ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขที่ 7063250 สร้างโดย 49.49.244.230 (พูดคุย)
Bnbnbnbnbnbnbnbn (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขผิดปกติในบทความคัดสรร/คุณภาพ การแก้ไขแบบเห็นภาพ
บรรทัด 21: บรรทัด 21:
| signature = Singnature of Ananda Mahidol.png
| signature = Singnature of Ananda Mahidol.png
}}
}}
'''พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร''' ([[20 กันยายน]] [[พ.ศ. 2468]] – [[9 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2489]]) เป็นพระโอรสใน[[สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์]] (ภายหลังดำรงพระอิสริยยศเป็น[[สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก]]) และหม่อมสังวาลย์ (ภายหลังดำรงพระยศเป็น[[สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี]]) มีพระเชษฐภคินีและพระอนุชาร่วมพระชนกชนนีอีก 2 พระองค์ ได้แก่ [[สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์]] และ[[สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช]] (ภายหลังทรงขึ้นครองราชสมบัติเป็น[[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]])


55555
พระองค์เสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 8 แห่ง[[ราชวงศ์จักรี]] เมื่อวันที่ [[2 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2477]] ขณะที่มีพระชนมายุเพียง 8 พรรษาและประทับอยู่ที่[[ประเทศสวิตเซอร์แลนด์]] ดังนั้น จึงมีการแต่งตั้ง[[ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (ประเทศไทย)#ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในรัชกาลที่ 8|คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์]]เพื่อทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินจนกว่าพระองค์จะทรงบรรลุนิติภาวะ

พระองค์เสด็จนิวัติพระนครครั้งแรกภายหลังทรงราชย์เมื่อวันที่ [[15 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2481]] และครั้งที่สองเมื่อวันที่ [[5 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2488]] ก่อนกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินกลับไปทรงศึกษาต่อที่[[ประเทศสวิตเซอร์แลนด์]]เพียง 4 วัน พระองค์เสด็จสวรรคตด้วยทรงต้องพระแสง[[ปืน]]เมื่อวันที่ [[9 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2489]] ณ ห้องพระบรรทม [[พระที่นั่งบรมพิมาน]] ภายใน[[พระบรมมหาราชวัง]] รวมระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติทั้งสิ้น 12 ปี

== พระราชประวัติ ==
[[ไฟล์:Mahidols-1938.jpg|250px|thumb|left| (ด้านหน้า จากขวามาซ้าย) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช; [[สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี]] และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ทรงฉายระหว่างการเสด็จนิวัติพระนครเมื่อปี พ.ศ. 2481 (ภาพฝีพระหัตถ์ของ[[สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร]])]]
{{พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี}}

=== ขณะทรงพระเยาว์ ===
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลเป็นพระโอรสใน[[สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก]] กับ [[สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี]] เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลู ตรงกับวันที่ [[20 กันยายน]] [[พ.ศ. 2468]] ณ เมือง[[ไฮเดลแบร์ก]] [[สาธารณรัฐไวมาร์]] (ปัจจุบันคือ[[ประเทศเยอรมนี]]) ขณะที่สมเด็จพระราชบิดาทรงศึกษาการแพทย์ที่[[ประเทศเยอรมัน]] โดยได้รับพระราชทานพระนามจาก[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ว่า '''หม่อมเจ้าอานันทมหิดล มหิดล''' หลังจากนั้น [[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ทรงสถาปนาขึ้นเป็น '''พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล''' <ref name="หนังสือ">วุฒิชัย มูลศิลป์ และคณะ, พระมหากษัตริย์แห่ง[[กรุงรัตนโกสินทร์]], อัลฟ่า มิเล็นเนียม, ISBN 974-91048-5-4 </ref><ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2470/A/253.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า], เล่ม 44, ตอน 0ก, 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2470, หน้า253</ref> พระมารดาออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำลองว่า ''นันท'' <ref name="เจ้านายเล็กๆ">สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา, ''เจ้านายเล็กๆ - ยุวกษัตริย์'', ซิลค์เวอร์ม บุคส์, พิมพ์ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2549, 450 หน้า, ISBN 974-7047-55-1
</ref> พระองค์ทรงมีสมเด็จพระเชษฐภคินี 1 พระองค์ ได้แก่ [[สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์]] และสมเด็จพระอนุชา 1 พระองค์ คือ [[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]]

เมื่อทรงพระเยาว์ได้ตามเสด็จสมเด็จพระราชบิดาและสมเด็จพระราชชนนีไปยังประเทศต่าง ๆ ได้แก่ [[ประเทศฝรั่งเศส]] [[ประเทศสวิตเซอร์แลนด์]] และ[[สหรัฐอเมริกา]] ซึ่งสมเด็จพระราชบิดาทรงเข้าศึกษาวิชา[[แพทยศาสตร์]] ณ [[มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด]] [[สหรัฐอเมริกา]] ในระหว่างปี พ.ศ. 2469 - 2471 แล้วจึงเสด็จกลับประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อพระชนมายุได้ 3 พรรษา ประทับ ณ [[วังสระปทุม]] ในระหว่างนั้นสมเด็จพระราชบิดาทรงพระประชวรและสิ้นพระชนม์ ดังนั้น พระองค์จึงอยู่ในความดูแลของสมเด็จพระราชชนนีเพียงพระองค์เดียว <ref name="มูลนิธิอานันทมหิดล"/>

พระองค์ทรงเริ่ม[[การศึกษา]]ชั้นต้นที่[[โรงเรียนมาแตร์เดอี]] และเข้าศึกษาต่อที่[[โรงเรียนเทพศิรินทร์]] หลังจาก[[การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475|เหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475]] นั้น [[สมเด็จพระราชชนนี]]ได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการที่จะทรงนำพระโอรสและพระธิดาไปประทับที่เมือง[[โลซาน]] [[ประเทศสวิตเซอร์แลนด์]] โดยพระองค์ได้เข้าศึกษาต่อที่[[โรงเรียนมีเรมองต์]] ต่อมาย้ายไปศึกษาที่[[โรงเรียนนูแวลเดอลา]] ซูวิสโรมองต์ และทรงศึกษาภาษาไทย ณ ที่ประทับ โดยมีพระอาจารย์ตามเสด็จไปจากกรุงเทพ<ref>อ. วิโรจน์ ไตรเพียร, 9 รัชกาลแห่งราชวงศ์จักรี, สำนักพิมพ์ คลังศึกษา,2543,หน้า 108-116</ref>

=== การขึ้นทรงราชย์ ===
[[ไฟล์:รัชกาลที่8.jpg|thumb|left|พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลเมื่อยังทรงพระเยาว์]]
วันที่ [[2 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2477]] พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสละราชสมบัติ และมิได้ทรงสมมติเจ้านายพระองค์ใดพระองค์หนึ่งเป็นรัชทายาท ดังนั้น คณะรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรจึงได้อัญเชิญเสด็จพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดลที่มีพระชันษาเพียง 9 ปี ซึ่งเป็นเจ้านายเชื้อพระบรมวงศ์พระองค์ที่ 1 ในลำดับพระราชสันตติวงศ์แห่งกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. 2467 ขึ้นทรงราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล สืบพระราชสันตติวงศ์ต่อไปตั้งแต่วันที่ [[2 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2477]]<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2477/A/1330.PDF ประกาศ สภาผู้แทนราษฎรรับทราบในการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสละราชสมบัติและลงมติเห็นชอบในการอัญเชิญ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล ขึ้นทรงราชย์], เล่ม 51, ตอน 0ก, 7 มีนาคม พ.ศ. 2477, หน้า 1330 </ref> และได้รับการเฉลิมพระนามเมื่อวันที่ [[25 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2477]] ว่า '''สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล'''<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2477/A/1407.PDF ประกาศ เรื่อง เฉลิมพระนามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว], เล่ม 51, ตอน 0ก, 25 มีนาคม พ.ศ. 2477, หน้า 1407 </ref><ref>คำว่า "พระบาท" นั้น ใช้นำหน้า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ที่ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว จาก [http://story.thaimail.com/5may/5_2.html วันฉัตรมงคล เว็บไซต์ Thaimail]</ref>

ในขณะนั้นพระองค์มีพระชนมายุ 8 พรรษา และยังคงประทับอยู่ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จึงต้องมี[[ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์#ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในรัชกาลที่ 8|ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์]]เพื่อบริหารราชการแผ่นดินแทนจนกว่าจะทรงบรรลุนิติภาวะ ได้แก่ [[พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าออศคาร์นุทิศ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์]] [[พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา]] และ [[เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)]] <ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2477/A/1332.PDF ประกาศพิเศษ เรื่อง ตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์], เล่ม 51, ตอน 0ก, 7 มีนาคม พ.ศ. 2477, หน้า 1332 </ref>

เมื่อวันที่ [[12 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2478]] พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์สิ้นพระชนม์ สภาผู้แทนราษฎรจึงได้แต่งตั้งให้นายพลเอก [[เจ้าพระยาพิชเยนทรโยธิน (อุ่ม อินทรโยธิน)]] เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2478/A/1260.PDF ประกาศ ตั้งซ่อมคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์และตั้งประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ใหม่], เล่ม 52, ตอน 0ก, 21 สิงหาคม พ.ศ. 2478, หน้า 1260</ref> และเมื่อเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ถึงแก่อสัญญกรรม จึงมีการแต่งตั้งให้[[ปรีดี พนมยงค์|นายปรีดี พนมยงค์]] เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แทน<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2484/A/1821.PDF ประกาศตั้งซ่อมคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ นายปรีดี พนมยงค์ (หลวงประดิษฐ์มนูธรรม)], เล่ม 58, ตอน 0ก, 16 ธันวาคม พ.ศ. 2484, หน้า 1821</ref> หลังจากนั้น เมื่อเจ้าพระยาพิชเยนทรโยธิน (อุ่ม อินทรโยธิน) ถึงแก่อสัญญกรรม รวมทั้ง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภาได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่ง นายปรีดี พนมยงค์ จึงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เพียงผู้เดียว <ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2487/A/045/730.PDF ประกาศประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่องตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ], เล่ม 61, ตอน 45ก, 1 สิงหาคม พ.ศ. 2487, หน้า 730</ref> จนกว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จกลับสู่พระนคร<ref name="เล่ม 62">ราชกิจจานุเบกษา,[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2488/A/052/559.PDF ประกาศประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์], เล่ม 62, ตอน 52ก, 20 กันยายน พ.ศ. 2488, หน้า 559 </ref>

=== การเสด็จนิวัติพระนคร ===
[[ไฟล์:Ananda Mahidol and Louis Mountbatten in 19 January 1946.jpg|thumb|250px|พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลกับ[[หลุยส์ เมานต์แบ็ตเทน]] เมื่อวันที่ [[19 มกราคม]] [[พ.ศ. 2489]]]]
รัฐบาลได้กราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จนิวัติ[[พระนคร]] เมื่อปลายปี [[พ.ศ. 2477]] เพื่อประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แต่เนื่องจากพระพลานามัยของพระองค์ไม่สมบูรณ์จึงได้เลื่อนกำหนดออกไปก่อน และได้กราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จฯ อีกครั้งในปี [[พ.ศ. 2478]] แต่ก็ทรงติดขัดเรื่องพระพลานามัยอีกเช่นกัน หลังจากนั้น รัฐบาลได้ส่งพลโท พระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร ([[ม.ร.ว.สิทธิ์ สุทัศน์]]) ไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชชนนีที่[[โลซาน]] [[ประเทศสวิตเซอร์แลนด์]] เพื่อทูลอัญเชิญสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จนิวัติพระนครอีกครั้งในปี [[พ.ศ. 2479]] อย่างไรก็ตาม ในระหว่างเตรียมการเสด็จนิวัติพระนครนั้น ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ คณะรัฐบาลใหม่จึงขอเลื่อนการรับเสด็จออกไปอย่างไม่มีกำหนด<ref name="ศิลปากร">ศิลปากร,กรม, พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล, กรุงเทพฯ, โรงพิมพ์ บริษัท ส.ศิลป์ (2521) จำกัด, 2529 ISBN 974-7925-81-8</ref>

หลังจากนั้น รัฐบาลได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จนิวัติพระนครอีกครั้ง ในครั้งนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พร้อมด้วย สมเด็จพระราชชนนี, สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ และสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินจากเมืองโลซานที่ประทับโดยทางรถไฟมายังเมืองมาเชลล์ เพื่อประทับเรือเมโอเนีย ในการเสด็จพระราชดำเนินกลับสู่ประเทศไทย และเมื่อวันที่ [[15 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2481]] เรือพระที่นั่งได้เทียบจอดทอดสมอที่[[เกาะสีชัง]] รัฐบาลได้จัด[[เรือหลวงศรีอยุธยา]]ออกไปรับเสด็จมายัง[[จังหวัดสมุทรปราการ]] ณ ที่นั้น สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ได้เสด็จไปคอยรับพระราชนัดดาและพระสุนิสาด้วย หลังจากนั้น จึงได้เสด็จโดยเรือหลวงศรีอยุธยาเข้าสู่[[กรุงเทพมหานคร]] และประทับที่[[พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน]] ซึ่งนับเป็นการเสด็จนิวัติประเทศไทยเป็นครั้งแรกหลังจากเสด็จขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ทรงใช้เวลาอยู่ใน[[ประเทศไทย]]เป็นระยะเวลาประมาณ 2 เดือน จึงได้เสด็จพระราชดำเนินกลับไปศึกษาต่อที่[[ประเทศสวิตเซอร์แลนด์]]<ref name="ศิลปากร"/>

เมื่อ[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]สงบลง พระองค์จึงเสด็จนิวัติพระนครอีกครั้ง พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช แต่สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา มิได้ตามเสด็จด้วย เมื่อวันที่ [[5 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2488]] ซึ่งการเสด็จนิวัติประเทศในครั้งนี้ ทางราชการได้จัด[[พระที่นั่งบรมพิมาน]] ภายใน[[พระบรมมหาราชวัง]]เป็นที่ประทับ และเนื่องจากพระองค์ทรงบรรลุนิติภาวะแล้ว จึงสามารถบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่ต้องมีผู้สำเร็จราชการแผ่นดินอีกต่อไป<ref name="เล่ม 62"/>

=== สวรรคต ===
{{บทความหลัก|การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล}}
[[ไฟล์:พระเมรุมาศ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล.gif|thumb|left|พระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล]]
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลทรงตั้งพระทัยจะทรงศึกษาปริญญาเอก สาขา[[นิติศาสตร์]] [[มหาวิทยาลัยโลซาน]] ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์จนเรียบร้อยแล้วจึงจะเสด็จนิวัติพระนครเป็นการถาวรและทรงเข้ารับการบรมราชาภิเษกในภายหลัง แต่พระองค์ได้เสด็จสวรรคตเสียก่อนด้วยพระแสงปืนในวันที่ [[9 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2489]] เวลาประมาณ 9 นาฬิกา ณ ห้องพระบรรทม [[พระที่นั่งบรมพิมาน]] ภายใน[[พระบรมมหาราชวัง]] ก่อนกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพียง 4 วัน ในชั้นต้นทางราชการได้มีการแถลงข่าวสาเหตุการสวรรคตว่าเป็นอุบัติเหตุจากพระแสงปืนลั่น<ref>ราชกิจจานุเบกษาฉบับพิเศษ, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2489/A/039/1.PDF ข่าวราชการ], เล่ม 63, ตอน 39, 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489, หน้า 1</ref> แต่การสอบสวนในภายหลังกลับพบสาเหตุว่าเป็นการลอบปลงพระชนม์<ref>ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ศาลยุติธรรม. (ม.ป.ป.). [http://elib.coj.go.th/Article/d1_7_5.pdf ''คำพิพากษาศาลฎีกาคดีสวรรคต.''] [ออนไลน์]. เข้าถึงเมื่อ: 11 กุมภาพันธ์ 2555.</ref>

หลังจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จสวรรคต ได้อัญเชิญพระบรมศพมาประดิษฐาน ณ [[พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท]] [[พระบรมมหาราชวัง]] และจัดให้มีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในระหว่างวันที่ [[28 มีนาคม|28]]-[[29 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2493]] ณ [[พระเมรุมาศ]] [[ท้องสนามหลวง]] วันรุ่งขึ้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินเก็บพระบรมอัฐิ และอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิประดิษฐานที่บุษบกเหนือพระแท่นแว่นฟ้าทองภายใน[[พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท]] มุขตะวันตก และจัดให้มีการพระราชกุศลพระบรมอัฐิขึ้น หลังจากนั้น ได้อัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมานชั้นบน [[พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท]]

วันที่ [[4 เมษายน]] [[พ.ศ. 2493]] สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินอัญเชิญพระผอบพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ไปยัง[[วัดสุทัศน์เทพวราราม]] และอัญเชิญพระบรมราชสริรางคารบรรจุลงในหีบ พร้อมทั้งเคลื่อนหีบพระบรมราชสรีรางคารเข้าสู่พระพุทธบัลลังก์ พระศรีศากยมุนี พระประธานในพระวิหารหลวง วัดสุทัศน์เทพวราราม<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2493/D/016/1261.PDF กำหนดการ ที่ 4/2493 ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลสยามินทราธิราช ณ พระเมรุมาศท้องสนามหลวง พ.ศ. 2493], เล่ม 67, ตอน 16ง, 21 มีนาคม พ.ศ. 2493, หน้า 1261</ref>

== การเฉลิมพระปรมาภิไธย ==
{| class="toc" style="float:right; border:2px solid #fefefe; font-size:95%;"
|-
| colspan = "2" style="text-align:center; background:#eef;"|'''นายกรัฐมนตรีไทยในรัชกาล (พ.ศ. 2477-2489) '''
|- style="background:#eef; text-align:center;"
|'''ปี'''
|'''นายกรัฐมนตรี''' (พรรค)
|-
|2476</small>
| style = "background:pink;"|[[พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน)]] ([[คณะราษฎร]]) [[ไฟล์:Phraya Pahol.jpg|right|40px]]
|-
|2481</small>
| style = "background:pink;"|[[แปลก พิบูลสงคราม]] ([[คณะราษฎร]]) [[ไฟล์:Ppiboon.jpg|right|40px]]
|-
|2487</small>
| style = "background:pink;"|[[ควง อภัยวงศ์]] ([[คณะราษฎร]]) [[ไฟล์:Khuang Aphaiwong.jpg|right|40px]]
|-
|2488 (ส.ค.)</small>
| style = "background:pink;"|[[ทวี บุณยเกตุ]] ([[คณะราษฎร]]) [[ไฟล์:Thavi Boonyaket.jpg|right|40px]]
|-
|2488 (ก.ย.)</small>
| style = "background:pink;"|[[หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช]] ([[อิสระ (นักการเมือง)|อิสระ]]) [[ไฟล์:Senipramoj Cropped.jpg|right|40px]]
|-
|2489 (ม.ค.)</small>
| style = "background:pink;"|[[ควง อภัยวงศ์]] ([[คณะราษฎร]]) [[ไฟล์:Khuang Aphaiwong.jpg|right|40px]]
|-
|2489 (มี.ค.)</small>
| style = "background:pink;"|[[ปรีดี พนมยงค์]] ([[คณะราษฎร]]) [[ไฟล์:Pridi Panomyong (Scholar).jpg|right|40px]]
|}
เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ไม่ได้ทรงประกอบการ[[พระราชพิธีบรมราชาภิเษก]]ตามโบราณราชประเพณี ดังนั้น เพื่อเป็นการเฉลิมพระบรมขัติยราชอิสสริยยศ รวมทั้งยังได้ถวาย[[เครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งประเทศไทย|เครื่องราชกกุธภัณฑ์]]บางองค์ เช่น [[นพปฎลเศวตฉัตร]] ซึ่งใช้ในการกางกั้นพระบรมศพและพระบรมอัฐิต่อไป ในวันที่ [[11 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2489]] คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จึงได้มีการประกาศเฉลิม[[พระปรมาภิไธย]]สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลขึ้นเป็น ''พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล อดุลยเดชวิมลรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามินทราธิราช พระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทย''<ref> ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2489/A/054/439.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ เฉลิมพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล], เล่ม 63, ตอน 54ก, 13 สิงหาคม พ.ศ. 2489, หน้า 439 </ref>

หลังจากนั้น เมื่อวันที่ [[8 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2539]] ในวโรกาส[[พระราชพิธีกาญจนาภิเษก พุทธศักราช 2539|พระราชพิธีฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี]] พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เฉลิมพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เป็นพระปรมาภิไธยอันวิเศษตามแบบแผนโบราณราชประเพณีว่า

''พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล อดุลยเดชวิมลรามาธิบดี จุฬาลงกรณราชปรียวรนัดดา มหิตลานเรศวรางกูร ไอศูรยสันตติวงศวิสุทธ์ วรุตมขัตติยศักตอรรคอุดม จักรีบรมราชวงศนิวิฐ ทศพิธราชธรรมอุกฤษฎนิบุณ อดุลยกฤษฎาภินิหารรังสฤษฎ์ สุสาธิตบูรพาธิการ ไพศาลเกียรติคุณอดุลยพิเศษ สรรพเทเวศรานุรักษ์ ธัญอรรคลักษณวิจิตรโสภาคยสรรพางค์ มหาชโนตมงคประณตบาทบงกชยุคล อเนกนิกรชนสโมสรสมมต ประสิทธิวรยศมโหดมบรมราชสมบัติ นพปฎลเศวตฉัตราดิฉัตร สรรพรัฐทศทิศวิชิตไชย สกลมไหศวริยมหาสวามินทร มเหศวรมหินทรมหารามาธิราชวโรดม บรมนาถชาติอาชาวไศรย พุทธาทิไตรรัตน สรณารักษ์วิศิษฎศักตอัครนเรศรามาธิบดี พระอัฐมรามาธิบดินทร สยามินทราธิราชบรมนาถบพิตร'' <ref> ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2539/B/011/1.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ เฉลิมพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล], เล่ม 113, ตอน 11ข, 8 มิถุนายน พ.ศ. 2539, หน้า 1 </ref>

นอกจากนี้ ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขานพระปรมาภิไธยอย่างมัธยมว่า ''พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล สกลไพศาล มหารัษฎธิบดี พระอัฐมรามาธิบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร'' และอย่างสังเขปว่า ''พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร''

== พระราชลัญจกรประจำพระองค์ ==
[[ไฟล์:Privy Seal of King Rama VIII (Ananda Mahidol).svg|thumb|left|180px|พระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 8]]
ในปี [[พ.ศ. 2481]] คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ให้[[สำนักพระราชวัง]]จัดสร้างพระราชลัญจกรประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลขึ้น ซึ่ง[[เจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี (หม่อมราชวงศ์ปุ้ม มาลากุล)]] สมุหพระราชวัง ได้ปรับปรุงพระราชลัญจกรรูป[[พระโพธิสัตว์]]สวนดุสิต ที่เคยใช้ในรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] มาใช้เป็นพระราชลัญจกรประจำพระองค์ โดยการสร้างพระราชลัญจกรนั้น ใช้แนวคิดจากพระบรมนามาภิไธยก่อนทรงราชย์ นั่นคือ "อานันทมหิดล" ซึ่งหมายถึง เป็นที่ยินดีแก่แผ่นดิน ดังนั้น จึงได้ใช้รูปพระโพธิสัตว์ ซึ่งมีหมายความเดียวกันว่า เป็นความยินดีและเป็นเดชยิ่งในพื้นพิภพ มาเป็นพระราชลัญจกรประจำพระองค์

พระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 8 นั้น เป็นตรางา ลักษณะกลมศูนย์กลางกว้าง 7 เซนติเมตร มีรูปพระโพธิสัตว์ประทับอยู่เหนือบัลลังก์ดอกบัว พระบาทขวาห้อยอยู่เหนือบัวบาน ซึ่งหมายถึง แผ่นดิน พระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัวตูม มีเรือนแก้วอยู่ด้านหลังแถบรัศมี ซึ่งมีข้อแตกต่างจากพระราชลัญจกรที่ใช้ในรัชกาลที่ 5 คือ มีการเพิ่มรูปฉัตรตั้งไว้ข้างแท่นที่ประทับของพระโพธิสัตว์ <ref>[http://se-ed.net/kingrama8/logo.html พระราชลัญจกร รัชกาลที่ 8] จากเว็บไซต์ Debsirin History Networks </ref>

== พระราชกรณียกิจ ==
[[ไฟล์:King Ananda Mahidol and Prince Bhumibol Adulyadej.jpg|thumb|right|200px|พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พร้อมด้วย[[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช|สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช]] เสด็จเยี่ยม[[ชาวไทยเชื้อสายจีน]]เป็นครั้งแรก ณ [[ถนนเยาวราช|สำเพ็ง]] [[จังหวัดพระนคร|พระนคร]] เมื่อ [[พ.ศ. 2489]]]]
=== การปกครอง ===
พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปในพระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันที่ [[9 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2489]] และเปิดประชุมสภาผู้แทนในวันที่ [[1 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2489]] นอกจากนี้ ยังเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรในจังหวัดต่าง ๆ และทรงเยี่ยม[[ชาวไทยเชื้อสายจีน]]เป็นครั้งแรก ณ [[สำเพ็ง]] [[พระนคร]] พร้อมด้วย [[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช|สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช]] เมื่อวันที่ [[3 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2489]] ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งกันระหว่างชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีนจนเกือบเกิดสงครามกลางเมือง เมื่อพระองค์ทรงทราบเรื่อง มีพระราชดำริว่า หากปล่อยความขุ่นข้องบาดหมางไว้เช่นนี้ จะเป็นผลร้ายตลอดไป จึงทรงตัดสินพระทัยเสด็จพระราชดำเนินสำเพ็ง ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง และพระองค์ทรงพระราชดำเนินด้วยพระบาทเป็นระยะประมาณ 3 กิโลเมตร การเสด็จพระราชดำเนินสำเพ็งในครั้งนี้จึงเป็นการประสานรอยร้าวที่เกิดขึ้นให้หมดไป

=== การศาสนา ===
ในการเสด็จนิวัติพระนครครั้งแรกนั้น พระองค์ได้ประกอบพิธีทรงปฏิญาณตนเป็น[[พุทธมามกะ]] ท่ามกลางมณฑลสงฆ์ในพระอุโบสถ[[วัดพระศรีรัตนศาสดาราม]]เมื่อวันที่ [[19 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2481]] นอกจากนี้ ยังเสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการพระพุทธรูปในพระอารามที่สำคัญ เช่น [[วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร]] [[วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร]] [[วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร]] [[วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร]] [[วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร]] และ[[วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร]] โดยเฉพาะที่[[วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร]]นั้น พระองค์เคยมีพระราชดำรัสกล่าวว่า "ที่นี่สงบเงียบน่าอยู่จริง" ดังนั้น เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต จึงได้นำพระบรมราชสรีรางคารของพระองค์มาประดิษฐาน ณ วัดแห่งนี้<ref name="ศิลปากร"/>

พระองค์ยังทรงตั้งพระราชหฤทัยว่าจะผนวชในพระพุทธศาสนา โดยได้มีพระราชหัตเลขาถึง[[สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์]] เมื่อวันที่ [[19 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2489]] ทรงขอสังฆราชานุเคราะห์ในการศึกษาตำราทางพระพุทธศาสนาเพื่อใช้ในการเตรียมพระองค์ในการที่จะอุปสมบท แต่ก็มิได้ผนวชตามที่ตั้งพระราชหฤทัยไว้<ref name="ศิลปากร"/> นอกจากนี้ยังได้พระราชทานพระราชทรัพย์บำรุงวัดวาอาราม กับพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์แก่ศาสนาอื่นตามสมควร<ref>ชาลี เอี่ยมกระสินธุ์,ในหลวงอานันท์กับคดีลอบปลงพระชนม์, สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น,2520</ref>

=== การศึกษา ===

[[ไฟล์:MDCUK81.JPG|260px|thumbnail|right|พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 8 ในคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]]
ในการเสด็จนิวัติพระนครในครั้งที่ 2 พระองค์ทรงได้ประกอบพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของประเทศ โดยเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรกิจการของ[[หอสมุดแห่งชาติ]] รวมทั้ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยม[[สถานศึกษา]]หลายแห่ง เช่น [[จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] [[โรงเรียนเทพศิรินทร์]] ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ทรงศึกษาขณะทรงพระเยาว์ นอกจากนี้ พระองค์ยังได้เสด็จพระราชดำเนิน[[พิธีพระราชทานปริญญาบัตร|พระราชทานปริญญาบัตร]]เป็นครั้งแรกของพระองค์ ณ หอประชุม[[จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] เมื่อวันที่ [[13 เมษายน]] [[พ.ศ. 2489]] <ref>[http://www.chula.ac.th/chula/th/about/king_Ananda_mahidol_th.html จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล]{{Dead link|date=April 2017}}</ref> และอีกครั้งที่ หอประชุมราชแพทยาลัย ศิริราชพยาบาล [[มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์]] เมื่อวันที่ [[23 เมษายน]] พ.ศ. 2489 โดยในการพระราชทานปริญญาบัตรครั้งนี้ มีพระราชปรารภให้มีการผลิต[[แพทย์]]เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอที่จะช่วยเหลือประชาชน โรงเรียนแพทย์แห่งที่ 2 จึงได้ถือกำเนิดขึ้นที่[[โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์]] ซึ่งในปัจจุบัน คือ [[คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]]<ref name="มูลนิธิอานันทมหิดล">|publisher=Kanchanapisek.or.th |date= |accessdate=2017-04-20}} {{cite web|url=http://kanchanapisek.or.th/kp11/intro/index.th.html |title=มูลนิธิอานันทมหิดล : ความเป็นมาและวัตถุประสงค์ |language={{th icon}}</ref>

หลังจากนั้น ในวันที่ [[5 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2489]] พระองค์ทรงหว่านข้าว ณ แปลงสาธิต ของ[[มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์]] ซึ่งถือเป็นพระราชกรณียกิจสุดท้าย ก่อนเสด็จสวรรคต<ref> [http://www.rakbankerd.com/01_jam/thaiinfor/country_info/index.html?topic_id=262&db_file= พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล]{{dead link|date=May 2017}} จาก เว็บไซต์รากฐานไทย ฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาประเทศ</ref>

== พระบรมราชานุสาวรีย์ ==
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลได้ทรงปฏิบัติพระราชกิจสำคัญน้อยใหญ่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงมีการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ขึ้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ เช่น
[[ไฟล์:Rama8watsuthat0609.jpg|thumb|right|200px|พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร]]
[[ไฟล์:Rama8debsirinschool.jpg|200px|thumbnail|right|พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ โรงเรียนเทพศิรินทร์]]

; พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
วัดสุทัศนเทพวรารามถือเป็น[[วัดประจำรัชกาล]]ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคารของพระองค์ ดังนั้น จึงมีการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ขึ้น ณ บริเวณลานประทักษิณ ชั้นล่างมุมทิศตะวันตกเฉียงเหนือ พระวิหารหลวง พระบรมรูปหล่อด้วยสำริด ขนาดเท่าพระองค์จริง ทรงฉลองพระองค์ชุดจอมทัพ ประทับยืน ประดิษฐานบนแท่นหินอ่อนยกพื้นสูง มีแผ่นทองเหลืองจารึกเกี่ยวกับกำหนดการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ เบื้องหลังเป็นแผ่นหินอ่อนวงโค้ง ประดิษฐาน[[พระปรมาภิไธย#พระปรมาภิไธยย่อ|พระปรมาภิไธยย่อ]] "อปร" ภายใต้[[พระมหาพิชัยมงกุฎ]]<ref>[http://www.watsuthat.thai2learn.com/rama8.php พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 8] จาก เว็บไซต์วัดสุทัศนเทพวราราม</ref>

; พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ โรงเรียนเทพศิรินทร์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระองค์ทรงเข้ารับการศึกษา ณ [[โรงเรียนเทพศิรินทร์]] เมื่อปี พ.ศ. 2475 เลขประจำพระองค์ 2329 หลังจากนั้นอีกเพียง 2 ปี พระองค์เจ้าอานันทมหิดลก็ได้เสด็จเถลิงถวัลย์ครองสิริราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์ องค์ที่ 8 แห่ง[[ราชวงศ์จักรี]] พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงมีความผูกพันกับ โรงเรียนเทพศิรินทร์มาโดยตลอด มีพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่ โรงเรียนเทพศิรินทร์ สมาคมนักเรียนเก่าฯ ตลอดจนมวลหมู่ลูกแม่รำเพยทุกคน ซึ่ง พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ โรงเรียนเทพศิรินทร์ มีขนาดเท่าพระองค์จริง ทรงฉลองพระองค์ชุดจอมทัพ ประทับยืน เช่นเดียวกับ พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ [[วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร]] ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ ด้วยพระองค์เอง

; พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย
[[โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย]]ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวนหนึ่งแสนบาท สร้างอาคารเรียน 2 ชั้น 1 หลัง หอประชุม 1 หลังพร้อมบ้านพักครูอีก 20 หลัง และในวันที่ 19 กรกฎาคม 2519 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช [[สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ]] และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทั้งสองพระองค์เสด็จมาเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 8

; พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ โรงพยาบาลอานันทมหิดล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการสร้างโรงพยาบาลใน[[จังหวัดลพบุรี]] และพระราชทานนามโรงพยาบาลแห่งนี้ว่า [[โรงพยาบาลอานันทมหิดล]]<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2480/D/159.PDF แจ้งความกระทรวงกลาโหม เรื่อง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินสร้างโรงพยาบาลที่จังหวัดลพบุรี], เล่ม 54, ตอน 0ง, 19 เมษายน พ.ศ. 2480, หน้า 149</ref> หลังจากการสร้างแล้วเสร็จ พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงพยาบาลแห่งนี้เมื่อวันที่ [[6 มกราคม]] [[พ.ศ. 2481]] ดังนั้น คณะกรรมการโรงพยาบาลจึงได้สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ประดิษฐาน ณ หน้าตึกอำนวยการของโรงพยาบาล

; พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลมีพระราชปรารภต่อรัฐบาลในสมัยนั้น เรื่องการผลิตแพทย์เพิ่มให้เพียงพอต่อประชาชน อันเป็นจุดกำเนิดโรงเรียนแพทย์แห่งที่ 2 ของประเทศ ซึ่งปัจจุบัน คือ [[คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ คณะกรรมการบริหารสมาคมศิษย์เก่าแพทย์จุฬาลงกรณ์ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ[[โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์]] สภากาชาดไทย จึงได้ติดต่อให้ [[ไข่มุก ชูโต|คุณไข่มุกด์ ชูโต]] เป็นผู้ออกแบบปั้นพระบรมราชานุสาวรีย์ โดย[[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์แท่นประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ เมื่อวันที่ [[9 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2528]] และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ เมื่อวันที่ [[30 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2529]] พระบรมรูปหล่อด้วยส่วนผสมของทองเหลืองและทองแดง มีขนาดหนึ่งเท่าครึ่งของพระองค์จริง ประทับนั่งเหนือพระเก้าอี้ ผินพระพักตร์ไปทางเบื้องขวาเล็กน้อย ประดิษฐาน ณ ลานหน้าอาคาร '''อานันทมหิดล''' ภายใน[[โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์]]<ref>[http://www.mdcualumni.com/th/kingRama8.php พระรูป ร.8]{{dead link|date=May 2017}} จากเว็บไซต์ สมาคมศิษย์เก่าแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์</ref>

; พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ สวนหลวงพระราม 8
[[สวนหลวงพระราม 8]] เป็น[[สวนสาธารณะ]]เนื้อที่ประมาณ 35 ไร่ ติด[[แม่น้ำเจ้าพระยา]] บริเวณเชิง[[สะพานพระราม 8]] [[เขตบางพลัด]] [[ฝั่งธนบุรี]] ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่า "สวนหลวงพระราม 8" ณ สวนแห่งนี้ มีพระบรมราชานุสาวรีย์ที่ทาง[[กรุงเทพมหานคร (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)|กรุงเทพมหานคร]] สร้างร่วมกับกรมศิลปากร ความสูงขนาด 3 เท่าของพระองค์จริง คือ ประมาณ 5.4 เมตร พระอิริยาบถทรงยืน ประดิษฐานบนแท่นที่ความสูงระดับเดียวกันกับราวสะพานพระราม 8 เพื่อเป็นสิริมงคลแก่สวนแห่งนี้ด้วย นอกจากนั้น บริเวณอาคารเฉลิมพระเกียรติข้างใต้พระบรมราชานุสาวรีย์ยังจัดให้มีห้องรวบรวมพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจขององค์รัชกาลที่ 8 เพื่อให้ประชาชนที่สนใจพระราชประวัติเข้าไปศึกษาค้นคว้าเรื่องราว<ref>[http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000146148 ทอดน่อง รับลม ชมวิวที่ "สวนหลวงพระราม 8"] จากเว็บไซต์ เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์</ref> พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ[[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี]] เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และสวนหลวงพระราม 8 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน [[พ.ศ. 2555]]<ref>[http://www.dailynews.co.th/politics/118420 เตรียมพร้อมสวนหลวงพระราม 8 รับเสด็จ"ในหลวง"]จากเว็บไซต์ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์</ref>

== พระบรมราชานุสรณ์ ==
; [[มูลนิธิอานันทมหิดล]]
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งกองทุนอานันทมหิดลขึ้นเมื่อปี [[พ.ศ. 2498]] เพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระองค์มีพระราชดำริที่จะพระราชทานทุนให้[[นักศึกษา]]ผู้มีความสามารถยอดเยี่ยม ไปศึกษาต่อให้ถึงระดับความรู้ชั้นสูงสุดยังประเทศที่พัฒนาแล้ว เพื่อนำความรู้ที่ได้มาพัฒนาประเทศชาติและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หลังจากนั้น ได้จัดตั้งขึ้นเป็น '''มูลนิธิอานันทมหิดล''' เมื่อวันที่ [[3 เมษายน]] [[พ.ศ. 2502]] เดิมทุนนี้จะพระราชทานให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาวิชาแพทยศาสตร์ แต่เมื่อความต้องการผู้เชี่ยวชาญในสาขาอื่น ๆ มีเพิ่มมากขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทุนในสาขาอื่น ๆ ปัจจุบัน การพระราชทานทุนนั้นสามารถแบ่งออกเป็นแผนกต่าง ๆ ได้ ดังนี้ แผนก[[แพทยศาสตร์]] แผนก[[วิทยาศาสตร์]] แผนก[[วิศวกรรมศาสตร์]] แผนก[[เกษตรศาสตร์]] แผนก[[ธรรมศาสตร์]] แผนก[[อักษรศาสตร์]] แผนก[[ทันตแพทยศาสตร์]] และแผนก[[สัตวแพทยศาสตร์]] <ref name="มูลนิธิอานันทมหิดล"/>

; มูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
[[ไฟล์:Statue of King Rama VIII in front of the Faculty of Medicine, Chulalongkorn University, Thailand.jpg|thumb|300px|อาคารอานันทมหิดล คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]]

สืบเนื่องจากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ณ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นประจำ จึงได้พระราชทานพระราชทรัพย์เพื่อเป็นทุนสำหรับบูรณปฏิสังขรณ์วัด และส่งเสริมการศึกษาของพระสงฆ์และสามเณรคณะกรรมการจึงได้จัดตั้งเป็น มูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ ขึ้นตั้งแต่วันที่ [[20 กันยายน]] [[พ.ศ. 2518]] ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล<ref name="ศิลปากร"/><ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2518/D/241/2997.PDF ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ให้อำนาจจัดตั้ง "มูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์" เป็นนิติบุคคล], เล่ม 92, ตอน 241ง, 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518, หน้า 2997 </ref>

; อาคาร "อปร" และอาคารอานันทมหิดล คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สืบเนื่องจากความไม่เพียงพอของแพทย์ รัฐบาลจึงมีนโยบายให้คณะแพทยศาสตร์ทุกแห่งผลิตแพทย์เพิ่ม [[คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]]จึงได้รับอนุมัติให้ก่อสร้างตึกใหม่ เพื่อรองรับจำนวนนิสิตแพทย์ที่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 90 คนต่อปี โดยได้รับอนุมัติงบประมาณแผ่นดินประจำปี 2536 และในวันที่ [[5 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2539]] จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ทำหนังสือขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเชิญอักษร[[พระปรมาภิไธย]] "อปร" มาเป็นชื่ออาคาร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ซึ่งได้พระราชทานกำเนิดคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักราชเลขาธิการได้มีหนังสือลงวันที่ [[19 เมษายน]] [[พ.ศ. 2539]] พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญอักษรพระปรมาภิไธย "อปร" เป็นชื่ออาคาร เมื่อดำเนินการก่อสร้างเสร็จสิ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้[[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี]]เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงประกอบพิธีเปิดอาคารเมื่อวันเสาร์ที่ [[20 กันยายน]] [[พ.ศ. 2546]] ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของรัชกาลที่ 8 อาคารดังกล่าวเป็นย่อมุม 8 มุม สูง 19 ชั้น บนยอดอาคารประดับอักษรพระปรมาภิไธย "อปร" ตั้งอยู่ริม[[ถนนราชดำริ]]<ref>[http://www.mdcu.net/opr.htm อาคาร "อปร" คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]</ref> นอกจากนี้ ภายในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ยังมีอาคารอานันทมหิดลอีกด้วย

; วันอานันทมหิดล
ตรงกับวันที่ 9 มิถุนายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเสด็จสวรรคต [[คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]]ได้ดำริจัดงานเป็นประจำทุกปี ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านซึ่งได้สร้างคุณูปการด่อวงการแพทย์และการศึกษา

ในวันอานันทมหิดล มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย พิธีถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรของนิสิตคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์, พิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ณ อาคารวชิรญาณวงศ์ [[โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์]], การจัดทำเข็มกลัดที่ระลึก, การจัดการแข่งขันตอบปัญหาวิชาการชีววิทยาและวิทยาศาสตร์การแพทย์ ชิงโล่พระราชทาน, การจัดงานเสวนาเนื่องสัปดาห์วันอานันทมหิดล และกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์อื่น ๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

== พระอิสริยยศและพระเกียรติยศ ==
{{ดูเพิ่มที่|รายชื่อพระอิสริยยศและพระเกียรติยศในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล}}

=== พระอิสริยยศ ===
{{กล่องข้อมูล พระยศ
| พระนาม = <small>พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล</small>
| ธงพระยศ = King's Standard of Thailand.svg
| ตราประจำพระองค์ = Privy Seal of King Rama VIII (Ananda Mahidol).svg
| การทูล = ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท
| การแทนตน = ข้าพระพุทธเจ้า
| การขานรับ = พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ
}}

* '''หม่อมเจ้าอานันทมหิดล มหิดล'''
* '''พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล''' (20 กันยายน พ.ศ. 2468 - 2 มีนาคม พ.ศ. 2477)
* '''สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล''' (2 มีนาคม พ.ศ. 2477 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2477)
* '''สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล''' (25 มีนาคม พ.ศ. 2477 - 11 สิงหาคม พ.ศ. 2489)
* '''พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล อดุลยเดชวิมลรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามินทราธิราช''' (11 สิงหาคม พ.ศ. 2489 - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2539)
* '''พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร''' ( 8 มิถุนายน พ.ศ. 2539 - เป็นต้นไป)

== เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ==
เครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้เป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานก่อนที่จะขึ้นครองราชย์สมบัติมีดังนี้
* [[ไฟล์:Order of the Royal House of Chakri (Thailand) ribbon.JPG|60px]] [[เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์]] (ม.จ.ก.)
* [[ไฟล์:Order of the Nine Gems.JPG|60px]] [[เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์]] (น.ร.)
* [[ไฟล์:Order of Chula Chom Klao - Special Class (Thailand) ribbon.png|60px]] [[เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า]] ชั้นที่ 1 [[ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ]] (ป.จ.ว.)
* [[ไฟล์:Order of the White Elephant - Special Class (Thailand) ribbon.png|60px]] [[เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก]] ชั้น[[มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก]] (ม.ป.ช.)
* [[ไฟล์:Order of the Crown of Thailand - Special Class (Thailand) ribbon.png|60px]] [[เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย]] ชั้น[[มหาวชิรมงกุฎ]] (ม.ว.ม.)
* [[ไฟล์:King Rama VII Royal Cypher Medal (Thailand) ribbon.png|60px|border]] [[เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 7]] ชั้นที่ 1 (ป.ป.ร.1)
* [[ไฟล์:King_Rama_IV_Royal_Cypher_Medal_(Thailand)_ribbon.png|60px|border]] [[เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 8]] ชั้นที่ 1 (อ.ป.ร.1)

== พงศาวลี ==
{{ahnentafel top|width=100%|พงศาวลีของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร}}
{{ahnentafel-compact5
| style = font-size: 90%; line-height: 110%;
| border = 1
| boxstyle = padding-top: 0; padding-bottom: 0;
| boxstyle_1 = background-color: #fcc;
| boxstyle_2 = background-color: #fb9;
| boxstyle_3 = background-color: #ffc;
| boxstyle_4 = background-color: #bfc;
| boxstyle_5 = background-color: #9fe;
| 1 = 1. '''พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร'''
| 2 = 2. [[สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก]]
| 3 = 3. [[สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี]]
| 4 = 4. [[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]
| 5 = 5. [[สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า]]
| 6 = 6. ชู ชูกระมล
| 7 = 7. คำ ชูกระมล
| 8 = 8. (=10) [[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]
| 9 = 9. [[สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี]]
| 10 = 10. (=8) [[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]
| 11 = 11. [[สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา]]
| 12 = 12. ชุ่ม ชูกระมล
| 13 = 13.
| 14 = 14.
| 15 = 15. ผา
| 16 = 16. (=20) [[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย]]
| 17 = 17. (=21) [[สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี]]
| 18 = 18. [[สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ พระองค์เจ้าศิริวงศ์ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์]]
| 19 = 19. [[หม่อมน้อย ศิริวงศ์ ณ อยุธยา]]
| 20 = 20. (=16) [[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย]]
| 21 = 21. (=17) [[สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี]]
| 22 = 22. [[หลวงอาสาสำแดง (แตง)|หลวงอาสาสำแดง (แตง สุจริตกุล)]]
| 23 = 23. [[ท้าวสุจริตธำรง (นาค)|ท้าวสุจริตธำรง (นาค สุจริตกุล)]]
| 24 =
| 25 =
| 26 =
| 27 =
| 28 =
| 29 =
| 30 =
| 31 =
}}</center>
{{ahnentafel bottom}}

== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง|2}}

== ดูเพิ่ม ==
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Rama VIII|พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร}}
{{วิกิคำคม}}
{{Wikisource|ประกาศนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๗ มีนาคม ๒๔๗๗|ประกาศนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 7 มีนาคม 2477 (พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล ทรงราชย์สืบราชสมบัติ)}}
{{วิกิซอร์ซ | 1 = คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๕๔๔/๒๔๙๗ | 2 = คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1544/2497}}
* [[รายพระนามพระมหากษัตริย์ไทย]]
* [[การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล]]
* [[ราชสกุลวงศ์ในราชวงศ์จักรี]]
* [[วันอานันทมหิดล]].

== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* [http://se-ed.net/kingrama8/ เฉลิมพระเกียรติยศพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ] จาก Debsirin History Networks
* [http://kanchanapisek.or.th/kp11/index.th.html มูลนิธิอานันทมหิดล]
* [http://www.anandamahidolfoundation.or.th/ ชมรมผู้รับพระราชทานทุนอานันทมหิดล]
{{เริ่มกล่อง}}
{{สืบตำแหน่ง
| สี1 = #FFCC00
| สี2 =
| สี3 = #FFCC00
| รูปภาพ = King's Standard of Thailand.svg
| ตำแหน่ง = [[พระมหากษัตริย์ไทย]]
| จำนวนตำแหน่ง =
| ก่อนหน้า = [[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]]
| จำนวนก่อนหน้า =
| ถัดไป = [[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]]
| จำนวนถัดไป =
| ช่วงเวลา = [[2 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2477]] - [[9 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2489]]
}}
{{จบกล่อง}}

{{พระมหากษัตริย์ไทย}}

{{เรียงลำดับ|อานันทมหิดล}}
{{อายุขัย|2468|2489}}
[[หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์ไทยในราชวงศ์จักรี]]
[[หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์ไทยในราชวงศ์จักรี]]
[[หมวดหมู่:ราชสกุลมหิดล]]
[[หมวดหมู่:ราชสกุลมหิดล]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:48, 17 มิถุนายน 2560

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร

หม่อมเจ้าอานันมหิดล มหิดล
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
พระมหากษัตริย์ไทย
ครองราชย์2 มีนาคม พ.ศ. 2477 - 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489
รัชสมัย12 ปี 99 วัน
รัชกาลก่อนหน้าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลถัดไปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ประสูติ20 กันยายน พ.ศ. 2468
ไฮเดลแบร์ก บาเดิน เยอรมนี
สวรรคต9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 (20 ปี)
พระที่นั่งบรมพิมาน พระบรมมหาราชวัง จังหวัดพระนคร ไทย
บรรจุพระอัฐิวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
วัดประจำรัชกาล
วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร (โดยอนุโลม)[1]
พระพุทธรูปประจำพระชนมวาร
พระพุทธรูปปางถวายเนตร
พระปรมาภิไธย
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
ราชวงศ์จักรี
พระบรมราชชนกสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
พระบรมราชชนนีสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ลายพระอภิไธย

55555

  1. ไม่มีวัดประจำรัชกาลตามประกาศพระบรมราชโองการ แต่ถือกันว่าวัดสุทัศนเทพวรารามเป็นวัดประจำรัชกาลโดยอนุโลม เพราะเป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคาร[ต้องการอ้างอิง]