ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระสุนทรธรรมเมธี (สุเทพ อาสโภ)"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ล ลบภาพ "พระสุนทรธรรมเมธี.jpg", ซึ่งถูกลบที่คอมมอนส์โดย Martin H. เพราะ copyright violation: unfree file [[commons:COM:CB#Internet ima... |
||
บรรทัด 5: | บรรทัด 5: | ||
|ฉายา = อาสโภ |
|ฉายา = อาสโภ |
||
|ชื่อทั่วไป = |
|ชื่อทั่วไป = |
||
|สมณศักดิ์ = |
|สมณศักดิ์ = พระสุนทรธรรมเมธี |
||
|วันเกิด = 23 กุมภาพันธ์ 2487 |
|วันเกิด = 23 กุมภาพันธ์ 2487 |
||
|วันบวช = 26 เมษายน 2507 |
|วันบวช = 26 เมษายน 2507 |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:43, 27 กันยายน 2557
พระสุนทรธรรมเมธี (สุเทพ อาสโภ) | |
---|---|
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 23 กุมภาพันธ์ 2487 |
นิกาย | มหานิกาย |
การศึกษา | น.ธ.เอก, ป.ธ.4, ศน.บ.(ศาสนาปรัชญา),M.A.(Edu),Ph.D.(Philosophy) |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดท่าสว่าง บุรีรัมย์ |
อุปสมบท | 26 เมษายน 2507 |
ตำแหน่ง | เจ้าอาวาสวัดท่าสว่าง และรองเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ |
พระสุนทรธรรมเมธี,ดร. (สุเทพ อาสโภ) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งทางพระสังฆาธิการเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าสว่าง ตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ และรองเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดพระราชทานสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2553 โดยมีราชทินนามตามสัญญาบัตรประกอบพัดยศสมณศักดิ์ว่า พระสุนทรธรรมเมธี[1]
ชาติกาล
- พระสุนทรธรรมเมธี,ดร. (สุเทพ อาสโภ) นามเดิมชื่อว่า สุเทพ บุตรโสภา
- เกิดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2487 บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 3 ต.กันทรารมย์ (เดิม ต.เมืองไผ่) อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
- นามบิดา นายโระ นิทะรัมย์ บ้านเมืองไผ่ ต.เมืองไผ่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
- นามมารดา นางบิน บุตรโสภา บ้านปรีเวง ต.เมืองไผ่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
บรรพชาและอุปสมบท
- บรรพชา เมื่อพ.ศ.2501 โดยมี พระครูวิสุทธคันธารมย์ (จาด ธมฺมทินฺโน)วัดคันธารมย์ เป็นพระอุปัชฌาย์
- อุปสมบท เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ.2507 ณ พัทธสีมาวัดคันธารมย์ โดยมี พระครูวิสุทธคันธารมย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ , พระมงคลรังษี อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอกระสัง เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระครูบริหารนันทคุณ วัดบ้านหนองขอน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า" อาสโภ "
การศึกษาแผนกธรรม-บาลี และสายสามัญ
- พ.ศ.2500 จบชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 โรงเรียนบ้านดอนยาว อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
- พ.ศ.2501 สอบได้นักธรรมชั้นตรี สำนักศษสนศึกษาวัดคันธารมย์ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
- พ.ศ.2502 สอบได้นักธรรมชั้นโท สำนักศาสนศึกษาวัดกทลิวนาราม อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
- พ.ศ.2503 สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักศาสนศึกษาวัดกลาง พระอารามหลวง จ.บุรีรัมย์
- พ.ศ.2512 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค สำนักเรียนวัดอนงคาราม กรุงเทพมหานคร
- พ.ศ.2515 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค สำนักเรียนวัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร และสำเร็จการศึกษาผู้ใหญ่ ระดับ 4 โรงเรียนผู้ใหญ่ วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพฯ
- พ.ศ.2522 สำเร็จการศึกษา ปริญญาศาสนศาสตรบัณฑิต (ศน.บ.) จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร
- พ.ศ.2523 สอบได้ประกาศนียบัตรพิเศษการศึกษา (พ.กศ.) สนามสอบจังหวัดบุรีรัมย์
- พ.ศ.2527 สำเร็จการศึกษามหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา จากมหาวิทยาลัยปัญจาบ เมืองจันดิการ์ ประเทศอินเดีย
- พ.ศ.2551 สำเร็จการศึกษาปริญญาเอก สาขาปรัชญา จากมหาวิทยาลัยมคธ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
งานปกครองคณะสงฆ์
- พ.ศ.2525 ดำรงตำแหน่งเป็น เจ้าอาวาสวัดท่าสว่าง อ.กระสัง จังหวัดบุรีรัมย์
- พ.ศ.2534 ดำรงตำแหน่งเป็น เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์
- พ.ศ.2537 ดำรงตำแหน่งเป็น รองเจ้าคณะอำเภอกระสัง
- พ.ศ.2537 ดำรงตำแหน่งเป็น เจ้าคณะตำบลกันทรารมย์
- พ.ศ.2537 ดำรงตำแหน่งเป็น พระอุปัชฌาย์ในเขตอำเภอกระสัง
- พ.ศ.2546 ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอพลับพลาชัย และพระอุปัชฌาย์ในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอพลับพลาชัย และสำเร็จการศึกษาผู้ใหญ่ ระดับ 4 โรงเรียนผู้ใหญ่ วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพฯ
- พ.ศ.2552 ดำรงตำแหน่งเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์[2] และพระอุปัชฌาย์ ในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดบุรีรัมย์
งานด้านการศึกษา
- พ.ศ.2531-2544 (รวม 14ปี) เป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์
- พ.ศ.2535 เป็นผู้จัดการโรงเรียนท่าสว่างวิทยา และครูใหญ่โรงเรียนวัดท่าสว่างวิทยา วัดท่าสว่าง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
- พ.ศ.2536-2537 เป็นรองคณบดี คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- พ.ศ.2542 เป็นผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์
- พ.ศ.2542-2546 (3 สมัย 6 ปี) เป็นประธานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 11
- ปัจจุบัน เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำวิทยาลัยสงฆ์บุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
สมณศักดิ์
- ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราขทินนามที่ พระครูอมรธรรมนิเทศก์ [3]
- พ.ศ. 2553 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญในราขทินนามที่ "พระสุนทรธรรมเมธี" (5 ธันวาคม 2553)
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- http://region2.prd.go.th/ewt_news.php?nid=422
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๓ พระมหาสุทพ ๔ ประโยค วัดท่าสว่าง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นพระครูอมรธรรมนิเทศก์ ประกาศ ณ วันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษเล่ม ๑๐๗, ตอนที่ ๒๔๒ ,๕ ธันวาคม ๒๕๓๓,หน้า ๑๓
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ จำนวน ๑,๐๗๕ รูป ลำดับที่ ๒๙. พระครูอมรธรรมนิเทศก์ วัดท่าสว่าง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นพระราชาคณะ มีนามว่า พระสุนทรธรรมเมธี ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๘, ตอนที่ ๑๒ ข,๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๔,หน้า ๕