ข้ามไปเนื้อหา

ทอย สตอรี่ 3

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก Toy Story 3)
ทอย สตอรี่ 3
โปสเตอร์ภาพยนตร์ทอย สตอรี่ 3
กำกับลี อุนคริช
เขียนบทลำดับภาพ:
ไมเคิล อาร์นด์ท
เรื่อง:
จอห์น แลสซีเตอร์
แอนดรูว์ สแตนตัน
ลี อุนคริช
อำนวยการสร้างดาร์ลา เค.แอนเดอร์สัน
จอห์น แลสซีเตอร์ (บริหารงาน)
นิโคล พาราดิส กรินด์ (ประสานงาน)
นักแสดงนำทอม แฮงส์
ทิม อัลเลน
โจน คูแซก
ตัดต่อเคน สเชิร์ซแมนน์
ดนตรีประกอบแรนดี้ นิวแมน
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่ายวอลต์ดิสนีย์พิกเจอส์
วันฉาย12 มิถุนายน ค.ศ. 2010
(เทศกาลภาพยนตร์ทาโอมีน่า)

18 มิถุนายน ค.ศ. 2010
(สหรัฐอเมริกา)
19 กรกฎาคม ค.ศ. 2010
(สหราชอาณาจักร)[1]
12 สิงหาคม ค.ศ. 2010
(ประเทศไทย)
ความยาว103 นาที[2]
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3]
ทำเงิน1,067 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[3]
ก่อนหน้านี้ทอย สตอรี่ 2 (ค.ศ. 1999)
ต่อจากนี้ทอย สตอรี่ 4 (ค.ศ. 2019)
ข้อมูลจาก IMDb

ทอย สตอรี่ 3 (อังกฤษ: Toy Story 3) เป็นภาพยนตร์คอมพิวเตอร์แอนิเมชันสามมิติ จากสหรัฐอเมริกาซึ่งจัดฉายในปีค.ศ. 2010 และเป็นเป็นภาพยนตร์ภาคสามของซีรีส์ทอย สตอรี่[4] ผลิตโดยพิกซาร์แอนิเมชันสตูดิโอส์ และจัดฉายโดยวอลต์ดิสนีย์พิกเจอส์

รายนามนักพากย์หลัก ซึ่งได้แก่ ทอม แฮงส์, ทิม อัลเลน, โจน คูแซก, ดอน ริกเกิลส์, เอสเทล แฮร์ริส, จอห์น แรทเซนเบอร์เกอร์, วอลเลซ ชอว์น, เจฟฟ์ พิดเจียน, โจดี้ เบนสัน, อาร์.ลี เออร์มี่, จอห์น มอร์ริส และลอว์รี่ เมทคาล์ฟ ทั้งหมดจะมาร่วมพากย์เสียงตามบทที่คุ้นเคยจากภาพยนตร์ชุดก่อนหน้า ส่วนจิม วาร์นี่ ผู้พากย์เสียงสลิงกี้ด็อกในสองภาคแรก กับโจ แรนฟ์ท ผู้พากย์เสียงวีซซี่กับแรนนี่ ได้เสียชีวิตก่อนที่จะเริ่มการสร้างภาพยนตร์ภาคสามนี้ ผู้ให้เสียงพากย์ในบทของสลิงกี้จึงถูกแทนที่โดยเบลค คล๊าก ในขณะที่ตัวละครของแรนฟ์ทกับตัวละครอื่นอีกหลายรายได้ถูกนำออกจากเรื่อง (อย่างไรก็ตาม วีซซี่ ก็ได้รับการกล่าวถึงในช่วงเริ่ม) ตัวละครใหม่ได้รับการพากย์เสียงโดย เนด บีทที่, ทิโมธี ดาลตัน, โบนนี่ ฮันท์, วูปี โกลด์เบิร์ก และไมเคิล คีตัน

ทอย สตอรี่ 3 กำหนดจัดฉายทั่วโลกช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม โดยเปิดตัวทำลายสถิติทำเงินแทนที่ภาพยนตร์เชร็ค 3ในวันแรกของอเมริกาเหนือ ของช่วงที่มีสภาวะเงินเฟ้อ และทำสถิติภาพยนตร์แอนิเมชั่นเปิดตัวสูงสุดเป็นอันดับสองต่อจากเชร็ค 3 ด้วยยอดทำเงินอย่างไม่เป็นทางการในเบื้องต้นที่ 110,307,189 ดอลลาร์สหรัฐ[5][6] รวมทั้งยังถือเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินในช่วงปลายสัปดาห์สูงสุดของพิกซาร์ฟิล์ม ตลอดจนเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดในช่วงสุดสัปดาห์ของเดือนมิถุนายน ในขณะนี้ ทอยสตอรี่ 3 เป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงที่สุดประจำปี ค.ศ. 2010 ของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา และเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับสองของปี ค.ศ. 2010 จากทั่วโลกอีกด้วย ทั้งยังทำลายสถิติแทนแวมไพร์ ทไวไลท์ 3 อีคลิปส์สำหรับการเปิดตัวช่วงสุดสัปดาห์ในสหราชอาณาจักรประจำปี ค.ศ. 2010 โดยทำลายสถิติที่ยอดทำเงิน 21 ล้านปอนด์ของการเปิดตัว และได้กลายมาเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลอันดับสองของสหราชอาณาจักรต่อจากแฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน ที่ทำไว้เมื่อปี ค.ศ. 2004 ด้วยยอดทำเงิน 23.9 ล้านปอนด์ในช่วงเวลานั้น[7]

เนื้อเรื่องย่อ

[แก้]

เมื่อแอนดี้มีอายุได้ 17 ปี เขาก็อยู่ในช่วงเลยวัยที่สนใจกับพวกของเล่นเก่าๆ และต้องเตรียมศึกษาต่อระดับวิทยาลัย เขาตัดสินใจที่จะนำวูดดี้ไปกับเขา และนำของเล่นชิ้นอื่นๆใส่ไว้ในถุงขยะโดยมีเจตนาที่จะเก็บของเหล่านี้ไว้ที่ห้องเพดาน แต่แม่ของแอนดี้ก็เข้าใจผิดคิดว่าของเหล่านี้กลายเป็นขยะ เพราะคิดว่าแอนดี้คงไม่ต้องการของเล่นเหล่านี้อีกต่อไป เหล่าของเล่นต่างพบว่านี่เป็นกล่องที่บริจาคถึงซันนี่ไซด์เดย์แคร์ ในขณะที่วู้ดดี้เป็นฝ่ายเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เขาจึงพยายามแก้ความเข้าใจผิดให้กระจ่าง แต่ของเล่นอื่นๆต่างก็ปฏิเสธที่จะรับฟัง

เหล่าของเล่นย้ายเข้าสู่ซันนี่ไซด์และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเดย์แคร์ทอย ซึ่งนำโดย ลอทส์-โอ'-ฮักกินส์-แบร์ (ลอสโซ่) ในขณะที่วูดดี้เป็นฝ่ายพยายามโน้มน้าวใจพวกเขาให้เดินทางกลับไปหาแอนดี้ แต่ดูเหมือนพวกเขาต่างมีความสุขกับการอยู่กับซันนี่ไซด์มากกว่า ทำให้วูดดี้ออกไปจากกลุ่มของพวกเขา ต่อมาไม่นานพวกเขาก็ได้รู้ว่า เด็กๆกลุ่มใหม่นั้นไม่เคยปฏิบัติกับของเล่นอย่างอ่อนโยนเลย อีกทั้งยังทรมานของเล่นชิ้นต่างๆด้วยความไร้เดียงสา ซึ่งลอสโซ่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดนี้ เพื่อต้องการที่จะทารุณของเล่นที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ขณะเดียวกัน บาร์บี้ของมอลลี่ที่นำมาบริจาคด้วยได้เกิดตกหลุมรักกับเคน ผู้ซึ่งเป็นมือขวาของลอสโซ่ โดยเคนเองก็ตกหลุมรักบาร์บี้ด้วยเช่นกัน ส่วนบัซ ไลท์เยียร์ก็ได้ออกไปขอร้องลอสโซ่ให้มอบของเล่นเหล่านี้ไปอยู่กับเจ้าของเดิม แต่เขากลับถูกจับกุมโดยพวกของเล่นซันนี่ไซด์ และทำการรีเซ็ทบัซใหม่ ให้กลายเป็นผู้พิทักษ์อวกาศตามความต้องการของพวกเขาแทน และสั่งให้ไปจับตัวเหล่าบรรดาของเล่นที่เป็นเพื่อนของบัซไปคุมขังเอาไว้ทั้งหมด

แต่นับเป็นโชคดีที่ระหว่างทาง วูดดี้ซึ่งกำลังจะเดินทางกลับไปหาแอนดี้ที่บ้านนั้นได้พบกับบอนนี่ หนูน้อยผู้รักของเล่น ผู้ซึ่งมีแต่ของเล่นที่อยู่ในสภาพดี อาทิ เม่นเจ้าบทบาทในชุดเอี๊ยมที่ชื่อ คุณพริกเคิลแพนต์ และตัวตลกที่ชื่อ ชัคเกิ้ลส์ ซึ่งเคยมีเจ้าของคนเดียวกับลอสโซ่ และรู้เรื่องราวอันร้ายกาจของซันนี่ไซด์เดย์แคร์เป็นอย่างดี เมื่อเขาได้เล่าให้วู้ดดี้ฟัง วูดดี้จึงรู้ว่าเพื่อนๆของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย วูดดี้จึงพยายามหาวิธีเข้าไปช่วยเพื่อนๆ และรวมพลังกันวางแผนเพื่อหนีกลับบ้านไปหาแอนดี้ให้ได้

ตัวละครหลัก

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Toy Story 3 Release Date for UK". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-05. สืบค้นเมื่อ 2010-07-18.
  2. Twitter.com
  3. 3.0 3.1 "Toy Story 3 (2010)". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ March 23, 2011.
  4. Scott, Mike (2010-05-18). "The Pixar way: With 'Toy Story 3' continuing the studio's success, one must ask: How do they do it?". NOLA.com. The Times-Picayune. สืบค้นเมื่อ 2010-06-18.
  5. Boxofficemojo.com
  6. "Box office report: 'Toy Story' breaks records; 'Jonah Hex' lands in eighth place". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-23. สืบค้นเมื่อ 2010-07-28.
  7. "'Toy Story 3' sets UK box office records". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-28. สืบค้นเมื่อ 2010-07-28.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]