โอโรจิมารุ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โอโรจิมารุ
อายุ 54-71 ปี
ชื่อภาษาญี่ปุ่น 大蛇丸
(โอะโระจิมะรุ)
โรมะจิ Orochimaru
ปรากฏตัวตอนแรก ตอนที่ 10
สังกัด หมู่บ้านโคโนฮะ
แสงอุษา
หมู่บ้านโอโตะ
อาจารย์ โฮคาเงะรุ่นที่ 3
ลูกศิษย์ มิทาราชิ อังโกะ, อุจิวะ ซาสึเกะ
ทีม ทีมฮิรุเซ็น, ทีมโอโรจิมารุ, ทีมโดสึ
ขั้น Part I: อันบุ
วันเกิด 27 ตุลาคม
กรุ๊ปเลือด B
ฉายา สามนินจาในตำนาน
หมวดหมู่ นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ

โอโรจิมารุ (ญี่ปุ่น: 大蛇丸โรมาจิOrochimaruทับศัพท์: โอะโระจิมะรุ) ตัวละครนินจาจากการ์ตูนเรื่อง นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ

ชื่อ[แก้]

ชื่อ โอโรจิมารุ มาจากชื่อตัวละครในวรรณกรรมเรื่อง "จิระอิยะโงะเก็ตซึโมะโนะงะตะริ" (児雷也豪傑物語, เรื่องราวของจอมเจ้าชู้จิไรยะ) ซึ่งมี โอโรจิมารุ จิไรยะ และ ซึนาเดะ โดยในเนื้อเรื่องจิไรยะและซึนาเดะเป็นคู่สามีภรรยากัน โดยโอโรจิมารุมีเวทมนตร์งู

ในตำนานญี่ปุ่น โอะโระจิ หรือ ยะมะตะโนะโอะโระจิ (八岐大蛇) เป็นชื่องูแปดหัว ซึ่งพ่ายต่อต่อเทพเจ้าซุซะโน โดยคำว่า โอ (大) ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่าใหญ่ และ โระจิ หรือ เฮะบิ ( 蛇) มีความหมายว่า งู

ประวัติ[แก้]

โอโรจิ มารุ มาจากเผ่าโอโรจิ คนกึ่งเทพงู เป็นหมุ่บ้านที่อาศัยอยู่รอบๆภูเขาใหญ่แห่งราชาเทพงู ต่อมาได้โดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ด้วยสาเหตุบางประการ จากนั้น ซารุโทบิตอนวัย54ก็มารับตัวไปเป็นลูกศิษย์ ตอนนั้นโอโรจิมารุอายุ4ขวบ

เขาเรียนจบการศึกษาโรงเรียนนินจาเมื่ออายุ6ขวบ ได้เข้าสมาชิดจูนิน7ขวบ ไปเป็นโจนินเมื่ออายุ8ขวบ อยู่ภายไลใต้สักกัดหน่วยของท่านดันโซในฐานทับรับวังใต้ดินที่โคโนฮะ ในฐานะองค์รักษ์ของท่านดันโซ ม่ลีพวกนินนจาระดับจูนิน-รากหญ่ามาเป็นลูกน้อง เขามักจะขอร่วมทำภารกิจกับจิไรยะ กับซึนาเดะเพร้อมลูกน้องของทั้ง3คนเสมอๆ โอโรจิ มารุเคยได้ร่วมสู้ในสงครามโลกนินจาครั้งที่3มีท่านซารุโทบิเป็นผู้นำทัพในการรพใหญ่มาครั่งหนึ่ง จากสาเหตุที่ว่า ผู้นำต่างแคว่นใหญ่ทั้ง5ต้องการจะยึดอำนาจของแคว่นใหญ่อื่นๆ ในสะเก็ตสงครามโลกนินจาครั้งที่3ขนาดย่อมๆมาหลายหมื่นครั่ง ตามแคว่นต่างๆ เขารอดตายมาได้จากวิชานินจาลม งูแฝดพลีชีพ หัตถ์อสรพิษพัวพัน มือเงาอสรพิษ หัตถ์อสรพิษประสานเงา 100เงาคลื่นอสรพิษ(พ่นงูออก มามากเท่าภูเขา) อัญเชิญเคียวไดจา มันดะ ประตูราโซมอน (อาจมีถึง3ขั้นก็ได้) เขี้ยวอสรพิษ พันธนาการอสรพิษ จนถูกฮันโซในวัย54ตั้งฉายยาว่า1 ใน 3 นินจาในตำนาน ในขณะที่เขาอายุได้18ปี คือคนเก่งกับอันตรายที่สุด ศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 พร้อมกับซึนาเดะและจิไรยะ โดยเมื่อสมัยที่ยังอยู่ในโคโนฮะ คือนินจาที่มีพรสวรรค์พยายามที่จะเรียนรู้วิชานินจาทุกชนิดที่มี และได้ทดลองวิชาต่างๆ กับร่างกายของนินจาคนอื่น รวมทั้งการผ่าตัดศพ กับตัวเอง เพื่อให้ตนเป็นอมตะ หวังสำเร็จทุกวิชานินจาทั้งหมด แต่เพราะมีความทะเยอทะยานมากไป ทำให้หลายคนในหมู่บ้านแม้แต่รุ่นที่ 3 ก็ไม่พอใจ กับแค้นใจที่ไมได้เป็นโฮคาเงะ รุ่นที่ 4 จึงหันไปจับคนในหมู่บ้านทำวิจับต้องห้ามหนักกว่าเดิม พอรุ่นที่ 3 กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งจับได้ จนงานวิจัยถูกปิดตัวลง ตนคือนินจาถอนตัวหนีคดีที่ก่อ ไปสร้างศูนย์วิจัยลับทุกแคว้นต่างๆตรงแถบชายแดน

ต่อมาได้เข้าร่วมกับกลุ่มแสงอุษา มีปัญหากับอิทาจิ ตนแพ้เสียแขนซ้าย จึงถอนตัว กับไปก่อตั้งแคว้นโอโตะ ย้ายร่างใหม่เป็นผู้หญิง โดยส่งคาบูโตะเป็นสปายในแสงอุษาอีกที ตอนที่พวกนารูโตะเข้าสอบจูนิน ตนกับคาบูโตะแฝงตัวเป็นเกะนินเข้าสอบกับก็ปลูกถ่ายอักขระสาปใส่ซาสึเกะ กับสอดส่องดู หลอกใช้หมู่บ้านซึนะถล่มโคโนฮะ โดยตนฆ่าคาเซะคาเงะรุ่นที่ 4 กับสวมลอย พอเริ่มแผนสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ถึงกับใช้สัมภเวสีคืนชีพเรียกโฮคาเรุ่นที่ 1 กับ 2 มา จนสุดท้านโฮคาเงะรุ่นที่ 3 สละชีวิตตัวเองผนึกโฮคาเงะรุ่น 1 กับ 2 ตนที่รอดตายแต่แขน 2 ข้างถูกสะกดไปด้วย จึงใช้คาถาไม่ได้อีก จึงหนีไป ช่วงพักฟื้นค้นหาซึนาเดะเพื่อให้รักษา แต่ซึนาเดะไม่เอา ตนกับคาบูโตะร่วมมือกันเรียกมันดะมาสู้กับจิไรยะกับซึนาเดะจนแพ้แล้วหนีไปอีก จากนั้นส่ง 5 นินจาคนสนิทไปพาตัวซาสึเกะมากับให้คาบูโตะส่งคิมิมาโร่ไป ส่วนตนไม่มีเวลาเหลือจึงรีบย้ายเพื่อยืดชีวิต พอซาสึเกะมาก็ฝึกให้ กับหาทางคลายผนึกที่แขนไปในตัว

3 ปีต่อมา กับหนีการตามล่าจากทีม 7 โคโนฮะ พอซาสึเกะเห็นว่าตัวเองพร้อมจึงฆ่าตนทิ้ง แท้จริงตนถูกขังในอักขระสาปอยู่ในตัวซาสึเกะ พอซาสึเกะที่ถูกไล่ต้อนตอนสู้ตัดสินกับอิทาจิ ตนยึดร่างซาสึเกะแต่ถูกอิทาจิผนึกไป

ในสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 ถูกซาสึเกะคืนชีพขึ้นมาจากอักขระสาปในตัวอังโกะ ซึ่งตนก็รู้เรื่องสงคราม แต่ไม่สน เพราะตนไม่ได้ก่อ พอกับเห็นความตั้งใจของซาสึเกะที่จะหาคำตอบของแนวคิด จึงดูดจักระของตนในตัวคาบูโตะออกมาเพื่อเพิ่มพลัง กับนำทางทีมเหยี่ยวนำไปที่วัดนอกโคโนฮะเอาหน้ากากยมทูตมากับไปศาลเจ้าของอุจิวะ กับเตรียมการสละชีวิตตัวเองเพื่อคลายผนึก กับให้จูโกะปล่อยจักระใส่ซาสึเกะเรียกโคลนเซ็ตสึ 6 ตัวออกมา กับเอา 4 ตัวมาสังเวยเรียกโฮคาเงะรุ่นที่ 1-4 ส่วนอีก 2 ตัว ตนก็ย้ายร่างสิงตัวนึง อีกตัวให้จูโกะฟื้นตัว พอซาสึเกะถามเรื่องต่างๆที่อยากรู้จากทั้ง 4 เสร็จ คิดไปสงคราม ตนก็เอาด้วย แล้วคารินแหกคุกตามมา โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ถามว่าทำไมตนถึงช่วยซาสึเกะ ตนก็บอกไปว่าตนสนใจถึงแนวคิดที่แตกต่าง ตนก็พาคารินกับซุยเงสึไปรักษา 5 คาเงะ ในปัจจุบัน กับบอกถึงแนวคิดใหม่ของตน เข้าร่วมสงคราม กับนำทีมเหยี่ยวสู้กับโทบิ(เซ็ตสึหน้าม้วน) พอจบสงครามนำทีมเหยี่ยวของซาสึเกะไปที่ศูนย์วิจัยลับที่เหลือกับเป็นมิตรกับโคโนฮะ

คาถา-วิชานินจา[แก้]

นอกจากความสามารถทางด้านนินจา โอโรจิมารุ สามารถย้ายร่างของตัวเองไปอยู่ในร่างของคนอื่นได้ อีกด้วยและยังมีลูกน้อง คือ 1.จิโรโบ 2.คิโดมารุ 3.ฝาแฝดซาคอน (น้อง) อูคอน (พี่) 4.ทายูยะ 5.คิมิมาโร่ 6.คาบูโตะ ความสามารถของจิโรโบคือ คุกดิน พลิกพสุธาและยิงกระสุนยักพสุธา ความสามารถของคิโดมารุคือ ใช้ใยแมงมุม ความสามารถของซาคอนและอูคอนคือ การผสานเซลล์ของตัวเอง กับสิ่งมีชีวิต ความสามารถของทายูยะคือ ใช้เสียงขลุ่ยเป็นอาวุธ ถนัดสายจิตหลอน ความสามารถของคิมิมาโร่คือ สามารถนำกระดูกออกมาช่วยในการต่อสู้ได้ ความสามารถของคาบูโตะคือ วิชาแพทย์ แบบโจมตี (ผีมือพอๆ กับคาคาชิ)

คาถา ต่างๆ[ดาบคุซานางิ (ดาบอสรพิษ)][แก้]

  • คาถางูแฝดพลีชีพ
  • คาถาสัมภเวสีคืนชีพ [อิโด เทนเซย์]
  • คาถาหัตถ์อสรพิษพัวพัน
  • คาถามือเงาอสรพิษ
  • คาถาหัตถ์อสรพิษประสานเงา
  • คาถาร้อยเงาคลื่นอสรพิษ (พ่นงูออกมามากเท่าภูเขา)
  • คาถาย้ายชีพอมตะ
  • คาถาอัญเชิญ (เคียวไดจา มันดะ ประตูราโชมอน (อาจมี3ขั้นก็ได้))
  • คาถาอสรพิษแปดเศียร (ยามาตะโนะโอโรจิ)

คาถา (มันดะ เคียวไดจา)[แก้]

  • เขี้ยวอสรพิษ
  • พันธนาการอสรพิษ

เนื้อเรื่อง[แก้]

โอโรจิมารุได้แอบเข้าหมู่บ้านโคโนฮะในช่วงการสอบจูนิน โดยปลอมตัวมาโดยการลอกหน้าของนินจาหมู่บ้านอื่นใส่ในหน้าของตัวเอง และได้วางแผนให้นินจาจากหมู่บ้านโอโตะ เข้ามาสอบในขณะเดียวกันในฐานะอาจารย์นินจาประจำหมู่บ้านโอะโตะ โดยในระหว่างการสอบรอบที่สองในป่า โอโรจิมารุได้มาโจมตีกลุ่มของนารูโตะ เพื่อต้องการร่างกายของซาสึเกะ ไปเป็นร่างของตัวเอง โดยได้ผนึกอักขระไว้ที่คอของซาสึเกะ และได้หนีไป หลังจากนั้นในระหว่างรอบคัดเลือกเข้าสู่รอบสุดท้าย โอโรจิมารุได้ปรากฏตัวออกมาในฐานะอาจารย์ประจำหมู่บ้านโอะโตะ คอยสังเกตการณ์ ภายหลังรอบคัดเลือกได้จบลง แผนการโจมตีหมู่บ้านโคโนฮะ จากความร่วมมือของหมู่บ้านซึนะและหมู่บ้านโอโตะได้เตรียมอย่างสมบูรณ์ ในวันสอบจูนินรอบสุดท้าย โอโรจิมารุได้สังหารคาเซะคาเงะรุ่นที่ 4 ผู้เป็นพ่อของกาอาระ และได้ปลอมตัวเป็นคาเซะคาเงะ นั่งดูการแข่งขันข้างๆ กับโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เมื่อสัญญาณการโจมตีดังขึ้น โอโรจิมารุได้ต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่ 3 โดยมีนินจาจากหมู่บ้านโอะโตะอีก 4 คน ช่วยกางคาถาม่านพลังไม่ให้คนอื่นเข้ามายุ่งในระหว่างที่โอโรจิมารุสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่ 3 โดยในระหว่างการต่อสู้ โอโรจิมารุได้ใช้ร่างของลูกน้องตัวเองสังเวยเพื่อที่จะใช้คาถาสัมภเวสีคืนชีพร่างของ โฮคาเงะรุ่นที่ 1 และ โฮคาเงะรุ่นที่ 2 มาช่วยต่อสู้ ภายหลังการต่อสู้สิ้นสุดลง โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ไม่สามารถเอาชนะโอโรจิมารุซึ่งเป็นอดีตศิษย์ได้ และได้เสียชีวิตลง พร้อมทั้งผนึกวิชานินจาจากแขนทั้งสองข้างของโอโรจิมารุ ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้วิชานินจากับแขนได้อีกต่อไป

การต่อสู้สิ้นสุดลงโอโรจิมารุ ได้ตัดสินใจออกตามหาซึนาเดะ นินจาแพทย์อดีตเพื่อนร่วมทีมเพื่อให้มาช่วยรักษามือทั้งสองข้าง ซึ่งสภาพของโอโรจิมารุก็อ่อนแรงลงอย่างหนัก โดยได้ตกลงกับซึนาเดะว่า ถ้ารักษามือทั้งสองข้างให้ จะช่วยปลุกร่างของนาวากิ น้องชาย และดันอดีตแฟนของซึนาเดะ ที่ทั้งสองคนเสียชีวิตในช่วงของสงครามนินจาคืนมา แต่ซึนาเดะใช้เวลาตัดสินใจ 1 อาทิตย์และได้ปฏิเสธข้อเสนอของโอโรจิมารุ และได้ประกาศจะล้างแค้นให้ทุกคนในหมู่บ้านโคโนฮะ โดยทั้งสองคน รวมทั้ง จิไรยะ ได้เกิดการต่อสู้กัน แล้วโอโรจิมารุกับคบุโตะก็ได้หนีไป

สุดท้ายโอโรจิมารุได้ตัดใจและได้เปลี่ยนวิญญาณของตัวเองไปอยู่ในร่างของนินจาคนอื่นเพื่อให้หายจากผนึกของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ในขณะเดียวกันก็รอการเปลี่ยนวิญญาณไปอยู่ในร่างของซาสึเกะ ที่หนีมาจากหมู่บ้านโคโนฮะ และ นารุโตะก็ได้ต่อสู้กับซาสึเกะ โดยที่นารุโตะไม่ยอมให้ซาสึเกะไปจึงต่อสู้เพื่อห้ามไว้ ถัดมา ฃนารุโตะได้สู้กับซาสึเกะ ตัวเองสลบไป แล้วซาสึเกะจึงไปที่หมู่บ้านโอะโตะ เพื่อให้โอโรจิมารุสอนวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองหรือให้ตัวเองเก่งขึ้น แต่ซาสึเกะมาช้า ทางโอโรจิมารุรอไม่ไหวจึงย้ายร่างไปที่หนูทดลองคนสุดทท้ายในรังของตนแทน พอซาสึเกะมาก็รับมาฝึกวิชา

ผ่านไป 2 ปีครึ่ง ทีมนารุโตะที่ได้รับคำสั่งให้มาพบกับสายลับของซาโซริ ซึ่งก็คือ ยาคุชิ คาบุโตะ แต่คาบุโตะที่ร่วมมือกับโอโรจิมารุก่อนแล้ว ได้ร่วมมือกับโอโรจิมารุต่อสู้กับทีมของนารุโตะ ทำให้นารุโตะแสดงพลังจิ้งจอกเก้าหางออกมาถึง 4 หาง แล้วโอโรจิมารุก็หนีไปพร้อมกับคาบูโตะ

หลังจากนั้นเริ่มถึงเวลาเปลี่ยนวิญญาณไปอยู่ในร่างของซาสึเกะ แต่โดนซาสึเกะกำจัดไปและไปอยู่ในอักขระสาปของซาสึเกะ แล้วออกมาในตอนที่สู้กับอิทาจิโดนอิทาจิใช้ดาบโทซึกะแทงเข้าทำให้ถูกผนึกเข้าไปในโลกแห่งคาถาลวงตานิรันดร์ แต่ก็มีงูขาวที่เป็นส่วนสุดท้ายของโอโรจิมารุหนีออกมาจากตัวซาสึเกะได้ตัวหนึ่ง ขณะหนีถูกเศษไฟของเทวีสุริยาเผาทำลายไป ในสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 หลังจากที่อิทาจิใช้อิซานามิกับคาบูโตะหยุดคาถาสัมปเวสีคืนชีพ ซาสึเกะได้ใช้ไคจาโฮอินเพื่อเรียกโอโรจิมารุออกมาจากตัวอังโกะ ทำให้อักขระสาปในตัวอังโกะหายไป โดยโอโรจิมารุไม่สนใจในสงคราม กับถูกใจเป้าหมายของซาสึเกะ และเอาจักระของตัวเองออกจากคาบูโตะ แล้วนำทางพวกซาสึเกะ ที่มีจูโกะกับซุยเงสึไปเอาหน้ากากของยมทูต ที่วัดของตระกูลอุซึมากิ จากนอกโคโนฮะแล้วไปที่ห้องใต้ดินของศาลเจ้านาคาโนะของอุจิวะ เพื่อทำพิธีให้ยมทูตสิงร่างโอโรจิมารุสลายคาถาสะกดปิดผนึกซากอสูร เพื่อที่จะนำแขนกลับมา ได้ใช้คาถาสัมปเวสีคืนชีพเพื่อเรียกโฮคาเงะรุ่นที่ 1 ถึง 4 ออกมาโดยใช้เซ็ตซึสีขาวที่ออกมาจากตัวของซาสึเกะถึง 6 ตัว โดยใช้ 4 ตัวสังเวย แล้วย้ายร่างเข้าไปในซ็ตซึสีขาว 1 ใน 2 ตัวที่เหลือ ส่วนตัวสุดท้ายถูกจูโกะดูดจักระเพื่อฟื้นตัว แล้วโฮคาเงะบอกคำตอบที่ซาสึเกะต้องการ จนซาสึเกะตัดสินใจจะเข้าร่วมสงครามเพื่อปกป้องสิ่งที่อิทาจิปกป้องไว้ โอโรจิมารุที่คลายการควบคุมสัมภเวสีคืนชีพ โฮคาเงะทั้ง4 จูโกะ ซุยเงสึ และคารินที่ออกมาจากโคโนฮะเพื่อมาหาซาสึเกะ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ถามว่าทำไมถึงช่วยซาสึเกะ โอโรจิมารุตอบว่าตอนที่อยู่ในตัวของคาบูโตะได้รู้บางอย่างว่าสิ่งที่คาบูโตะทำไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบแต่แล้วล้มเหลว แต่ตอนนี้สนใจซาสึเกะที่ตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ต่างออกไป ซึ่งไม่เหมือนคาบูโตะที่ไม่ยอมเลียนแบบตน ทั้งหมดเหิญไปด้วยคาถาของโทบิรามะเข้าร่วมสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 ในสงครามได้นำพาคารินกับซุยเงสึไปหาพวกคาเงะเพื่อรักษา เพราะบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับอุจิวะ มาดาระ พร้อมกับบอกเหตุผลที่ช่วยซาสึเกะเพราะตนต้องการู้ว่าซาสึเกะจะเลือกทางแบบไหนต่อไป แล้วก็พาไปร่วมสงคราม พอสิบหางออกมาจากตัวโอบิโตะได้สำเร็จ โอโรจิมารุก็นำทีมเหยี่ยวไปสู้กับเซ็ตสึโทบิ จัดการจนเซ็ตสึโทบิเสียท่า แล้วพาไปหาซาสึเกะที่ใกล้ตายกับเพื่อไปหาดูว่าใครเป็นอยู่ข้างๆ ผลออกมาคือคาบุโตะช่วยรักษาซาสึเกะ พอซาสึเกะฟื้นไปสู้ จนมีแต่ทีมคาคาชิเท่านั้นที่รอดจากจันทรานิรันดร์ แตทุกคนทั้งโลกโดนหมด พอถูกนารุโตะกับซาสึเกะคลายจันทรานิรันดร์ จนทุกคนทั้งโลกรอดพ้นวิกฤตจนจบสงคราม พอหลังจากนั้นโอโรจิมารุนำทีมเหยี่ยวของซาสึเกะไปศูนย์วิจัยเพื่อสร้างศูนวิจัยทำการค้นคว้าโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครอีก ทางซาสึเกะกลับโคโนฮะแล้วออกเดินทาง ส่วนคาบุโตะที่เป็นมือขวาออกจากกลุ่มไปทำงานที่สถานกำพร้าที่เคยอยู่กับโดนโทษที่นั่น ทางโอโรจิมารุทำการค้นคว้าวิจัยไปหลายปีปัจจุบันมีลูกชายชื่อ มิสึกิ โดยสร้างมา 2 คน คนแรกสร้างมาโดยเพื่อดูทางเลือให้มิสึกิเลือกทางเลือกที่แตกต่างแต่ล้มเหลว จึงให้มิสึกิคนแรกเปลี่ยนชื่อเป็น ลอค กับ สร้างคนที่ 2 ขึ้นมา กับทำการทดสอบไป 6 ครั้งล้มเหลว โดยทุกครั้งให้กินยาลบความทรงจำ พอครั้งที่ 7 ก็ทำอีกครั้งผลอกมาแตกต่างกับมิสึกิใช้โหมดเซียนเหมือนจูโกะได้ กับปล่อยให้หนีไป กับมอบความหวังให้คือให้ไปโคโนะอเจอข้อมูลโบรูโตะที่โอโรจิมารุ เพราะจงใจให้มิสึกิมีเพื่อน อยู่โคโนะฮะพอเรียนจบเป็นเกะนินในทีมโคโนฮะมารุ ทางโอโรจิมารุก็ทำการวิจัยต่อ พอซาสึเกะกับนารูโตะมาทำคดีเรื่องชินกับแสงอุษา จึงบอกข้อมูลให้กับตนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก

ฉายา[แก้]

  • หนึ่งในสามนินในตำนาน
  • จงสะบั้นลื้น โอโรจิมารุ
  • ดาบ จงชี้ทาง คุซานางิ

เกร็ดข้อมูล[แก้]

ในอดีตตอนสงครามนิจาครั้งที่ 3 จิไรยะ ซึนาเดะ โอโรจิมารุ ได้ไปที่หมู่บ้านอาเมะงาคุเระเพื่อจะไปยุติสงครามภายในแคว้น แต่ทว่าได้ต่อสู้กับฮันโซ แต่ก็ไม่สามารถฆ่าซาลามานเดอร์ฮันโซได้

ฮันโซมีฉายาว่า ซาลามานเดอร์ ฮันโซ ซึ่งในแวดวงนินจาไม่มีใครไม่รู้จักเค้าเนื่องจากเค้าเก่งกาจแต่สุดท้าย ฮันโซก็ถูกเพนฆ่าตายทั้งคนในตระกูล และผู้ที่เคยติดต่อด้วยทั้งหมดโอจิมารุ