เรือฟริเกตชุดเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช ในการจัดกระบวนเรือร่วมกับกองทัพเรือสหรัฐระหว่างการฝึกผสม Guardian Sea 2019
ภาพรวมชั้น
ผู้สร้าง: แดวู ชิปบิลดิ้ง แอนด์ มารีน เอ็นจิเนียริ่ง, ปูซาน, เกาหลีใต้
ผู้ใช้งาน: Naval flag of ไทย กองทัพเรือไทย
ก่อนหน้าโดย: เรือฟริเกตชุดเรือหลวงนเรศวร
สร้างเมื่อ: พ.ศ. 2556–2560
ในประจำการ: พ.ศ. 2562–ปัจจุบัน
วางแผน: 2 ลำ
เสร็จแล้ว: 1 ลำ
ใช้การอยู่: 1 ลำ
ลักษณะเฉพาะ
ประเภท: เรือฟริเกตล่องหนหลากบทบาท
ขนาด (ระวางขับน้ำ): 3,700 ตัน (เต็มกำลัง)
ความยาว: 124.1 เมตร (407 ฟุต 2 นิ้ว)
ความกว้าง: 14.4 เมตร (47 ฟุต 3 นิ้ว)
กินน้ำลึก: 8 เมตร (26 ฟุต 3 นิ้ว)
ระบบพลังงาน: 4 × เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าประจำเรือ (แต่ละเครื่องให้พลังงาน 830 กิโลวัตต์)
ระบบขับเคลื่อน:
ความเร็ว: 33.3 นอต (61.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง; 38.3 ไมล์ต่อชั่วโมง)
พิสัยเชื้อเพลิง: 4,000 ไมล์ทะเล (7,400 กิโลเมตร; 4,600 ไมล์) at 18 นอต (33 กิโลเมตรต่อชั่วโมง; 21 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเต็มที่: 141 นาย
ระบบตรวจการและปฏิบัติการ:
  • 1 × เรดาร์ตรวจการณ์ระยะไกลแบบ Sea Giraffe 4A AESA
  • 1 × เรดาร์ตรวจการณ์ระยะกลาง 3 มิติแบบ Saab SEA GIRAFFE AMB
  • 1 × เรดาร์เดินเรือ Wartsila X-band
  • 1 × เรดาร์เดินเรือ Wartsila S-band
  • 1 × ระบบนำร่องเดินอากาศทางยุทธวิธี
  • 1 × กล้องตรวจการณ์
  • 2 × เรดาร์ควบคุมการยิง Saab CEROS 200
  • 1 × ระบบควบคุมการยิง Saab EOS 500 Electro Optical
  • 1 × โซนาร์ตัวเรือ Atlas ASO DSQS-24
  • 1 × โซนาร์ลากท้าย Atlas ELEKTRONIK ACTAS
  • 15 × ระบบอำนวยการรบ Saab 9LV Mk4 Multi-Function Consoles
  • 2 × ระบบ Continuous Wave Illuminators
  • 2 × ระบบ Target Designation Sight: Bridge Pointer
  • 2 × ระบบพิสูจน์ฝ่าย (IFF)
  • 1 × ระบบติดตามอากาศยานอัตโนมัติ (ADS–B)
  • 1 × เทคโนโลยีล่องหน
  • 1 × ระบบลดภาคตัดขวางเรดาร์
  • 1 × ระบบลดการแผ่อินฟราเรด
  • 1 × ระบบลดเสียงรบกวนใต้น้ำ
  • 1 × ระบบลบล้างสนามแม่เหล็กตัวเรือ
  • 1 × ระบบป้องกัน คชรน.
สงครามอิเล็กทรอนิกส์และเป้าลวง:
  • 1 × เรดาร์ Harris ES-3601 ESM
  • 1 × ระบบสื่อสาร R&F DDF-255 ESM
  • 6 × แท่นยิงเป้าลวง Terma C-Guard DL-12T Mk. 137
  • 1 × ระบบ Active-offboard ECM
  • 1 × ระบบเป้าลวงต่อต้านขีปนาวุธต่อต้านเรือMk.234 Nulka
  • 1 × ระบบเป้าลวงต่อต้านตอร์ปิโด Naval Group CANTO-V
ยุทโธปกรณ์:
อากาศยาน: 1 × เอส-70บี ซีฮอว์ก หรือ เอ็มเอช-60 เอส ไนท์ฮอว์ก

เรือฟริเกตชุดเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช (อังกฤษ: Bhumibol Adulyadej-class frigate) เป็นชุดเรือฟริเกตของกองทัพเรือไทย ออกแบบมาจากแบบของเรือพิฆาตชั้นควังแกโทมหาราช ของกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี

ประวัติ[แก้]

เรือฟริเกตชุดเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เป็นเรือชุดที่ต่อขึ้นเพื่อทดแทนเรือฟริเกตชุดเรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งปลดปลดประจำการในปี พ.ศ. 2560 โดยกองทัพเรือได้เปลี่ยนเงินงบประมาณซึ่งจากเดิมจะนำไปจัดหาเรือดำน้ำแบบ U-206A จากประเทศเยอรมนี จำนวน 6 ลำ งบประมาณ 7.6 พันล้านบาท ซึ่งถูกระงับโครงการเนื่องจากเลยกรอบระยะเวลาที่ทางการเยอรมนีกำหนด[2] มาใช้งานในโครงการจัดซื้อเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ซึ่งได้รับการอนุมัติโครงการภายใต้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในปี พ.ศ. 2555 ในการจัดหา[3]

กองทัพเรือได้ลงนามในการผลิตเรือลำแรกกับบริษัท แดวู ชิปบิลดิ้ง แอนด์ มารีน เอ็นจิเนียริ่ง เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เพื่อสร้างเรือฟริเกตที่มีสมรรถนะสูง มีความทันสมัย และมีโครงสร้างที่แข็งแรง ด้วยวงเงิน 14,600 ล้านบาท กำหนดส่งมอบเรือลำแรกภายในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2561[4] โดยกองทัพเรือทำพิธีต้อนรับเรือเพื่อเข้าประจำการเมื่อวัที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2562 ณ ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ[5] แต่เดิมชื่อว่า เรือหลวงท่าจีน ต่อมาได้รับการพระราชทานชื่อเป็น เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเป็นพระนามของ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร[6][7]

สำหรับเรือลำที่สองของชุด คือเรือหลวงประแส วางแผนที่จะต่อในประเทศไทย คาดว่าที่อู่มหิดลอดุลเดช[8] หรือ บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด ผ่านบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) กับกองทัพเรือ ในการซ่อม สร้าง และการดัดแปลงเรือ[9][3] แต่ถูกระงับในปี พ.ศ. 2562 เนื่องจาก พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือในขณะนั้นเห็นความสำคัญของโครงการต่อเรือดำน้ำของประเทศจีนมากกว่า จึงได้นำงบประมาณในการต่อเรือหลวงประแส และงบประมาณในการจัดหาอากาศยานลาดตระเวนไปจัดซื้อเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ซึ่งจะใช้เป็นเรือพี่เลี้ยงของเรือดำน้ำก่อน ในงบผูกพันธ์กับเรือดำน้ำลำที่ 2[10] ต่อมาได้มีการเสนอต่อเรือในปี พ.ศ. 2565 - 2566 หลังจากกองทัพเรือยอมถอนงบประมาณในการต่อเรือดำน้ำลำที่ 2 - 3 ออกไป[9] ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนจัดทำแผน และรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี[3]

การออกแบบ[แก้]

เรือฟริเกตชุดเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เป็นเรือที่พัฒนามาจากแบบของเรือพิฆาตชั้นควังแกโทมหาราช ของกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลีที่ใช้มาตรฐานเดียวกับกองทัพเรือสหรัฐ คือแบบเรือ DW3000F[9] ซึ่งเพิ่มเติมคุณสมบัติด้านการล่องหน[11] เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเรือฟริเกตสมรรถนะสูงของกองทัพเรือไทย สามารถปฏิบัติการรบได้ทั้ง 3 มิติ คือบนผิวน้ำ ใต้น้ำ และอากาศ สามารถปฏิบัติการได้ในสภาวะแวดล้อมที่มีการปนเปื้อนทางเคมี ชีวะ รังสี และนิวเคลียร์ สามารถทนทะเลได้ในระดับ 8 ความสูงคลื่นประมาณ 12 เมตร[12] ทำความเร็วได้สูงสุด 30 นอต มีระยะในการปฏิบัติการไกล 4,000 ไมล์ทะเล ปฏิบัติการต่อเนื่องได้ 21 วัน[12] ใช้กำลังพลปฏิบัติงานทั้งหมด 141 นาย โดยมีนายทหารระดับนาวาเอก เป็นผู้บังคับการเรือ[4]

เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช ขณะเทียบฐานทัพเรือโยโกสุกะ กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น

โดยเรือมีการออกแบบให้ใช้เทคโนโลยีในการล่องหน (ตรวจจับได้ยาก) สามารถปฏิบัติการรบได้ทั้ง 3 มิติคือ ผิวน้ำ ผ่านระบบอำนวยการรบที่สามารถปฏิบัติการร่วมกับเรือลำอื่น ๆ ของกองทัพเรือเพื่อปฏิบัติการในรูปแบบของกองเรือ รวมถึงปฏิบัติการร่วมกับอากาศยานทั้งของกองทัพเรือและกองทัพอากาศเองในการโจมตีเรือผิวน้ำ ใต้น้ำ ผ่านการตรวจจับเป้าหมายใต้น้ำด้วยโวนาร์ลากท้ายและโซนาร์ใต้ลำเรือ และต่อต้านทำลายด้วยตอร์ปิโด หรืออาวุธระยะไกล และทางอากาศ ผ่านเรดาร์ตรวจการณ์ระยะไกล 3 มิติ และเรดาร์ตรวจการณ์ระยะกลางสำหรับค้นหาอากาศยานและตรวจจับพร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเรือและอากาศยานที่ร่วมการปฏิบัติการรบ และโจมตีด้วยขีปนาวุธหรือปืนประจำเรือ[4]

สำหรับระบบป้องกันตนเองของ เรือฟริเกตชุดเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช ประกอบไปด้วยระบบอาวุธปล่อยนำวิถี ปืนต่อสู้อากาศยาน ปืนใหญ่เรือ อาวุธป้องกันระยะประชิด ระบบเป้าลวงอิเล็กทรอนิกส์ ระบบควบคุมความเสียหายของเรือที่สามารถทำได้ทั้งจากศูนย์กลางและแบบแยกส่วน รวมไปถึงระบบป้องกันการแพร่สัญญาณต่าง ๆ ออกจากตัวเรือและการดักจับรบกวนสัญญาณต่าง ๆ[4]

นอกจากนี้ พื้นที่บริเวณท้ายเรือซึ่งเป็นดาดฟ้าเฮลิคอปเตอร์และโรงเก็บเครื่องบินนั้นสามารถรองรับเฮลิคอปเตอร์น้ำหนักไม่เกิน 10 ตัน รวมถึงสามารถดัดแปลงโรงเก็บอากาศยานให้เป็นพื้นที่พักสำหรับผู้ประสบภัยได้ชั่วคราวประมาณ 100 คน[12]

ยุทโธปกรณ์[แก้]

เรือฟริเกตชุดเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช มีการติดตั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ ขีปนาวุธต่อต้านเรือดำน้ำแบบ VL ASROC (Vertical Launch Anti-Submarine Rocket) หรือ แอสร็อก ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศแบบ ESSM (Evolved SeaSparrow Missile) จากแท่นยิงขีปนาวุธแนวดิ่งแบบ Mk.41 VLS อาวุธปืนประจำเรือคือปืนใหญ่เรือแบบออโตเมราล่า 76/62 คาลิเบอร์ อาวุธปล่อย่อต้านเรือผิวน้ำแบบ อาร์จีเอ็ม-84ดี ฮาร์พูน และอากาศยานปีกหมุนประจำเรือสำหรับการปฏิบัติการต่อเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำ[4]

เรือในชุด[แก้]

ชื่อ หมายเลข สร้างโดย วางกระดูกงู ปล่อยลงน้ำ ประจำการ สถานะ
เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช FFG-471 แดวู ชิปบิลดิ้ง แอนด์ มารีน เอ็นจิเนียริ่ง 15 พฤษภาคม 2559 23 มกราคม 2560 7 มกราคม 2562 ประจำการ
เรือหลวงประแส FFG-472 อู่มหิดลอดุลยเดช อยู่ในแผน

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. ATLAS ELEKTRONIK to deliver Bow and Towed Sonar systems for new Royal Thai Navy frigate
  2. "ปิดฉากกองทัพเรือซื้อ "เรือดำน้ำเยอรมนี" ยื้อจนเลยกรอบเวลา คาด "เกาหลีใต้-จีน" จ่อคิวแทน - ThaiPublica". thaipublica.org. 2012-03-15.
  3. 3.0 3.1 3.2 ""เรือดำน้ำ"ไม่โผล่ "เรือพี่เลี้ยง"เทียบท่า กำเนิด "เรือฟริเกต" ลำที่ 2". bangkokbiznews. 2022-12-03.
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 "เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือรบทรงอานุภาพของ ทร.ไทย". www.thairath.co.th. 2019-01-09.
  5. "พิธีต้อนรับเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือฟริเกตสมรรถนะสูง เสริมเขี้ยวเล็บให้ราชนาวีไทย". workpointTODAY.
  6. Voytenko, Mikhail (26 October 2019). "Thai Navy News – new frigate, another one postponed, submarine keel laying ceremony". FleetMon (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 9 January 2019.
  7. "'ร.ล.ภูมิพลฯ'ฟริเกตสมรรถนะสูงราคาเกือบ 1.5 หมื่นล้านเดินทางถึงไทยแล้ว". Thai Post | อิสรภาพแห่งความคิด (ภาษาอังกฤษ).
  8. "เพื่อนบ้านจับตา ฮ.โจมตีบนเรือจักรีนฤเบศร-เรือฟริเกตขนาบข้าง... "ผู้พิทักษ์อ่าวไทย" วีรภาพใหม่ในยุคเรือดำน้ำ". mgronline.com. 2017-05-06.
  9. 9.0 9.1 9.2 "กองทัพเรือ อาจจัดหาเรือหลวงภูมิพล ลำที่สองในปีงบประมาณ 2566". thaiarmedforce. 2022-01-22.
  10. matichon (2019-09-22). "ทร.เปลี่ยนใจ ชะลอต่อเรือฟริเกตเกาหลีใต้ หันต่อเรือจากจีน ไว้เป็นเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำ". มติชนออนไลน์.
  11. Nanuamy, Wassana (19 December 2018). "Navy prepares to receive new ship". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 9 January 2019.
  12. 12.0 12.1 12.2 "แข็งแกร่ง ล้ำสมัย! ยลโฉม "ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช" เขี้ยวเล็บลำใหม่ทัพเรือไทย (คลิป)". www.thairath.co.th. 2019-04-26.