ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ตระกูลภาษาขร้า–ไท"
ย้อนการแก้ไขที่ 7767957 สร้างโดย 2400:4160:138D:7800:4906:E827:E198:2E70 (พูดคุย) ป้ายระบุ: ทำกลับ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
⚫ | '''[[ต]]ระกูลภาษาไท-กะได''' ({{lang-en|Tai–Kadai languages}}) หรือรู้จักกันในนาม '''กะได''' ({{lang|en|Kadai}}), '''ขร้าไท''' ({{lang|en|Kradai}}) หรือ '''ขร้า-ไท''' ({{lang|en|Kra–Dai}}) เป็น[[ตระกูลภาษา]]ของภาษาที่มีเสียงวรรณยุกต์ที่พบใน[[เอเชียตะวันออกเฉียงใต้]]และตอนใต้ของ[[ประเทศจีน]] ในช่วงแรก ตระกูลภาษาไท-กะไดเคยถูกกำหนดให้เป็นอยู่ใน[[ตระกูลภาษาจีน-ทิเบต]] แต่ปัจจุบันได้แยกมาเป็นอีกตระกูลภาษาหนึ่ง และยังมีผู้เห็นว่าตระกูลภาษาไท-กะไดนี้มีความสัมพันธ์กับ[[ตระกูลภาษาออสโตรนีเซียน]] โดยอยู่ในกลุ่มภาษาที่เรียกว่า "ออสโตร-ไท" หรือจัดเป็นตระกูลภาษาใหญ่ออสตริก |
||
{{Infobox language family |
|||
|name = ไท-กะได |
|||
|altname = กะได, ขร้าไท, ขร้า-ไท |
|||
|region = [[ประเทศจีน|จีนตอนใต้]] [[มณฑลไหหลำ|ไหหลำ]]<br>[[อินโดจีน]] [[ประเทศอินเดีย|อินเดียตอนตะวันออกเฉียงเหนือ]] |
|||
|familycolor = Tai-Kadai |
|||
|family = ไท-กะได |
|||
|child1 = [[กลุ่มภาษาขร้า|ขร้า]] |
|||
|child2 = [[กลุ่มภาษากัม-สุย|กัม-สุย]] |
|||
|child3 = ''[[กลุ่มภาษาอัง-เบ|อัง-เบ]]'' |
|||
|child4 = [[กลุ่มภาษาไหล|ไหล]] |
|||
|child5 = [[กลุ่มภาษาไท|ไท]] (จ้วง–ไท) |
|||
|iso2 = tai |
|||
|glotto=taik1256 |
|||
|map = Taikadai-en.svg |
|||
|mapcaption = แผนที่แสดงผู้พูดภาษาในตระกูลภาษาไท-กะได<br>{{Col-begin}} |
|||
{{Col-2}} |
|||
{{legend|blue|ขร้า}} |
|||
{{legend|#DB4FFF|กัม-สุย}} |
|||
{{legend|#B000A6|เบ}} |
|||
{{legend|#80FF00|ไหล}} |
|||
{{Col-2}} |
|||
{{legend|#FFEC19|ไทเหนือ}} |
|||
{{legend|#FF4C00|ไทกลาง}} |
|||
{{legend|#FF9D00|ไทตะวันตกเฉียงใต้}} |
|||
{{Col-end}} |
|||
}} |
|||
⚫ | ''' |
||
รอเจอร์ เบลนช์ (Roger Blench) ได้กล่าวว่า ถ้าข้อจำกัดของความเชื่อมต่อของตระกูลภาษาออสโตร-ไทมีความสำคัญมาก แสดงว่าความสัมพันธ์ทั้งสองตระกูลอาจไม่ใช่ภาษาที่เป็นพี่น้องกัน [[กลุ่มภาษากะได]]อาจเป็นสาขาของภาษาตระกูลออสโตรนีเซียนที่อพยพจาก[[ฟิลิปปินส์]]ไปสู่[[เกาะไหหลำ]] แล้วแพร่สู่จีนแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่สาขาไดของภาษากลุ่มกะไดมีการปรับโครงสร้างใหม่โดยได้รับอิทธิพลจากกลุ่มภาษาม้ง-เมี่ยนและ[[ภาษาจีน]] |
รอเจอร์ เบลนช์ (Roger Blench) ได้กล่าวว่า ถ้าข้อจำกัดของความเชื่อมต่อของตระกูลภาษาออสโตร-ไทมีความสำคัญมาก แสดงว่าความสัมพันธ์ทั้งสองตระกูลอาจไม่ใช่ภาษาที่เป็นพี่น้องกัน [[กลุ่มภาษากะได]]อาจเป็นสาขาของภาษาตระกูลออสโตรนีเซียนที่อพยพจาก[[ฟิลิปปินส์]]ไปสู่[[เกาะไหหลำ]] แล้วแพร่สู่จีนแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่สาขาไดของภาษากลุ่มกะไดมีการปรับโครงสร้างใหม่โดยได้รับอิทธิพลจากกลุ่มภาษาม้ง-เมี่ยนและ[[ภาษาจีน]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:29, 3 มกราคม 2562
ตระกูลภาษาไท-กะได (อังกฤษ: Tai–Kadai languages) หรือรู้จักกันในนาม กะได (Kadai), ขร้าไท (Kradai) หรือ ขร้า-ไท (Kra–Dai) เป็นตระกูลภาษาของภาษาที่มีเสียงวรรณยุกต์ที่พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตอนใต้ของประเทศจีน ในช่วงแรก ตระกูลภาษาไท-กะไดเคยถูกกำหนดให้เป็นอยู่ในตระกูลภาษาจีน-ทิเบต แต่ปัจจุบันได้แยกมาเป็นอีกตระกูลภาษาหนึ่ง และยังมีผู้เห็นว่าตระกูลภาษาไท-กะไดนี้มีความสัมพันธ์กับตระกูลภาษาออสโตรนีเซียน โดยอยู่ในกลุ่มภาษาที่เรียกว่า "ออสโตร-ไท" หรือจัดเป็นตระกูลภาษาใหญ่ออสตริก
รอเจอร์ เบลนช์ (Roger Blench) ได้กล่าวว่า ถ้าข้อจำกัดของความเชื่อมต่อของตระกูลภาษาออสโตร-ไทมีความสำคัญมาก แสดงว่าความสัมพันธ์ทั้งสองตระกูลอาจไม่ใช่ภาษาที่เป็นพี่น้องกัน กลุ่มภาษากะไดอาจเป็นสาขาของภาษาตระกูลออสโตรนีเซียนที่อพยพจากฟิลิปปินส์ไปสู่เกาะไหหลำ แล้วแพร่สู่จีนแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่สาขาไดของภาษากลุ่มกะไดมีการปรับโครงสร้างใหม่โดยได้รับอิทธิพลจากกลุ่มภาษาม้ง-เมี่ยนและภาษาจีน
โลร็อง ซาการ์ (Laurent Sagart) ได้เสนอว่า ภาษาไท-กะไดดั้งเดิมได้เกิดขึ้นในยุคต้นของตระกูลภาษาออสโตรนีเซียนที่อาจจะอพยพกลับจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของไต้หวันไปยังชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีน หรือจากจีนไปไต้หวันและเกิดการพัฒนาของภาษาตระกูลออสโตรนีเซียนบนเกาะนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างภาษาตระกูลออสโตรนีเซียนและไท-กะไดอาจจะอธิบายได้จากคำศัพท์ที่ใกล้เคียงกัน คำยืมในยุคก่อนประวัติศาสตร์และอื่น ๆ ที่ยังไม่รู้ นอกจากนั้นภาษาตระกูลออสโตรนีเซียนอาจจะมีความสัมพันธ์กับตระกูลภาษาจีน-ทิเบต ซึ่งมีจุดเริ่มต้นในบริเวณชายฝั่งของจีนภาคเหนือและภาคตะวันออก
ความหลากหลายของตระกูลภาษาไท-กะไดในทางตอนใต้ของประเทศจีนบ่งบอกถึงมีความสัมพันธ์กับถิ่นกำเนิดของภาษา ผู้พูดภาษาสาขาไทอพยพจากตอนใต้ของจีนลงทางใต้เข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่ครั้งโบราณ เข้าสู่ดินแดนที่เป็นประเทศไทยและลาวบริเวณนี้เป็นบริเวณที่พบผู้พูดภาษาในตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก
ชื่อ "ไท-กะได" มาจากการจัดแบ่งตระกูลภาษาออกเป็นสองสาขาคือ "ไท" และ "กะได" ซึ่งเลิกใช้แล้ว เนื่องจากกะไดจะเป็นกลุ่มภาษาที่เป็นไปได้ก็ต่อเมื่อมีกลุ่มภาษาไทรวมอยู่ด้วย ในบางบริบทคำว่ากะไดจึงใช้เรียกตระกูลภาษาไท-กะไดทั้งตระกูล แต่บางบริบทก็จำกัดการใช้คำนี้ให้แคบลง โดยหมายถึงกลุ่มภาษาขร้าที่เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลภาษานี้
ภาษาในตระกูล
ตระกูลภาษาไท-กะไดประกอบด้วยกลุ่มภาษาที่จัดแบ่งไว้ 5 สาขา ดังนี้
- กลุ่มภาษาขร้า (อาจเรียกว่า กะได หรือ เก-ยัง)
- กลุ่มภาษากัม-สุย (จีนแผ่นดินใหญ่ อาจเรียกว่า ต้ง-สุย)
- กลุ่มภาษาไหล (เกาะไหหลำ)
- กลุ่มภาษาไท (จีนตอนใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
- ภาษาอังเบ (เกาะไหหลำ อาจเรียกว่า ภาษาเบ)
กลุ่มภาษาไหล
- ภาษาเจียมาว (Jiamao) เจียมาว (ไหหลำ)
- ภาษาไหล (Hlai) (ไหหลำ)
กลุ่มภาษาขร้า
- Yerong (จีนแผ่นดินใหญ่)
- ภาษาเก้อหล่าว (Gelao) (เวียดนาม)
- ภาษาลาติ (Lachi หรือ Lati) (เวียดนาม)
- ภาษาลาติขาว (White Lachi) (เวียดนาม)
- ภาษาปู้ยัง (Buyang) (จีนแผ่นดินใหญ่)
- ภาษาจุน (Cun) (ไหหลำ)
- ภาษาเอน (En) (เวียดนาม)
- ภาษากวาเบียว (Qabiao) (เวียดนาม)
- ภาษาลาคัว (Laqua) (เวียดนาม)
- ภาษาลาฮา (Laha) (เวียดนาม)
กลุ่มภาษาไท
- กลุ่มภาษาไทเหนือ
- ภาษาแสก (ลาว)
- ภาษาจ้วงเหนือ (จีน)
- ภาษาปู้อี (Buyi) (จีน)
- ภาษาไทแมน (ลาว)
- E (จีน)
- กลุ่มภาษาไทกลาง
- ภาษาจ้วงใต้ (จีน)
- ภาษาม่านเชาลาน (เวียดนาม)
- ภาษานุง (เวียดนาม)
- ภาษาตั่ย (เวียดนาม)
- ภาษาซึนลาว (Ts'ün-Lao) (เวียดนาม)
- ภาษานาง (เวียดนาม)
- กลุ่มภาษาไทตะวันตกเฉียงใต้
- ภาษาไทหย่า (จีน)
- ภาษาพูโก (ลาว)
- ภาษาปาดี (จีน)
- ภาษาไททัญ (เวียดนาม)
- ภาษาตั่ยซาปา (เวียดนาม)
- ภาษาไทโหลง (ไทหลวง) (ลาว)
- ภาษาไทฮ้องจีน (จีน)
- ภาษาตุรุง (อินเดีย)
- ภาษายอง (ไทย)
- ภาษาไทยถิ่นใต้ (ปักษ์ใต้) (ไทย)
- กลุ่มภาษาไทกลาง-ตะวันออก
- กลุ่มภาษาเชียงแสน
- ภาษาไทดำ (เวียดนาม)
- ภาษาไทยถิ่นเหนือ (ภาษาล้านนา, ภาษาไทยวน) (ไทย, ลาว)
- ภาษาพวน (ไทย)
- ภาษาไทโซ่ง (ไทย)
- ภาษาไทย (ไทย)
- ภาษาไทฮ่างตง (เวียดนาม)
- ภาษาไทขาว (ภาษาไทด่อน) (เวียดนาม)
- ภาษาไทแดง (ภาษาไทโด) (เวียดนาม)
- ภาษาตั่ยเติ๊ก (เวียดนาม)
- ภาษาตูลาว (เวียดนาม)
- กลุ่มภาษาลาว-ผู้ไท
- กลุ่มภาษาไทตะวันตกเฉียงเหนือ (พายัพ)
- ภาษาอาหม (รัฐอัสสัม เป็นภาษาสูญแล้ว; ภาษาอัสสัมซึ่งเป็นภาษาที่ชาวอาหมใช้ในปัจจุบัน จัดอยู่ในตระกูลภาษาอินโด-ยุโรเปียน)
- ภาษาอ่ายตน (รัฐอัสสัม)
- ภาษาลื้อ (ภาษาไทลื้อ) (จีน, เวียดนาม, ไทย, ลาว, พม่า)
- ภาษาคำตี่ (รัฐอัสสัม, พม่า)
- ภาษาเขิน (พม่า)
- ภาษาคำยัง (รัฐอัสสัม)
- ภาษาพ่าเก (รัฐอัสสัม)
- ภาษาไทใหญ่ (ภาษาฉาน) (พม่า)
- ภาษาไทใต้คง (ภาษาไทเหนือ) (จีน, เวียดนาม, ไทย, ลาว)
- กลุ่มภาษาเชียงแสน
กลุ่มภาษากัม-สุย
- กลุ่มภาษาลักเกีย-เบียว (จีนแผ่นดินใหญ่)
- ภาษาลักเกีย (Lakkia)
- ภาษาเบียว
- ภาษากัม-สุย (จีนแผ่นดินใหญ่)
- ภาษาอ้ายจาม (Ai-Cham)
- Cao Miao
- ภาษาต้งเหนือ (Northern Dong)
- ภาษาต้งใต้ (Southern Dong)
- ภาษาคัง (Kang)
- Mak
- ภาษามู่หลาม (Mulam)
- ภาษาเมาหนาน (Maonan)
- ภาษาสุย (Sui)
- T’en
สาขากัม-สุย, เบ และไทมักถูกจัดให้อยู่รวมกันเนื่องจากมีคำศัพท์ที่ใช้ร่วมกันจำนวนมาก (ดูเพิ่มที่กลุ่มภาษากัม-ไท) อย่างไรก็ตามการจัดแบ่งเช่นนี้มีความเห็นที่โต้แย้ง ซึ่งอาจเป็นเพราะมีการแทนที่ศัพท์เข้าไปในสาขาอื่น ความคล้ายกันของระบบหน่วยคำทำให้มีนักภาษาศาสตร์จัดสาขาขร้ากับคำ-สุย เป็นกลุ่มกะไดเหนือทางหนึ่ง และสาขาไหลกับไท เป็นกลุ่มกะไดใต้อีกทางหนึ่งแทนดังภาพ ตำแหน่งของภาษาอังเบในข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้ถูกพิจารณาไปด้วย
กะได |
| |||||||||||||||||||||
เปรียบเทียบคำศัพท์[1]
ไทย | ไท | เก้อหล่าว | ไหล |
---|---|---|---|
หมา | หมา | มเปา | ปา |
ไฟ | ไฟ | ไป | เฝ่ยฺ |
หนา | หนา | นเต้า | หนา |
เมฆ | ฝ้า | เป๊า | ฝ้า |
หิมะ | นาย (ไทใหญ่) | นไต๊ | - |
น้ำค้างแข็ง | เหมือย (ลาว) | มไปล้ | - |
อ้างอิง
- Edmondson, J.A. and D.B. Solnit eds. 1997. Comparative Kadai: the Tai branch. Dallas: Summer Institute of Linguistics and the University of Texas at Arlington.
- Ostapirat, Weera. 2005. "Kra-Dai and Austronesian: Notes on phonological correspondences and vocabulary distribution", pp. 107–131 in Sagart, Laurent, Blench, Roger & Sanchez-Mazas, Alicia (eds.), The Peopling of East Asia: Putting Together Archaeology, Linguistics and Genetics. London/New York: Routledge-Curzon.
- Roger Blench (PDF format)
- Ethnologue report Retrieved 3 August 2005.
- ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์กรมหาชน). นิทรรศการถาวร กลุ่มชาติพันธุ์ และโบราณคดี (ชั้น 5)