พระกกุสันธพุทธเจ้า

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระกกุสันธพุทธเจ้า
พระกกุสันธพุทธเจ้า จิตรกรรมฝาผนังของวัดหอเชียง เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว
สันสกฤตक्रकुच्छंद
บาลีกกุสันธพุทฺธ
พม่าကကုသန် (Kakusandha)
จีน拘留孙佛
ญี่ปุ่น拘留孫 (Kuruson)
เกาหลี구류손불
มองโกเลียКракучандра
ไทยพระกกุสันธพุทธเจ้า
ทิเบตKhorvadjig
เวียดนามPhật Câu Lưu Tôn
ข้อมูล
นับถือในเถรวาท, มหายาน, วัชรยาน
icon สถานีย่อยพระพุทธศาสนา

พระกกุสันธพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 22 ในพุทธวงศ์ แต่เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรกในภัทรกัปนี้

พุทธประวัติ[แก้]

พระกกุสันธพุทธเจ้าเสด็จอุบัติในตระกูลพราหมณ์ ในพระนครเขมวดี พระพุทธบิดาคือพราหมณ์นามว่าอัคคิทัตต์ ส่วนพระพุทธมารดาคือนางวิสาขาพราหมณี พระองค์ทรงมีปราสาทอันประเสริฐ 3 หลัง ชื่อกามวัฑฒะ กามสุทธิ และรติวัฑฒนะ มีพระชายาเป็นพราหมณีพระนามว่า "โรปินี" มีพระโอรสพระนามว่า "อุดร" มีนางสนมนารีกำนัลใน 3 หมื่น ทรงครองเพศฆราวาสวิสัยอยู่ 4 พันปี เสด็จออกผนวชด้วยรถราชยาน ทรงทำความเพียรอยู่ 8 เดือนจึงสำเร็จพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิยาน ณ ควงไม้สิรีสะ (ต้นซึก) หลังจากตรัสรู้แล้ว ประทับอยู่ที่ใต้โพธิพฤกษ์ ได้ทรงประกาศพระธรรมจักรอันยอดเยี่ยมที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันใกล้ลัมกิลนคร[1] ทรงแสดงธรรมครั้งใหญ่ ๆ 3 ครั้ง คือ

ครั้งที่ 1 สัตว์ 40,000 โกฏิ เมื่อคราวที่พระองค์เสด็จไปแสดงธรรมโปรดภิกษุ 40,000 รูปที่บวชตามพระองค์แล้ว ยังภิกษุเหล่านั้นให้บรรลุพระอรหันต์

ครั้งที่ 2 สัตว์ 30,000 โกฏิ เมื่อคราวที่พระองค์ทรงทำยมกปาฏิหาริย์ เพื่อย่ำยีความมัวเมา และมานะของพวกเดียรถีย์ ณ โคนต้นมหาสาละ ใกล้ประตูกัณณกุชชนคร

ครั้งที่ 3 สัตว์หาประมาณมิได้ เมื่อคราวที่พระองค์เสด็จไปแสดงธรรมโปรดนรเทพยักษ์ ซึ่งอาศัยอยู่ที่เทวาลัยแห่งหนึ่ง ใกล้เขมวดีนคร แล้วประกาศจตุราริยสัจแก่มหาชน

ทรงมีการประชุมพระสงฆ์สาวกขีณาสพ ผู้ปราศจากมลทิน ผู้สงบ ผู้คงที่ ครั้งเดียวเท่านั้น มีพระสงฆ์สาวกขีณาสพ 4 หมื่นรูป เมื่อคราวที่พระองค์เสด็จไปประกาศพระธรรมจักร แก่ภิกษุผู้ที่บวชตามพระองค์ ในป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้ลัมกิลนคร จนสำเร็จพระอรหันต์ทุกรูป แล้วทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่พระสงฆ์สาวกขีณาสพ ในวันเพ็ญเดือนมาฆมาส พระองค์มีพระวิธูรเถระและพระสัญชีวเถระเป็นพระอัครสาวก พระพุทธิชเถระเป็นพุทธอุปัฏฐาก พระสามาเถรีและพระจัมปาเถรีเป็นคู่พระอัครสาวิกา อัจจุคคคอุบาสกและสุมนอุบาสกเป็นคู่อัครอุบาสก นันทาอุบาสิกาและสุนันทาอุบาสิกาเป็นคู่อัครอุบาสิกา พระองค์มีพระวรกายสูง 40 ศอก มีพระรัศมีสีทอง แผ่ซ่านออกจากพระวรกายของพระองค์ สว่างไสวไปได้ 11 โยชน์โดยรอบ มีพระชนมายุได้ 40,000 ปี จึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน พร้อมด้วยพระสงฆ์สาวกขีณาสพทั้งหลายที่เขมารามวิหาร พระสถูปของพระองค์ สูงจรดฟ้าประมาณคาวุตหนึ่ง ประดิษฐานอยู่ ณ เขมารามวิหาร พระศาสนาของพระองค์ดำรงอยู่ 4 หมื่นปี จึงอันตรธานไป

ความเกี่ยวข้องกับพระโคตมพุทธเจ้า[แก้]

ในสมัยพระกกุสันธพุทธเจ้า พระโคตมพุทธเจ้าในปัจจุบันได้เสด็จอุบัติในตระกูลกษัตริย์พระนามว่า เขมะ ในเขมวดีนคร ได้ถวายบาตรและจีวรเป็นมหาทาน และถวายเภสัชทุกอย่าง มียาหยอดตาเป็นต้น พร้อมด้วยสมณบริขารอย่างอื่นอีกเป็นจำนวนมาก แก่พระภิกษุสงฆ์ ซึ่งมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน และได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระองค์ แล้วมีพระหฤทัยเลื่อมใส ได้ตั้งมั่นอยู่ในสรณคมน์ และเบญจศีลอย่างมั่นคง ในเวลาสิ้นสุดแห่งการถวายมหาทาน พระพุทธองค์ทรงทำการอนุโมทนา แล้วได้พยากรณ์ว่า

"ในอนาคตกาล ในภัทรกัปนี้แล พระเจ้าเขมราชพระองค์นี้จักได้เป็นพระพุทธเจ้าในโลกเหมือนดั่งตถาคต มีนามว่า พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า"

พระองค์ได้ฟังพุทธพยากรณ์นั้นแล้ว ก็ยังจิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง เมื่อจะยังประโยชน์นั้นให้สำเร็จ จึงได้อธิษฐานวัตรในการบำเพ็ญบารมีให้ยิ่งขึ้นไป ทรงบริจาคราชสมบัติทั้งหมดไว้ในพระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์ แล้วผนวชในสำนักของพระพุทธเจ้า ทรงยังพระศาสนาของพระชินเจ้าพระองค์นี้ให้งดงามแล้ว ทรงเป็นผู้ไม่ประมาทเจริญพรหมวิหารภาวนา จนได้สำเร็จอภิญญา[1] เมื่อสิ้นอายุขัยจึงได้ไปบังเกิดเป็นพรหมครองพรหมโลก

อ้างอิง[แก้]

ก่อนหน้า พระกกุสันธพุทธเจ้า ถัดไป
พระเวสสภูพุทธเจ้า
(๖๐,๐๐๐ ปี)
พระพุทธเจ้าในอดีต องค์ที่ ๒๕
(๔๐,๐๐๐ ปี)
พระโกนาคมนพุทธเจ้า
(๓๐,๐๐๐ ปี)