตัวฉัน พวกเขายกย่องฉันและยังคงสนับสนุนฉัน ซึ่งฉันจะต้องสนับสนุนพวกเขา ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีฐานแฟนเพลงเป็นของตัวเอง <ref name="mtvgayicon">{{cite news|url=http://www.mtv.com/news/articles/1610781/20090506/lady_gaga.jhtml|title=Lady Gaga On Success: 'The Turning Point For Me Was The Gay Community'|last=Vena|first=Jocelyn|date=2009-05-07|work=MTV|publisher=MTV Networks|accessdate=2009-08-11}}</ref> เธอขอบคุณบริษัทฟลายไลฟ์ บริษัทการตลาดของกลุ่ม LGBT ที่ตั้งอยู่ในแมนแฮตตันและได้ร่วมงานกับบริษัทอินเทอร์สโคป ต้นสังกัดของเธอ ในปกอัลบั้ม The Fame เธอเขียนบันทึกไว้ว่า
{{คำพูด|''"ฉันรักพวกคุณ (กลุ่มชาวเกย์) มาก, คุณคือแรงดลใจของอัลบั้มนี้ให้ดำเนินต่อไป การสนับสนุนและความสดใสของพวกคุณมีหมายความต่อฉันราวกับโลกทั้งใบ ฉันจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อการชาวเกย์จนถึงที่สุดพร้อมกับทีมงานที่ไม่น่าเชื่อ'"'}}<ref name="thefame">{{cite album-notes|artist=Lady Gaga|title=[[The Fame]]|format=Liner notes |publisher=[[Interscope Records]] |year=2008|publisherid=2726601}}</ref>

[[ไฟล์:LadyGaga-EqualityMarch-Crop.jpg|thumb|left|เลดี้กาก้ากล่าวปราศรัยในงานชุมนุมเพื่อความเท่าเทียม National Equlity March|186x186px]]
การแสดงครั้งแรกของเธอที่ได้ถ่ายทอดสดครั้งแรก เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2008 ในงานมอบรางวัลนิวนาวเน็กซ์อวอร์ดที่เธอได้ร้องเพลง Just Dance บนเวทีนี้และออกอากาศโดยสถานีโทรทัศน์ในเครือข่าย[[LGBT]]<ref name="newnownext">{{cite web|url=http://www.logotv.com/video/franchise.jhtml?ctid=1956|title=NewNowNext Awards|accessdate=2009-08-11|date=2008-05-03}}</ref> เดือนมิถุนายนในปีเดียวกันเธอขึ้นร้องเพลงในเทศกาลซานฟรานซิสโกไพรด์ <ref name="sfpride">{{cite news|url=http://www.sfpride.org/celeb/mainstage_08.html|title=2008 Main Stage Line-Up|accessdate=2009-08-11|date=2008-06-13|publisher=[[San Francisco Pride]]}}</ref>
หลังจากที่อัลบั้ม The Fame ของเธอออกวางจำหน่ายแล้ว เธอเปิดเผยว่าเพลงโป๊กเกอร์เฟซนั้นพูดถึงความเป็นคนรักสองเพศในตัวเธอ เมื่อเธอได้เป็นแขกรับเชิญในรายการดิ เอลเลน ดิเจอเนอเรส เลดี้กาก้าได้กล่าวยกย่องดิเจอเนอเรสว่าเป็น "แรงบันดาลใจสำหรับสตรีและชาวเกย์ <ref name="ellen">{{ cite news | url=http://www.dailymail.co.uk/tvshowbiz/article-1181210/Lady-GaGas-wacky-headgear-knocks-chat-host-Ellen-DeGeneres.html | title=Lady GaGa's wacky headgear almost knocks out chat show host Ellen DeGeneres | date=2009-05-13| work=Daily Mail | accessdate=2009-08-11 |publisher=Associated Newspapers}}</ref> ในงานชุมนุมรวมพลังเพื่อความเท่าเทียม National Equality March ที่เนชั่นแนลมอล เธอประกาศว่า งานอีเวนท์นี้เป็นงานสำคัญที่สุดในอาชีพของเธอ" และกล่าวอวยพรด้วยความปิติยินดีว่า "Bless God and bless gays" เช่นเดียวกับที่ขึ้นกล่าวคำขอบคุณบนเวทีมอบรางวัลเอ็มทีวีมิวสิกวิดีโอ 2009 ในเพื่อขึ้นรับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมเมื่อหลายเดือนก่อน <ref>{{cite news | url=http://www.mtv.com/news/articles/1621407/20090914/lady_gaga.jhtml | title=Lady Gaga's Shocking 2009 VMA Fashion Choices | date=2009-08-14| last=Vena|first=Jocelyn|work=MTV|publisher=MTV Networks| accessdate=2009-08-19}}</ref> ณ งานชุมนุมรวมพลังเพื่อความเท่าเทียมนั้น กาก้าได้แสดงเพลง Imagine ของจอห์น เลนนอน จากนั้นเธอได้ประกาศว่า "ฉันจะไม่ร้องเพลงของตัวเองสักเพลงเดียวในคืนนี้ เพราะคำคืนนี้ไม่ได้เกี่ยวกับฉันแต่เกี่ยวกับพวกคุณ" แล้วเธอเปลี่ยนเนื้อร้องเดิมของเพลงให้เป็นเพลงที่สะท้อนการเสียชีวิตของแมทธิว เชพเพิร์ด นักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ถูกฆาตกรรมเนื่องจากลักษณะทางเพศของเขาเอง <ref>{{Cite web|title=Lady Gaga performs her version of 'Imagine' at the Human Rights Campaign dinner in Washington D.C.|url=http://www.nydailynews.com/gossip/2009/10/12/2009-10-12_lady_gaga_performs_her_version_of_imagine_at_the_human_rights_campaign_dinner_in.html|publisher=News Corporation|work=Daily News|date=2009-12-10|accessdate=2010-06-12|author=Carter, Nicole}}</ref>
[[ไฟล์:Lady Gaga DADT.jpg|thumb|right|เลดี้กาก้ากล่าวปราศรัยเพื่อผลักดันนโยบาย Don't ask Don't tell ที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐ[[เมน]]]]
[[ไฟล์:Lady Gaga vigil 2016.jpg|left|thumb|213x213px|เลดี้กาก้าขณะกล่าวปราศัยที่ L.A Vigil]]
เดือนกันยายน 2010 เธอกล่าวในที่ชุมนุมเพื่อต่อต้านกองทัพอเมริกัน ด้วยนโยบาย [[ห้ามถาม ห้ามบอก]] ที่ไม่ให้บุคคลห้ามบอกว่าตนเป็น[[เลสเบี้ยน]], [[เกย์]] หรือ[[คนรักสองเพศ]]เมื่อเข้าสมัครเป็นทหารเข้ากองทัพอเมริกา <ref>{{cite news |title=Lady Gaga Goes Political in Maine|newspaper=The New York Times|date=2010-09-20|url=http://www.nytimes.com/2010/09/21/us/politics/21gaga.html?_r=1&src=me|last=Zezima|first=Katy|accessdate=2010-09-21}}</ref> และได้เผยแพร่วิดีโอที่กระตุ้นให้แฟนเพลงของเธอพยายามติดต่อสมาชิกวุฒิสภาเพื่อผลักดันให้นโยบายนี้ให้เป็นผล บรรณาธิการแห่งนิตยสาร ดิ แอดโวเคต ให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ว่า เลดี้กาก้าได้กลายเป็น “ผู้สนับสนุนที่ดุเดือดสำหรับชาวเกย์และเลสเบี้ยนตัวจริง”<ref>{{cite web|url=http://www.advocate.com/News/Daily_News/2010/09/21/Lady_Gaga_Weve_Found_Our_Fierce_Advocate/|title=Gaga: We've Found Our Fierce Advocate|accessdate=2010-09-21|date=2010-09-28|work=The Advocate}}</ref>

14 มิถุนายน 2016 เธอได้กล่าวปราศัยและรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่มีผู้ก่อการร้ายยิงเข้าไปในไนท์คลับ Pulse ใน[[ออร์แลนโด]],[[รัฐฟลอริดา]] โดยงานจัดขึ้นที่ L.A Vigil โดยได้บอกว่า

<ref name="Orlando">{{cite album-notes|artist=Lady Gaga|title=[[2016]]|format=Liner notes |publisher=[[Interscope Records]] |year=2016|publisherid=}}</ref>
{{คำพูด|''"ดังที่เราได้เห็นถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมครั้งใหญ่ในอเมริกานี้ ฉันก็รับรู้ได้ถึงระดับความเกลียดชัง ความอคติ ซึ่งมีต่อมนุษย์ด้วยกันเอง ค่ำคืนนี้ ฉันมารวมตัวอยู่กับพวกคุณที่นี่ ด้วยความสงบและความจริงใจ เพื่อไว้อาลัยกับการสูญเสียคนที่บริสุทธิ์และสวยงามทั้งหลายเหล่านี้
คืนนี้ ฉันจะไม่ยอมให้ความรู้สึกโกรธที่มีต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ของฉันมาทำลายงานรำลึกถึงบุคคลที่สูญเสียคนอันเป็นที่รัก สูญเสียสมาชิกกลุ่มรักร่วมเพศ ฉันหวังว่าพวกคุณคงรู้ว่า ตัวฉันและคนอื่นอีกจำนวนมากอยู่ข้างคุณ"''}}
ขณะนั้นเธอก็ได้กล่าวรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 49 คน พร้อมกับแสดงความเสียใจโดยการร้องไห้ออกมา

[[ไฟล์:Weprayforjapan.JPG|thumb|right|สายข้อมือริชแบรนด์ มีตัวอักษรสีแดงเขียนว่า "We pray for Japan"|153x153px]]

=== ริสแบนด์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวญี่ปุ่น ===
หลังจากที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.9 ใน[[ประเทศญี่ปุ่น]] จนทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงกว่า 10 เมตรพัดถล่มเมือง[[เซ็นได]]จนได้รับความเสียหาย กาก้า ได้รณรงค์จัดทำสายรัดข้อมือออกมาเพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว
โดยกาก้า ได้เปิดตัวสายรัดข้อมือสีขาว ตัวอักษรแดง ที่เขียนข้อความว่า "We Pray for Japan" พร้อมกับคำแปลภาษาญี่ปุ่น ซึ่งในสายรัดข้อมือนี้ยังมีภาพกรงเล็บที่เป็นสัญลักษณ์ชาว Little Monster แฟนคลับของเลดี้ กาก้า ปรากฏอยู่ด้วย
โดยกาก้ากล่าวว่า "ฉันออกแบบสายรัดข้อมือภาวนาเพื่อญี่ปุ่นนี้มา เพื่อนำรายได้ทั้งหมดมอบให้ผู้ประสบภัยสึนามิ ลุยเลย Monster" กาก้าบอกผ่านแฟนเพลงชาว Little Monster ของเธอทุกคน และเมื่อครั้งเธอไปญี่ปุ่นเธอก็สวมกำไลนี่ไปด้วย
การเกิดสึนามิครั้งนี้ได้พบร่างผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1000 ศพ และยังมีที่สูญหายอีกนับหมื่นรายในเมืองเซ็นได ซึ่งการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้นับเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดติดหนึ่งในห้าอันดับแรกของโลกนับตั้งแต่ปี 1900 เป็นต้นมา ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยังระบุว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้มีความรุนแรงมากกว่าที่เกิดขึ้นในเมือง[[ไครซ์เชิร์ช]] [[นิวซีแลนด์]] เมื่อเดือนที่แล้วถึง 8,000 เท่าเลยทีเดียว โดยรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช่จ่ายกาก้านำไปบริจาคให้ชาวญี่ปุ่นรวมทั้งเงินส่วนหนึ่งจากเธอด้วย
: แต่ก็ประสบปัญหาเนื่องจากมีผู้ยื่นฟ้องศาลกล่าวหาว่าเธอยักยอกเงินบริจาคและขายริสแบนด์เกินราคาจริง อย่างไรก็ตามกาก้าเธอได้นำเงินบริจาคทั้งหมดให้ชาวญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยความจริงเรื่องที่ยักยอกเป็นเพียงขอกล่าวหาไม่มีมูลความจริงแต่ใด ๆ

=== มูลนิธิ Born This Way Foundation ===
Born This Way Foundation หรือ มูลนิธิบอร์นดิสเวย์ เป็นมูลนิธิที่กาก้าจัดตั้งขึ้นกับแม่ของเธอ ซินเธีย เจอร์มาน็อตตาร์ จุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ถูกรังแกในโรงเรียน หรือ บุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคล Born This Way Foundation มีสโลแกนว่า "Born To Be Brave" หรือ เกิดมามีความกล้าหาญ ตรงกับความหมายเพลง[[บอร์นดิสเวย์]] ที่สื่อความหมายให้ทุกคนมีความกล้า

== ผลงาน ==

=== สตูดิโออัลบั้ม ===
* 2008: ''[[เดอะเฟม]]'' (The Fame)
* 2009: ''[[เดอะเฟมมอนสเตอร์]]'' (The Fame Monster)
* 2011: ''[[บอร์นดิสเวย์]]'' (Born This way)
* 2013: "[[อาร์ทป็อป]]" (ARTPOP)
* 2014: "[[ชีคทูชีค]]" (Cheek To Cheek) ร่วมกับ [[โทนี เบนเนต]]
* 2016: "[[โจแอนน์]]" (Joanne)

=== ทัวร์คอนเสิร์ต ===
* 2009: [[เดอะเฟมบอลทัวร์]]
* 2009-11: [[เดอะมอนสเตอร์บอลทัวร์]]
* 2012-13: [[เดอะบอร์นดิสเวย์บอล]]
* 2014-15: [[ดิอาร์ทป็อปบอล]] ([http://en.wikipedia.org/wiki/ArtRave:_The_Artpop_Ball artRave])
* 2015: [[ชิคทูชิคทัวร์]] ร่วมกับ [[โทนี เบนเนต]]
* 2017: โจแอนน์เวิร์ลด์ทัวร์

=== ภาพยนตร์ ===
* 2012: ''[[เดอะเซ็นออฟเบนเนต]]'' (The Zen of Bennett)
* 2012: ''[[เคที เพร์รี: พาร์ตออฟมี]]'' (Katy Perry: Part of Me)
* 2013: ''[[คนระห่ำ ดุกระฉูด 2]]'' (Machete Kills)
* 2014: ''[[หุ่นมหาสนุก 2]]'' (Muppets Most Wanted)
* 2014: ''[[ซินซิตี้ ขบวนโหด นครโฉด]]'' (Sin City: A Dame to Kill For)
* 2015: ''[[เจเรมี สก็อตต์: เดอะพีเพิลส์ดีไซเนอร์]]'' (Jeremy Scott: The People's Designer)
* 2018: ''[[w:A Star Is Born|A Star Is Born]]

=== ละครโทรทัศน์ / รายการโทรทัศน์ ===
{| class="wikitable sortable"
|+
|-
! ปีที่เข้าฉาย
! ชื่อเรื่อง
! ตัวละครที่แสดง
! class = "unsortable" | อื่นๆ
|-
| 2001
| ''[[The Sopranos]]''
| เพื่อนร่วมชั้น
| Episode "The Telltale Moozadell" Uncredited
|-
| 2005
| ''[[Boiling Points]]''
| ตัวเธอเอง
| Uncredited
|-
| 2009
| ''[[แสบใสไฮโซ]]''
| ตัวเธอเอง
| Episode "The Last Days of Disco Stick" Cameo appearance
|-
| 2009
| ''[[แซตเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์]]''
| แขกรับเชิญ
| Episode "Ryan Reynolds/Lady Gaga"
|-
| 2010
| ''[[Double Exposure]]''
| ตัวเธอเอง
| Episode "No One Can Work Like This"
|-
| 2011
| ''[[Lady Gaga Presents the Monster Ball Tour: At Madison Square Garden]]''
| ตัวเธอเอง
| Television special
|-
| 2011
| ''[[อเมริกันไอดอล]]''
| ผู้ช่วย
| Season 10
|-
| 2011
| ''[[แซตเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์]]''
| แขกรับเชิญ
| Episode "Justin Timberlake/Lady Gaga"
|-
| 2011
| ''[[Inside the Outside]]''
| ตัวเธอเอง
| Documentary
|-
| 2011
| ''[[โซยูทิงก์ยูแคนดานซ์]]''
| ผู้พิพากษา
| Season 8, episode 3
|-
| 2011
| ''[[A Very Gaga Thanksgiving]]''
| ตัวเธอเอง
| Television special
|-
| 2011
| ''[[Dick Clark's New Year's Rockin' Eve]]''
| ตัวเธอเอง
| Television special
|-
| 2012
| ''[[เดอะซิมป์สันส์]]''
| ตัวเธอเอง
| Episode "Lisa Goes Gaga"
|-
| 2012
| ''[[Opening Act]]''
| ตัวเธอเอง
| Episode "Von & Lady Gaga"
|-
| 2013
| ''[[Who the F–k is Arthur Fogel?]]''
| ตัวเธอเอง
| Documentary
|-
| 2013
| ''[[แซตเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์]]''
| เจ้าของบ้าน
| Episode "Lady Gaga"
|-
| 2013
| ''[[Lady Gaga and the Muppets' Holiday Spectacular]]''
| ตัวเธอเอง
| Television special
|-
| 2014
| ''[[Tony Bennett and Lady Gaga: Cheek to Cheek Live!]]''
| ตัวเธอเอง
| Television special
|-
| 2015 - 2016
| ''[[American Horror Story: Hotel]]''
| อลิซาเบธ
| Season 5 of American Horror Story
|-
| 2016
| ''Variety Studio: Actors on Actors''
| ตัวเธอเอง
| Season 4
|-
|2016
|[[American Horror Story: Roanoke]]
|สกาฮะ
|Season 6 of American Horror Story
|-
|2016
|[[แซเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์]]
|แขกรับเชิญ
|Episode: "[[Saturday Night Live (season 42)#ep812|Tom Hanks/Lady Gaga]]"
|-
|2016
|''The Late Late Show with James Corden''
|ตัวเธอเอง
|Carpool Karaoke
|-
|2016
|''[[Tony Bennett Celebrates 90: The Best Is Yet to Come]]''
|ตัวเธอเอง
|Television special
|-
|2017
|''[[RuPaul's Drag Race]]''
|แขกรับเชิญ
|Episode: "[[RuPaul's Drag Race (season 9)#Episodes|Oh My Gaga]]"
|}

== อ้างอิง ==
<div style="overflow:scroll;height:400px;">
{{รายการอ้างอิง}}
</div>

== ดูเพิ่ม ==
{{สถานีย่อย2|ดนตรี}}
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Lady GaGa}}
* [http://www.ladygaga.com/ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ]
* [http://ladygaga.bth.cc/ เว็บไซต์แฟนคลับชาวไทย]
* [http://www.facebook.com/welovegaga/ แฟนเพจกาก้าบนเฟซบุค]
* {{en}} [http://www.twitter.com/ladygaga Lady Gaga Official Twitter]
* {{en}} [http://www.lyrics.az/lady-gaga/ Lady Gaga Song Lyrics]
* {{en}} [http://www.youtube.com/user/ladygagaofficial Lady Gaga Official Youtube Channel]
* {{imdb|id=3078932}}
* {{instagram|ladygaga}}


กาก้าได้ทำภาพยนตร์สารคดี Gaga: Five Foot Two และได้ออกอากาศทาง[[เน็ตฟลิกซ์]] ในวันที่ 22 กันยายน ในสารคดีกาก้าได้เล่าเกี่ยวกับการทำอัลบั้ม Joanne, การฝึกซ้อมโชว์พักครึ่ง[[ซูเปอร์โบวล์]] และเบื้องหลังการถ่ายทำ American Horror Story: Roanoke
{{เลดี้ กาก้า}}
{{birth|1986}}{{alive}}


ในงาน[[อเมริกันมิวสิกอะวอร์ด]] 2017 กาก้าได้ชนะรางวัลศิลปินเพลงป๊อป/ร็อคหญิงยอดนิยม โดยเอาชนะ[[ริอานนา]]และ[[อเลสเซีย คารา]]ไปได้ และเธอก็ได้แสดงเพลง The Cure สดจากคอนเสิร์ต Joanne World Tour อีกด้วย
[[หมวดหมู่:เลดี้ กาก้า]]
[[หมวดหมู่:ชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาลี]]
[[หมวดหมู่:นักร้องอเมริกัน]]
[[หมวดหมู่:นักร้องเสียงคอนทราลโต]]
[[หมวดหมู่:นักแต่งเพลงชาวอเมริกัน]]
[[หมวดหมู่:ผู้ที่ได้รับรางวัลแกรมมี]]
[[หมวดหมู่:บุคคลจากแมนแฮตตัน]]
[[หมวดหมู่:บุคคลจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก]]
[[หมวดหมู่:บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ]]
[[หมวดหมู่:นักแสดงหญิงชาวอเมริกันในศตวรรษที่ 21]]
[[หมวดหมู่:นักร้องป็อปหญิงชาวอเมริกัน]]
[[หมวดหมู่:นักแสดงภาพยนตร์หญิงชาวอเมริกัน]]
[[หมวดหมู่:ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอชาวอเมริกัน]]
[[หมวดหมู่:นักการกุศลชาวอเมริกัน]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:45, 17 มกราคม 2561

2016-2017 : Joanne และการแสดงพักครึ่งซูเปอร์โบว์ลครั้งที่ 51

เลดี้กาก้าได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงในสาขา Best Performance in a Miniseries or Television Film จาก American Horror Story: Hotel ในงานประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 73 ถือเป็นการคว้ารางวัลถ้วยแรกของการเป็นนักแสดงของเธอเลยทีเดียว และเพลง Til It Happens to You ของเธอที่ร่วมกันแต่งกับไดแอน วาร์เรน จากภาพยนตร์สารคดี "The Hunting Ground" ก็ได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 88 ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์แห่งปี และก่อนหน้านี้ก็ได้เข้าชิง Best Song Written for Visual Media จากงานประกาศผลรางวัลแกรมมี่ ครั้งที่ 58 และได้รับรางวัล Satellite Awards ครั้งที่ 20 ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์แห่งปีอีกด้วย

เลดี้กาก้าหลังจากร้องเพลง National Anthem ในศึกซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่50

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2016 เลดี้กาก้า ได้รับเชิญให้ไปร้องเพลงชาติสหรัฐอเมริกา หรือ เดอะสตาร์สแปงเกิลด์แบนเนอร์ ในศึกการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 50 เพื่อเป็นการเปิดการแข่งขันนั่นเอง

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2016 เลดี้กาก้า ได้ไปร่วมงานประกาศผลรางวัลแกรมมี่ ครั้งที่ 58 และทำการแสดงย้อนรำลึกและอุทิศให้การจากไปของเดวิด โบอี และเธอก็ได้เข้าชิงรางวัล Best Song Written for Visual Media อีกด้วย

พฤษภาคม เลดี้กาก้าและเอลตัน จอห์น ร่วมกับ Macy's ออกไลน์ลิมิเต็ดอิดิชั่นที่มีชื่อว่า Love Bravery โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะนำเข้า มูลนิธิบอร์นดิสเวย์ กับ Elton John AIDS Foundation

เดือนสิงหาคม ทางวอร์เนอร์บราเธอร์ส ได้คอนเฟิร์มออกมาว่ากาก้าจะแสดงหนังรีเมคเรื่อง "A Star Is Born" โดยแบรดลีย์ คูเปอร์ จะเริ่มถ่ายทำในกลางปี 2017

เมื่อวันที่ 9 กันยายน เลดี้กาก้าได้ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่จากอัลบั้มชุดที่ 5 ที่มีชื่อว่า เพอร์เฟกต์อิลลูชัน (Perfect Illusion) โดยมีโปรดิวเซอร์หลักคือ มาร์ก รอนสัน เคลวิน ปาร์คเกอร์ และบลัดป๊อบ โดยเพลงนี้ได้ติดอันดับ 1 บน iTunes Chart เกือบ 70 ประเทศ รวมถึงอเมริกาและก็ไทยด้วย และได้เปิดตัวในอันดับที่ 15 ใน Billboard Hot 100 และอันดับ 1 ในประเทศฝรั่งเศส,โดยอัลบั้มใหม่ชื่อว่า โจแอนน์ (Joanne) วางขายในวันที่ 21 ตุลาคม 2016 และเปิดตัวขึ้นอันดับ 1 ใน Billboard 200 ทำให้เป็นอัลบั้มที่ 4 ของเธอที่ขึ้นอันดับ 1 ได้ , กาก้าได้แสดงซีรีส์ American Horror Story อีกครั้ง ในซีซั่นที่ 6 โดยเธอเล่นบทเป็น Scathach

กาก้าแสดงเพลง บอร์นดิสเวย์ ในการแสดงพักครึ่งซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 51

ซิงเกิ้ลที่ 2 จากอัลบั้มโจแอนน์คือ มิลเลี่ยนรีซันส์ (Million Reasons) เธอได้ขึ้นแสดงเพลงนี้ที่ วิกตอเรียส์ซีเคร็ตแฟชั่นโชว์ 2017 กับเพลง เอ-โย่ (A-Yo) และ จอห์น เวย์น (John Wayne) และที่อเมริกันมิวสิกอะวอร์ด 2016

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2017 กาก้าได้ขึ้นโชว์การแสดงพักครึ่งศึกในศึกอเมริกันซูเปอร์โบว์ลครั้งที่ 51 ที่สนาม NRG Stadium และได้เรตติ้งไปทั้งหมด 117.5 ล้านในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเรตติ้งที่สูงที่สุดอันดับที่ 2 แต่เมื่อรวมเรตติ้งผู้ชมทุกช่องทางการรับชมแล้ว การแสดงของเธอคว้าเรตติ้งไปทั้งหมด 172 ล้าน สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การแสดงพักครึ่ง และประวัติศาสตร์การแสดงทางดนตรีสูงที่สุดในสหรัฐ และจากนั้นเธอก็ได้ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตใหม่ทันที คือคอนเสิร์ต Joanne World Tour 2017 ทำให้เพลง มิลเลี่ยนรีซันส์กระโดดขึ้นอันดับที่ 4 ใน Billboard Hot 100 ได้สำเร็จ, กาก้าได้ปล่อยมิวสิควิดิโอตัวใหม่ในเพลง จอห์น เวย์น (John Wayne)

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เลดี้กาก้าได้ขึ้นแสดงเพลง Moth Into Flame คู่กับวงร็อคเมทัลลิกา ในงานประกาศผลรางวัลแกรมมี ครั้งที่ 59

เมื่อ 16 เมษายน เลดี้กาก้าได้ขึ้นแสดงโชว์ที่งาน Coachella Valley Music and Arts Festival 2017 ซึ่งกาก้านั้นได้ขึ้นแสดงแทนบียอนเซ่ เนื่องจากบียอนเซ่นั่นได้ตั้งครรภ์ลูกแฝดนั่นเอง ในงานก็มีผู้ชมมากมาย รวมทั้งศิลปินดังๆคนอื่น เช่น เคที เพร์รี รีแอนนา ลานา เดล เรย์ เป็นต้น ในขณะที่กาก้าแสดงนั้น เธอก็ได้ร้องเพลงใหม่ของเธอที่มี่ชื่อว่า The Cure แต่งโดย DJ White Shadow และโปรดิวซ์โดย Nick Monson เมื่อวางจำหน่ายบน iTunes เพลงนี้ก็สามารถทยานขึ้นอันดับ 1 ใน Itunes Chart ได้ถึง 62 ประเทศ และอันดับ 1 บน Itunes Worldwide และทยานขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตประเทศฟินแลนด์และอันดับ 3 ในประเทศนิวซีแลนด์

เลดี้กาก้าขณะแสดงเพลง A-Yo ในคอนเสิร์ต Joanne World Tour

กลางเดือนเมษายน เลดี้ กาก้า ได้เริ่มเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง A Star Is Born ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย รีเมคมาจากเวอร์ชันปี 1937 เธอใช้ชื่อในการแสดงว่า สเตฟานี่ เจอร์มาน็อตตา ซึ่งเป็นชื่อจริงๆของกาก้าเอง โดยเธอรับบทเป็น แอลลี่ นางเอกของเรื่อง ซึ่งแสดงคู่กับแบรดลีย์ คูเปอร์ ซึ่งเป็นผู้กำกับด้วย

สิงหาคม กาก้าได้เริ่มทัวร์คอนเสิร์ต "Joanne World Tour" ในทวีปอเมริกาเหนือ ทั้งประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา ซึ่งทุกรอบการแสดงของเธอในปี 2017 นั้นสามารถขายบัตรได้หมดเกลี้ยงทุกรอบ ทำให้ Joanne World Tour ติดอันดับที่ 2 ทัวร์ของศิลปินหญิงที่ทำรายได้มากที่สุด รองจาก Celine Dion Live 2017, ระหว่างทัวร์ในเดือนกันยายน กาก้าได้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังที่ร่างการหรือ ไฟโบรไมอัลเจีย ทำให้เธอต้องยกเลิกทัวร์ที่เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล

กาก้าได้ทำภาพยนตร์สารคดี Gaga: Five Foot Two และได้ออกอากาศทางเน็ตฟลิกซ์ ในวันที่ 22 กันยายน ในสารคดีกาก้าได้เล่าเกี่ยวกับการทำอัลบั้ม Joanne, การฝึกซ้อมโชว์พักครึ่งซูเปอร์โบวล์ และเบื้องหลังการถ่ายทำ American Horror Story: Roanoke

ในงานอเมริกันมิวสิกอะวอร์ด 2017 กาก้าได้ชนะรางวัลศิลปินเพลงป๊อป/ร็อคหญิงยอดนิยม โดยเอาชนะริอานนาและอเลสเซีย คาราไปได้ และเธอก็ได้แสดงเพลง The Cure สดจากคอนเสิร์ต Joanne World Tour อีกด้วย