จอห์น ทอแช็ก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จอห์น ทอแช็ก
ทอแช็กในช่วงที่ฝึกสอนทีมชาติมาซิโดเนียในปี ค.ศ. 2011
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม จอห์น เบนจามิน ทอแช็ก
วันเกิด (1949-03-22) 22 มีนาคม ค.ศ. 1949 (74 ปี)
สถานที่เกิด คาร์ดิฟฟ์, เวลส์
ส่วนสูง 1.85 m (6 ft 1 in)*
ตำแหน่ง กองหน้า
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
1965–1970 คาร์ดิฟฟ์ซิตี 162 (74)
1970–1978 ลิเวอร์พูล 246 (96)
1978–1984 สวอนซีซิตี 63 (25)
รวม 471 (195)
ทีมชาติ
1968–1969 เวลส์ อายุไม่เกิน 23 ปี 4 (0)
1969–1980 เวลส์ 40 (13)
จัดการทีม
1978–1983 ผู้เล่น/ผู้จัดการสวอนซีซิตี
1984–1985 สปอร์ติงลิสบอน
1985–1989 เรอัลโซเซียดัด
1989–1990 เรอัลมาดริด
1991–1994 เรอัลโซเซียดัด
1994 เวลส์
1995–1997 เดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา
1997–1999 เบชิกทัช
1999 เรอัลมาดริด
2000–2001 แซ็งเตเตียน
2001–2002 เรอัลโซเซียดัด
2002–2003 กาตาเนีย
2004 เรอัลมูร์เซีย
2004–2010 เวลส์
2011–2012 มาซิโดเนีย
2013 แคแซร์แลงแครัน
2014–2016 วีดัดกาซาบล็องกา
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น

จอห์น เบนจามิน ทอแช็ก (อังกฤษ: John Benjamin Toshack) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวเวลส์ เล่นตำแหน่งกองหน้า มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักเมื่อครั้งลงเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล โดยรับหน้าที่เป็นกองหน้าคู่กับเควิน คีแกน

หลังจากเลิกเล่นฟุตบอล ทอแช็ก ได้หันมาทำงานด้านการเป็นผู้จัดการทีม โดยเคยเป็นผู้จัดการทีมให้กับสโมสรฟุตบอลต่างๆหลายประเทศ รวมถึงสโมสรใหญ่ในลาลิกาอย่างเรอัลมาดริดและเรอัลโซเซียดัด รวมถึงเคยเป็นผู้จัดการทีมชาติเวลส์ถึงสองสมัย

ทอแช็กสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้จัดการทีม เมื่อครั้งเป็นผู้จัดการทีมให้กับสวอนซี ซิตี ซึ่งเขาได้สร้างผลงานพาทีมเลื่อนชั้นจากดิวิชัน 4 (ปัจจุบันคือ ลีกทู) ขึ้นมาถึงดิวิชัน 1 (ปัจจุบันคือพรีเมียร์ลีก) ได้ในเวลาเพียงแค่ 3 ฤดูกาล จากผลงานดังกล่าวทำให้เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิบริติช (OBE)

นอกจากนี้ในการทำงานที่ประเทศสเปน ทอแช็กยังเคยพาสโมสรเรอัลโซเซียดัด คว้าตำแหน่งรองแชมป์ลาลิกา ได้ในฤดูกาล 1987–1988 ก่อนที่ต่อมาเขาจะมาได้แชมป์ลาลิกากับเรอัลมาดริดในฤดูกาล 1989–1990

ประวัติ[แก้]

ทอแช็กเกิดที่เมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ เข้าสู่วงการฟุตบอลเป็นครั้งแรกเมื่อได้เข้ามาอยู่ในทีมคาร์ดิฟฟ์ซิตีตั้งแต่อายุ 16 ปี ภายใต้การคุมทีมของจิมมี สกูลา และเคยเป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ได้ลงเล่นในลีก เมื่อเขาลงสนามนัดแรกและยิงประตูได้ในเกมส์ชนะทีมเลย์ตันออเรียนต์ 3-1 ในวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1965 ขณะมีอายุได้ 16 ปี 236 วัน สถิติดังกล่าวยืนยาวมาถึง 42 ปี จนกระทั่งถูกทำลายโดยแอรอน แรมซีย์ จอห์น ทอแช็กจัดเป็นหนึ่งในกองหน้าชั้นยอดของทีมเคียงคู่กับไบรอัน คลาร์ก หลังจากอยู่กับทีมมาถึง 4 ปี โดยลงสนามให้ทีมถึง 162 นัดและยิงได้ 75 ประตู เขาก็ย้ายไปร่วมทีมลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 1 แสน 1 หมื่นปอนด์ ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1970 ภายใต้การคุมทีมของบิล แชงคลีย์และบ็อบ เพรสลีย์ อีก 3วันต่อมา เขาได้ลงสนามให้ทีมเป็นนัดแรกในเกมส์ที่เปิดบ้านเสมอกับคอเวนทรีซิตี ทอแช็กทำประตูแรกในชุดหงส์แดงได้เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1970 ในเมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้แมตช์กับเอฟเวอร์ตัน ที่สนามแอนฟีลด์ โดยลิเวอร์พูลชนะไป 2-0 และเขายิงประตูแรกให้ทีมขึ้นนำ หลังเสมอกันในครึ่งแรก 0-0

ปี ค.ศ. 1971 เควิน คีแกน ย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของทีมอีกคนหนึ่ง ทอแช็กและคีแกนสร้างชื่อเสียงและโด่งดังอย่างมากในการเล่นร่วมกัน โดยทอแช็กไร้เทียมทานเมื่อเล่นลูกกลางอากาศ และคีแกนเป็นตัวจบสกอร์ชั้นยอดเมื่อลูกอยู่บนพื้น โดยแฟน ๆ สามารถเห็นการการประสานงานของทั้งคู่จนนำไปสู่การยิงประตูบ่อยครั้ง และนิตยสารฟุตบอลถึงขนาดนำเขาและคีแกนไปเปรียบเทียบกับแบทแมนและโรบิน หลังจากที่คีแกนย้ายไปเล่นในเยอรมนีกับสโมสรฮัมบวร์ค ก็มีการเปิดเผยสถิติว่าประตูที่เควิน คีแกน ยิงให้ลิเวอร์พูลกว่า 100 ลูก มาจากจอห์น ทอแช็ก

ในช่วงเวลาระหว่างเขาและลิเวอร์พูลเขายิงให้ทีมได้ 96 ประตู และเป็นส่วนหึ่งของทีมชุดที่ได้แชมป์ลีกสูงสุดในฤดูกาล 1972-1973, 1975-1976 และฤดูกาล 1976-1977 รวมถึงแชมป์เอฟเอคัพในปี ค.ศ. 1974 แชมป์ยูฟ่าคัพปี ค.ศ. 1973 และ ค.ศ. 1976

ส่วนผลงานในระดับชาตินั้น ทอแช็กลงสนามรับใช้ทีมชาติเวลส์ตั้งแต่ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี และทีมชาติชุดใหญ่ โดยลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ทั้งหมด 40 นัดและยิงได้ 12 ประตู โดยเป็นการยิงแฮตทริกในเกมส์พบสกอตแลนด์ในศึกบริติชโฮมแชมเปียนชิปในปี ค.ศ. 1979 อย่างไรก็ตาม ปัญหาอาการบาดเจ็บของเขาทำให้เขาถูกขายให้ทีมสวอนซีซิตี โดยย้ายไปทำหน้าที่ผู้เล่น-ผู้จัดการทีมในปี ค.ศ. 1978

บทบาทผู้จัดการทีม[แก้]

ทอแช็กสร้างผลงานการคุมทีมอย่างร้อนแรงเมื่อพาทีมสวอนซีซิตีเลื่อนชั้นจากดิวิชัน 4 (ลีกทูในปัจจุบัน) ขึ้นมาสู่ดิวิชัน 1 (ปัจจุบันคือพรีเมียร์ลีก) ในเวลาเพียง 3 ฤดูกาล และนั่นเป็นหนึ่งในผลงานที่ทำให้เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นโอบีอีในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ให้วงการฟุตบอลอังกฤษ

ปี ค.ศ. 1984 ทอแช็กรับงานคุมทีมในโปรตุเกสกับทีมสปอร์ติงลิสบอน แต่ก็อยู่กับทีมเพียงฤดูกาลเดียวเท่านั้น จากนั้นจึงย้ายไปคุมทีมในสเปนและมีผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก เมื่อเขาได้คุมทีมเรอัลมาดริดถึง 2 ครั้ง เรอัลโซเซียดัด 3 ครั้ง และยังเคยคุมทีมเดปอร์ติโบลาโกรุญญาและเรอัลมูร์เซีย นอกจากนี้เขายังเคยทำงานในตุรกี เมื่อรับงานคุมทีมเบชิกทัช และย้ายไปฝรั่งเศสในการคุมทีมแซ็งเตเตียน และมีประสบการณ์ในการทำงานที่อิตาลีกับทีมกาตาเนีย

ทอแช็กได้เป็นผู้จัดการทีมชาติเวลส์มาแล้วถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1994 แต่อยู่ในตำแหน่งเพียงแค่ 41 วัน หลังจากที่เขาลาออกจากตำแหน่ง หลังพาทีมแพ้ทีมชาตินอร์เวย์ 3-1 และกลับมารับตำแหน่งเดิมอีกครั้งในปี ค.ศ. 2004

ชีวิตส่วนตัว[แก้]

จอห์น ทอแช็ก เติบโตมาในเขตแคนตัน เมืองคาร์ดิฟฟ์ในเวลส์ โดยจอร์จ ทอแช็ก พ่อของเขาประกอบอาชีพเป็นช่างไม้

ในขณะที่จอห์น ทอแช็ก โด่งดังในฐานะเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ เมื่อมีอายุครบ 20 ปี เขาได้แต่งงานกับซูซัน เอลิซาเบท แบนน์ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1969 โดย แคเมอรอน ทอแช็ก ลูกชายของทั้งคู่ได้มาเป็นสตาฟฟ์โค้ชในทีมเยาวชนของสโมสรสวอนซีซิตีในปี ค.ศ. 2013 จนถึงปัจจุบัน

ในปี ค.ศ. 2012 เอลิซาเบท ทอแช็ก ภรรยาของเขาได้ยื่นเรื่องฟ้องหย่าต่อศาลสูงในกรุงลอนดอนแผนกคดีครอบครัว และผู้พิพากษาได้มีคำพิพากษาให้ทั้งคู่หย่ากันในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2012 เป็นการสิ้นสุดการใช้ชีวิตคู่อย่างยาวนานถึง 43 ปีของเขาและภรรยา

ผลงาน[แก้]

ในฐานะผู้เล่น[แก้]

ในฐานะผู้เล่น-ผู้จัดการ[แก้]

  • ดิวิชัน 4 : อันดับ 3 1978
  • ดิวิชัน 3 : อันดับ 3 1979
  • ดิวิชัน 2 : อันดับ 3 1982
  • เวลส์คัพ : 1981, 1982, 1983

ในฐานะผู้จัดการทีม[แก้]

  • โกปาเดลเรย์ : แชมป์ ค.ศ. 1987, รองแชมป์ ค.ศ. 1988, ค.ศ. 1990
  • ลาลิกา : แชมป์ ค.ศ. 1990
  • ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา : แชมป์ ค.ศ. 1995
  • เตอร์กิชคัพ : แชมป์ ค.ศ. 1998, รองแชมป์ ค.ศ. 1999
  • อาเซอร์ไบจานซูเปอร์คัพ : แชมป์ ค.ศ. 2013
  • ลีกโบโตลาโปรโมร็อกโก : แชมป์ ค.ศ. 2015