ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มะม่วง"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
.............................................................................................................................................................................................................................................................................. |
|||
{{รอการตรวจสอบ}} |
|||
{{taxobox |
|||
| name = |
|||
| image = Mango kesar variety.JPG |
|||
| image_width = |
|||
| image_caption = มะม่วงสุกปอกเปลือกหั่นชิ้นพร้อมรับประทาน |
|||
| status = |
|||
| status_system = |
|||
| staus_ref = |
|||
| regnum = [[Plantae]] |
|||
| unranked_divisio = [[Angiosperms]] |
|||
| unranked_classis = [[Eudicots]] |
|||
| unranked_ordo = [[Rosids]] |
|||
| ordo = [[Sapindales]] |
|||
| familia = [[Anacardiaceae]] |
|||
| genus = ''[[Mangifera]]'' |
|||
| species = '''''M. indica''''' |
|||
| binomial = ''Mangifera indica'' |
|||
| binomial_authority = [[Carl Linnaeus|L.]] |
|||
| synonyms = [[Mangifera austroyunnanensis]] <small>Hu</small><ref>http://www.theplantlist.org/tpl1.1/record/kew-2362916</ref> |
|||
| synonyms_ref = |
|||
|}} |
|||
'''มะม่วง'''เป็นไม้ยืนต้นในสกุล ''[[Mangifera]]'' ซึ่งเป็น[[ไม้ผล]]เมืองร้อนในวงศ์ [[Anacardiaceae]] {{ชื่อวิทยาศาสตร์|Mangifera indica}} เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย เพราะการที่ภูมิภาคนั้นมีความหลากหลายทางพันธุกรรมและร่องรอยฟอสซิลที่หลากหลาย นับย้อนไปได้ถึง 25-30 ล้านปีก่อน<ref>[http://www.fao.org/inpho/content/compend/text/Ch20sec1.htm Chapter XX Mango]</ref> มะม่วงมีความแตกต่างประมาณ 49 สายพันธุ์กระจายอยู่ตามประเทศในเขตร้อนตั้งแต่[[อินเดีย]]ไปจนถึง[[ฟิลิปปินส์]] จากนั้นจึงแพร่หลายไปทั่วโลก เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ใบโต ยาว ปลายแหลม ขอบใบเรียบ ใบอ่อนสีแดง ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ดอกขนาดเล็ก สีขาว ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีเหลือง เมล็ดแบน เปลือกหุ้มเมล็ดแข็ง |
'''มะม่วง'''เป็นไม้ยืนต้นในสกุล ''[[Mangifera]]'' ซึ่งเป็น[[ไม้ผล]]เมืองร้อนในวงศ์ [[Anacardiaceae]] {{ชื่อวิทยาศาสตร์|Mangifera indica}} เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย เพราะการที่ภูมิภาคนั้นมีความหลากหลายทางพันธุกรรมและร่องรอยฟอสซิลที่หลากหลาย นับย้อนไปได้ถึง 25-30 ล้านปีก่อน<ref>[http://www.fao.org/inpho/content/compend/text/Ch20sec1.htm Chapter XX Mango]</ref> มะม่วงมีความแตกต่างประมาณ 49 สายพันธุ์กระจายอยู่ตามประเทศในเขตร้อนตั้งแต่[[อินเดีย]]ไปจนถึง[[ฟิลิปปินส์]] จากนั้นจึงแพร่หลายไปทั่วโลก เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ใบโต ยาว ปลายแหลม ขอบใบเรียบ ใบอ่อนสีแดง ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ดอกขนาดเล็ก สีขาว ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีเหลือง เมล็ดแบน เปลือกหุ้มเมล็ดแข็ง |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:50, 24 พฤษภาคม 2560
..............................................................................................................................................................................................................................................................................
มะม่วงเป็นไม้ยืนต้นในสกุล Mangifera ซึ่งเป็นไม้ผลเมืองร้อนในวงศ์ Anacardiaceae ชื่อวิทยาศาสตร์: Mangifera indica เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย เพราะการที่ภูมิภาคนั้นมีความหลากหลายทางพันธุกรรมและร่องรอยฟอสซิลที่หลากหลาย นับย้อนไปได้ถึง 25-30 ล้านปีก่อน[1] มะม่วงมีความแตกต่างประมาณ 49 สายพันธุ์กระจายอยู่ตามประเทศในเขตร้อนตั้งแต่อินเดียไปจนถึงฟิลิปปินส์ จากนั้นจึงแพร่หลายไปทั่วโลก เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ใบโต ยาว ปลายแหลม ขอบใบเรียบ ใบอ่อนสีแดง ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ดอกขนาดเล็ก สีขาว ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีเหลือง เมล็ดแบน เปลือกหุ้มเมล็ดแข็ง
มะม่วงเป็นผลไม้เศรษฐกิจ ปลูกเป็นพืชสวน ประเทศไทยส่งออกมะม่วงเป็นอันดับ 3 รองจากฟิลิปปินส์ และเม็กซิโก [2]เป็นผลไม้ประจำชาติของอินเดีย[3] ปากีสถาน และฟิลิปปินส์ รวมทั้งบังกลาเทศ[4]
สายพันธุ์
มะม่วงมีพันธุ์มากมายดังที่ปรากฏในหนังสือพรรณพฤกษาของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ที่กล่าวถึงมะม่วงในสมัยรัชกาลที่ 5 ไว้กว่า 50 พันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เช่น เขียวเสวย แรด น้ำดอกไม้ โชคอนันต์ อกร่อง ตัวอย่าง เช่น
- เขียวเสวย เป็นพันธุ์พื้นเมืองของนครปฐม ผลยาว ด้านหลังผลโค้งนูนออก ปลายแหลม ผิวเรียบ สีเขียวเข้ม เปลือกหนา เหนียว ผลแก่รสมัน
- น้ำดอกไม้ เป็นพันธุ์ที่กินผลสุก รูปร่างยาวเรียว ผลดิบเนื้อขาว รสเปรี้ยวจัด ผลสุกสีเหลืองนวล รสหวาน
- อกร่องทอง เป็นพันธุ์เก่าแก่ นิยมรับประทานกับข้าวเหนียวมูน ผลค่อนข้างเล็ก มีร่องเป็นแนวยาวที่ด้านท้อง ผลสุก เนื้อละเอียด มีเสี้ยนน้อย
- ฟ้าลั่น ผลกลม ท้ายแหลม ลูกขนาดกลาง นิยมรับประทานผลแก่ มีรสมัน เมื่อปอกเปลือก เนื้อมะม่วงจะปริแตก
- หนังกลางวัน ผลยาวคล้ายงาช้าง แก่จัดรสมันอมเปรี้ยว สุกรสหวาน
- แก้ว นิยมกินดิบ ผลอ้วนป้อม เปลือกเหนียว เมื่อเกือบสุกเปลือกจะมีสีอมส้มหรืออมแดง
- โชคอนันต์ รูปร่างยาว ปลายมน กลายพันธุ์มาจากมะม่วงป่า นิยมนำไปทำมะม่วงดอง
- มหาชนก เป็นลูกผสมของมะม่วงพันธุ์หนังกลางวันกับพันธุ์ซันเซ็ตจากอินเดีย ผลยาวรี สุกสีเหลืองเข้ม มีริ้วสีแดง เนื้อไม่เละ กลิ่นหอม จะสุกในช่วงที่มะม่วงพันธุ์อื่นวายแล้ว
การใช้ประโยชน์
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (3.5 ออนซ์) | |
---|---|
พลังงาน | 250 กิโลจูล (60 กิโลแคลอรี) |
15 g | |
น้ำตาล | 13.7 g |
ใยอาหาร | 1.6 g |
0.38 g | |
0.82 g | |
วิตามิน | |
วิตามินเอ | (7%) 54 μg(6%) 640 μg |
ไทอามีน (บี1) | (3%) 0.03 มก. |
ไรโบเฟลวิน (บี2) | (3%) 0.04 มก. |
ไนอาซิน (บี3) | (4%) 0.67 มก. |
(4%) 0.2 มก. | |
วิตามินบี6 | (9%) 0.12 มก. |
โฟเลต (บี9) | (11%) 43 μg |
วิตามินซี | (43%) 36 มก. |
แร่ธาตุ | |
แคลเซียม | (1%) 11 มก. |
เหล็ก | (1%) 0.16 มก. |
แมกนีเซียม | (3%) 10 มก. |
ฟอสฟอรัส | (2%) 14 มก. |
โพแทสเซียม | (4%) 168 มก. |
สังกะสี | (1%) 0.09 มก. |
ประมาณร้อยละคร่าว ๆ โดยใช้การแนะนำของสหรัฐสำหรับผู้ใหญ่ แหล่งที่มา: USDA FoodData Central |
ผลมะม่วงนำมารับประทานได้ทั้งดิบและสุก มะม่วงดิบเปลือกสีเขียวเนื้อสีขาวส่วนใหญ่มีรสเปรี้ยว ยกเว้นบางพันธุ์ที่เรียกว่ามะม่วงมัน ส่วนผลสุกจะมีสีเหลืองทั้งเปลือกและเนื้อ รับประทานสด หรือ นำไปทำเป็นอาหารเช่น ข้าวเหนียวมะม่วง อีกทั้งมีการนำไปแปรรูป เช่น มะม่วงแก้ว มะม่วงดอง มะม่วงแช่อิ่ม มะม่วงเค็ม น้ำแยมมะม่วง พายมะม่วง เป็นต้น[5] แบ่งมะม่วงตามความนิยมในการรับประทานเป็น 3 ประเภทคือ
- นิยมรับประทานดิบได้แก่พันธุ์ที่มีรสหวานมันตอนแก่จัด เช่น เขียวเสวย แรด พิมเสนมัน ทองดำ เขียวไข่กา หรือมีรสมันตอนอ่อนไม่เปรี้ยว เช่น ฟ้าลั่น หนองแซง มะม่วงเหล่านี้เมื่อสุกแล้วจะหวานชืด ไม่อร่อย
- นิยมรับประทานสุก เมื่อดิบมีรสเปรี้ยว ต้องบ่มให้สุกก่อนรับประทานเช่น อกร่อง นวลจันทร์ น้ำดอกไม้ นำไปประกอบอาหาร เช่น ใส่ในน้ำพริก ยำ
- นิยมนำมาแปรรูป แก่จัดมีรสมันอมเปรี้ยว เมื่อสุกหวานอมเปรี้ยวหรือหวานชืด จึงนิยมนำมาแปรรูปเป็นมะม่วงดอง มะม่วงกวนและอื่นๆ เช่น มะม่วงแก้ว พิมเสนเปรี้ยว
นอกจากการนำมาเป็นอาหารแล้ว มะม่วงมีประโยชน์ด้านอื่นอีก ดังนี้
- เนื้อไม้นำมาทำเฟอร์นิเจอร์
- ใช้ยอดอ่อน ผลอ่อน มาประกอบอาหารแทนผัก
- ใช้เป็นยาสมุนไพร เช่น ผลมะม่วงดิบมีวิตามินซีสูง แก้เลือดออกตามไรฟัน เป็นต้น
- ชาวกะเหรี่ยงในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่นำเปลือกต้นมะม่วงไปย้อมผ้า ให้สีเขียว[6]
อ้างอิง
- ↑ Chapter XX Mango
- ↑ http://www.komchadluek.net/detail/20091126/38829/ซีพีสำเร็จผลิตมะม่วงนอกฤดูตั้งเป้าขยายตลาดส่งออกทั้งปี.html
- ↑ "National Fruit". Know India. Government of India. สืบค้นเมื่อ 2010-08-17.
- ↑ "Mango tree, national tree". BDnews24.com. สืบค้นเมื่อ 2010-11-16.
- ↑ สรรพคุณและประโยชน์ของมะม่วง 34 ข้อ ! greenerald
- ↑ ขวัญฤทัย คำฝาเชื้อ 2551 พฤกษศาสตร์พื้นบ้านของชาวกะเหรี่ยง ที่ตำบลบ้านจันทร์และแจ่มหลวง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ วิทยานิพนธ์ (วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่271 หน้า ดูฉบับเต็ม
- นิดดา หงส์วิวัฒน์ และทวีทอง หงส์วิวัฒน์. มะม่วง ใน ผลไม้ 111 ชนิด: คุณค่าอาหารและการกิน. กทม. แสงแดด. 2550 หน้า 173 - 177
แหล่งข้อมูลอื่น
- Crop of the Day: Mango, Mangifera indica has a list of helpful resources about this species.