102 ปิดกรุงเทพปล้น

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก 102 ปิดกรุงเทพฯปล้น)
102 ปิดกรุงเทพปล้น
ใบปิดภาพยนตร์
กำกับธนิตย์ จิตนุกูล
บทภาพยนตร์ไทเกอร์ทีม
นักแสดงนำฉัตรชัย เปล่งพานิช
อำพล ลำพูน
โกวิท วัฒนกุล
ประกาศิต โบสุวรรณ
วิทิต แลต
บุญถิ่น ทวยแก้ว
พงศนารถ วินศิริ
โสธรณ์ รุ่งเรือง
ขจรศักดิ์ รัตนนิสสัย
เศรษฐธร ธิติธนเศรษฐ์
เศรษฐวิทย์ พันธุ์เพ็ง
กำกับภาพธีระวัฒน์ รุจินธรรม
ตัดต่ออุรุพงศ์ รักษาสัตย์
ผู้จัดจำหน่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
วันฉาย29 เมษายน พ.ศ. 2547
ความยาว1 ชั่วโมง 29 นาที[1]
ประเทศไทย
ภาษาไทย
ทำเงิน18.6 ล้านบาท(ประเทศไทย)
ข้อมูลจาก IMDb
ข้อมูลจากสยามโซน

102 ปิดกรุงเทพปล้น (อังกฤษ: 102 Bangkok Robbery) เป็นภาพยนตร์แอ็กชันของประเทศไทย นำแสดงโดย อำพล ลำพูน และฉัตรชัย เปล่งพานิช ฉายเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2547[2] ผลิตโดยสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล กำกับภาพยนตร์โดยธนิตย์ จิตนุกูล

นักแสดง[แก้]

เรื่องย่อ[แก้]

รัฐบาลออกมาประกาศชำระเงินที่ยืมมาคืนให้แก่ IMF ทั้งหมด จนทำให้เกิดการรวมตัวกันขององค์กรใต้ดินโดยผู้ที่มีอำนาจและอิทธิพลทางเศรษฐกิจในประเทศที่ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับแนวความคิดนี้ จนก่อให้เกิดแผนปฏิบัติการ 102 นาทีขึ้น เพื่อยับยั้งการชำระหนี้คืน IMF

กลุ่มก่อการร้ายอาชีพถูกดึงเข้ามาร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ภายใต้การนำของ นาวิน (อำพล ลำพูน) ผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ ซึ่งเป็นนายทหารมือดีแต่ต้องวางมือไปจากฝันร้ายของสงคราม เขาจำต้องกลับมารับงานนี้เพราะมีหนี้ชีวิตที่ติดค้างอยู่กับ นายพลอนุสรณ์ ผู้เป็นหนึ่งในแกนนำองค์กรโดยที่นาวินไม่รู้ว่าเขาเป็นเพียงเครื่องมือชำระหนี้แค้นและเป็นเหยื่อของแผนการ

จากการสืบสวนทุกรูปแบบของ ปกรณ์ (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) หัวหน้าหน่วยปราบปรามการก่อการร้ายทั้งในและนอกประเทศที่เข้ามารับผิดชอบคดีนี้กับเวลาที่เหลือน้อยจนต้องนับเป็นนาที "เงินต้องถูกโอนให้ IMF เพื่อปลดหนี้ของคนทั้งประเทศให้ได้" นั่นเป็นคำขาดจากรัฐบาล

ระเบิดปริมาณมหาศาลถูกวางไว้ทั่วกรุงเทพฯ ปกรณ์จำต้องสืบให้รู้แผนการทั้งหมดในการปฏิบัติการของนาวินครั้งนี้ ในขณะที่แผนปฏิบัติการ 102 นาทีดำเนินไป จุดหมายสูงสุดของแผนก็ค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้น ทองคำจำนวน 75 ตัน ในห้องมั่นคงของธนาคารชาติคือจุดประสงค์ของปฏิบัติการครั้งนี้ ปกรณ์และทีมกับปฏิบัติการ 102 นาทีของนาวิน ทั้งสองจำต้องขับเคี่ยวกันเพื่อแข่งกับเวลาที่กำลังจะหมดลง อยู่ที่ว่าใครจะถึงจุดหมายก่อนกัน ซึ่งเป็นปลายทางที่คนทั้งสองรู้อยู่ในใจ[3]

งานสร้างภาพยนตร์[แก้]

การถ่ายทำและสถานที่ถ่ายทำ[แก้]

102 ปิดกรุงเทพปล้น มีการถ่ายทำขนาดใหญ่หลายพื้นที่ในใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยการถ่ายทำที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในพื้นที่แยกปทุมวัน คือฉากการปะทะกันระหว่างฝ่ายตำรวจและฝ่ายกลุ่มก่อการร้าย ถ่ายทำในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2545 โดยใช้ผู้กำกับภาพยนตร์ในวงการมาช่วยกันถ่ายทำในฉากนี้จำนวน 20 คน[4] ใช้กล้องทั้งหมด 15 ตัว ตัวประกอบประมาณ 500 คน รวมถึงอุปกรณ์ประกอบฉากจำนวนมาก อาทิ รถตำรวจ รถดับเพลิง และรถพยาบาล ใช้เวลาในการเตรียมการมากกว่า 3 เดือน เพื่อถ่ายทำในพื้นที่จริง ซึ่งสามารถปิดแยกเพื่อถ่ายทำได้เป็นเวลา 3 ชั่วโมง คือระหว่างเวลา 06.00 - 09.00 น. ถ่ายทำไปได้ทั้งหมด 3 เทค เทคละ 7 นาที ใช้เงินไปประมาณ 50 ล้านบาท[4]

เทคนิคพิเศษ[แก้]

เทคนิคพิเศษภายในเรื่องที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำมากที่สุดก็คือ ฉากที่นาวิน ยิงเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจจนตก และพุ่งชนตึกของศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ซึ่งจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกในการเข้ามาช่วย ซึ่งประมาณการว่าใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท[4]

กระแสตอบรับ[แก้]

การออกฉายและรายได้[แก้]

102 ปิดกรุงเทพปล้น เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2547 ณ โรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน โดยมีผู้กำกับคือ ธนิตย์ จิตนุกูล และนักแสดงนำเข้าร่วมการเปิดตัว[5] และฉายรอบปกติในโรงภาพยนตร์เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2547[2] ทำรายได้จากการเข้าฉายในปีนั้นไปประมาณ 18.6 ล้านบาท[6]

คำวิจารณ์[แก้]

102 ปิดกรุงเทพปล้น นั้นถูกพูดถึงในฐานะภาพยนตร์ที่มีพื้นหลังดำเนินเรื่องภายหลังจากวิกฤตต้มยำกุ้ง โดยหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ได้ระบุว่าภาพยนตร์ดังกล่าวหยิบยกมาจากเหตุการณ์การปลดหนี้ไอเอ็มเอฟของทักษิณ ชินวัตร ในปี พ.ศ. 2546 ซึ่งตัวร้ายของภาพยนตร์พยายามที่จะขัดขวางการชำระหนี้นั้น[7]

การตอบรับของผู้ชม[แก้]

หลังจากภาพยนตร์ออกฉาย ผู้ชมบางส่วนมองว่า 102 ปิดกรุงเทพปล้น นั้น ได้รับแรงบันดาลใจมากจากภาพยนตร์เรื่อง ฮีท คนระห่ำคน เนื่องจากความคล้ายคลึงในองค์ประกอบของเรื่องหลายอย่าง[8] จนทำให้ขณะรับชมสัมผัสได้ถึงบรรยากาศนั้น[8] และยังมีอีกหลายความเห็นที่มองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามนำเอาฉากเด่น ๆ ของภาพยนตร์ต่างชาติมาผสมรวมกันเกินไป แต่ไม่สามารถถ่ายทำออกมาได้ดีเท่า[9]

นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงพื้นหลังของตัวละครเอกฝั่งผู้ก่อการร้ายในเว็บบอร์ดพันทิป.คอม ว่าตัวละครนั้นมีความคล้ายคลึงกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษในทางลับของราชการที่ชื่อว่า ชค.514 หรือชื่อเต็มว่า ชุดควบคุมและประสานงานโครงการ 514 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก[10] ซึ่งปฏิบัติภารกิจการการรบนอกรูปแบบในการทลายแหล่งผลิตยาเสพติดในพื้นที่พรมแดนไทยเช่นเดียวกัน[11]

อ้างอิง[แก้]

  1. ภาพยนตร์ 102 ปิดกรุงเทพปล้น
  2. 2.0 2.1 "ฉัตรชัย ยอมรับกัด อำพล ไม่ปล่อยใน 102 ปิดกรุงเทพปล้น". SIAMZONE.COM.
  3. 102 ปิดกรุงเทพปล้น, สืบค้นเมื่อ 2023-01-04
  4. 4.0 4.1 4.2 "รวมพลผู้กำกับ ถ่ายทำฉากใหญ่ 102 ปิดกรุงเทพฯ ปล้น". SIAMZONE.COM.
  5. "ประมวลภาพงานเปิดตัวภาพยนตร์ไทย 102 ปิดกรุงเทพปล้น (มีรูปเยอะ)". SIAMZONE.COM.
  6. นิตยสาร Flicks Magazine ปีที่ 2 ฉบับที่ 66 วันที่ 31 ธ.ค. 47 – 6 ม.ค. 48
  7. "ภาพยนตร์สนทนาหนังไทยกับวิกฤติต้มยำกุ้ง: หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) Thai Film Archive". www.fapot.org.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  8. 8.0 8.1 "Bloggang.com : : ไมเคิล คอร์เลโอเน - 102 ปิดกรุงเทพฯปล้น (2004)". BlogGang. ใช้อ้างอิงความคิดเห็นที่มีต่อภาพยนตร์
  9. "วิจารณ์ 102 ปิดกรุงเทพปล้น (2004)". www.siamzone.com.
  10. "ชค.514 กับบางส่วนของเรื่อง 102 ปิดกรุงเทพปล้น เรื่องเดียวกันรึเปล่าครับ??". Pantip.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์) ใช้อ้างอิงความคิดเห็นที่มีต่อภาพยนตร์
  11. ม้าพยศ, ทัพหน้า โดย (2018-03-31). "หน่วยปฏิบัติการลับ ...."ชค.514"". story.pptvhd36.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-01-04. สืบค้นเมื่อ 2023-01-04.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]