ข้ามไปเนื้อหา

โดเนพีซิล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โดเนพีซิล
ข้อมูลทางคลินิก
ชื่อทางการค้าอะริเซ็ปต์เป็นต้น
AHFS/Drugs.comโมโนกราฟ
MedlinePlusa697032
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์
  • AU: B3
  • US: C (ยังไม่ชี้ขาด)
ช่องทางการรับยาทางปาก (ยาเม็ด)
รหัส ATC
กฏหมาย
สถานะตามกฏหมาย
  • AU: S4 (ต้องใช้ใบสั่งยา)
  • US: ℞-only
  • In general: ℞ (Prescription only)
ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์
ชีวประสิทธิผล100%
การจับกับโปรตีน96%
ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ70 ชม.[1]
การขับออก0.11-0.13 (L/h/kg)
ตัวบ่งชี้
  • (RS)-2-[(1-Benzyl-4-piperidyl)methyl]-5,6-dimethoxy-2,3-dihydroinden-1-one
เลขทะเบียน CAS
PubChem CID
IUPHAR/BPS
DrugBank
ChemSpider
UNII
KEGG
ChEBI
ChEMBL
PDB ligand
ECHA InfoCard100.125.198
ข้อมูลทางกายภาพและเคมี
สูตรC24H29NO3
มวลต่อโมล379.500 g·mol−1
แบบจำลอง 3D (JSmol)
ไครัลลิตีของผสมแรซีมิก
  • O=C2c1cc(OC)c(OC)cc1CC2CC4CCN(Cc3ccccc3)CC4
  • InChI=1S/C24H29NO3/c1-27-22-14-19-13-20(24(26)21(19)15-23(22)28-2)12-17-8-10-25(11-9-17)16-18-6-4-3-5-7-18/h3-7,14-15,17,20H,8-13,16H2,1-2H3 checkY
  • Key:ADEBPBSSDYVVLD-UHFFFAOYSA-N checkY
  (verify)
สารานุกรมเภสัชกรรม

ยา โดเนพีซิล (อังกฤษ: Donepezil) มีชื่อการค้าเป็นต้นว่า อะริเซ็ปต์ (อังกฤษ: Aricept) เป็นยารักษาโรคอัลไซเมอร์[2] โดยดูจะมีประโยชน์เล็กน้อยทางจิตใจและการดำเนินชีวิต[3] แต่ไม่มีหลักฐานว่าเปลี่ยนการดำเนินของโรค[4] ควรเลิกใช้ถ้าไม่ปรากฏประโยชน์[5] เป็นยากินทางปาก[2]

ผลข้างเคียงสามัญรวมความคลื่นไส้ นอนไม่หลับ ความก้าวร้าว ท้องร่วง เหนื่อย และตะคริว[2][5] ผลข้างเคียงรุนแรงอาจรวมหัวใจเต้นผิดจังหวะ ปัญหาถ่ายปัสสาวะ และการชัก[2] ยามีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์อะซีทิลโคลิเนสเทเรสแบบผันกลับได้ (reversible acetylcholinesterase inhibitor)[2]

ยาได้รับอนุมัติให้ใช้ทางการแพทย์ในสหรัฐปี 1996[2] ปัจจุบันมีขายเป็นยาสามัญ[5] ในสหราชอาณาจักร กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 0.52 ปอนด์สเตอร์ลิง (ประมาณ 21 บาท) สำหรับยากินเดือนหนึ่ง[5] ส่วนราคาขายส่งของยาประมาณเดียวกันในสหรัฐอยู่ที่ 1.38 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 44 บาท)[6] ในปี 2019 เป็นยาที่แพทย์จ่ายมากที่สุดเป็นอันดับ 98 ในสหรัฐ[7]

การแพทย์

[แก้]

โรคอัลไซเมอร์

[แก้]

ไม่มีหลักฐานว่าโดเนพีซิลหรือยาที่คล้ายกันอื่น ๆ สามารถเปลี่ยนการดำเนินของโรคอัลไซเมอร์ งานศึกษามีกลุ่มควบคุมระยะ 6-12 เดือน แสดงประโยชน์พอควรทางประชานและพฤติกรรม[8] สถาบันไนซ์ (NICE) แห่งสหราชอาณาจักรแนะนำให้เป็นยาทางเลือกเพื่อรักษาโรคอัลไซเมอร์ที่เป็นอ่อน ๆ จนถึงปานกลาง[9] แต่ควรติดตามคนไข้บ่อย ๆ แล้วเมื่อไม่ได้ประโยชน์อย่างสำคัญ ก็ควรเลิกยา[9] ในปี 2006 องค์การอาหารและยาสหรัฐอนุมัติให้ใช้ยารักษาภาวะสมองเสื่อมตั้งแต่อ่อน ปานกลาง ไปจนถึงรุนแรงสำหรับคนไข้โรคอัลไซเมอร์[10]

ผลไม่พึงประสงค์

[แก้]

ในการทดลองทางคลินิก อาการไม่พึงประสงค์จากยาที่ทำให้คนไข้เลิกกินยารวมความคลื่นไส้ ท้องร่วง และอาเจียน[11][12] ผลข้างเคียงอื่น ๆ รวมการนอนไม่หลับ ตะคริว และไม่อยากอาหาร ผลข้างเคียงโดยมากพบในคนไข้ที่กินยาขนาด 23 มก. เทียบกับ 10 มก. ผลข้างเคียงจะดีขึ้นเมื่ออดทนใช้ยาต่อ[13]

ข้อควรระวัง

[แก้]

ยาควรใช้อย่างระวังในคนไข้ที่มีโรคหัวใจ ปัญหาการนำไฟฟ้าของหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหืด หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง และกลุ่มอาการซิคไซนัส[13] คนไข้แผลเปื่อยเพปติก (PUD) หรือผู้กำลังกินยายาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตอรอยด์ (NSAIDS) ควรระวังเพราะมีโอกาสเลือดออกในกระเพาะลำไส้สูงขึ้น[13] หัวใจเต้นช้าและการเป็นลมก็พบด้วยในคนไข้ที่มีปัญหาหัวใจ อาการเหล่านี้มีโอกาสสูงกว่าเมื่อเริ่มรักษาหรือพึ่งเพิ่มขนาดยา แม้การชักจะมีน้อย แต่คนเสี่ยงชักก็ควรระวัง[13]

ถ้ากินยาทุกวันแล้วพัก 7 วันหรือน้อยกว่านั้น เมื่อกลับกินยาใหม่ แนะนำให้กินขนาดเดิม แต่ถ้าพักเกิน 7 วัน แนะนำให้เริ่มที่ 5 มก./วัน[14][15]

กลไกการทำงาน

[แก้]

ยาจะเชื่อมกับเอนไซม์โคลิเนสเทเรส (cholinesterase) โดยระงับฤทธิ์ของเอนไซม์อย่างผันกลับได้ เป็นการห้ามการแยกสลายด้วยน้ำ (hydrolysis) ของสารสื่อประสาทอะซีทิลโคลีน (acetylcholine) แล้วเพิ่มความเข้มข้นของอะซีทิลโคลีนที่ไซแนปส์ประสาทแบบโคลิเนอร์จิก (cholinergic คือมีอะซีทิลโคลีนเป็นสารสื่อประสาท)

กลไกการทำงานอย่างละเอียดของยาในคนไข้โรคอัลไซเมอร์ยังไม่ชัดเจน แน่นอนว่า โรคอัลไซเมอร์เกี่ยวกับความเสียหายอย่างสำคัญของระบบประสาทแบบโคลิเนอร์จิก ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า อาการของโรคสัมพันธ์กับความบกพร่องของระบบโคลิเนอร์จิกเช่นนี้ โดยเฉพาะในเปลือกสมองและส่วนสมองอื่น ๆ[16][17] มีข้อสังเกตว่า hippocampal formation[A] มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการใส่ใจ ความจำ และการเรียนรู้ ประสาทโคลิเนอร์จิกในระบบประสาทกลางที่เสียหายรุนแรงพบว่า มีสหสัมพันธ์กับความรุนแรงของความพิการทางประชาน

นอกจากฤทธิ์ยับยั้งอะซีทิลโคลิเนสเทเรสแล้ว ยายังเป็นตัวทำการที่มีกำลังต่อหน่วยรับ σ1 (sigma-1 receptor โดยมี Ki = 14.6 nM) และพบว่า มีผลระงับการเสียความจำของสัตว์โดยอาศัยกลไกนี้[21]

สเตอริโอเคมิสตรี

[แก้]

ยาเป็นของผสมแรซีมิก (racemic mixture หรือ racemate)[22]

Enantiomers

(R)-Donepezil

(S)-Donepezil

ประวัติ

[แก้]
โดเนพีซิลระงับเอนไซม์อะซีทิลโคลิเนสเทเรสของปลากระเบนไฟฟ้าแปซิฟิก (Torpedo californica)[23]
ยาเม็ดอะริเซ็ปต์ขนาด 10 มก.

ในปี 1983 บริษัทญี่ปุ่น (Eisai) ได้เริ่มงานวิจัยที่นำไปสู่การพัฒนายา ในปี 1996 บริษัทได้รับอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐให้ขายยาในชื่อการค้าอะริเซ็ปต์ (Aricept) ซึ่งบริษัทร่วมวางตลาดกับบริษัทไฟเซอร์[24]

ในปี 2011 นี่เป็นยารักษาโรคอัลไซเมอร์ซึ่งขายดีที่สุดในโลก[25] ยาสามัญแรกเริ่มขายในเดือนพฤศจิกายน 2010 เมื่อองค์การอาหารและยาสหรัฐอนุมัติสูตรยาของบริษัทแรนแบ็กซี่แล็บ (Ranbaxy Labs)[26] ในเดือนเมษายน 2011 องค์กรอนุมัติให้วางตลาดยาสามัญสูตรที่สองจากบริษัทว็อกฮาร์ดต (Wockhardt)[27]

งานวิจัย

[แก้]

ยาได้ทดสอบกับความผิดปกติทางประชาน (cognitive disorder) อื่น ๆ รวมทั้งภาวะสมองเสื่อมเหตุลิวอี้บอดี้ (รวมที่เกิดจากโรคพาร์คินสัน)[28] และภาวะสมองเสื่อมเหตุหลอดเลือด (vascular dementia)[29] แต่ก็ไม่ได้รับอนุมัติให้ใช้รักษาโรคเหล่านี้ ยาพบว่า ช่วยปรับปรุงการหยุดหายใจเมื่อหลับ (sleep apnea) สำหรับคนไข้โรคอัลไซเมอร์[30] และยังช่วยปรับปรุงการเดินด้วย[31]

ยายังได้ศึกษาในคนไข้ที่พิการทางประชานแบบอ่อน ๆ โรคจิตเภท โรคสมาธิสั้น คนไข้หลังการผ่าตัดบายพาสหัวใจที่พิการทางประชาน[32] คนไข้พิการทางประชานที่สัมพันธ์กับโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง, CADASIL และกลุ่มอาการดาวน์ งานทดลอง 3 ปีของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (สหรัฐอเมริกา) กับผู้ที่พิการทางประชานแบบอ่อน ๆ พบว่า ยาดีกว่ายาหลอกเพื่อชะลอการแย่ลงของภาวะสมองเสื่อมในระยะ 18 เดือนแรกของงาน แต่ก็พบว่าไม่คงยืนเช่นนั้นเมื่อถึง 36 เดือน[33] ในงานวิเคราะห์ทุติยภูมิ กลุ่มย่อยที่มีจีโนไทป์ apolipoprotein E4 พบว่า ได้ประโยชน์จากยาอย่างคงยืนตลอดงานศึกษา[34] อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน ยังไม่มีข้อบ่งให้ใช้ยาป้องกันภาวะสมองเสื่อม

โรคสมาธิสั้น

[แก้]

การเพิ่มยานี้กับยารักษาโรคสมาธิสั้นที่มีอยู่แล้วพบว่า ได้ผลไม่สม่ำเสมอ[35] ในคนไข้กลุ่มอาการทูเร็ต (Tourette syndrome) และมีโรคสมาธิสั้น ยาอาจลดอาการกล้ามเนื้อกระตุก (tic) แม้จะไม่มีผลต่ออาการของโรคสมาธิสั้น[35]

ความผิดปกติทางพัฒนาการแบบกระจายไปทั่ว

[แก้]

ยานี้พร้อมกับยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์โคลิเนสเทเรสอื่น ๆ เสนอว่า มีโอกาสช่วยแก้พฤติกรรมที่มีปัญหา ความหงุดหงิด ดำเนินกิจกรรมมากเกิน (hyperactivity) และปัญหาการสื่อสารทางสังคมซึ่งปกติพบในคนไข้ที่มีความผิดปกติทางพัฒนาการแบบกระจายไปทั่ว (ทั้ง PDD และ PDD-NOS) หรือออทิซึมสเปกตรัม[35]

เชิงอรรถ

[แก้]
  1. hippocampal formation เป็นโครงสร้างประกอบในสมองกลีบขมับส่วนใน (medial temporal lobe) ไม่มีความเห็นพ้องว่าสมองส่วนไหนรวมอยู่ในคำที่ว่านี้ มีผู้เขียนบางท่านนิยามว่ารวม dentate gyrus, ฮิปโปแคมปัส และ subiculum[18] ส่วนผู้เขียนอื่นรวมส่วน presubiculum, parasubiculum และ entorhinal cortex[19] hippocampal formation เชื่อว่ามีบทบาทในความจำ การนำทางในปริภูมิ (spatial navigation) และการควบคุมความใส่ใจ รูปแบบและวิถีประสาทภายใน hippocampal formation คล้ายกันมากในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหมด[20]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Asiri, Yousif A.; Mostafa, Gamal A.E. (2010). "Donepezil". Profiles of Drug Substances, Excipients and Related Methodology. Elsevier. pp. 117–150. doi:10.1016/s1871-5125(10)35003-5. ISBN 978-0-12-380884-4. ISSN 1871-5125. Plasma donepezil concentrations decline with a half-life of approximately 70 h. Sex, race, and smoking history have no clinically significant influence on plasma concentrations of donepezil [46-51].
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 "Donepezil Hydrochloride Monograph for Professionals". Drugs.com (ภาษาอังกฤษ). American Society of Health-System Pharmacists. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-07-26. สืบค้นเมื่อ 2019-02-04.
  3. Birks, JS; Harvey, RJ (June 2018). "Donepezil for dementia due to Alzheimer's disease". The Cochrane Database of Systematic Reviews. 6: CD001190. doi:10.1002/14651858.CD001190.pub3. PMC 6513124. PMID 29923184.
  4. Swedish Council on Health Technology Assessment (June 2008). "Dementia -- Caring, Ethics, Ethnical and Economical Aspects: A Systematic Review". PMID 28876770. {{cite journal}}: Cite journal ต้องการ |journal= (help)
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 British national formulary : BNF 76 (76 ed.). Pharmaceutical Press. 2018. p. 300. ISBN 9780857113382.
  6. "NADAC as of 2019-01-30". Centers for Medicare and Medicaid Services (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-03-27. สืบค้นเมื่อ 2019-02-04.
  7. "The Top 300 of 2019". clincalc.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-26. สืบค้นเมื่อ 2018-12-22.
  8. Steele, LS; Glazier, RH (April 1999). "Is donepezil effective for treating Alzheimer's disease?". Canadian Family Physician. 45: 917–9. PMC 2328349. PMID 10216789.
  9. 9.0 9.1 "Donepezil, galantamine, rivastigmine and memantine for the treatment of Alzheimer's disease | Guidance and guidelines | NICE". www.nice.org.uk. 2011-03-23. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-07-31. สืบค้นเมื่อ 2019-02-04.
  10. "FDA Approves Expanded Use of Treatment for Patients With Severe Alzheimer's Disease". FDA. 2006-10-13. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-07-10.
  11. "www.accessdata.fda.gov" (PDF). เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-12-22.
  12. Noetzli, M; Eap, CB (April 2013). "Pharmacodynamic, pharmacokinetic and pharmacogenetic aspects of drugs used in the treatment of Alzheimer's disease". Clinical Pharmacokinetics. 52 (4): 225–41. doi:10.1007/s40262-013-0038-9. PMID 23408070.
  13. 13.0 13.1 13.2 13.3 Aricept (donepezil hydrochloride) package insert. Woodcliff Lake, NJ: Eisai Co., Ltd.; 2010 Nov.
  14. "Donepezil: MedlinePlus Drug Information". MedlinePlus. 2019-12-22. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-03-27. สืบค้นเมื่อ 2019-12-31. If you forget to take a dose of donepezil, skip the missed dose and continue your regular dosing schedule. Do not take a double dose to make up for a missed one. If you do not take donepezil, for 1 week or longer, you should call your doctor before starting to take this medication again.
  15. "Table 4. NHS Guideline" (PDF). p. 6 of 11. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-12-31. Re-titration following AChEI missed doses or planned treatment breaks
  16. Davies, P; Maloney, AJ (December 1976). "Selective loss of central cholinergic neurons in Alzheimer's disease". Lancet. 2 (8000): 1403. doi:10.1016/s0140-6736(76)91936-x. PMID 63862.
  17. Kása, P; Rakonczay, Z; Gulya, K (August 1997). "The cholinergic system in Alzheimer's disease". Progress in Neurobiology. 52 (6): 511–35. doi:10.1016/s0301-0082(97)00028-2. PMID 9316159.
  18. Martin, JH (2003). Lymbic system and cerebral circuits for emotions, learning, and memory. Neuroanatomy: text and atlas (3rd ed.). McGraw-Hill. p. 382. ISBN 0-07-121237-X.{{cite book}}: CS1 maint: uses authors parameter (ลิงก์)
  19. Amaral, D; Lavenex, P (2007). Anderson, P; Morris, R; Amaral, D; Bliss, T; I'Keefe (บ.ก.). Hippocampal neuroanatomy. The hippocampus book (1st ed.). New York: Oxford University Press. p. 37. ISBN 9780195100273.{{cite book}}: CS1 maint: uses authors parameter (ลิงก์)
  20. Anderson, P; Morris, R; Amaral, D; Bliss, T; O'Keefe, J (2007). Anderson, P; Morris, R; Amaral, D; Bliss, T; I'Keefe (บ.ก.). The hippocampal formation. The hippocampus book (1st ed.). New York: Oxford University Press. p. 3. ISBN 9780195100273.{{cite book}}: CS1 maint: uses authors parameter (ลิงก์)
  21. Maurice, T; Su, TP (November 2009). "The pharmacology of sigma-1 receptors". Pharmacology & Therapeutics. 124 (2): 195–206. doi:10.1016/j.pharmthera.2009.07.001. PMC 2785038. PMID 19619582.
  22. Rote Liste Service GmbH (Hrsg.): Rote Liste 2017 - Arzneimittelverzeichnis für Deutschland (einschließlich EU-Zulassungen und bestimmter Medizinprodukte). Rote Liste Service GmbH, Frankfurt/Main, 2017, Aufl. 57, ISBN 978-3-946057-10-9, S. 178.
  23. Proteopedia 1eve
  24. MC, Rodrigues Simões; FP, Dias Viegas; Moreira, MS; de Freitas Silva, M; Riquiel, MM; da Rosa, PM; และคณะ (January 2014). "Donepezil: an important prototype to the design of new drug candidates for Alzheimer's disease". Mini Reviews in Medicinal Chemistry. 14 (1): 2–19. doi:10.2174/1389557513666131119201353. PMID 24251806.
  25. Matsuyama, Kanoko (2011-04-25). "Eisai Aricept Patch for Alzheimer's Isn't Ready for Approval". Bloomberg. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-05. สืบค้นเมื่อ 2011-04-25.
  26. "Ranbaxy gets FDA nod for Alzheimer's drug". The Indian Express. New Delhi, India: Indian Express Group. 2010-11-30. IndianExpress.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-01-02. สืบค้นเมื่อ 2011-04-25.
  27. "Wockhardt Obtains US FDA Nod For Generic Version Of Aricept Tablets". RTTNews. 2011-04-25. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-01-02. สืบค้นเมื่อ 2011-04-25.
  28. Rojas-Fernandez, CH (February 2001). "Successful use of donepezil for the treatment of dementia with Lewy bodies". The Annals of Pharmacotherapy. 35 (2): 202–5. doi:10.1345/aph.10192. PMID 11215841.
  29. Malouf, R; Birks, J (2004). Malouf, Reem (บ.ก.). "Donepezil for vascular cognitive impairment". The Cochrane Database of Systematic Reviews (1): CD004395. doi:10.1002/14651858.CD004395.pub2. PMID 14974068.
  30. Moraes, W; Poyares, D; Sukys-Claudino, L; Guilleminault, C; Tufik, S (March 2008). "Donepezil improves obstructive sleep apnea in Alzheimer disease: a double-blind, placebo-controlled study". Chest. 133 (3): 677–83. doi:10.1378/chest.07-1446. PMID 18198262. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-04-14.
  31. Montero-Odasso, M; Muir-Hunter, SW; Oteng-Amoako, A; Gopaul, K; Islam, A; Borrie, M; และคณะ (2015-01-01). "Donepezil improves gait performance in older adults with mild Alzheimer's disease: a phase II clinical trial". Journal of Alzheimer's Disease. 43 (1): 193–9. doi:10.3233/JAD-140759. PMID 25079803.
  32. Doraiswamy, PM; Babyak, MA; Hennig, T; Trivedi, R; White, WD; Mathew, JP; และคณะ (2007). "Donepezil for cognitive decline following coronary artery bypass surgery: a pilot randomized controlled trial". Psychopharmacology Bulletin. 40 (2): 54–62. PMID 17514186.
  33. Jelic, V; Kivipelto, M; Winblad, B (April 2006). "Clinical trials in mild cognitive impairment: lessons for the future". Journal of Neurology, Neurosurgery, and Psychiatry. 77 (4): 429–38. doi:10.1136/jnnp.2005.072926. PMC 2077499. PMID 16306154.
  34. Petersen, RC; Thomas, RG; Grundman, M; Bennett, D; Doody, R; Ferris, S; และคณะ (June 2005). "Vitamin E and donepezil for the treatment of mild cognitive impairment". The New England Journal of Medicine. 352 (23): 2379–88. doi:10.1056/nejmoa050151. PMID 15829527.
  35. 35.0 35.1 35.2 Elbe, Dean (2019). Clinical handbook of psychotropic drugs for children and adolescents. Boston, MA: Hogrefe. p. 366-369. ISBN 978-1-61676-550-7. OCLC 1063705924.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]