อุซึมากิ นารูโตะ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก อุซึมากิ นารุโตะ)
อุซึมากิ นารูโตะ
ตัวละครใน นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ
ปรากฏครั้งแรกนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ บทที่ 1 อุซึมากิ นารุโตะ!! (2542)
สร้างโดยมาซาชิ คิชิโมโตะ
ให้เสียงโดยญี่ปุ่น
Junko Takeuchi
ไทย
ฉันทนา ธาราจันทร์ (Rose)
สังวาลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา (Cartoon Club, Mono29)
อังกฤษ
Maile Flanagan (สื่อส่วนใหญ่)
Kathryn Feller (นารูโตะร๊อคลี กับก๊วนนินจาสุดป่วน)
ข้อมูล
ญาตินามิคาเสะ มินาโตะ (พ่อ)
อุซึมากิ คุชินะ (แม่)
จิไรยะ (อาจารย์)
ฮิวงะ ฮินาตะ (ภรรยา)
อุซึมากิ โบรูโตะ (ลูกชาย)
อุซึมากิ ฮิมาวาริ (ลูกสาว)
คาวากิ (ลูกชายบุญธรรม)
ชั้นภาค 1 และ ภาค 2: เกะนิน
โบรูโตะ: คาเงะ
ทีมทีม 7/ทีมคาคาชิ

อุซึมากิ นารูโตะ (ญี่ปุ่น: うずまき ナルト; อังกฤษ: Uzumaki Naruto) เป็นตัวละครการ์ตูนจากเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ มีบทบาทเป็นตัวเอกของเรื่อง ซึ่งชื่อนารูโตะนี้ ก็ได้นำมาเป็นชื่อของการ์ตูนอีกด้วย (ในภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ)

ชื่อของตัวละคร:อุซึมากิ นารูโตะ[แก้]

นารูโตะ มีความหมายได้สองอย่างคือ น้ำวน หรือ คะมะโบะโกะ (ลูกชิ้นปลาชนิดหนึ่งที่มีสีขาวและชมพูโดยมีลวดลายเป็นวงตรงกลาง) นิยมใส่ในราเม็ง ซึ่งเป็นอาหารโปรดของนารูโตะ ที่มาของชื่อนารูโตะและนารูโตะอายุ 12 ปีได้มาจากการที่พ่อของนารูโตะ (มินาโตะหรือท่านรุ่นที่ 4) ได้อ่านนิยายของจิไรยะ (เซียนลามก) ซึ่งนิยายในเรื่องมีตัวละครเอกที่มีความกล้าหาญอดทนที่ชื่อนารูโตะ ดังนั้นพ่อของนารูโตะจึงได้ตั้งชื่อลูกตนเองตามตัวละครนั่นเอง ซึ่งจิไรยะเองก็ได้ชื่อ "นารูโตะ" ในนิยายมาจากการกินราเมง[ต้องการอ้างอิง]

ประวัติ[แก้]

ภาคแรก

แม่คืออุซึมากิ คุชินะ (พลังสถิตย์ร่าง 9 หางคนที่ 2) คุโนอิจิ แคว้นอุซึชิโอะ (แคว้นสายน้ำวน-เก่งวิชาผนึกมาก) ถูกส่งมาอยู่ที่โคโนฮะตั้งแต่เด็ก ตระกูล อุซึมากิ มีความสัมพันธ์ คือญาติห่างๆของตระกูลเซ็นจู ส่วนพ่อของเขาคือ โฮคาเงะรุ่นที่ 4 หรือ นามิคาเสะ มินาโตะในวันที่เขาเกิด โทบิ(อุวจิวะ โอบิโตะ)จับตนเป็นตัวประกัน เพื่อลักพาตัวคุชินะ ปล่อย 9 หางบุกหมู่บ้าน แต่พ่อแม่สละชีวิตตัวเองผนึก 9 หาง ไปในตัวเขา โฮคาเงะ รุ่นที่ 3 กับนินจาระดับสูง ทั้งคนที่เกี่ยวข้องกับพวกมินาโตะ ปกปิดฐานะของตน เกรงว่าจะมีภัย ทำให้โตมาถูกคนในหมู่บ้านรังเกียจ กับเข้าเรียนนินจา เล่นพิเรนสารพัด สอบตกนับไม่ถ้วน อิรุกะ ครูประจำชั้น เอ็นดูเหมือนน้องชาย

ตอนอายุ 12 ปี ก่อเรื่องวาดเขียนบนรูปสลัก กับสอบเกะนินตก ก็ถูกมิซึกิล่อให้ปล้นคัมภีร์นินจาลับของรุ่นที่ 1 ในบ้านรุ่นที่ 3 กับคือแพะรับบาป ตนแอบอ่านฝึกคาถาแรกจนสำเร็จ บอกอิรุกะเรื่องมิซึกิ พอได้ฟังเรื่องตนคือพลังสถิตร่างของ 9 หาง ก็ถูกอิรุกะเตือนสติ ตนจึงใช้คาถาแยกเงาพันร่างจัดการมิซึกิลงง่ายๆ อิรุกะเห็นว่าใช้คาถาได้ จึงให้สอบผ่าน

ซึ่งได้ร่วมทีม กับซาสึเกะ,ซากุระ อยู่ทีม 7 คาคาชิคือครูหัวหน้าทีม ร่วมทำภารกิจด้วยกัน คุ้มครองคนสร้างสะพาน สู้กับนินจาถอนตัวจากคิริ คือซาบุสะ 1 ใน 7 กับฮาคุ พอทั้ง 2 หนีไป ทีม 7 จึงฝึกเดินไต่กำแพงต้นไม้ ซึ่งฝึกเพื่อควบคุมจักระ ซากุระซึ่งควบคุมจักระได้ดีที่สุดจึงทำได้เป็นคนแรก พอฝึกเสร็จไปสู้กับทั้งคู่อีกทีชนะ กับเตือนสติทั้งคู่ พอภารกิจสำเร็จ กับไล่พวกกาโต้ไป

เข้าร่วมสอบจูนิน สอบรอบแรก คือสอบข้อเขียน ตนพูดเตือนสติผู้เข้าสอบ กับส่งกระดาษเปล่าไป จนสอบผ่าน รอบสอง เข้าโซนอันตรายชิงคัมภีร์คู่แข่ง กับเอาชีวิตรอด ใน 5 วัน เข้าสนามสอบ ถูกโอโรจิมารุที่แฝงตัวมาผนึกเพิ่ม จึงใช้จักระ 9 หางไม่ได้ รอบ 3 สู้ชนะคิบะ ช่วงพักก่อนรอบตัดสิน คาคาชิให้เอบิสึช่วยฝึกเดินบนน้ำ แต่เอบิสึถูกจิไรยะทำร้าย ตนขอร้องให้จิไรยะมาฝึกแทน กับฝึกใช้จักระ 9 หางเรียกสัตว์อัญเชิญ แต่ไม่คืบหน้า จึงถูกจิไรยะผักตกเหวจนใช้จักระ 9 หาง อัญเชิญกามะบุนตะจ้าวแห่งกบมาได้ บุนตะที่ตอนแรกไม่เชื่อ พอเห็นชื่อในคัมภีร์ทำสัญญา จึงพาไปส่งโรงพยาบาล ในรอบตัดสิน สู้ชนะเนจิ แต่การสอบต้องยุติลง เพราะนินจาซึนะบุกมา จึงร่วมทีมกับซากุระ ชิกามารุพาตัวซาสึเกะที่ไล่ตามกาอาระกลับมา ชิกามารุเป็นนกต่อล่อนินจาโอโตะตนเข้าใจความรูสึกของกาอาระจึงสู้กันจนชนะ กับบอกลา

จากนั้นร่วมเดินทางกับจิไรยะตามหาซึนาเดะ ถูกแสงอุษาที่มีอิทาจิพี่ชายของซาสึเกะไล่ล่า ซาสึเกะตามมา สู้แพ้ง่ายๆ จิไรยะกลับมาช่วย จนอิทาจิกับคิซาเมะหนีไป ตนรับฝึกกระสุนวงจักร กับตามหาซึนาเดะจนพบ แต่ซึนาเดะไม่ยอมกลับ จึงสู้โอโรจิมารุกับคาบูโตะ จิไรยะเรียกบุนตะไม่ได้ เพราะถูกยาของซึนาเดะ ตนก็หมดแรง จึงสู้กับคาบูโตะจนใช้กระสุนวงจักรสำเร็จแต่สลบไป 3 นินจาในตำนานสู้กันผลคือโอโรจิมารุแพ้กับหนีไป พอตนหายดีก็กลับโคโนฮะ ซึนาเดะเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ 5 กับรักษาทุกคน ทางซาสึเกะที่เจ็บใจจึงสู้กับนารูโตะจนคาคาชิห้ามไว้ทัน วันต่อมาซาสึเกะกับนินจาโอโตะเดินทางไปหมู่บ้านโอโตะ ตน เนจิ คิบะ โจจิทั้ง 4 เข้าทีมของชิกามารุเพื่อพาซาซึเกะกลับมา โดยลีตามไป กับนินจาซึนะที่ตามมาช่วย ตนจึงสู้กับซาสึเกะที่หุบผาสิ้นสุดจนแพ้ ซาสึเกะก็ไปต่อ

พอฟื้นจิไรยะบอกว่าอีก 3 ปี แสงอุษาจะกลับมา ตนจึงออกจากหมู่บ้านไปฝึกฝน

ภาค 2

เวลาผ่านไป 2 ปีครึ่ง ตอนกลับมา รับภารกิจไปหมู่บ้านซึนะ ช่วยกาอาระ(คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 5) จากแสงอุษา แต่กาอาระก็ตาย ย่าโจสละชีวิตตัวเองย้ายชีวิตคืนชีพกาอาระ แต่คาคาชิเจ็บหนักจึงพักฟื้น ตนกับซากุระ ร่วมทีมซาอิกับยามาโตะ ไปหาสปายของซาโซริเพื่อหาเบาะแสซาสึเกะ กัดกับซาอิตลอด แต่ก็เตือนสติ กับพบซาสึกเกะที่ปฏิเสธกับจากไป

ตนรับฝึกวิชาแปลงคุณสมบัติธาตุกับเพิ่งรู้วิธีใช้คาถาแยกเงาลดเวลาฝึก จึงรวมทีม 7 กับ ทีม 10 ทำภารกิจจัดการแสงอุษา ฮิดันกับคาคุสึจนสำเร็จ แต่ตนบาดเจ็บจนแขกหัก เพราะคาถาอันตรายเกินไปจึงพักฟื้น

พอหายดีได้รับรายงานว่าซาสึเกะฆ่าโอโรจิมารุสร้างทีมฆ่าอิทาจิ ทีม 7 กับ 8 ออกตามหาซาสึเกะ พบกับอิทาจิที่มาเตือนเกี่ยวกับซาสึเกะกับมอบของบางอย่างให้ พวกตนถูกโทบิถ่วงเวลา พอรู้ว่าซาสึเกะฆ่าอิทาจิ ก็ยุติภารกิจกลับหมู่บ้าน

พอได้รับรายงานว่าจิไรยะตาย ก็เสียใจ จึงไปฝึกวิชาเซียนที่หุบเขาเบียโบคุ พอเพนหัวหน้าแสงอุษามาบุกโคโนฮะ ตนกลับมาสู้ เพน 6 คน ชนะ 5 คน จนเผลอใช้พลังของ 9 หางจนคลุ้มคลั่ง จึงได้คุยกับโฮคาเงะรุ่นที่ 4 จนได้รู้ว่าเป็นพ่อลูกกัน กับได้รู้ความจริงว่าโทบิคือตัวการ ถูกซ่อมผนึก จึงสู้ชนะเพน จากนั้นไปหาตัวจริงจึงได้คุยกัน ตนได้ฟังอดีตนางาโตะที่ดันโซคือต้นเหตุ ตนจึงเตือนสติ จนนางาโตะคืนชีพนินจาโคโนฮะทุกคน ตนคือวีรบุรุษของโคโนฮะ กับเรื่องตนคือลูกของโฮคาเงะรุ่นที่ 4 ถูกเปิดเผยต่อสื่อ

ช่วงใกล้งานประชุม 5 คาเงะ ตน คาคาชิ ยามาโตะ ทั้ง 3 ไปหาไรคาเงะขอร้องไม่ให้ฆ่าซาสึเกะแต่ล้มเหลว ช่วงก่อนกลับหมู่บ้าน โทบิมาแฉอิทาจิ กับบอกเรื่องมรดกของเซียน 6 วิถี ก่อนจากไป ซากุระ พา คิบะ ซาอิ ลี มาหาเพื่อบอกชอบตน ตนไม่เชื่อ ซาอิจึงส่งร่างแยกมาบอกว่าทำภารกิจฆ่าซาสึเกะ ตนจึงแกล้งสลบ แอบตามคาคาชิที่คิดไปห้ามซากุระ พอทีม 7 รวมตัว จึงคุยกันกับเตือนสติ แต่ซาสึเกะไม่สน จึงกลับหมู่บ้านพาคารินไปสอบปากคำ

ตนถูกพาตัวไปนอกหมู่บ้านเพื่อฝึกกับคิลเลอร์บีเพื่อควบคุม 9 หาง ตอนแรกชนะด้านชั่วร้ายของตัวเอง กับสู้ 9 หางในตัว ชิงจักระมาจนถูกคุชินะเตือนสติ จนรู้ว่าเป็นแม่ จึงคุยกันเรื่องอดีตการพบเจอของพ่อแม่ กับอดีตตอนเกิดของตน จึงบอกลา ตนลองใช้จักระครั้งแรกก็สัมผัสได้ว่าคิซาเมะอยู่ในนี้ คิซาเมะคิดหนีก็ถูกไกจัดการ คิซาเมะฆ่าตัวตายเพื่อปกปิดข้อมูลแสงอุษา กับนำข้อมูลพันธมิตรไปให้โทบิสำเร็จ

ตนฝึกควบคุมสมดุลได้ กับแปลงร่างเป็นสัตว์หางกับใช้กระสุนพลังสัตว์หาง แต่ไม่คืบหน้า แต่ก็ประยุกษ์ท่าต่างๆ ได้ฟังถึงความเสี่ยงของโหมดสัตว์หาง

พอสงครามผ่านไป 1 วัน ตนก็สงสัยข้างนอก จนรู้เรื่องสงคราม ตนกับบีจึงเข้าร่วมสงคราม ซึนาเดะกับเอ(ไรคาเงะ) มาลองใจกับยอมให้ทั้ง 2 ไป ตนส่งร่างแยกเงาไปทุกสนามรบเพื่อจัดการกองทัพเซ็ตสึสีขาวที่แฝงตัวเป็นนินจา กับสู้เหล่าศพนินจา โดยตัวจริงร่วมมือกับบีสู้กับอิทาจิกับนางาโตะถามเรื่องอิทาจิกับบอกเรื่องซาสึเกะ อิทาจิยืนยันความจริง โดยอิทาจิคลายการควบคุมเพราะใส่เนตรชิซุยไว้ในอีกากับซ่อนไว้กับตน ทั้ง 3 ร่วมมือจัดการกับผนึกนางาโตะลงได้ ตนถูกอิทาจิเตือนสติถึงการเป็นโฮคาเงะกับบอกลา เพื่อขอตัวไปหาคาบูโตะให้คลายคาถา เพราะอิทาจิเหมาะกับหน้าที่นี้มากที่สุด

พอร่างแยกสู้กับมาดาระตัวจริงที่เป็นศพ จน 5 คาเงะปัจจุบันก็อาสาจะสู้เอง ตัวจริงพอรู้ก็ร่วมมือกับบีสู้กับโทบิทีมีศพพลังสถิตร่าง โดยคาคาชิกับไกมาสมทบจนจัดการ 6 พลังสถิตร่างลงได้ ได้รู้ว่าสัตว์หางมีชื่อกับได้จักระบางส่วนของสัตว์หางมา กับได้คุยกับ 9 หางได้รู้ว่า 9 หางมีชื่อว่าคุรามะ กับจนเข้าใจกัน จึงสู้กับโทบิที่เรียกเทวรูปมารนอกรีตมา

พอตกค่ำ อิทาจิคลายคาถาได้ โทบิได้คืนชีพ 10 หาง ทั้ง 4 ร่วมมือกันทำลายหน้ากากจนรู้ว่าโทบิคือโอบิโตะ มาดาระได้ปรากฏตัวขึ้น ทางพันธมิตรนินจาก็ตามมาสมทบ จึงเกิดการต่อสู้กัน หน่วยข่าวกรองของพันธมิตรเสียชีวิต ตนเห็นเนจิตาย กับถูกฮินาตะเตือนสติ ตนจึงใช้วิธีส่งผ่านจักระผ่านการสัมผัสจนชำนาญเพื่อเพิ่มพลังให้พันธมิตร ทางซาสึเกะ ที่นำจูโกะ กับ 4 โฮคาเงะมาช่วยร่วมมือกันไล่ต้อน 10 หาง โอบิโตะที่แพ้คาคาชิจึงเป็นพลังสถิตร่างของ 10 หาง ตนกับซาสึเกะร่วมมือกัน สู้จนชนะ ดึงสัตว์หางออกมาได้ แต่มาดาระก็คืนชีพ สัตว์หางถูกชิงไป กับตนถูกดึงคุรามะออกจากร่าง จนใกล้ตาย แต่โอบิโตะที่ถูกเซ็ตสึสีดำที่มีครึ่งของคุรามะสิง ได้ชิงจักระบางส่วน 1 กับ 8 หาง จากมาดาระ มอบให้ตน

ตนที่รอดตายได้พูดคุยกับเซียน 6 วิถี ผ่านจิตใต้สำนึก จึงได้รับพลังหยางมา จึงได้ร่วมมือกับซาสึเกะ ที่มีพลังหยิน ซึ่งทั้งคู่ ไล่ต้อนมาดาระ พอคางูยะคืนชีพ ทั้งคู่ได้ฟังอดีตของคางูยะจากเซ็ตสึสีดำ ทีม 7 ร่วมมือกันผนึกคางูยะสำเร็จ กับผนึกเซ็ตสึสีดำไปด้วย ถูกเซียน 6 วิถีที่เรียกวิญญาณเหล่าอดีตคาเงะใช้คาถาอัญเชิญมนุษย์เรียกทีม 7 กลับมา ตนบอกลากับพ่ออีกครั้ง

พอทราบว่าซาสึเกะคิดฆ่า 5 คาเงะปัจจุบัน เพื่อก่อรัฐประหาร ตนจึงล่อไปที่หุบผาสิ้นสุด สู้กันอีกครั้ง เพื่อท้าชิงตำแหน่งโฮคาเงะ ผลคือเสมอ แขนข้างถนัดของทั้งคู่ถูกทำลาย(นารูโตะแขนขวา และ ซาสึเกะแขนซ้าย) ตนเตือนสติจนซาสึเกะยอมรับกับขอยอมแพ้ แพ้ ซากุระจึงมารักษาทั้งคู่ จากนั้นจึงประสานอิน”ชวด”เพื่อคลายคาถาอ่านจันทราไร้ขอบเขต หลังจากสิ้นสุดสงคราม ตนได้บอกลาซาสึเกะที่ออกเดินทางเพื่อชดใช้ความผิด และปกป้องหมู่บ้านในเงามืด ส่วนตนถูกเลื่อนขั้นเป็นจูนิน ถูกซึนาเดะรักษาปลูกถ่ายเซลล์ของฮาชิรามะสร้างแขนเทียม หลายเดือนต่อมานารูโตะเลื่อนขั้นเป็นโจนินตามลำดับโดยไม่ต้องสอบจูนิน

หลายปีผ่านไป ได้รักกับฮินาตะ จนได้แต่งงาน มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ โบรูโตะ กับ ฮิมาวาริ ไม่กี่ปีต่อมา เลื่อนขั้นเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ 7 ต่อจาก ฮาตาเกะ คาคาชิ

หลังจากอนิเมะ Naruto The Last Movie เป็นต้นนารูโตะได้แต่วุ่นวายกับงานโฮคาเงะ ถึงกับต้องส่งร่างแยกเงาไปช่วยงานในหมู่บ้านก็มี ซึ่งไม่ค่อยมีเวลากลับบ้านมาดูแลลูก แตกต่างจาก นินจาคนอื่นๆในหมู่บ้าน(ยกเว้นซาสึเกะ) นารูโตะรักฮินาตะพอๆกับที่ตนเคยชอบซากุระและไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันเลย ซึ่งฮินาตะก็เข้าใจและอยู่ข้างนารูโตะตลอดมา นารูโตะเคยบอกกับลูกชายคนโตของเขา อุซึมากิ โบรูโตะ ว่าพ่อเป็นโฮคาเงะที่ต้องดูแลทุกคนในหมู่บ้านพ่อจึงไม่สามารถเป็นพ่อให้กับลูกคนเดียวได้ จึงทำให้โบรูโตะทำตัวเหมือนนารูโตะสมัยเด็ก เรียกร้องความสนใจจากผู้คนรอบข้าง ขาดความรักความอบอุ่นจากผู้เป็นพ่อ แต่ได้ซาสึเกะช่วยให้โบรูโตะเข้าใจในตัวพ่อของเขามากขึ้น

จักระจิ้งจอกเก้าหางโดยย่อ[แก้]

จักระจิ้งจอกเก้าหางเป็นจักระสีแดงด้านชั่วร้ายของนารูโตะที่อยู่ในตัวมีพลังมหาศาลถูกใช้ครั้งแรกตอนสู้กับฮาคุที่แคว้นฮาโนะคุนิและครั้งที่สองตอนสู้กับโอโรจิมารุในป่ามรณะตอนสอบจูนินรอบสอง แต่ก็ถูกโอโรจิมารุปิดผนึกเอาไว้ แต่พอหลังสอบจูนินจิไรยะก็คล้ายสะกดนั้นให้และเป็นอีกครั้งที่ใช้จักระจิ้งจอกเก้าหางตอนที่นารูโตะกำลังอยู่ในสถานะอันตราย ซึ่งจักระจิ้งจอกเก้าหางมีมากมายมหาศาลที่สุดในบรรดาทั้งเก้าหาง เวลาที่นารูโตะใช้นั้นจะมีจักระสีแดงออกมาจากร่างกายอย่างมากซึ่งยิ่งเอาออกมาใช้มากเท่ากับว่าจะปลดปล่อยจิ้งจอกเก้าหางออกมาและทำให้ผู้ที่ถูกผนึกกลายเป็นจิ้งจอกเก้าหาง ซึ่งสามารถทราบได้ว่าคือหางที่ปลดปล่อยออกมา

ก่อนปลดปล่อยหางออกมามีพลังมากซึ่งนารูโตะมักจะใช้เท่านี้ 1 หาง ตอนสู้กับซาสึเกะในร่างอักขระสำหรับนารูโตะยังพอควบคุม 2-4 หาง ในช่วงสองนารูโตะเริ่มกลายสภาพและเป็นร่างสามและสี่หางทำให้สูญเสียการควบคุมทุกด้านพลังทำร้ายมหาศาลอย่างมาก ในตอนที่ปะทะกับเพน ได้เปลื่ยนร่างจนกลายเป็น 6 หางเพราะ ฮินาตะเข้าไปช่วยและโดนทำร้ายต่อหน้าต่อตา ร่าง 6 หางนั้น จะคล้ายๆ 4 หาง แต่จะมีโครงกระดูกเพิ่มเข้ามา มีพลังมหาศาลมาก ร่าง 8 หางจะมีกล้ามเนื้อ ส่วน 9 หางจะสมบูรณ์และเท่ในแบบของนารูโตะ แต่ร่างสูงสุด คือ จักระของเซียนหกวิถีรวมกับโหมดสัตว์หาง โดยเมื่อเปิดใช้โหมดคุรามะ คุรามะจะมี 3 หัว 6 แขน โดยจะเป็นร่างที่ทรงพลังที่สุด

ในโหมดจักระเก้าหางนั้นในร่างนี้นารูโตะจะมีพลังและความเร็วเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากแต่กินจักระเป็นอย่างมากทำให้ใช้ได้ไม่นานมากแต่หลังจากได้คุรามะมาเป็นพรรคพวกทำให้กลายเป็นโหมดสัตว์หาง โดยสามารถใช้พลังของสัตว์หางได้สมบูรณ์แบบและสามารถใช้พลังของสัตว์หางได้ 100% โดยที่ไม่มีผลเสียใดๆ เหมือนกับโหมดจักระเก้าหางที่ใช้พลังของเก้าหางแค่บางส่วน

พลังแห่งเซียน[แก้]

เนื่องจากนารูโตะนั้นเป็นคนที่ตรงกับคุณสมบัติในการฝึกฝนพลังแห่งเซียน ทำให้เขาสามารถเรียนรู้การเข้าถึง "โหมดเซียน" เพื่อใช้วิชาเซียนได้อย่างสมบูรณ์กว่านินจารุ่นก่อน ๆ ทั้งจิไรยะ หรือแม้แต่มินาโตะผู้เป็นพ่อเองก็ตาม

โดยหลักการของพลังเซียนหรือวิชาเซียน(เซ็นจุทสึ) นั้นคือการดึงพลังงานจากธรรมชาติที่ไหลเวียนอยู่ทุกหนทุกแห่งในโลก มาหลอมรวมเข้ากับพลังทางจิตกับพลังทางกาย ที่ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของจักระ ซึ่งเมื่อสามารถควบคุมสมดุลของพลังทั้ง 3 (พลังงานจิต พลังงานกายภาพ และพลังงานธรรมชาติ) ได้แล้วจะเกิดเป็นจักระรูปแบบใหม่ที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิมขึ้นมาซึ่งเรียกว่าจักระวิชาเซียน ที่จะเสริมประสิทธิภาพในการใช้วิชาต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น และทำให้ร่างกายมีประสาทสัมผัส การฟื้นฟู รวมทั้งปฏิกิริยาตอบสนองดีเยี่ยม เนื่องจากมีพลังจากภายนอกช่วยเสริม

การประยุกต์พลังแห่งเซียนกับพลังแห่งสัตว์หาง[แก้]

ในช่วงเวลาที่นารูโตะได้ทำการต่อสู้กับโอบิโตะที่อยู่ในสถานะของพลังสถิตร่างสิบหางซึ่งเป็นตัวตนของพลังงานธรรมชาติอันมหาศาล คุรามะได้แนะนำนารูโตะให้ใช้โหมดจักระของตนควบคู่กับโหมดเซียน ที่จะทำให้สามารถต่อสู้กับโอบิโตะ และสร้างความเสียหายให้กับ "ลูกแก้วแสวงสัจธรรม" ที่สร้างมาจากวิชาเซียนหกวิถีของโอบิโตะ ซึ่งจะมีความสามารถในการหักล้างวิชานินจาทุกชนิดยกเว้นเพียงแต่วิชาเซียนที่หากทรงพลังมากพอก็อาจสร้างความเสียหายได้โดยไม่ถูกหักล้าง

ซึ่งเมื่อนารูโตะอยู่ในโหมดจักระคุรามะในรูปแบบที่สมบูรณ์ เขาสามารถที่จะดูดซับพลังงานธรรมชาติในการใช้โหมดเซียนได้เร็วยิ่งขึ้น และทำให้วิชาเซียนมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อเอามาผสานกับจักระอันมหาศาลของคุรามะ

พลังแห่งเซียนหกวิถี[แก้]

เนื่องจากนารูโตะเป็นร่างเกิดใหม่ของโอซึซึกิ อาชูร่า ผู้ที่มีพลังทางร่างกายแห่งเซียนหกวิถี เมื่อนารูโตะได้รับสืบทอดพลังจากจิตวิญญาณของโอซึซึกิ ฮาโกโรโมะ หรือเซียนหกวิถีพร้อมกับตราผนึกหยาง นารูโตะจึงสามารถปลุกพลังเซียนรูปแบบใหม่ขึ้นมาได้ เรียกว่า "โหมดเซียนหกวิถี" ซึ่งสามารถที่จะใช้วิชาเซียนหกวิถี(ริคุโดเซ็นจุทสึ) ได้เหมือนกับโอบิโตะหรือมาดาระเมื่อเป็นพลังสถิตร่างของสิบหาง

การปรากฏตัวในสื่ออื่น[แก้]

อุซึมากิ นารูโตะ ยังได้ปรากฏตัวในเกมต่อสู้ข้ามฝั่ง ซึ่งนารูโตะได้เผชิญกับตัวละครจากมังงะเรื่องอื่น เกมเหล่านี้ประกอบด้วย แบทเทิลสเตเดียม ดี. โอ. เอ็น., จัมพ์ซูเปอร์สตาร์ส และจัมพ์อัลติเมทสตาร์ส[1][2][3]

นอกจากนี้ ยังมีตัวละคร "ซูโมมากิ รารูโตะ" ในเว็บคอมิกของสเปนเรื่อง รารูโตะ ที่ล้อเลียนนารูโตะอีกด้วย[4]

การตอบรับ[แก้]

ในทุกการสำรวจความนิยมของ โชเน็งจัมป์รายสัปดาห์ ได้จัดอันดับให้นารูโตะอยู่ในระดับท็อปไฟว์ และในช่วงต้น ค.ศ. 2012 ได้อยู่ในอันดับหนึ่งเป็นครั้งที่สอง[5][6] ใน ค.ศ. 2006 นารูโตะสูญเสียสถานะท็อปทูให้แก่เดอิดาระ, คาคาชิ และซาสึเกะจากผลสำรวจของนิตยสารครั้งที่หก[7] ในโพลปี ค.ศ. 2011 นารูโตะได้ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่หนึ่งอีกครั้ง[8] และมีสินค้าที่สร้างขึ้นจากนารูโตะ ได้แก่ พวงกุญแจ[9] และแอ็คชั่นฟิกเกอร์[10]

อ้างอิง[แก้]

  1. "バトルスタジアム D.O.N" (ภาษาญี่ปุ่น). Namco Bandai. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-01. สืบค้นเมื่อ 2009-02-14.
  2. "ガンバリオン公式ホームページ 開発タイトル一覧 JUMP SUPER STARS (ジャンプスーパースターズ)" (ภาษาญี่ปุ่น). Ganbarion. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-07-03. สืบค้นเมื่อ 2009-02-14.
  3. "ガンバリオン公式ホームページ 開発タイトル一覧 JUMP ULTIMATE STARS (ジャンプアルティメットスターズ)" (ภาษาญี่ปุ่น). Ganbarion. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-22. สืบค้นเมื่อ 2009-02-14.
  4. Raruto Volume 1 (English), PDF 2, Glossary. Retrieved on October 30, 2010.
  5. Kishimoto, Masashi (2007). "Chapter 199". Naruto, Volume 22. Viz Media. ISBN 1-4215-1858-9.
  6. Kishimoto, Masashi (2006). "Chapter 107". Naruto, Volume 12. Viz Media. ISBN 1-4215-0242-9.
  7. Kishimoto, Masashi (2008). "Chapter 292". Naruto, Volume 33. Viz Media. ISBN 978-1-4215-2001-8.
  8. Kishimoto, Masashi (2011). "Chapter 519". Naruto, Volume 56. Shueisha. ISBN 978-4-08-870218-6.
  9. "根付紐仕様のキーホルダー第2弾が早くも登場!! NARUTO-ナルト- 忍者根付2" (ภาษาญี่ปุ่น). TV Tokyo. สืบค้นเมื่อ January 24, 2012.
  10. "Naruto 12 Inch Action Figure". Viz Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-08-09. สืบค้นเมื่อ January 24, 2012.