ระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์
ระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์ | |
---|---|
![]() ฟาลังซ์ (บล็อก 1เอ) ขณะทดสอบครั้งแรก | |
ชนิด | ระบบป้องกันระยะประชิด |
แหล่งกำเนิด | สหรัฐอเมริกา |
บทบาท | |
ประจำการ | พ.ศ. 2523-ปัจจุบัน |
ผู้ใช้งาน | ดูที่ operators |
สงคราม | สงครามอ่าวเปอร์เซีย |
ประวัติการผลิต | |
ผู้ออกแบบ | เจเนอรัลไดนามิค (ปัจจุบันคือ เรย์เทียน) |
บริษัทผู้ผลิต | เจเนอรัลไดนามิค (ปัจจุบันคือ เรย์เทียน) |
ช่วงการผลิต | พ.ศ. 2521 |
ข้อมูลจำเพาะ | |
มวล | 12,500 lb (5,700 kg), รูปแบบต่อมา 13,600 lb (6,200 kg) |
ความยาวลำกล้อง | • บล็อก 0 & 1 (กระบอกปืน L76): 1,520 มม. • บล็อก 1บี (กระบอกปืน L99): 1,981 มม.[1] |
ความสูง | 4.7 เมตร |
ลูกเรือ | อัตโนมัติ, ตรวจการณ์เกินระยะตรวจจับโดยมนุษย์ |
ปลอกกระสุน | • ทางทะเล: กระสุนเจาะเกราะ ทังสเตน penetrator rounds with discarding ซาบอท • ทางบก: กระสุนระเบิดเพลิงแรงสูง กระสุนส่องวิถี, ระบบทำลายตนเอง |
ขนาดลำกล้องปืน | 20×102 มม. |
ความยาวลำกล้อง | 6 |
มุมกระดก | • บล็อก 0: -10°/+80° • บล็อก 1: -20°/+80° (ระดับมุมเงย: 86°/วินาที สำหรับบล็อก 0/1) • บล็อก 1บี: -25°/+85° (ระดับมุมเงย: 115°/วินาที)[1] |
มุมทิศ | • 150° ทั้งสองทิศทางจากจุดศูนย์กลาง (ระดับการหมุน: 100°/วินาที สำหรับบล็อก 0 & 1, 116°/วินาที สำหรับบล็อก 1บี)[1] |
อัตราการยิง | 3,000-4,500 นัด/นาที [ปรับแต่งได้] (50-75 นัด/วินาที). |
ความเร็วปากกระบอก | 1,100 เมตร/วินาที (3,600 ฟุต/วินาที)[1] |
ระยะหวังผล | 3.6 กม. (2.2 ไมล์)[1] |
พิสัยไกลสุด | ไม่ระบุ[2] |
อาวุธหลัก | 1× 22 มม. (0.79 นิ้ว) ปืนใหญ่แกตลิ่ง 6 ลำกล้อง เอ็ม 61 |
ระบบนำวิถี | เรดาร์ย่านความถี่เคยูแบนด์ และ เฟลอร์[3] |
ระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์ เป็นระบบป้องกันระยะประชิด (CIWS, ถูกพูดถึงบ่อยว่า "ซีวิซ" (Sea-wiz)) ติดตั้งบนเรือรบผิวน้ำและฐานยิงบนบก พัฒนาและผลิตโดยบริษัทเจเนอรัลไดนามิค แผนกโพโนมา[4] (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึงของเรย์เทียน) ประกอบไปด้วยเรดาร์ตรวจจับและชี้เป้า - ปืนกลแกตลิ่ง 20 มม. ติดตั้งบนฐานหมุน
ระบบฟาลังซ์ติดตั้งบนเรือรบผิวน้ำของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาทุกชั้น กองเรือยามฝั่งสหรัฐอเมริกา และกองทัพเรือพันธมิตรอีก 23 ประเทศ
สำหรับระบบฟาลังซ์รุ่นฐานยิงบนบกนั้น เรียกอีกชื่อว่า ซี-แรม ติดตั้งเป็นระบบป้องกันอาวุธนำวิถีระยะใกล้ จรวด และกระสุนปืนใหญ่[5]
ประเทศผู้ใช้งาน[แก้]
ออสเตรเลีย[6]
บาห์เรน[6]
แคนาดา[6]
กรีซ[7]
อียิปต์[8]
อิสราเอล[6]
ญี่ปุ่น[8]
นิวซีแลนด์[6]
ปากีสถาน[6]
โปแลนด์[6]
โปรตุเกส[8]
ซาอุดีอาระเบีย[6]
ไทย[9]
ไต้หวัน[6]
สหรัฐ[8]
สหราชอาณาจักร[8]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ John Pike (2005-04-27). "MK 15 Phalanx Close-In Weapons System (CIWS)". Globalsecurity.org. สืบค้นเมื่อ 2010-04-13.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-10-07. สืบค้นเมื่อ 2011-07-19.
- ↑ Thomas, Vincent C. The Almanac of Seapower 1987 Navy League of the United States (1987) ISBN 0-9610724-8-2 หน้า.191
- ↑ "Murdoc online March 20, 2006 CIWS now does surface targets, too". Murdoconline.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-04-12. สืบค้นเมื่อ 2010-04-13.
- ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 6.5 6.6 6.7 6.8 "Mk 15 Phalanx Block 0 / CIWS, Close-In Weapon System". Deagel.com. 2010-03-07. สืบค้นเมื่อ 2010-04-13.
- ↑ "World Navies Today: Greece". Hazegray.org. 2002-03-24. สืบค้นเมื่อ 2010-04-13.
- ↑ 8.0 8.1 8.2 8.3 8.4 "Mk 15 Phalanx Block 1B / CIWS, Close-In Weapon System". Deagel.com. สืบค้นเมื่อ 2010-04-13.
- ↑ "World Navies Today: Thailand". Hazegray.org. 2002-03-25. สืบค้นเมื่อ 2010-04-13.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
