แค
แค | |
---|---|
![]() | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
หมวด: | Magnoliophyta |
ชั้น: | Magnoliopsida |
อันดับ: | Fabales |
วงศ์: | Fabaceae |
วงศ์ย่อย: | Faboideae |
เผ่า: | Robinieae |
สกุล: | Sesbania |
สปีชีส์: | S. grandiflora |
ชื่อทวินาม | |
Sesbania grandiflora (L.) Poiret |
แค เป็นต้นไม้ขนาดเล็กในสกุลโสน มีชื่อพื้นเมืองอื่นอีกดังนี้: แคบ้าน (กลาง) แคขาว แคแดง (กทม. เชียงใหม่) แค (กลาง) แคดอกแดง แคดอกขาว[1]
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์[แก้]
แคเป็นไม้ยืนต้นสกุลโสน มีลำต้นขนาดเล็กถึงกลางสูงประมาณ 3–10 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามากไม่เป็นระเบียบ เปลือกเป็นสีน้ำตาลเข้ม มีรอยขรุขระหนา ใบประกอบแบบขนนกเรียงสลับ ใบย่อยมีขนาดเล็กรูปขอบขนาน ขอบใบเรียบ ปลายใบมนกว้าง ดอกคล้ายดอกถั่ว ออกดอกแบบช่อตรงซอกใบ มีสีขาว ผลมีลักษณะเป็นฝักกลมยาว 20–40 เซนติเมตร สีเขียวอ่อน ใช้รับประทานเป็นอาหารได้ เมล็ดมีลักษณะเหมือนลิ่มผสมเกสรโดยนก[2] ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด มีอายุได้ประมาณ 20 ปี แต่ถ้าหักยอดบ่อย ๆ จะทำให้มีอายุสั้นลง
การกระจายพันธุ์[แก้]
กระจายพันธุ์ด้วยเมล็ด เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดจากประเทศอินเดียหรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเจริญเติบโตได้ทุกพื้นที่ทั่วโลกในเขตร้อนชื้น
การใช้ประโยชน์[แก้]
ยอดอ่อนและใบอ่อนสามารถนำมาปรุงอาหารได้ เป็นสมุนไพรช่วยดับพิษร้อนถอนพิษไข้ ดอกใช้เป็นอาหาร แก้ไข้หัวลม และช่วยบำรุงอาหาร ฝักอ่อนใช้เป็นอาหารได้
การเกษตร[แก้]
แคเป็นต้นไม้พื้นบ้าน เป็นไม้เนื้ออ่อน นิยมปลูกเป็นรั้วบ้าน คันนา และริมถนน ปลูกได้ในทุกพื้ที่ทั้งดินเหนียว ดินร่วน สามารถปลูกไว้ในบริเวณบ้านเพื่อปรับพื้นที่ให้มีปุ๋ย เนื่องจากใบแคที่ผุแล้วทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ มีธาตุอาหารมากขึ้น เมื่อเมล็ดแก่จัดจะแพร่พันธุ์ด้วยเมล็ด มีอายุประมาณ 20 ปี และเจริญเติบโตได้ทุกพื้นที่ทั่วโลกในเขตร้อนชื้น
ประกอบอาหาร[แก้]
ส่วนที่นำมารับประทานได้ของแค คือ ยอดอ่อน ฝักอ่อนออกในช่วงฤดูฝน ใบอ่อนมีรสหวาน ดอกอ่อนออกในช่วงฤดูหนาว ดอกแคมีเส้นใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก แคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสอง และวิตามินซี ก่อนนำไปทำอาหารต้องดึงเอาเกสรออกก่อนเพื่อลดความขม ส่วนที่รับประทานได้ของแคสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายอย่าง อาทิ เช่น แกงส้มดอกแค แกงเหลืองปลากระพงดอกแค ดอกใบยอกฝักอ่อนของแคนำมาลวกจิ้มน้ำพริกได้ ล้วนเป็นอาหารที่มีคุณค่าให้ประโยชน์ทั้งสิ้น
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (3.5 ออนซ์) | |
---|---|
พลังงาน | 113 กิโลจูล (27 กิโลแคลอรี) |
6.73 g | |
0.04 g | |
1.28 g | |
วิตามิน | |
ไทอามีน (บี1) | (7%) 0.083 มก. |
ไรโบเฟลวิน (บี2) | (7%) 0.081 มก. |
ไนอาซิน (บี3) | (3%) 0.43 มก. |
โฟเลต (บี9) | (26%) 102 μg |
วิตามินซี | (88%) 73 มก. |
แร่ธาตุ | |
แคลเซียม | (2%) 19 มก. |
เหล็ก | (6%) 0.84 มก. |
แมกนีเซียม | (3%) 12 มก. |
ฟอสฟอรัส | (4%) 30 มก. |
โพแทสเซียม | (4%) 184 มก. |
ประมาณร้อยละคร่าว ๆ โดยใช้การแนะนำของสหรัฐสำหรับผู้ใหญ่ แหล่งที่มา: USDA FoodData Central |
ยารักษาโรค[แก้]
- นำเปลือกแคมาต้ม คั้นน้ำรับประทานแก้ท้องร่วง แก้บิด แก้มูกเลือด
- ดอกแคช่วยแก้ไข้ลดไข้ถอนพิษไข้
- แคยังอุดมด้วยสารต่าง ๆ โดยเฉพาะบีตา-แคโรทีนที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ จึงช่วยบำรุงสายตา ต่อต้านมะเร็ง และยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัสสูง จึงช่วยเสริมสร้างกระดูก
อ้างอิง[แก้]
- ↑ สำนักงานหอพรรณไม้. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย เต็ม สมิตินันทน์ -- กรุงเทพมหานคร : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, พ.ศ. 2549
- ↑ สวนพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน พรรณไม้ที่น่าสนใจ (เมล็ดมีลักษณะเหมือนลิ่ม), ธงชัย มาลาและคณะ, สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน, 2551, หน้า 40
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- Sesbania grandiflora on Tropicalforages.info
- Sesbania grandiflora in the AgroForestry Database of the World Agroforestry Centre
- Sesbania grandiflora on the FAO web site เก็บถาวร 2013-02-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Sesbania grandiflora on the web site of the Center for New Crops & Plant Products at Purdue University.
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: Sesbania grandiflora |