สงครามประกาศอิสรภาพกรีซ
บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
ประวัติศาสตร์กรีซ | |
---|---|
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความที่เกี่ยวกับ ประเทศกรีซ | |
กรีซยุคสำริด | |
อารยธรรมเฮลลาดิค | |
อารยธรรมซิคละดีส | |
อารยธรรมไมนอส | |
อารยธรรมไมซีนี | |
กรีซโบราณ | |
กรีซยุคมืด | |
กรีซยุคอาร์เคอิก | |
กรีซยุคคลาสสิก | |
กรีซยุคเฮลเลนิสติก | |
กรีซยุคโรมัน | |
กรีซยุคกลาง | |
กรีซยุคไบแซนไทน์ | |
กรีซยุคฟรังโคคราเชีย | |
กรีซยุคออตโตมัน | |
กรีซยุคใหม่ | |
สงครามประกาศเอกราชกรีซ | |
ราชอาณาจักรกรีซ | |
สาธารณรัฐเฮลเลนิกที่ 2 | |
คณะการปกครอง 4 สิงหาคม | |
กรีซยุคยึดครองโดยอักษะ | |
สงครามกลางเมืองกรีซ | |
กรีซยุคปกครองโดยทหาร ค.ศ. 1967-1974 | |
สาธารณรัฐเฮลเลนิกที่ 3 | |
ประวัติศาสตร์แบ่งตามหัวข้อ | |
สถานีย่อยกรีซ |
สงครามประกาศอิสรภาพกรีซ หรือที่รู้จักกันดีว่า การปฏิวัติกรีซ ค.ศ. 1821 หรือ การปฏิวัติกรีซ[1] เป็นสงครามประกาศอิสรภาพโดยนักปฏิวัติชาวกรีกซึ่งประสบความสำเร็จในการต่อต้านจักรวรรดิออตโตมัน ระหว่าง ค.ศ. 1821 ถึง ค.ศ. 1829[2] ในภายหลังกรีซได้รับการสนับสนุนจากจักรวรรดิบริติช ฝรั่งเศส และรัสเซีย ในขณะที่จักรวรรดิออตโตมันได้รับการสนับสนุนจากรัฐบริวารของตนในแอฟริกาเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไอยาเล็ตอียิปต์ สงครามครั้งนี้นำไปสู่การก่อตั้งกรีซในสมัยใหม่ การปฏิวัติได้รับการเฉลิมฉลองโดยชาวกรีกซึ่งมีอยู่ในทั่วทุกมุมโลก ในฐานะวันอิสระภาพซึ่งตรงกับวันที่ 25 มีนาคม
กรีซตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิออตโตมันในศตวรรษที่ 15 ในช่วงหลายสิบปีก่อนและหลังการเสียกรุงคอนสแตนติโนเปิล[3] ในช่วงหลายศตวรรษต่อมา มีชาวกรีกได้ลุกฮือต่อต้านการปกครองของออตโตมันเป็นระยะๆ มาเรื่อยๆ แต่ไม่สำเร็จ[4] ใน ค.ศ. 1814 องค์กรลับที่เรียกว่า ฟิลิกี เอตเทอเรีย ได้ก่อตั้งขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อปลดปล่อยกรีซจากออตโตมัน โดยได้รับการสนับสนุนจากความคิดที่ท่วมท้นโดยนักปฏิวัติ ที่ได้ยึดครองยุโรปในช่วงเวลานั้น ฟิลิกี เอตเทอเรีย วางแผนที่จะทำการจลาจลใน เพโลพอนนีส, ราชรัฐดานูบเนียน และคอนสแตนติโนเปิลเอง การก่อจลาจลได้ถูกวางแผนเอาไว้ในวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1821 (ในปฏิทินจูเลียน) ซึ่งเป็นงานฉลองเทศกาลพระแม่มารีรับข่าวดี ของชาวคริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ อย่างไรก็ตามแผนการของฟิลิกี เอตเทอเรีย ถูกพบโดยทางการของออตโตมัน และบังคับให้การจลาจลเริ่มต้นขึ้นก่อนหน้านี้ การก่อจลาจลครั้งแรกได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 6 มีนาคม/21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1821 ในราชรัฐดานูบเบียน แต่ไม่นานก็ถูกล้มลงโดยออตโตมัน เหตุการณ์ทางตอนเหนือได้กระตุ้นให้ชาวกรีกในเพโลพอนนีส (มอเรีย) ได้เคลื่อนไหวเรียกร้องให้เอกราชกับกรีซ และในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1821 พวกแมนิอ็อซ์เป็นกลุ่มแรกที่ได้ประกาศสงคราม ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1821 ชาวกรีกภายใต้การนำของ เทรโรโดรอส โคโลโคทีรินอส์ ได้ยึดเมืองตริโปลิซา ภายในครีต, มาซิโดเนีย และกรีซตอนกลาง ได้เกิดก่อการจลาจล แต่สุดท้ายก็ถูกปราบปราม ในขณะเดียวกันกองเรือชั่วคราวของกรีซ ก็ประสบความสำเร็จในการต่อต้านกองเรือออตโตมันในทะเลอีเจียน และป้องกันไม่ให้กองกำลังของออตโตมันมาถึงโดยทางทะเล
ในไม่นานความตึงเครียดก็ทวีความรุนแรงขึ้นท่ามกลางฝ่ายกรีซที่อุดมการณ์แตกต่างกัน จนนำไปสู่สงครามกลางเมืองอยู่ 2 ครั้ง สุลต่านออตโตมันได้เรียกข้าราชบริพารของเขา มูฮัมหมัดอาลีแห่งอียิปต์ ผู้ซึ่งตกลงที่จะส่งบุตรชายของเขา อิบราฮิม ปาชา ไปยังกรีซพร้อมกับกองทัพเพื่อปราบปรามการก่อจลาจลโดยหวังได้ดินแดนเป็นการตอบแทน อิบราฮิมขึ้นฝั่งที่เพโลพอนนีสในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1825 และทำให้พื้นทื่คาบสมุทรส่วนใหญ่ ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของอียิปต์ภายในสิ้นปีนั้น และเมืองมิสโซลองกีก็ล่มสลายในเดือนเมษายน ค.ศ. 1826 หลังจากถูกชาวเติร์กล้อมเป็นเวลา 1 ปี แม้การรุกรานมานีจะประสบความล้มเหลว แต่เอเธนส์ก็ยังคงล่มสลาย และการปฏิวัติก็พ่ายแพ้เกือบจะสิ้นเชิง
เมื่อมาถึงจุดนั้น มหาอำนาจทั้งสามได้แก่ รัสเซีย, บริเตน และฝรั่งเศส ตัดสินใจที่จะเข้าแทรกแซงโดยส่งกองเรือรบของตน ไปยังกรีซใน ค.ศ. 1827 หลังจากมีข่าวแจ้งเตือน ว่ากองเรือออตโตมัน-อียิปต์ที่รวมกันเพื่อจะเข้าโจมตีเกาะไฮดรา กองเรือพันธมิตรในยุโรปสกัดกั้นกองทัพเรือของออตโตมันที่นาวาริโน หลังจากความขัดแย้งที่ตึงเครียดมานานตลอด 1 สัปดาห์ ยุทธนาวีนาวาริโนได้นำไปสู่การทำลายล้างกองเรือของออตโตมัน-อียิปต์ และทำให้กระแสของนักปฏิวัติได้หันมาสนใจ จนใน ค.ศ. 1828 กองทัพอียิปต์ได้ถอนตัวออกไปภายหลังแรงกดดันของกองกำลังรบนอกประเทศของฝรั่งเศส กองทหารรักษาการณ์ของออตโตมันในเพโลพอนนีส ได้ยอมจำนน และนักปฏิวัติชาวกรีกก็ยังยึดครองกรีซตอนกลาง รัสเซียได้รุกรานจักรวรรดิออตโตมัน และบีบบังคับให้ยอมรับเอกราชของกรีซในสนธิสัญญาแอดเรียนโนเปิล หลังจากสงครามยาวนาน 9 ปี ในที่สุดกรีซก็ได้รับการรับรองว่าเป็นรัฐเอกราช ภายใต้พิธีสารลอนดอนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1830 และการเจรจาเพิ่มเติมใน ค.ศ. 1832 นำไปสู่การประชุมที่ลอนดอนและสนธิสัญญาคอนสแตนติโนเปิล สิ่งเหล่านี้ได้กำหนดพรมแดนสุดท้ายของรัฐใหม่ และสถาปนาเจ้าชายออตโตแห่งบาวาเรีย เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของกรีซ
เชิงอรรถ
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ กรีก: Ελληνική Επανάσταση, อักษรโรมัน: Elliniki Epanastasi; ชาวกรีกในศตวรรษที่ 19 เรียกว่า อกอนัส [Αγώνας, Agonas], "การดิ้นรน"; ตุรกีออตโตมัน: يونانعصياني Yunan İsyanı, "การกบฎโดยชาวกรีก"
- ↑ "War of Greek Independence | History, Facts, & Combatants".
- ↑ Finkel, Caroline (2007). Osman's Dream: The History of the Ottoman Empire. Basic Books. p. 17. ISBN 9780465008506.
- ↑ Woodhouse, A Story of Modern Greece, 'The Dark Age of Greece (1453–1800)', p. 113, Faber and Faber (1968)
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Greek War of Independence
- The Question of Greek Independence: A Study of British Policy in the Near East, 1821–1833 เก็บถาวร 2008-10-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Phillips, Walter Alison (1911). . สารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1911 (11 ed.).