แอปเปิลวอตช์
![]() | |
![]() แอปเปิลวอตช์ พร้อมสายแนวสปอร์ต | |
ผู้พัฒนา | บริษัทแอปเปิล |
---|---|
ผู้ผลิต | บริษัทแอปเปิล |
ชนิด | สมาร์ตวอตช์ |
วางจำหน่าย | ประมาณต้นปี พ.ศ. 2558 |
ราคาเบื้องต้น | เริ่มต้นที่ 349 ดอลลาร์สหรัฐ |
ระบบปฏิบัติการ | วอตช์โอเอส[1][2] |
ชิพ | รุ่นแรก : แอปเปิล เอส 1 |
หน่วยประมวลผล | แอปเปิล เอส 1 |
ความจุ | อาจเป็นหน่วยความจำแฟลช 2 จิกะไบต์หรือ 4 จิกะไบต์ |
หน่วยความจำ | 256 เมกะไบต์ |
การแสดงผล | Sapphire crystal, strengthened Ion-X glass |
ระบบเสียง | speaker output |
ควบคุมผ่าน | Multi-touch Retina Display |
การเชื่อมต่อ | บลูทูธ 4, เอ็นเอฟซี, วายฟาย |
มิติ | มีทั้งขนาด 38 มม. และ 42 มม. |
Backward compatibility | เข้ากันได้กับไอโฟน 5 และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ทำงานด้วยไอโอเอส 8.2 |
บทความที่เกี่ยวข้อง | ไอโฟน |
เว็บไซต์ | www |
แอปเปิลวอตช์ (อังกฤษ: Apple Watch) เป็นสมาร์ตวอตช์ของบริษัทแอปเปิลที่ทิม คุก ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557 แอปเปิลวอตช์จะมีหน้าที่ในการติดตามการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ ซึ่งจะมีออกมาจำหน่ายอยู่ 3 รูปแบบด้วยกัน โดยจะใช้งานร่วมกับไอโฟน 5 ขึ้นไป และอุปกรณ์รุ่นที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการไอโอเอส 8.2 ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2558[3]
คุณสมบัติ[แก้]
แอปเปิลวอตช์สามารถรับโทรศัพท์ได้รวมทั้งรับข้อความจาก iMessage หรือข้อความสั้น ที่สำคัญสามารถติดตามการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ และใช้คุณลักษณะที่มีในไอโอเอส 8 เรียกว่า "แฮนด์ออฟ" ซึ่งต้องมีอุปกรณ์อื่นที่เข้ากันได้[4]
การออกแบบ[แก้]
แอปเปิลวอตช์จะมีสองขนาดคือ 38 มิลลิเมตร และ 42 มิลลิเมตร และจะมีอยู่สามรูปแบบด้วยกัน แอปเปิลวอตช์มีหน้าจอสัมผัสไวต่อแรงกดที่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างการแตะกับการกดได้ รวมทั้งมีปุ่มหมุนที่เรียกว่าดิจิทัลคราวน์ (digital crown) ซึ่งสามารถเลื่อนหรือดึงภาพเข้าออกและกดเพื่อกลับไปยังหน้าจอหลัก นอกจากนี้ยังมีปุ่มสำหรับการแสดงรายชื่อผู้ติดต่ออีกด้วย[4] แอปเปิลวอตช์ชาร์จไฟโดยการชาร์จแบบ inductive charging โดยใช้สายเคเบิลที่คล้ายกับแมคเซฟซึ่งเป็นสายสำหรับแล็ปท็อปตระกูลแมคบุ๊ก[3] และทางแอปเปิลได้ออกแบบรูปแบบตัวอักษรใหม่ที่ชื่อว่า แซนแฟรนซิสโก (San Francisco) สำหรับแอปเปิลวอตช์ที่จะช่วยให้ผู้ใช้อ่านข้อความบนหน้าจอแสดงผลขนาดเล็กได้
เทคโนโลยี[แก้]
แอปเปิลวอตช์ได้ใช้ชิปประมวลผลเอส 1 ชิปรุ่นใหม่จากแอปเปิล ซึ่งกล่าวว่าเป็น "สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในชิปตัวเดียว" นอกจากนี้ยังใช้ "แทปติกเอนจิน" (Taptic Engine) เพื่อกระตุ้นบริเวณข้อมือเมื่อมีการได้รับแจ้งเตือน และมีเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ[5] แอปเปิลวอตช์เข้ากันได้กับไอโฟน 5, ไอโฟน 5ซี, ไอโฟน 5เอส, ไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส หรืออุปกรณ์ที่ใช้ไอโอเอส 8.2 หรือสูงกว่า โดยการเชื่อมต่อผ่านทางวายฟายหรือบลูทูท 4[6]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "Apple Watch - Overview". Apple. สืบค้นเมื่อ September 9, 2014.
- ↑ "Apple Watch - Technology". Apple. สืบค้นเมื่อ September 9, 2014.
- ↑ 3.0 3.1 "The Verge live blog". The Verge. Vox Media. September 9, 2014. สืบค้นเมื่อ September 10, 2014.
- ↑ 4.0 4.1 "The Verge: The 15 most important announcements from the Apple Watch, iPhone 6 event". The Verge. Vox Media. September 9, 2014. สืบค้นเมื่อ September 10, 2014.
- ↑ "Apple - Apple Watch - Technology". Apple. สืบค้นเมื่อ September 10, 2014.
- ↑ "Press Release - Apple Unveils Apple Watch". Apple. สืบค้นเมื่อ September 10, 2014.