เจ้ามโน
ไปยังการนำทาง
ไปยังการค้นหา
เจ้าหลวงมโน เจ้าเมืองน่าน | |||||
---|---|---|---|---|---|
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 54 | |||||
ครองราชย์ | วันอาทิตย์ ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2312[1] | ||||
รัชกาล | 5 ปี | ||||
ก่อนหน้า | เจ้าหลวงนายอ้าย | ||||
ถัดไป | เจ้าพระยาวิธูร | ||||
พระชายา | แม่เจ้าเมืองเถินเทวี[2] | ||||
พระราชบุตร | 2 พระองค์
| ||||
| |||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ | ||||
พระบิดา | เจ้าไชยราชา | ||||
พระมารดา | เจ้านางเทพ[4] | ||||
พิราลัย | วันพฤหัสบดี ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2329 [5] ณ เมืองเทิง |
เจ้าหลวงมโน หรือเจ้าหนานมโน[6]เป็นเจ้าผู้ครองนครเมืองน่าน องค์ที่ 54 เป็นเจ้าผู้ครองนครเมืองน่าน องค์ที่ 4 ใน ราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ครองเมืองน่าน ระหว่างปี พ.ศ. 2312 - 2317
พระประวัติ[แก้]
เจ้าหลวงมโน เป็นพระโอรสในเจ้าไชยราชา และเจ้านางเทพ ราชธิดาในเจ้าหลวงติ๋นมหาวงษ์ มีพระเชษฐา และพระขนิษฐา ร่วมเจ้ามารดา 7 พระองค์
1. เจ้านายอ้าย ภายหลังได้เป็น เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 53
2. เจ้าสุทธะ
3. เจ้ามโน ภายหลังได้เป็น เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 54
4. เจ้านางพิมพา
5. เจ้านางโนชา
6. เจ้านางเลิศ
ราชโอรส ราชธิดา[แก้]
เจ้าหลวงมโน มีพระชายา 1 องค์ มีนามว่า แม่เจ้าเมืองเถินเทวี ประสูติแต่ราชโอรส ราชธิดา 2 พระองค์
- เจ้าสุริยะกลางเวียง
- เจ้านางคำปิว[7]
กรณียกิจ[แก้]
- เจ้าหลวงมโน ท่านได้เป็นเจ้าเมืองน่านได้ 6 ปี จนถึง พ.ศ. 2317 ได้ส่ง เจ้าวิธูร ผู้เป็นพระนัดดา(หลาน) ให้ไปช่วย พระยาจ่าบ้านเชียงใหม่ พระยาลำพูน และพระยานครลำปาง ก็พากันฟื้นฟันม่านอันอยู่เวียงเชียงใหม่ ก็ใช้ไปขอเอากำลังเมืองอโยธยาขึ้นมารบม่านโปมวยหวานแลจะกายอันอยู่ยังเมืองเชียงใหม่นั้นแล ม่านก็หนีไปในกาลยามนั้นเจ้าวิธูรคือเจ้านาขวาลูกเจ้าอริยวงษ์ก็ได้ไปเอาราชการม่านในเมืองเชียงใหม่ ชาวใต้ก็ได้เจ้าน้อยวิธูรในเมืองเชียงใหม่ที่นั้นแล้ว ก็เอาลงไปเมืองนคร แล้วชาวใต้ก็ตั้งเจ้าน้อยวิธูรนั้นให้เป็ร เจ้าเสวยเมืองน่าน ใน พ.ศ. 2317[8]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ http://www.car.chula.ac.th/rarebook/book2/clra57_0149/mobile/index.html#p=157
- ↑ http://www.car.chula.ac.th/rarebook/book2/clra57_0149/mobile/index.html#p=148
- ↑ http://www.car.chula.ac.th/rarebook/book2/clra57_0149/mobile/index.html#p=148
- ↑ http://www.car.chula.ac.th/rarebook/book2/clra57_0149/mobile/index.html#p=148
- ↑ http://www.car.chula.ac.th/rarebook/book2/clra57_0149/mobile/index.html#p=161
- ↑ http://www.car.chula.ac.th/rarebook/book2/clra57_0147/mobile/index.html#p=158
- ↑ http://www.car.chula.ac.th/rarebook/book2/clra57_0149/mobile/index.html#p=148
- ↑ http://www.car.chula.ac.th/rarebook/book2/clra57_0149/mobile/index.html#p=157