ข้ามไปเนื้อหา

ฉบับร่าง:เหมียวน้อยคอยรัก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เหมียวน้อยคอยรัก
ชื่อภาษาญี่ปุ่น
คันจิ泣きたい私は猫をかぶる
ความหมายตามอักษรWanting to Cry, I Pretend to Be a Cat
การถอดเสียง
เฮ็ปเบิร์นปรับปรุงNakitai Watashi wa Neko o Kaburu
กำกับ
เขียนบทมาริ โอคาดะ
นักแสดงนำ
กำกับภาพชินยะ มัตสึอิ
ดนตรีประกอบมินะ คุโบตะ
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่ายเน็ตฟลิกซ์
วันฉาย
  • 18 มิถุนายน ค.ศ. 2020 (2020-06-18)
ความยาว104 นาที
ประเทศญี่ปุ่น
ภาษาญี่ปุ่น

เหมียวน้อยคอยรัก (ญี่ปุ่น: 泣きたい私は猫をかぶるโรมาจิNakitai Watashi wa Neko o Kaburuแปลว่า อยากร้องไห้ ฉันแกล้งทำเป็นแมว; อังกฤษ: A Whisker Away) เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก,แฟนตาซี ในปี พ.ศ. 2563 ผลิตโดย Studio Colorido, Toho Animation, และ Twin Engine กำกับโดย จุนอิจิ ซาโตะ และ โทโมตากะ ชิบายามะ (นี่เป็นการกำกับภาพยนตร์เป็นครั้งแรกของเขา) ภาพยนตร์นี้ได้ฉายทางเน็ตฟลิกซ์ เวอร์ชันพากย์ภาษาญี่ปุ่นออกฉายเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563 และเวอร์ชันพากย์อังกฤษได้เลื่อนการฉายไปถึงวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563[1][2][3]

เรื่องย่อ[แก้]

มุเกะ (มิโย ซาซากิ) เด็กสาวมัธยมต้นที่มีบุคลิกสดใสร่าเริงภายนอกแต่ซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงไว้ในใจ เธอแอบหลงรัก เคนโตะ ฮิโนเดะ เพื่อนร่วมชั้นที่ดูเหมือนไม่สนใจเธอเลย

วันหนึ่ง มุเกะได้รับหน้ากากวิเศษที่ทำให้เธอกลายร่างเป็นแมวได้ ในรูปร่างแมวที่ชื่อว่า "ทาโร่" เธอสามารถเข้าใกล้และใช้เวลาอยู่กับเคนโตะได้มากขึ้น เคนโตะรักและดูแลทาโร่อย่างดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป มุเกะเริ่มพบว่าการใช้ชีวิตเป็นแมวทำให้เธอเริ่มสูญเสียความเป็นตัวเอง และเธอต้องเลือกว่าจะอยู่ในร่างแมวต่อไปหรือเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่แท้จริงในฐานะมนุษย์

ผู้ให้เสียงพากย์[แก้]

ตัวละคร ผู้ให้เสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่น ผู้ให้เสียงพากย์ภาษาอังกฤษ
มิโยะ ซาซากิ (笹木 美代, Sasaki Miyo) / มูเกะ (ムゲ) / ทาโร่ (太郎) มิไร ชิดะ[4] เชอรามี ลีห์
เคนโตะ ฮิโนเดะ (日之出 賢人, Hinode Kento) นัตสึกิ ฮานาเอะ[4] จอห์นนี ยัง บอสช์
อาจารย์คุสุโนกิ (楠木先生) ฮิโรอากิ โอกิ โรเบิร์ต บุชโฮลซ์
ฮาจิเมะ (ハジメ) ฟูกูชิ โอจิไอ[5]
คนขายหน้ากาก (猫店主, Neko Tenshu) โคอิจิ ยามาเดระ คีธ ซิลเวอร์สไตน์
คาโอรุ มิซึทานิ (水谷 薫, Mizutani Kaoru) อายาโกะ คาวาซูมิ ลอร่า โพสต์
มาซามิจิ อิซามิ (伊佐美 正道, Isami Masamichi) เค็นโช โอโนะ กริฟฟิน เบิร์นส์
โยริโกะ ฟุคาเสะ (深瀬 頼子, Fukase Yoriko) มินาโกะ โคโตบูกิ เอริกา ฮาร์ลาเชอร์
มิกิ ไซโตะ (斎藤 美紀, Saitō Miki) ซายากะ โอฮาระ รีบา บูห์ร[6]
ทามากิ (タマキ) เร ซากูมะ[5]
โยจิ ซาซากิ (笹木 洋治, Sasaki Yōji) ซูซูมุ ชิบะ ท็อดด์ ฮาเบอร์คอร์น
ซูกิตะ (スギタ) โอโลงตา โยชิดะ[5]
เคนโซ ฮิโนเดะ (日之出 賢三, Hinode Kenzō) โมโตมุ คิโยกาวะ เคิร์ก ธอร์นตัน
โชตะ บันไน (坂内 翔太, Bannai Shōta) วาตารุ โคมาดะ ไบรซ์ พาเพนบรูค
คาคินุมะ (カキヌマ) ชินอิจิโร มิกิ[5]
อายูมุ นิโบริ (新堀 歩, Niibori Ayumu) ยูซูเกะ นางาโนะ กริฟฟิน ปัวตู
โทโมยะ ซากากุจิ (坂口 智也, Sakaguchi Tomoya) ไดซูเกะ นามิกาวะ
คินาโกะ (きなこ) เอริ คิตามูระ[5] คริสติน่า วี
ยูมิ ฮิโนเดะ (日之出 優美, Hinode Yūmi) รินะ คิตะกาวะ
ชิโอริ มิโซกุจิ (溝口 詩織, Mizoguchi Shiori) ริเอะ ฮิกิซากะ คีร่า บัคลแลนด์
ซาชิโกะ ฮิโนเดะ (日之出 幸子, Hinode Sachiko) เอมิ ชิโนฮาระ

การผลิต[แก้]

ตรอกในเมืองโทโกนาเมะที่มีกำแพงเครื่องปั้นดินเผาเสริมแรงดังที่เห็นในภาพยนตร์

ภาพยนตร์แอนิเมชันโดยStudio Colorido[7] และภาพยนตร์นี้มีเนื้อเรื่องต้นฉบับที่สร้างขึ้นโดย มาริ โอคาดะ ภาพยนตร์นี้เกิดขึ้นในเมืองโทโกนาเมะ ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากผู้กำกับ โทโมทากะ ชิบายามะ เติบโตที่นั่น ฉากหลาย ๆ ฉากในภาพยนตร์ถูกถ่ายทอดจากสถานที่จริงในเมืองโดยตรง[8][9][10]

เพลงธีมเปิด "Ghost in a Flower" (花に亡霊, Hana ni Bōrei) เพลงแทรก "Night Journey" (夜行, Yakō) และธีมปิด "Liar" (嘘月, Uso Tsuki, แปลว่า Lying Moon) ขับร้องโดยกลุ่มดนตรีร็อกญี่ปุ่นโยรูชิกะ[11]

มังงะ[แก้]

การประกาศดัดแปลงมังงะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 และเล่มแรกได้วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2563[12] จบลงที่บทที่ 13 ในวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564[13]

# วันที่ออกจำหน่าย ISBN
1 10 มิถุนายน พ.ศ. 2563978-4-04-109619-2
  • บทที่ 1–3
2 10 ธันวาคม พ.ศ. 2563978-4-04-110809-3
  • บทที่ 4–
3 25 มีนาคม พ.ศ. 2564[14]978-4-04-111181-9

ปล่อย[แก้]

ภาพยนตร์มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ญี่ปุ่นในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2563 ถูกเลื่อนฉายเพราะเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19[15] จากนั้นภาพยนตร์ถูกขายให้กับ เน็ตฟลิกซ์ ซึ่งปล่อยให้รับชมในรูปแบบดิจิทัลเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563[16] เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2563 ได้มีการประกาศว่าภาพยนตร์จะฉายในโรงภาพยนตร์ในญี่ปุ่นแบบจำกัดตลอดเดือนตุลาคม พ.ศ. 2563[17] ในญี่ปุ่นภาพยนตร์ได้วางจำหน่ายในรูปแผ่น Blu-ray และ DVD เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2564[18]

รางวัล[แก้]

  • รางวัล Asian Academy Creative Awards "ผลงานแอนิเมชั่นยอดเยี่ยม"[19] (ในประเทศญี่ปุ่น)
  • รางวัลผลงานยอดเยี่ยมจากเทศกาลศิลปะสื่อญี่ปุ่นครั้งที่ 24[20] (ในประเทศญี่ปุ่น)

อ้างอิง[แก้]

  1. WTK [@WTK] (June 18, 2020). "A Whisker Away (subtitled) is now streaming on Netflix (English dub delayed)" (ทวีต). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 18, 2020. สืบค้นเมื่อ December 11, 2021 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  2. WTK [@WTK] (June 29, 2020). "ICYMI, A Whisker Away (with English dub) is now streaming on Netflix" (ทวีต). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 29, 2020. สืบค้นเมื่อ December 11, 2021 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  3. Llewellyn, Tom (2020-06-29). "A Whisker Away: English dubbing finally released on Netflix". HITC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 11, 2021. สืบค้นเมื่อ December 11, 2021.
  4. 4.0 4.1 Sherman, Jennifer (2020-01-27). "Studio Colorido's Original Anime Film Nakitai Watashi wa Neko o Kaburu Opens on June 5". Anime News Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 10, 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-01-27.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 Pineda, Rafael Antonio (2020-05-28). "A Whisker Away Anime Film's Video Reveals New Cast Members". Anime News Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 13, 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-05-28.
  6. Buhr, Reba [@rebabuhr] (July 7, 2020). "Yep dats me!" (ทวีต). สืบค้นเมื่อ July 7, 2020 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  7. Filart, Matt (12 June 2020). "Here's Everything We Know About Netflix's Upcoming Anime 'A Whisker Away'". TheThings. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 30, 2020. สืบค้นเมื่อ 30 June 2020.
  8. Montoya, Alfonso (May 1, 2020). "A Whisker Away: Netflix release date and trailer". Summary.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 24, 2020. สืบค้นเมื่อ July 23, 2020.
  9. "You can now visit the setting of "A Whisker Away" in Tokoname, Aichi Prefecture". Grape Japan. July 20, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 2, 2020. สืบค้นเมื่อ July 23, 2020.
  10. "You Can Now Visit Real-Life Locations of 'A Whisker Away' in Japan". 9GAG. July 20, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 1, 2020. สืบค้นเมื่อ July 23, 2020.
  11. Pineda, Rafael Antonio (June 12, 2020). "A Whisker Away Anime Film's Video Reveals Yorushika Ending Song". Anime News Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 2, 2020. สืบค้นเมื่อ June 12, 2020.
  12. Hodgkins, Crystalyn (2020-05-17). "Studio Colorido's A Whisker Away Anime Film Gets Manga". Anime News Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 17, 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-05-17.
  13. Hazra, Adriana (March 13, 2021). "Kyōsuke Kuromaru's A Whisker Away Manga Ends". Anime News Network. สืบค้นเมื่อ April 13, 2024.
  14. "KADOKAWA Corporation" 泣きたい私は猫をかぶる(3) [I want to cry so I wear a cat (3)]. Kadokawa (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ April 13, 2024.
  15. Hodgkins, Crystalyn (April 26, 2020). "Nakitai Watashi wa Neko o Kaburu Film Delayed Due to COVID-19". Anime News Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 11, 2020. สืบค้นเมื่อ April 26, 2020.
  16. Pineda, Rafael Antonio (April 29, 2020). "Colorido's A Whisker Away Anime Film Streams Globally on Netflix on June 18". Anime News Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 2, 2020. สืบค้นเมื่อ April 30, 2020.
  17. Pineda, Rafael Antonio (September 21, 2020). "A Whisker Away Film Gets Limited Theatrical Run After COVID-19 Delay". Anime News Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 2, 2020. สืบค้นเมื่อ September 22, 2020.
  18. "Nakitai Watashi wa Neko wo Kaburu DVD/Blu-ray". Nakitai Watashi wa Neko wo Kaburu Website. March 19, 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 18, 2021. สืบค้นเมื่อ March 19, 2021.
  19. "Japan's first! Winner of the Best Animation Work Award "I want to cry I wear a cat"". Sanspo. 4 December 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 17, 2021. สืบค้นเมื่อ August 17, 2021.
  20. "The 24th Animation Category Excellence Award". Japan Media Arts Festival. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 17, 2021. สืบค้นเมื่อ August 17, 2021.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]