ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ScorpianPK (คุย | ส่วนร่วม)
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
replaceViaSearch: พระราชทาน
บรรทัด 32: บรรทัด 32:
}}
}}


'''วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร''' เป็น[[พระอารามหลวง]]ชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่ง[[แม่น้ำเจ้าพระยา]] ฝั่งพระนคร [[ถนนทรงวาด]]ติดต่อกับถนน[[สำเพ็ง]] แขวงสัมพันธวงศ์ [[เขตสัมพันธวงศ์]] [[กรุงเทพมหานคร]] เดิมชื่อวัดสำเพ็ง ตามชื่อถนนหน้าวัด ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดปทุมคงคา”
'''วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร''' เป็น[[พระอารามหลวง]]ชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่ง[[แม่น้ำเจ้าพระยา]] ฝั่งพระนคร [[ถนนทรงวาด]]ติดต่อกับถนน[[สำเพ็ง]] แขวงสัมพันธวงศ์ [[เขตสัมพันธวงศ์]] [[กรุงเทพมหานคร]] เดิมชื่อวัดสำเพ็ง ตามชื่อถนนหน้าวัด ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดปทุมคงคา”


== ประวัติ ==
== ประวัติ ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:27, 12 กันยายน 2555

วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร
แผนที่
ที่ตั้งแขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
ประเภทพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร
นิกายมหานิกาย
พระพุทธศาสนา ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา

วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งพระนคร ถนนทรงวาดติดต่อกับถนนสำเพ็ง แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เดิมชื่อวัดสำเพ็ง ตามชื่อถนนหน้าวัด ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดปทุมคงคา”

ประวัติ

วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเมื่อครั้งแรกสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ โปรดเกล้าฯ ให้พระยาธรรมาธิกรณ์ (บุญรอด บุณยรัตนพันธ์) กับพระวิจิตรนาวี เป็นแม่กองคุมช่างและไพร่ไปกะที่สร้างพระนครใหม่ ณ ฝั่งตะวันออก โปรดเกล้าฯ ให้พระยาราชาเศรษฐี และพวกคนจีน ย้ายไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่สวน ตั้งแต่คลองวัดสามปลื้ม (วัดจักรวรรดิราชาวาส) ไปจนถึงคลองวัดสำเพ็ง (วัดปทุมคงคา) และเห็นว่าเป็นวัดโบราณที่ทรุดโทรมมาก สมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท จึงได้โปรดเกล้า ฯ ให้ซ่อมแซมขึ้นใหม่ทั้งวัด เมื่อกรมพระราชวังบวรสุรมหาสิงหนาททรงปฏิสังขรณ์และสร้างเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดปทุมคงคา”

จนในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่วัดเริ่มทรุดโทรมอีกครั้ง พระยาสวัสดิวารีได้กราบทูลขอทำการบูรณปฏิสังขรณ์ แต่บูรณปฏิสังขรณ์ยังไม่ทันเสร็จ พระยาสวัสดิวารีก็ได้ถึงแก่อนิจกรรมเสียก่อน แต่ไม่มีผู้ใดรับบูรณปฏิสังขรณ์ต่อไปตลอดรัชกาลที่ 3 ครั้งถึงสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาพิศาลศุภผล ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ต่อ และได้เพิ่มเติม โดยให้ช่างยกพระพุทธรูปในพระอุโบสถให้สูงขึ้น มีพระทรงเครื่องต้นอย่างกษัตริย์ ต่อชุกชีออกมา ทำเป็นรูปเทวราชถือพุ่มฉัตรดอกไม้ทอง ดอกไม้เงินด้วย 2 องค์[1]

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น