ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไมก์ ชิโนดะ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
BeckNoDa (คุย | ส่วนร่วม)
เพิ่มข้อมูล เพิ่มอ้างอิง
บรรทัด 3: บรรทัด 3:
| color =
| color =
| ประเภท = นักร้อง
| ประเภท = นักร้อง
| ภาพ = Linkin Park-Rock im Park 2014- by 2eight 3SC0450.jpg <!-- ใช้ภาพปัจจุบัน ส่วนไฟล์ MikeShinodainBKK.JPG คือ ภาพที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2549 -->
| ภาพ =MikeShinodainBKK.JPG
| คำบรรยายภาพ = ไมค์ ชิโนะดะ ขณะแสดงคอนเสิร์ตกับลิงคินพาร์กที่งาน Rock im Park ปี 2557
| คำบรรยายภาพ =
| ขนาดภาพ =
| ขนาดภาพ =
| ภาพแนวนอน =
| ภาพแนวนอน =
| ชื่อจริง = ไมเคิล เคนจิ ชิโนะดะ
| ชื่อจริง = ไมเคิล เคนจิ ชิโนะดะ
| ชื่อเล่น =
| ชื่อเล่น =
| ฉายา =
| ฉายา =
| วันเกิด = {{Birth date and age|1977|2|11}}<ref name="allmusic">Biography, [http://www.allmusic.com/artist/mike-shinoda-p388572 allmusic.com]</ref>
| วันเกิด = {{วันเกิดและอายุ|2520|2|11}}<ref name="allmusic">Biography, [http://www.allmusic.com/artist/mike-shinoda-p388572 allmusic.com]</ref>
| วันที่เสียชีวิต =
| วันที่เสียชีวิต =
| แหล่งกำเนิด = เมืองอากูราฮิลส์ [[รัฐแคลิฟอร์เนีย]] [[สหรัฐอเมริกา]]
| แหล่งกำเนิด = {{ธง|สหรัฐอเมริกา}} อะกูราฮิลส์ [[รัฐแคลิฟอร์เนีย]] [[สหรัฐอเมริกา]]
| เครื่องดนตรี = [[เสียงร้อง]], [[กีต้าร์]], [[กีต้าร์เบส]], [[คีย์บอร์ด]], [[เปียโน]], [[แซมเพลอร์]], [[เทิร์นเทเบิ้ล]], [[ออร์แกน]], [[เธรามิน]], [[เครื่องสังเคราะห์เสียง]]
| เครื่องดนตรี = [[เสียงร้อง]], [[กีตาร์]], [[กีตาร์เบส]], [[คีย์บอร์ด]], [[เปียโน]], [[แซมเพลอร์]], [[เทิร์นเทเบิล]], [[ออร์แกน]], เทรามิน, [[เครื่องสังเคราะห์เสียง]]
| แนวเพลง = [[อัลเทอร์เนทีฟร็อก]], [[อัลเทอร์เนทีฟฮิปฮอป]], [[อัลเทอร์เนทีฟเมทัล]], [[นูเมทัล]] ,[[แร็ปร็อก]]
| แนวเพลง = [[อัลเทอร์เนทีฟร็อก]], [[อัลเทอร์เนทีฟฮิปฮอป]], [[อัลเทอร์เนทีฟเมทัล]], [[นูเมทัล]] ,[[แร็ปร็อก]]
| อาชีพ = แรปเปอร์, นักดนตรี, โปรดิวเซอร์เพลง, ศิลปิน, กราฟิกดีไซเนอร์
| อาชีพ = [[แรปเปอร์]], [[นักดนตรี]], [[โปรดิวเซอร์เพลง]], [[ศิลปิน]], [[กราฟิกดีไซน์|กราฟิกดีไซเนอร์]]
| ช่วงปี = 1996–ปัจจุบัน (ลินคิน พาร์ก) </br>2004–ปัจจุบัน (ฟอร์ต ไมเนอร์)
| ช่วงปี = [[พ.ศ. 2539]] – ปัจจุบัน <br>(ลินคินพาร์ก) </br>[[พ.ศ. 2547]] – ปัจจุบัน <br>(ฟอร์ตไมเนอร์)
| ค่าย = Machine Shop Recordings </br>Warner Bros. Records
| ค่าย = Machine Shop Recordings </br>Warner Bros. Records
| ส่วนเกี่ยวข้อง = ลินคิน พาร์ก, ฟอร์ต ไมเนอร์
| ส่วนเกี่ยวข้อง = [[ลิงคินพาร์ก]], [[ฟอร์ตไมเนอร์]], [[โกสต์เฟซ คิลลาห์]]
| เว็บ = [http://www.mikeshinoda.com/ Mikeshinoda.com]
| เว็บ = [http://www.mikeshinoda.com/ mikeshinoda.com]
| สมาชิก =
| สมาชิก =
| อดีตสมาชิก =
| อดีตสมาชิก =
| กลุ่มแฟนคลับ =
| กลุ่มแฟนคลับ =
| spouse = แอนนา ฮิลลินเจอร์ </br>([[พ.ศ. 2546]]–ปัจจุบัน)
}}
}}


'''ไมเคิล เคนจิ ชิโนะดะ''' ({{Lang-en|Michael Kenji Shinoda}}) เกิดเมื่อวันที่ [[11 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1977]] เป็นนักดนตรีชาว[[อเมริกัน]]-[[ญี่ปุ่น]] จากเมืองอากูราฮิลส์, [[รัฐแคลิฟอร์เนีย]] นับว่าเป็นหนึ่งใน 2 คนของวง ลิงคิน พาร์ค ที่มีเชื้อสายเอเชีย (อีกคนหนึ่งชื่อ [[โจ ฮาห์น]]) เขามีชื่อเสียงในฐานะ[[แร็ปเปอร์]]ในเพลงฮิตต่างๆ เช่น In The End ,Somewhere I Belong ,Faint เป็นมือคีย์บอร์ด/เปียโน , นักร้องเสียงประสาน และมือกีตาร์ริทึ่มให้กับวง[[ลินคิน พาร์ค]] นอกจากนี้ยังเป็นโปรดิวเซอร์เพลง ต่างๆ ของลิงคินพาร์ค อีกด้วย เช่น New Divide และอื่นๆ อีกมากและเขายังมีโปรเจกต์อื่นอย่างออกผลงานแนวฮิปฮอปในนาม [[ฟอร์ต ไมเนอร์]]
'''ไมเคิล เคนจิ ชิโนะดะ''' ({{Lang-en|Michael Kenji Shinoda}}) เกิดเมื่อวันที่ [[11 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1977]]<ref name="allmusic">{{cite web | title = Mike Shinoda: Biography | url = {{Allmusic|class=artist|id=p388572|pure_url=yes}} | work = [[allmusic]] | first = Corey | last = Apar}}</ref> เป็น[[นักดนตรี]]ชาว[[อเมริกัน]]-[[ญี่ปุ่น]] จากเมืองอากูราฮิลส์ [[รัฐแคลิฟอร์เนีย]] นับว่าเป็นหนึ่งในสองคนของวง[[ลิงคินพาร์ก]]ที่มีเชื้อสายเอเชีย (อีกคนหนึ่งชื่อ [[โจ ฮาห์น]]) เขามีชื่อเสียงในฐานะ[[แร็ปเปอร์]] [[นักแต่งเพลง]]ในเพลงต่างๆ ของลิงคินพาร์ก เป็นมือ[[คีย์บอร์ด]]/[[เปียโน]] นักร้องเสียงประสาน มือจังหวะ[[กีตาร์]] และเป็น[[โปรดิวเซอร์เพลง]]ของลิงคินพาร์คอีกด้วย และเขายังมีโปรเจกต์อื่นอย่างออกผลงานแนวฮิปฮอปในนาม [[ฟอร์ตไมเนอร์]] นอกจากนี้เขายังมีผลงานศิลปะเป็นของตัวเองอีกด้วย เขาติดอันดับที่ 72 ในรายการของ "Top 100 Heavy Metal Vocalists" โดย ''Hit Parader'' เสียงของไมค์อยู่ในโทนเสียง[[แบริโทน]]

== ประวัติ ==
=== ชีวิตช่วงแรก ===
ไมค์ ชิโนะดะ เกิดและเติบโตในเมืองอะกูราฮิลส์ ชานเมือง[[ลอสแอนเจลิส]]<ref name="allmusic" /> พ่อของเขาเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน ทายาทของตระกูลบริษัท คุมะอิชิโระ ชิโนะดะ และแม่ของเขาเป็นคนผิวขาว<ref>{{cite web|url=http://linkinparks818th.blogspot.com/2008/05/mikes-not-russian.html |title=Linkin Park's 818th Battalion: Mike's Not Russian |publisher=Linkinparks818th.blogspot.com |date=July 24, 2011 |accessdate=December 7, 2011}}</ref><ref>{{cite book|title=How they made it: true stories of how music's biggest stars went from start to stardom|accessdate=September 27, 2010|url=http://books.google.com/books?id=wDyd16CHUu4C&pg=PA77 | first = Dan | last = Kimpel | publisher = Hal Leonard Corporation | year = 2006 | isbn = 978-0-634-07642-8}}</ref> เขามีน้องชายหนึ่งคนชื่อ เจสัน<ref>{{cite web | last = McKeon | first = Therese | url = http://www.shoutweb.com/interviews/linkinpark1000.phtml | title = Linkin Park: One Step Closer | work = Shout Web | publisher =ShoutWeb.com | accessdate =August 8, 2012 }}</ref>

ไมค์เป็นผู้ที่มีความสนใจเกี่ยวกับดนตรีในช่วงมัธยม โดยเขาได้เริ่มเล่นเครื่องดนตรีหลายชนิดโดยสนใจเรียนเปียโนคลาสสิกเมื่ออายุประมาณ 6 ปี เมื่ออายุได้ 13 ปี เขาได้หันมาสนใจมาเล่นดนตรีในแนว[[แจ๊ส]] [[บลูส์]] และแม้แต่[[ฮิปฮอป]]<ref>{{cite web | url = http://www.lptimes.com/article/RS_032603.html | title = The Mellower Half of Linkin Park | work = The Linkin Park Times | first = Austin | last = Scaggs | authorlink = Austin Scaggs | date = March 26, 2003}}</ref> เขาได้เรียนรู้การเล่น[[กีตาร์]]และร้องเพลงในแบบแร็ปในการแสดงต่างๆ

ไมค์ได้เข้าเรียนที่อะกูราไฮสคูลด้วยกันกับ [[แบรด เดลสัน]] และรอบ บัวร์ดอน ซึ่งเป็นสมาชิกวงลิงคินพาร์กในปัจจุบัน ทั้งสามคนได้ก่อตั้งวงดนตรีชื่อ ซีโร (Xero) และเริ่มทำงานอาชีพในวงการเพลงอย่างจริงจังมากขึ้น หลังจากจบการศึกษาในระดับไฮสคูล ไมค์ได้เข้าเรียนที่ Art Center College of Design เพื่อเรียนด้าน[[กราฟิกดีไซน์]]โดยเฉพาะ<ref name=allmusic /> และเขาก็ได้เรียนร่วมห้องกับ[[โจ ฮาห์น]] ซึ่งเป็น[[ดีเจ]] และเป็นนัก[[เทิร์นเทเบิล]]ในขณะนั้น

เมือได้จบการศึกษาวิทยาลัย ก็ได้ทำงานด้านกราฟิกดีไซเนอร์ควบคู่ไปกับการทำผลงานดนตรี<ref name="allmusic" /> และได้ใช้ความรู้ด้านกราฟิกดีไซเนอร์มาออกแบบโลโก้ และภาพต่างๆ ของวงคู่กับโจ ฮาห์น และได้ออกแบบหน้าปกอัลบั้ม ''2000 Fold'' ซึ่งเป็นอัลบั้มชุดแรกให้กับวงสไตลส์ออฟบียอนด์ (Styles of Beyond) ในปีต่อมาเขาได้แสดงทักษะและความสามารถทางด้านงานศิลปะครั้งแรกของเขาในงานแสดงผลงานศิลปะที่แกลลอรี่ 1988<ref>{{cite web|url=http://www.linkinpark.com/group/mikeshinodasartwork |title=Mike Shinoda's Art Work |publisher=LinkinPark.com |date= |accessdate=December 7, 2011}}</ref> ที่ลอสแอนเจลิส ก่อนที่จะทำอัลบั้มชุดที่สามของวง ''[[มินิตส์ทูมิดไนต์]]''

=== ลิงคินพาร์ก ===
[[ไฟล์:MikeShinodainBKK.JPG|thumb|ไมค์ ชิโนะดะ ในระหว่างการสัมภาษณ์ที่[[กรุงเทพมหานคร]]ในปี พ.ศ. 2549|200px]]
{{บทความหลัก|ลิงคินพาร์ก}}
เมื่อวงดนตรีของไมค์ ชิโนะดะได้คว้าตัวนักร้องนำคนใหม่ของวง [[เชสเตอร์ เบนนิงตัน]] แทนที่ มาร์ก เวกฟิลด์ (Mark Wakefield) ทำให้ไมค์ได้มีส่วนร่วมในการบันทึกผลงานเพลงของวงดนตรีอย่างใกล้ชิด และผลงานในด้านต่างๆ และได้ร่วมเป็นมือกีตาร์ด้วยกันกับ [[แบรด เดลสัน]] ซึ่งเป็นมือกีตาร์นำของวง ในอัลบั้ม ''[[ไฮบริดทีโอรี (อีพี)|ไฮบริดทีโอรี อีพี]]'' รวมทั้ง[[สตูดิโออัลบั้ม]]ชุดแรกของวง ''[[ไฮบริดทีโอรี]]''<ref>{{cite web|url=http://mikeshinoda.com/2011/04/06/for-superfans-only/ |title=For Superfans Only « Mike Shinoda's Blog |publisher=Mikeshinoda.com |date= |accessdate=2014-08-09}}</ref> ไมค์ได้มีส่วนร่วมในการแต่งเพลงในหลายๆ เพลงของลิงคินพาร์กมาตั้งแต่ก่อตั้งวง เขาได้เป็น[[โปรดิวเซอร์เพลง|โปรดิวเซอร์]]ให้กับอัลบั้ม''[[รีแอนิเมชัน]]'' ที่ออกจำหน่ายเมื่อปี [[พ.ศ. 2545]] ซึ่งเป็นอัลบั้มรีมิกซ์ชุดแรกของวง เขาได้มีส่วนร่วมในการทำผลงานเพลงของ The X-Ecutioners ในชื่อว่า "It's Goin' Down"

ในช่วงสตูดิโออัลบั้มชุดที่สองของวง ''[[เมทีโอรา]]'' ในปี [[พ.ศ. 2546]] ไมค์ยังคงทำหน้าที่ของเขาในฐานะนักดนตรีและเจ้าหน้าที่โปรดิวเซอร์ต่างๆ นอกจากนี้ งานภาพปกอัลบั้มนั้น เขาได้ร่วมมือกับศิลปินกราฟฟิตี DELTA (ศิลปะการพ่นสีขีดเขียนบนกำแพง), กราฟิกดีไซเนอร์ แฟรงก์ แมดดอกส์ (Frank Maddocks) และเพื่อนร่วมวงดนตรี [[โจ ฮาห์น]]

มีการออกจำหน่ายผลงานของ[[เจย์-ซี]]ร่วมกับ[[ลิงคินพาร์ก]] ในชื่อว่า ''[[คอลลิชันคอร์ส]]'' ซึ่งเป็นการนำเพลงของทั้งสองศิลปินมาผสมกัน โดยออกจำหน่ายในปี [[พ.ศ. 2547]] การมีส่วนร่วมในการสร้างอัลบั้มของไมค์ได้ดำเนินต่อเนื่องไปเรื่อยๆ และได้ชนะรางวัลแกรมมีในรายการ "แร็ป/ร้องยอดเยี่ยม" ในปี [[พ.ศ. 2549]]<ref>{{cite news | url = http://www.cbc.ca/arts/story/2006/02/08/grammy-awards-06.html | title = U2 dominates Grammy night | work = CBC News | date = February 9, 2006}}</ref>

ลิงคินพาร์กได้ออกจำหน่ายอัลบั้มชุดที่สาม ''[[มินิตส์ทูมิดไนต์]]'' เมื่อวันที่ [[14 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2550]] ในอัลบั้มชุดนี้ ไมค์ได้ผลิตผลงานร่วมกับ ริก รูบิน ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ที่ได้เคยผลิตผลงานมามากมาย และมีการแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงแนวเพลงของวง อัลบั้มชุดนี้เป็นครั้งแรกของไมค์ ที่นอกจากการแร็ปและการร้องประสานเสียงของเขาแล้ว เขายังได้ร้องนำเพลงช้าครั้งแรก "In Between" และเพลงบีไซด์ "No Roads Left" เช่นเดียวกันกับการร้องแร็ปนำในเพลง "Bleed It Out" และเพลง "Hands Held High" ถึงแม้จะเป็นแทร็กที่หายากที่ไมค์ได้นำหน้าที่นักร้องนำ นิตยสารดนตรี ''Hit Parader'' ได้จัดอันดับให้ไมค์อยู่ในอันดับที่ 72 ของนักร้องเมทัล 100 อันดับแรก<ref>{{cite web|url=http://www.hearya.com/2006/12/04/hit-paraders-top-100-metal-vocalists-of-all-time/ |title=Hit Parader's Top 100 Metal Vocalists of All Time |work=HearYa |date=December 4, 2006}}</ref> ไมค์และริก รูบิน ได้ผลิตผลงานร่วมกันอีกครั้งในสตูดิโออัลบั้มชุดที่สี่ของลิงคินพาร์ก ''[[อะเทาซันด์ซันส์]]'' ซึ่งออกจำหน่ายเมื่อวันที่ [[14 กันยายน]] [[พ.ศ. 2553]] หลังจากนั้นก็ได้ออกจำหน่ายอัลบั้มชุดที่ห้า ''[[ลีฟวิงทิงส์]]'' เมื่อวันที่ [[26 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2555]] และออกอัลบั้มรีมิกซ์ชุดที่สองของวง ''[[รีชาจด์]]'' ซึ่งเป็นอัลบั้มที่นำเพลงมาจากอัลบั้ม''ลีฟวิงทิงส์''มารีมิกซ์ลงอยู่ในอัลบั้มนี้ ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ [[29 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2556]] และได้ออกจำหน่ายสตูดิโออัลบั้มชุดที่หก ''[[เดอะฮันติงปาร์ตี]]'' เมื่อวันที่ [[13 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2557]]

=== ฟอร์ตไมเนอร์ ===
{{บทความหลัก|ฟอร์ตไมเนอร์}}
ไมค์เริ่มงานไซด์โปรเจกต์ชื่อว่า [[ฟอร์ตไมเนอร์]] ในระหว่างปี [[พ.ศ. 2546]] และ [[พ.ศ. 2547]] เพราะเขาไม่ต้องการที่จะแสดงดนตรีที่เน้นหนักในแบบฮิปฮอปกับลิงคินพาร์กมากนัก<ref name="fixins">{{cite web | url = http://www.fixins.com/fortminor/ | title = fort minor interview | work = fixins | accessdate = June 24, 2007}}</ref>

อัลบั้มเปิดตัวของฟอร์ตไมเนอร์ มีชื่อว่า ''[[เดอะไรซิงไทด์]]'' (The Rising Tied) ออกจำหน่ายวันที่ [[22 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2548]] และรวมศิลปินรับเชิญจาก Styles of Beyond, Lupe Fiasco, Common, Black Thought จาก The Roots, [[John Legend]], Holly Brook, Jonah Matranga, Celph Titled, และมี [[Jay-Z]] เป็นผู้อำนวยการผลิต

=== ผลงานศิลปะ ===
[[ไฟล์:Mike with his paintings.jpg|thumb|ไมค์ ชิโนะดะกับภาพวาดของเขาในระหว่างงานแสดงนิทรรศการ|250px]]
ไมค์เป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่เรียนจบการศึกษาจาก Art Center College of Design แห่งพาซาดีน่าในปี [[พ.ศ. 2541]] ในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต เขามีส่วนร่วมในการสร้างผลงานด้านศิลปะของ[[ลิงคินพาร์ก]] ได้แก่ ภาพหน้าปกอัลบั้มต่างๆ สินค้าจากวง การออกแบบเว็บไซต์ของวง และงานศิลปะเพื่อออกโชว์บนเวที

== ชีวิตส่วนตัว ==
ไมค์เป็นลูกครึ่งชาวอเมริกัน-ญี่ปุ่นรุ่นที่สาม<ref>{{cite book |title=On Gratitude: Sheryl Crow, Jeff Bridges, Alicia Keys, Daryl Hall, Ray Bradbury, Anna Kendrick, B.B. King, Elmore Leonard, Deepak Chopra, and 42 More Celebrities Share What They're Most Thankful For |first=Todd Aaron |last=Jensen |publisher=F+W Media, Inc. |year=2010 |isbn= |page=224 |accessdate=October 26, 2012 |url=http://books.google.com/books?id=PkRKuy5gYrkC&pg=PT224&dq=Mike+Shinoda+third+generation+Japanese&hl=en&sa=X&ei=6mSLUNC6M7D02wXA0oHADw&ved=0CDgQ6AEwAg}}</ref><ref>{{cite web|author=Marcello|url=http://japancinema.net/2012/02/01/creative-spotlight-episode-93-mike-shinoda/|title=Creative Spotlight: Episode #93 – Mike Shinoda Interview|date=February 1, 2012|publisher=japancinema.net|accessdate=October 27, 2012}}</ref> พ่อและป้าของเขาถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในที่[[ค่ายกักกัน]]ชาวอเมริกัน-ญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง<ref name="roots">{{cite web | url = http://www.rafu.com/mike_shinoda.html | title = Getting Back to His Roots | work = The Rafu Shimpo | first = Cathy | last = Lim | date = April 28, 2006 }}</ref><ref>{{cite news |url=http://www.star-ecentral.com/news/story.asp?file=/2005/12/23/music/12897609&sec=music |archiveurl=http://web.archive.org/web/20080511053009/http://www.star-ecentral.com/news/story.asp?file=/2005/12/23/music/12897609&sec=music |archivedate=2008-05-11 |title=Outside the Park |date=December 23, 2005 |publisher=The Star (Malaysia)|accessdate=October 27, 2012}}</ref>

ในปี [[พ.ศ. 2552]] ไมค์ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขา Humane Letters (L.H.D) จาก Art Center College Of Design<ref name="spokenhimself">{{cite web|url=http://mikeshinoda.com/2011/04/06/for-superfans-only/#more-7378 |title=For Superfans Only « Mike Shinoda's Blog |publisher=Mikeshinoda.com |date= |accessdate=December 7, 2011}}</ref>

เขาได้แต่งงานกับนักเขียนชื่อ แอนนา ชิโนะดะ (ชื่อเกิด แอนนา ฮิลลินเจอร์) เมื่อปี [[พ.ศ. 2546]] ทั้งคู่มีลูกด้วยกันสามคน คนโตเป็นลูกชายชื่อ โอติส อะกิโอะ ชิโนะดะ (Otis Akio Shinoda) แอนนาได้เปิดตัวนวนิยายเรื่องแรกของเธอ ''Learning Not to Drown'' เมื่อวันที่ [[1 เมษายน]] [[พ.ศ. 2557]] ตามเว็บบล็อกของเธอและระหว่างการสัมภาษณ์กับไมค์<ref>{{cite web|url=http://www.linkinlady.net/p/kids.html |title=The Kids ~ Linkin Lady |publisher=Linkinlady.net |date= |accessdate=2014-08-09}}</ref>

== ผลงาน ==
;ผลงานของลิงคินพาร์ก
{{บทความหลัก|รายชื่อผลงานของลิงคินพาร์ก}}

;ผลงานของฟอร์ตไมเนอร์
{{บทความหลัก|ฟอร์ตไมเนอร์}}

;ผลงานด้านอื่นๆ
;
<!-- {{บทความหลัก|Mike Shinoda production discography}} -->

{| class="wikitable" style="text-align:center;"
|-
! ปี
! เพลง
! ศิลปิน
! อัลบั้ม
! หมายเหตุ
|-
| 1998
<!-- Mike Shinoda did not work on "Marco Polo". Don't add it. Source: http://repertoire.bmi.com/title.asp?blnWriter=True&blnPublisher=True&blnArtist=True&keyID=5283967&ShowNbr=0&ShowSeqNbr=0&querytype=WorkID -->
| ''-''
| Styles of Beyond
| ''2000 Fold''
| งานศิลปะ
|-
| rowspan="2" | 1999
| ''-''
| DJ Frane
| ''Frane's Fantastic Boatride''
| งานศิลปะ
|-
| ''-''
| Saukrates
| ''The Underground Tapes''
| งานศิลปะ
|-
| rowspan="2" | 2002
<!-- Stop changing the date of "I'm Serious" to "2001". DJ Vice himself said it was released in 2002. Source: https://twitter.com/djvice/status/22758341640 -->
| "Freestyle"
| DJ Vice
| ''I'm Serious''
| เสียงร้อง
|-
| "[[อิตส์โกอิน'ดาวน์ (เพลง X-Ecutioners)|It's Goin' Down]]"
| The X-Ecutioners
| ''Built from Scratch''
| เสียงร้อง, กีตาร์, โปรดิวเซอร์, ผู้แต่ง
|-
| rowspan="3" | 2004
| "Mike Callin' to Say Hi" (skit)
| KutMasta Kurt
| ''Redneck Olympics''
| เสียงร้อง
|-
| Enjoy the Silence 04
| [[Depeche Mode]]
| ''Remixes 81–04''
| โปรดิวเซอร์
|-
| "Rock and Roll (Could Never Hip Hop Like This) Part 2"
| Handsome Boy Modeling School
| ''White People''
| เสียงร้อง, กีตาร์, เปียโน, กีตาร์เบส, โปรดิวเซอร์
|-
| rowspan="2" | 2006
| "Mike Shinoda Interlude"
| DJ Vlad และ Roc Raida
| ''Rock Phenomenon''
| เสียงร้อง
|-
| "The Instrumental"
| Lupe Fiasco
| ''Lupe Fiasco's Food & Liquor''
| โปรดิวเซอร์
|-
| rowspan="3" | 2007
| "Hard [MS Remix]"
| rowspan="3" | Styles of Beyond
| rowspan="3" | ''Razor Tag''
| โปรดิวเซอร์
|-
| "Hey You"
| เสียงร้อง
|-
| "You Cannot Fuck With This"
| โปรดิวเซอร์
|-
| rowspan="2" | 2008
| "[[วีเมดอิต|We Made It]]"
| [[Busta Rhymes]] และ [[Linkin Park]]
| ''We Made It'' (single)
| เสียงร้อง, กีตาร์, โปรดิวเซอร์
|-
| "Barack Your World"
| White Pegacorn
| ''-''
| เสียงร้อง, กีตาร์, โปรดิวเซอร์, ผู้แต่ง
|-
| rowspan="3" | 2009
| "Death to Analog" (Mike Shinoda Remix)
| Julien-K
| ''Death to Digital''
''Death to Digital X''
| โปรดิวเซอร์
|-
| "Shoot First"
| Apathy
| ''Wanna Snuggle?''
| โปรดิวเซอร์
|-
| "Stories of the Lost"
| Zii
| ''Stories of the Lost'' (single)
| ผู้อำนวยการผลิต
|-
| rowspan="5" | 2010
| ทั้งอัลบั้ม
| Linkin Park
| ''[[8-บิต รีเบลเลียน! (ซาวนด์แทร็ก)|8-Bit Rebellion!]]''
| โปรดิวเซอร์
|-
| "Carry Me Away"
| Cypress Hill
| ''Rise Up''
| เสียงร้อง, โปรดิวเซอร์
|-
| "Never Let Me Down" (เป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับ Chad Hugo)
| Kenna
| rowspan="3" | ''[[ดาวน์โหลดทูโดเนตฟอร์เฮติ|Download to Donate for Haiti]]''
| rowspan="3" | โปรดิวเซอร์
|-
| "Resurrection"
| Kenna featuring Lupe Fiasco
|-
| "Gold Guns Girls" (Mike Shinoda Remix)
| Metric
|-
| rowspan="5" | 2012
| ทั้งอัลบั้ม
| Mike Shinoda และ Joseph Trapanese
| ''The Raid: Redemption''
| ผู้แต่ง
|-
| "NOC Out"
| rowspan="2" | Ramin Djawadi
| rowspan="2" | ''Medal of Honor: Warfighter''
| rowspan="2" | ผู้แต่ง
|-
| "Saa'iq"
|-
| "Dumb It Down"
| rowspan="2" | Styles of Beyond
| rowspan="2" | ''Reseda Beach''
| โปรดิวเซอร์
|-
| "Second to None"
| เสียงร้อง, โปรดิวเซอร์
|-
| rowspan="3" | 2013
| "Wake Me Up"
| Avicii
| ''True''
| โปรดิวเซอร์
|-
| "Truth Inside a Lie" (LPU Sessions 2013)
| Ryan Giles
| rowspan="2" | [[ลิงคินพาร์กอันเดอร์กราวด์ 13|''LP Underground XIII'']]
| โปรดิวเซอร์
|-
| "Change" (LPU Sessions 2013)
| Beta State
| โปรดิวเซอร์, คีย์บอร์ด, แซมเพิลส์
|}

;ผลงานภาพยนตร์
{| class="wikitable" style="text-align:center;"
|-
! ปี
! ภาพยนตร์
! บทบาท
! ผู้กำกับ
! หมายเหตุ
|-
| 2014
| ''The Distortion of Sound''
| ตัวของเขาเอง
| Jacob Rosenberg
| -
|}


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
{{รายการอ้างอิง|colwidth=30em}}

== แหล่งข้อมูลอื่น ==
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Mike Shinoda}}
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Mike Shinoda}}
* {{Official website|1=http://mikeshinoda.com}}
* {{IMDb name|1060557}}
{{ลิงคินพาร์ก}}

[[หมวดหมู่:นักร้องอเมริกัน]]
[[หมวดหมู่:นักร้องอเมริกัน]]
[[หมวดหมู่:แร็ปเปอร์อเมริกัน]]
[[หมวดหมู่:แร็ปเปอร์อเมริกัน]]
บรรทัด 40: บรรทัด 276:
[[หมวดหมู่:สมาชิกวงลิงคินพาร์ก]]
[[หมวดหมู่:สมาชิกวงลิงคินพาร์ก]]
{{birth|1977}}
{{birth|1977}}
{{โครงดารา}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:12, 30 กันยายน 2557

ไมค์ ชิโนะดะ
ไมค์ ชิโนะดะ ขณะแสดงคอนเสิร์ตกับลิงคินพาร์กที่งาน Rock im Park ปี 2557
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อเกิดไมเคิล เคนจิ ชิโนะดะ
เกิด11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520 (47 ปี)[1]
ที่เกิดสหรัฐ อะกูราฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
แนวเพลงอัลเทอร์เนทีฟร็อก, อัลเทอร์เนทีฟฮิปฮอป, อัลเทอร์เนทีฟเมทัล, นูเมทัล ,แร็ปร็อก
อาชีพแรปเปอร์, นักดนตรี, โปรดิวเซอร์เพลง, ศิลปิน, กราฟิกดีไซเนอร์
เครื่องดนตรีเสียงร้อง, กีตาร์, กีตาร์เบส, คีย์บอร์ด, เปียโน, แซมเพลอร์, เทิร์นเทเบิล, ออร์แกน, เทรามิน, เครื่องสังเคราะห์เสียง
ช่วงปีพ.ศ. 2539 – ปัจจุบัน
(ลินคินพาร์ก)
พ.ศ. 2547 – ปัจจุบัน
(ฟอร์ตไมเนอร์)
ค่ายเพลงMachine Shop Recordings
Warner Bros. Records
คู่สมรสแอนนา ฮิลลินเจอร์
(พ.ศ. 2546–ปัจจุบัน)
เว็บไซต์mikeshinoda.com

ไมเคิล เคนจิ ชิโนะดะ (อังกฤษ: Michael Kenji Shinoda) เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1977[1] เป็นนักดนตรีชาวอเมริกัน-ญี่ปุ่น จากเมืองอากูราฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย นับว่าเป็นหนึ่งในสองคนของวงลิงคินพาร์กที่มีเชื้อสายเอเชีย (อีกคนหนึ่งชื่อ โจ ฮาห์น) เขามีชื่อเสียงในฐานะแร็ปเปอร์ นักแต่งเพลงในเพลงต่างๆ ของลิงคินพาร์ก เป็นมือคีย์บอร์ด/เปียโน นักร้องเสียงประสาน มือจังหวะกีตาร์ และเป็นโปรดิวเซอร์เพลงของลิงคินพาร์คอีกด้วย และเขายังมีโปรเจกต์อื่นอย่างออกผลงานแนวฮิปฮอปในนาม ฟอร์ตไมเนอร์ นอกจากนี้เขายังมีผลงานศิลปะเป็นของตัวเองอีกด้วย เขาติดอันดับที่ 72 ในรายการของ "Top 100 Heavy Metal Vocalists" โดย Hit Parader เสียงของไมค์อยู่ในโทนเสียงแบริโทน

ประวัติ

ชีวิตช่วงแรก

ไมค์ ชิโนะดะ เกิดและเติบโตในเมืองอะกูราฮิลส์ ชานเมืองลอสแอนเจลิส[1] พ่อของเขาเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน ทายาทของตระกูลบริษัท คุมะอิชิโระ ชิโนะดะ และแม่ของเขาเป็นคนผิวขาว[2][3] เขามีน้องชายหนึ่งคนชื่อ เจสัน[4]

ไมค์เป็นผู้ที่มีความสนใจเกี่ยวกับดนตรีในช่วงมัธยม โดยเขาได้เริ่มเล่นเครื่องดนตรีหลายชนิดโดยสนใจเรียนเปียโนคลาสสิกเมื่ออายุประมาณ 6 ปี เมื่ออายุได้ 13 ปี เขาได้หันมาสนใจมาเล่นดนตรีในแนวแจ๊ส บลูส์ และแม้แต่ฮิปฮอป[5] เขาได้เรียนรู้การเล่นกีตาร์และร้องเพลงในแบบแร็ปในการแสดงต่างๆ

ไมค์ได้เข้าเรียนที่อะกูราไฮสคูลด้วยกันกับ แบรด เดลสัน และรอบ บัวร์ดอน ซึ่งเป็นสมาชิกวงลิงคินพาร์กในปัจจุบัน ทั้งสามคนได้ก่อตั้งวงดนตรีชื่อ ซีโร (Xero) และเริ่มทำงานอาชีพในวงการเพลงอย่างจริงจังมากขึ้น หลังจากจบการศึกษาในระดับไฮสคูล ไมค์ได้เข้าเรียนที่ Art Center College of Design เพื่อเรียนด้านกราฟิกดีไซน์โดยเฉพาะ[1] และเขาก็ได้เรียนร่วมห้องกับโจ ฮาห์น ซึ่งเป็นดีเจ และเป็นนักเทิร์นเทเบิลในขณะนั้น

เมือได้จบการศึกษาวิทยาลัย ก็ได้ทำงานด้านกราฟิกดีไซเนอร์ควบคู่ไปกับการทำผลงานดนตรี[1] และได้ใช้ความรู้ด้านกราฟิกดีไซเนอร์มาออกแบบโลโก้ และภาพต่างๆ ของวงคู่กับโจ ฮาห์น และได้ออกแบบหน้าปกอัลบั้ม 2000 Fold ซึ่งเป็นอัลบั้มชุดแรกให้กับวงสไตลส์ออฟบียอนด์ (Styles of Beyond) ในปีต่อมาเขาได้แสดงทักษะและความสามารถทางด้านงานศิลปะครั้งแรกของเขาในงานแสดงผลงานศิลปะที่แกลลอรี่ 1988[6] ที่ลอสแอนเจลิส ก่อนที่จะทำอัลบั้มชุดที่สามของวง มินิตส์ทูมิดไนต์

ลิงคินพาร์ก

ไมค์ ชิโนะดะ ในระหว่างการสัมภาษณ์ที่กรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2549

เมื่อวงดนตรีของไมค์ ชิโนะดะได้คว้าตัวนักร้องนำคนใหม่ของวง เชสเตอร์ เบนนิงตัน แทนที่ มาร์ก เวกฟิลด์ (Mark Wakefield) ทำให้ไมค์ได้มีส่วนร่วมในการบันทึกผลงานเพลงของวงดนตรีอย่างใกล้ชิด และผลงานในด้านต่างๆ และได้ร่วมเป็นมือกีตาร์ด้วยกันกับ แบรด เดลสัน ซึ่งเป็นมือกีตาร์นำของวง ในอัลบั้ม ไฮบริดทีโอรี อีพี รวมทั้งสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของวง ไฮบริดทีโอรี[7] ไมค์ได้มีส่วนร่วมในการแต่งเพลงในหลายๆ เพลงของลิงคินพาร์กมาตั้งแต่ก่อตั้งวง เขาได้เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับอัลบั้มรีแอนิเมชัน ที่ออกจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2545 ซึ่งเป็นอัลบั้มรีมิกซ์ชุดแรกของวง เขาได้มีส่วนร่วมในการทำผลงานเพลงของ The X-Ecutioners ในชื่อว่า "It's Goin' Down"

ในช่วงสตูดิโออัลบั้มชุดที่สองของวง เมทีโอรา ในปี พ.ศ. 2546 ไมค์ยังคงทำหน้าที่ของเขาในฐานะนักดนตรีและเจ้าหน้าที่โปรดิวเซอร์ต่างๆ นอกจากนี้ งานภาพปกอัลบั้มนั้น เขาได้ร่วมมือกับศิลปินกราฟฟิตี DELTA (ศิลปะการพ่นสีขีดเขียนบนกำแพง), กราฟิกดีไซเนอร์ แฟรงก์ แมดดอกส์ (Frank Maddocks) และเพื่อนร่วมวงดนตรี โจ ฮาห์น

มีการออกจำหน่ายผลงานของเจย์-ซีร่วมกับลิงคินพาร์ก ในชื่อว่า คอลลิชันคอร์ส ซึ่งเป็นการนำเพลงของทั้งสองศิลปินมาผสมกัน โดยออกจำหน่ายในปี พ.ศ. 2547 การมีส่วนร่วมในการสร้างอัลบั้มของไมค์ได้ดำเนินต่อเนื่องไปเรื่อยๆ และได้ชนะรางวัลแกรมมีในรายการ "แร็ป/ร้องยอดเยี่ยม" ในปี พ.ศ. 2549[8]

ลิงคินพาร์กได้ออกจำหน่ายอัลบั้มชุดที่สาม มินิตส์ทูมิดไนต์ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 ในอัลบั้มชุดนี้ ไมค์ได้ผลิตผลงานร่วมกับ ริก รูบิน ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ที่ได้เคยผลิตผลงานมามากมาย และมีการแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงแนวเพลงของวง อัลบั้มชุดนี้เป็นครั้งแรกของไมค์ ที่นอกจากการแร็ปและการร้องประสานเสียงของเขาแล้ว เขายังได้ร้องนำเพลงช้าครั้งแรก "In Between" และเพลงบีไซด์ "No Roads Left" เช่นเดียวกันกับการร้องแร็ปนำในเพลง "Bleed It Out" และเพลง "Hands Held High" ถึงแม้จะเป็นแทร็กที่หายากที่ไมค์ได้นำหน้าที่นักร้องนำ นิตยสารดนตรี Hit Parader ได้จัดอันดับให้ไมค์อยู่ในอันดับที่ 72 ของนักร้องเมทัล 100 อันดับแรก[9] ไมค์และริก รูบิน ได้ผลิตผลงานร่วมกันอีกครั้งในสตูดิโออัลบั้มชุดที่สี่ของลิงคินพาร์ก อะเทาซันด์ซันส์ ซึ่งออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553 หลังจากนั้นก็ได้ออกจำหน่ายอัลบั้มชุดที่ห้า ลีฟวิงทิงส์ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555 และออกอัลบั้มรีมิกซ์ชุดที่สองของวง รีชาจด์ ซึ่งเป็นอัลบั้มที่นำเพลงมาจากอัลบั้มลีฟวิงทิงส์มารีมิกซ์ลงอยู่ในอัลบั้มนี้ ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556 และได้ออกจำหน่ายสตูดิโออัลบั้มชุดที่หก เดอะฮันติงปาร์ตี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ฟอร์ตไมเนอร์

ไมค์เริ่มงานไซด์โปรเจกต์ชื่อว่า ฟอร์ตไมเนอร์ ในระหว่างปี พ.ศ. 2546 และ พ.ศ. 2547 เพราะเขาไม่ต้องการที่จะแสดงดนตรีที่เน้นหนักในแบบฮิปฮอปกับลิงคินพาร์กมากนัก[10]

อัลบั้มเปิดตัวของฟอร์ตไมเนอร์ มีชื่อว่า เดอะไรซิงไทด์ (The Rising Tied) ออกจำหน่ายวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 และรวมศิลปินรับเชิญจาก Styles of Beyond, Lupe Fiasco, Common, Black Thought จาก The Roots, John Legend, Holly Brook, Jonah Matranga, Celph Titled, และมี Jay-Z เป็นผู้อำนวยการผลิต

ผลงานศิลปะ

ไฟล์:Mike with his paintings.jpg
ไมค์ ชิโนะดะกับภาพวาดของเขาในระหว่างงานแสดงนิทรรศการ

ไมค์เป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่เรียนจบการศึกษาจาก Art Center College of Design แห่งพาซาดีน่าในปี พ.ศ. 2541 ในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต เขามีส่วนร่วมในการสร้างผลงานด้านศิลปะของลิงคินพาร์ก ได้แก่ ภาพหน้าปกอัลบั้มต่างๆ สินค้าจากวง การออกแบบเว็บไซต์ของวง และงานศิลปะเพื่อออกโชว์บนเวที

ชีวิตส่วนตัว

ไมค์เป็นลูกครึ่งชาวอเมริกัน-ญี่ปุ่นรุ่นที่สาม[11][12] พ่อและป้าของเขาถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในที่ค่ายกักกันชาวอเมริกัน-ญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง[13][14]

ในปี พ.ศ. 2552 ไมค์ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขา Humane Letters (L.H.D) จาก Art Center College Of Design[15]

เขาได้แต่งงานกับนักเขียนชื่อ แอนนา ชิโนะดะ (ชื่อเกิด แอนนา ฮิลลินเจอร์) เมื่อปี พ.ศ. 2546 ทั้งคู่มีลูกด้วยกันสามคน คนโตเป็นลูกชายชื่อ โอติส อะกิโอะ ชิโนะดะ (Otis Akio Shinoda) แอนนาได้เปิดตัวนวนิยายเรื่องแรกของเธอ Learning Not to Drown เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557 ตามเว็บบล็อกของเธอและระหว่างการสัมภาษณ์กับไมค์[16]

ผลงาน

ผลงานของลิงคินพาร์ก
ผลงานของฟอร์ตไมเนอร์
ผลงานด้านอื่นๆ
ปี เพลง ศิลปิน อัลบั้ม หมายเหตุ
1998 - Styles of Beyond 2000 Fold งานศิลปะ
1999 - DJ Frane Frane's Fantastic Boatride งานศิลปะ
- Saukrates The Underground Tapes งานศิลปะ
2002 "Freestyle" DJ Vice I'm Serious เสียงร้อง
"It's Goin' Down" The X-Ecutioners Built from Scratch เสียงร้อง, กีตาร์, โปรดิวเซอร์, ผู้แต่ง
2004 "Mike Callin' to Say Hi" (skit) KutMasta Kurt Redneck Olympics เสียงร้อง
Enjoy the Silence 04 Depeche Mode Remixes 81–04 โปรดิวเซอร์
"Rock and Roll (Could Never Hip Hop Like This) Part 2" Handsome Boy Modeling School White People เสียงร้อง, กีตาร์, เปียโน, กีตาร์เบส, โปรดิวเซอร์
2006 "Mike Shinoda Interlude" DJ Vlad และ Roc Raida Rock Phenomenon เสียงร้อง
"The Instrumental" Lupe Fiasco Lupe Fiasco's Food & Liquor โปรดิวเซอร์
2007 "Hard [MS Remix]" Styles of Beyond Razor Tag โปรดิวเซอร์
"Hey You" เสียงร้อง
"You Cannot Fuck With This" โปรดิวเซอร์
2008 "We Made It" Busta Rhymes และ Linkin Park We Made It (single) เสียงร้อง, กีตาร์, โปรดิวเซอร์
"Barack Your World" White Pegacorn - เสียงร้อง, กีตาร์, โปรดิวเซอร์, ผู้แต่ง
2009 "Death to Analog" (Mike Shinoda Remix) Julien-K Death to Digital

Death to Digital X

โปรดิวเซอร์
"Shoot First" Apathy Wanna Snuggle? โปรดิวเซอร์
"Stories of the Lost" Zii Stories of the Lost (single) ผู้อำนวยการผลิต
2010 ทั้งอัลบั้ม Linkin Park 8-Bit Rebellion! โปรดิวเซอร์
"Carry Me Away" Cypress Hill Rise Up เสียงร้อง, โปรดิวเซอร์
"Never Let Me Down" (เป็นโปรดิวเซอร์ร่วมกับ Chad Hugo) Kenna Download to Donate for Haiti โปรดิวเซอร์
"Resurrection" Kenna featuring Lupe Fiasco
"Gold Guns Girls" (Mike Shinoda Remix) Metric
2012 ทั้งอัลบั้ม Mike Shinoda และ Joseph Trapanese The Raid: Redemption ผู้แต่ง
"NOC Out" Ramin Djawadi Medal of Honor: Warfighter ผู้แต่ง
"Saa'iq"
"Dumb It Down" Styles of Beyond Reseda Beach โปรดิวเซอร์
"Second to None" เสียงร้อง, โปรดิวเซอร์
2013 "Wake Me Up" Avicii True โปรดิวเซอร์
"Truth Inside a Lie" (LPU Sessions 2013) Ryan Giles LP Underground XIII โปรดิวเซอร์
"Change" (LPU Sessions 2013) Beta State โปรดิวเซอร์, คีย์บอร์ด, แซมเพิลส์
ผลงานภาพยนตร์
ปี ภาพยนตร์ บทบาท ผู้กำกับ หมายเหตุ
2014 The Distortion of Sound ตัวของเขาเอง Jacob Rosenberg -

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 Biography, allmusic.com อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "allmusic" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  2. "Linkin Park's 818th Battalion: Mike's Not Russian". Linkinparks818th.blogspot.com. July 24, 2011. สืบค้นเมื่อ December 7, 2011.
  3. Kimpel, Dan (2006). How they made it: true stories of how music's biggest stars went from start to stardom. Hal Leonard Corporation. ISBN 978-0-634-07642-8. สืบค้นเมื่อ September 27, 2010.
  4. McKeon, Therese. "Linkin Park: One Step Closer". Shout Web. ShoutWeb.com. สืบค้นเมื่อ August 8, 2012.
  5. Scaggs, Austin (March 26, 2003). "The Mellower Half of Linkin Park". The Linkin Park Times.
  6. "Mike Shinoda's Art Work". LinkinPark.com. สืบค้นเมื่อ December 7, 2011.
  7. "For Superfans Only « Mike Shinoda's Blog". Mikeshinoda.com. สืบค้นเมื่อ 2014-08-09.
  8. "U2 dominates Grammy night". CBC News. February 9, 2006.
  9. "Hit Parader's Top 100 Metal Vocalists of All Time". HearYa. December 4, 2006.
  10. "fort minor interview". fixins. สืบค้นเมื่อ June 24, 2007.
  11. Jensen, Todd Aaron (2010). On Gratitude: Sheryl Crow, Jeff Bridges, Alicia Keys, Daryl Hall, Ray Bradbury, Anna Kendrick, B.B. King, Elmore Leonard, Deepak Chopra, and 42 More Celebrities Share What They're Most Thankful For. F+W Media, Inc. p. 224. สืบค้นเมื่อ October 26, 2012.
  12. Marcello (February 1, 2012). "Creative Spotlight: Episode #93 – Mike Shinoda Interview". japancinema.net. สืบค้นเมื่อ October 27, 2012.
  13. Lim, Cathy (April 28, 2006). "Getting Back to His Roots". The Rafu Shimpo.
  14. "Outside the Park". The Star (Malaysia). December 23, 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-11. สืบค้นเมื่อ October 27, 2012.
  15. "For Superfans Only « Mike Shinoda's Blog". Mikeshinoda.com. สืบค้นเมื่อ December 7, 2011.
  16. "The Kids ~ Linkin Lady". Linkinlady.net. สืบค้นเมื่อ 2014-08-09.

แหล่งข้อมูลอื่น