ผลต่างระหว่างรุ่นของ "งูหลามปากเป็ด"
ล r2.6.5) (โรบอต เพิ่ม: pt:Píton-sangüíneo |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{รอการตรวจสอบ}} |
|||
{{Taxobox |
{{Taxobox |
||
| color = pink |
| color = pink |
||
บรรทัด 12: | บรรทัด 11: | ||
| subordo = [[Serpentes]] |
| subordo = [[Serpentes]] |
||
| familia = [[Python|Pythonidae]] |
| familia = [[Python|Pythonidae]] |
||
| genus = ''Python'' |
| genus = ''[[Python]]'' |
||
| species = '''''P. curtus''''' |
| species = '''''P. curtus''''' |
||
| binomial = '''''Python curtus''''' |
| binomial = '''''Python curtus''''' |
||
| binomial_authority = [[Hermann Schlegel|Schlegel]], [[ค.ศ. 1872]] |
| binomial_authority = [[Hermann Schlegel|Schlegel]], [[ค.ศ. 1872|1872]] |
||
| subspecies = *''P. c. curtus''<br> |
| subspecies = *''P. c. curtus''<br> |
||
*''P. c. breitensteini''<br> |
*''P. c. breitensteini''<br> |
||
*''P. c. brongersmai'' |
*''P. c. brongersmai'' |
||
}} |
}} |
||
⚫ | |||
'''งูหลามปากเป็ด''' เป็น[[งู]]ที่เล็กที่สุดใน[[สกุล (ชีววิทยา)|สกุล]] ''Python'' อันเป็นสกุลเดียวกับ[[งูหลาม]]และ[[งูเหลือม]] มี[[ชื่อวิทยาศาสตร์]]ว่า ''Python curtus'' เป็นงูไม่มีพิษ มีลำตัวที่อ้วน หนา กว่างูหลามและงูเหลือม แต่มีหางที่สั้นแลดูไม่สมส่วน และมีลวดลายที่แปลกออกไป มีหลายหลากสี ทั้งน้ำตาล แดง เหลือง ส้ม หรือ เขียว โดยงูแต่ละตัวจะมีสีสันและลวดลายต่างกันออกไป ขนาดโตเต็มที่ได้ประมาณ 1.50 [[เมตร]] |
'''งูหลามปากเป็ด''' ({{lang-em|Blood Python}}) เป็น[[งู]]ที่เล็กที่สุดใน[[สกุล (ชีววิทยา)|สกุล]] ''[[Python]]'' อันเป็นสกุลเดียวกับ[[งูหลาม]]และ[[งูเหลือม]] มี[[ชื่อวิทยาศาสตร์]]ว่า ''Python curtus'' เป็นงูไม่มีพิษ มีลำตัวที่อ้วน หนา กว่างูหลามและงูเหลือม แต่มีหางที่สั้นแลดูไม่สมส่วน และมีลวดลายที่แปลกออกไป มีหลายหลากสี ทั้งน้ำตาล แดง เหลือง ส้ม หรือ เขียว โดยงูแต่ละตัวจะมีสีสันและลวดลายต่างกันออกไป ขนาดโตเต็มที่ได้ประมาณ 1.50 [[เมตร]] |
||
พบใน[[ประเทศไทย]]ตั้งแต่ [[ |
พบใน[[ประเทศไทย]]ตั้งแต่ [[จังหวัดประจวบคีรีขันธ์]]ลงไป จนถึง[[มาเลเซีย]]และ[[สิงคโปร์]] เป็นงูที่ไม่ค่อยขึ้นต้นไม้ มักจะซุ่มรออาหารตามพื้นดินที่เฉอะแฉะใกล้แหล่งน้ำ<ref>[http://rirs3.royin.go.th/new-search/word-search-all-x.asp ความหมายของคำว่า "ปากเป็ด" ตาม[[พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542]]]</ref> ที่โดยมากเป็น[[สัตว์เลือดอุ่น]]ขนาดเล็ก งูหลามปากเป็ดวางไข่ครั้งละประมาณ 30-50 ฟอง <ref>[http://www.2snake2fish.com/snake/python/blood-python.htm งูหลามปากเป็ด]</ref> |
||
มีสาย[[พันธุ์ย่อย]] 3 สายพันธุ์ คือ ''P. c. curtus'', ''P. c. breitensteini'' พบใน[[บอร์เนียว]] และ ''P. c. brongersmai'' พบใน[[แหลมมลายู|เพนนิซูล่า]] [[มาเลเซีย]]และ[[สิงคโปร์]] เป็นสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า [[พ.ศ. 2535]] นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงของผู้ที่นิยมสัตว์เลื้อยคลานเพราะมีความสวยงาม |
|||
==อ้างอิง== |
|||
{{รายการอ้างอิง}} |
|||
{{งู}} |
{{งู}} |
||
[[หมวดหมู่:งู]][[หมวดหมู่:สัตว์เลื้อยคลานที่เป็นสัตว์เลี้ยง]] |
[[หมวดหมู่:งู]][[หมวดหมู่:สัตว์เลื้อยคลานที่เป็นสัตว์เลี้ยง]] |
||
⚫ | |||
[[หมวดหมู่:สัตว์ป่าคุ้มครอง]] |
[[หมวดหมู่:สัตว์ป่าคุ้มครอง]] |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:21, 30 เมษายน 2554
งูหลามปากเป็ด | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Reptilia |
อันดับ: | Squamata |
อันดับย่อย: | Serpentes |
วงศ์: | Pythonidae |
สกุล: | Python |
สปีชีส์: | P. curtus |
สปีชีส์ย่อย: |
|
ชื่อทวินาม | |
Python curtus Schlegel, 1872 |
งูหลามปากเป็ด (แม่แบบ:Lang-em) เป็นงูที่เล็กที่สุดในสกุล Python อันเป็นสกุลเดียวกับงูหลามและงูเหลือม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Python curtus เป็นงูไม่มีพิษ มีลำตัวที่อ้วน หนา กว่างูหลามและงูเหลือม แต่มีหางที่สั้นแลดูไม่สมส่วน และมีลวดลายที่แปลกออกไป มีหลายหลากสี ทั้งน้ำตาล แดง เหลือง ส้ม หรือ เขียว โดยงูแต่ละตัวจะมีสีสันและลวดลายต่างกันออกไป ขนาดโตเต็มที่ได้ประมาณ 1.50 เมตร
พบในประเทศไทยตั้งแต่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไป จนถึงมาเลเซียและสิงคโปร์ เป็นงูที่ไม่ค่อยขึ้นต้นไม้ มักจะซุ่มรออาหารตามพื้นดินที่เฉอะแฉะใกล้แหล่งน้ำ[1] ที่โดยมากเป็นสัตว์เลือดอุ่นขนาดเล็ก งูหลามปากเป็ดวางไข่ครั้งละประมาณ 30-50 ฟอง [2]
มีสายพันธุ์ย่อย 3 สายพันธุ์ คือ P. c. curtus, P. c. breitensteini พบในบอร์เนียว และ P. c. brongersmai พบในเพนนิซูล่า มาเลเซียและสิงคโปร์ เป็นสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงของผู้ที่นิยมสัตว์เลื้อยคลานเพราะมีความสวยงาม