องอาจ วงษ์ประยูร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
องอาจ วงษ์ประยูร
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี เขต 4
เริ่มดำรงตำแหน่ง
19 มิถุนายน พ.ศ. 2566
เขตเลือกตั้งอำเภอเสาไห้ อำเภอพระพุทธบาท อำเภอหนองโดน อำเภอดอนพุด และอำเภอบ้านหมอ
คะแนนเสียง29,676
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี เขต 3
ดำรงตำแหน่ง
24 มีนาคม พ.ศ. 2562 – 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
เขตเลือกตั้งอำเภอหนองแค อำเภอบ้านหมอ อำเภอเสาไห้ อำเภอหนองแซง อำเภอหนองโดนและอำเภอดอนพุด
คะแนนเสียง32,674
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 (62 ปี)
พรรคการเมืองพลังประชารัฐ
คู่สมรสปิยะดา วงษ์ประยูร
บุตร2 คน
บุพการี
  • บัญญัติ วงษ์ประยูร (บิดา)
  • ทองอยู่ วงษ์ประยูร (มารดา)

นายองอาจ วงษ์ประยูร (เกิด 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี เขต 4 ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปี พ.ศ. 2552 (การเลือกตั้งซ่อม) สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ อดีตกรรมการบริหารพรรคเขต 3 จังหวัดสระบุรี พรรคเพื่อไทย[1] ปัจจุบันสังกัดพรรคพลังประชารัฐ

ประวัติ[แก้]

องอาจ วงษ์ประยูร เกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 เป็นบุตรของนายบัญญัติ วงษ์ประยูร อดีต ส.ส. สระบุรีหลายสมัย และนางทองอยู่ วงษ์ประยูร มีพี่น้อง 4 คน และเป็นพี่ชายนายอรรถพล วงษ์ประยูร ซึ่งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สระบุรีเช่นกัน

สำเร็จการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต สาขากฎหมาย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, Bachelor of Science International Business สาขาบริหารธุรกิจ Fort Lauderdale College และศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

สมรสกับนางปิยะดา ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี ปี พ.ศ. 2564 มีบุตร 2 คน บุตรชายชื่อ นายเอกชัย วงษ์ประยูร จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

งานการเมือง[แก้]

อดีตเป็นเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระพุทธบาท ต่อมาปี พ.ศ. 2549 ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสระบุรี หลังจากนั้น พ.ศ. 2550 ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง โดยได้คะแนนมาเป็นอันดับที่ 3 (มี ส.ส. ได้ 2 คน) ต่อมา พ.ศ. 2552 พรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรค นายวีระพล อดิเรกสาร ซึ่งเป็น ส.ส.สระบุรี และเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนถูกติดสิทธิ์ทางการเมือง นายองอาจจึงลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง และได้รับการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก

ต่อมา พ.ศ. 2554 ย้ายไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย[2] โดยการชักชวนของพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติ[3] และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี

จากนั้นในวันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 นายองอาจได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็น ส.ส.[4] และได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง จากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 ส่งผลให้องอาจได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรีต่ออีกสมัย

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร[แก้]

องอาจ วงษ์ประยูร ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 4 สมัย คือ

  1. การเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี พ.ศ. 2552 จังหวัดสระบุรี สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
  2. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 จังหวัดสระบุรี สังกัดพรรคเพื่อไทย
  3. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จังหวัดสระบุรี สังกัดพรรคเพื่อไทย
  4. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 จังหวัดสระบุรี สังกัดพรรคพลังประชารัฐ

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. นาย องอาจ วงษ์ประยูร
  2. 8อดีตส.ส.จากสามพรรคย้ายสังกัดเพื่อไทย[ลิงก์เสีย]
  3. เจาะสนามโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง ส.ส.สระบุรีทั้ง 4 เขตใครเต็ง 1 รอง 2[ลิงก์เสีย]
  4. “ชวน” แจ้งสภา ส.ส.ลาออกอีก 5 -ให้ถอดแมสก์ประชุมได้
  5. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสายสะพาย ประจำปี ๒๕๖๖, เล่ม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๔ ข หน้า ๓, ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๗, ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]