ข้ามไปเนื้อหา

ฮันบก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฮันบก
วัสดุหลากหลาย
ถิ่นกำเนิดประเทศเกาหลี
เปิดตัวอย่างน้อยตั้งแต่สมัยโคกูรยอ
ชื่อเกาหลีเหนือ
ฮันกึล
조선옷
ฮันจา
朝鮮옷
อาร์อาร์joseonot
เอ็มอาร์chosŏnot
ชื่อเกาหลีใต้
ฮันกึล
한복
ฮันจา
韓服
อาร์อาร์hanbok
เอ็มอาร์hanbok

ฮันบก (เกาหลี: 한복; ฮันจา: 韓服; อาร์อาร์: hanbok; แปล เครื่องแต่งกายเกาหลี; ศัพท์ที่ใช้ในเกาหลีใต้) หรือ โชซ็อน-อต (เกาหลี: 조선옷; ฮันจา: 朝鮮옷; อาร์อาร์: Joseon-ot) เป็นเครื่องแต่งกายพื้นเมืองเกาหลี โดยไม่เพียงแค่ชาวเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือเท่านั้นที่สวมใส่เครื่องแต่งกายนี้ แต่ยังมีโชซ็อน-จก (เกาหลี-จีน) ชนกลุ่มน้อยในประเทศจีน ที่สวมใส่ด้วย[1][2] ศัพท์ ฮันบก มีความหมายตรงตัวว่า “เครื่องแต่งกายเกาหลี”[3] มีรายละเอียดชุดฮันบกบนฝาผนังสมัยโคกูรยอในเกาหลี[4] เนื่องจากความโดดเดี่ยวระหว่างกันประมาณ 50 ปี ทำให้รูปแบบฮันบกในเกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ และโชซ็อน-จก ที่กลุ่มชนเกาหลีจากทั้งสามประเทศสวมใส่ ได้รับการพัฒนาแตกต่างกัน[5]:246[6] นับตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1990 ชุดแบบเกาหลีใต้กับแบบเกาหลีเหนือดูคล้ายคลึงกันมากขึ้น[7] เช่นเดียวกันกับชุดในประเทศจีน นับตั้งแต่การปฏิรูปเศรษฐกิจจีน มีการแลกเปลี่ยนกันระหว่างทั้งสองเกาหลีมากขึ้น นำไปสู่ทั้งการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงโชซ็อน-อตแบบโชซ็อน-จกในประเทศจีน[8] โชซ็อน-อตแบบโชซ็อน-จกบางรูปแบบได้รับอิทธิพลและแรงบันดาลใจจากแบบฮันบกทั้งเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ[5]:246

ภาพฮันบกยุคแรกสุดสามารถสืบได้ถึงสมัยสามราชอาณาจักรเกาหลี (57 ปีก่อน ค.ศ. ถึง ค.ศ. 668) โดยมีต้นตอจากกลุ่มชนเกาหลีดั้งเดิมในบริเวณที่ปัจจุบันคือเกาหลีตอนเหนือและแมนจูเรีย ชุดนี้ยังพบในงานศิลปะที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังสุสานอาณาจักรโคกูรยอในคริสต์ศตวรรษที่ 4 ถึง 6[4] โดยที่โครงสร้างพื้นฐานของฮันบกจักตั้งขึ้นตั้งแต่ช่วงเวลานี้เป็นต้นไปเป็นอย่างน้อย ฮันบกสมัยโบราณประกอบด้วย ชอโกรี (เสื้อ), พาจิ (กางเกง), ชิมา (กระโปรง) และ po (เสื้อคลุม) โครงสร้างหลักของฮันบกได้รับการออกแบบให้มีความสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย และผสมผสานหลายแม่ลายของลัทธิมู[9] คุณสมบัติโครงสร้างพื้นฐานฮันบกเหล่านี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ฮันบกที่มีการสวมใส่ในปัจจุบัน มีลวดลายจากฮันบกในสมัยราชวงศ์โชซ็อน[9] โดยเฉพาะชุดที่ชนชั้นสูงและเชื้อพระวงศ์สวมใส่[10]:104[11] อย่างไรก็ตาม ในอดีต สามัญชน (seomin) ไม่ได้รับอนุญาตให้สวมสิ่งที่ปัจจุบันรู้จักกันในฐานะฮันบก และสวมได้เฉพาะมินบก (เครื่องแต่งกายสามัญชน) ซึ่งโดยทั่วไปจะมีสีขาวหรือสีขาวนวล สามัญชนสามารถสวมชุดฮันบกได้เฉพาะในวันแต่งงานและในโอกาสพิเศษต่าง ๆ[10]:104[11][12] การใช้เสื้อผ้าสีขาวอย่างกว้างขวางในหมู่คนทั่วไปทำให้เกาหลีได้รับการกล่าวขานเป็น "คนนุ่งห่มขาว"[12] ปัจจุบัน ชาวเกาหลีสมัยใหม่สวมฮันบกในโอกาสและเหตุการณ์ที่เป็นทางการหรือกึ่งทางการ เช่น งานแต่งงาน เทศกาล งานเฉลิมฉลอง และงานพิธีต่าง ๆ ใน ค.ศ. 1996 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ จัดตั้ง "วันฮันบก" ขึ่้น เพื่อส่งเสริมให้พลเมืองเกาหลีใต้สวมฮันบก[13]

การใช้งานในสมัยใหม่

[แก้]

เกาหลีใต้

[แก้]

เกาหลีเหนือ

[แก้]

ชุดฮันบก ของสตรีในเกาหลีเหนือนั้น ชุดจะเป็นสีเดียวกันทั้งชุด ทั้งท่อนบน และท่อนล่าง ปกเสื้อจะมีขนาดเล็กกว่า คอลึกกว่า ชุดฮันบกในเกาหลีใต้ ส่วนชุดฮันบกของบุรุษนั้นในงานพิธีการต่าง ๆ จะใส่ชุดสูทสากลแทน

อ้างอิง

[แก้]
  1. Zang, Yingchun (2007). Zhongguo shao shu min zu fu shi. 臧迎春. (Di 1 ban ed.). Beijing: Wu zhou chuan bo chu ban she. ISBN 978-7-5085-0379-0. OCLC 57675221.
  2. "| Minority Ethnic Clothing : Korean (Chaoxianzu) Clothing". baoku.gmu.edu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-27. สืบค้นเมื่อ 2022-08-23.
  3. Korean Culture and Information Service, 2018, Ministry of Culture, Sports and Tourism of the Republic of Korea
  4. 1 2 The Dreams of the Living and the Hopes of the Dead-Goguryeo Tomb Murals, 2007, Ho-Tae Jeon, Seoul National University Press
  5. 1 2 Women entrepreneurs : inspiring stories from emerging economies and developing countries. Mauro F. Guillén. New York: Routledge. 2014. ISBN 978-1-136-32459-8. OCLC 857463468.{{cite book}}: CS1 maint: others (ลิงก์)
  6. Lin, Huishun (2020). "A study on the Alteration of traditional costume of Korean Chinese (I) - Focused on the daily wear" 중국 조선족 전통복식의 변화연구 (I) - 일상복을 중심으로 -. 한국의상디자인학회지 (ภาษาเกาหลี). 22 (4): 63–78.
  7. Chang, In-Woo (2006). "Change in Hanbok of South and North Korea after the Division and the Interexchange -Focusing on Women's Jeogori-". Journal of the Korean Society of Clothing and Textiles. 30 (1): 106–114. ISSN 1225-1151.
  8. Jin, Wenlian (2020). Chaoxianzu's Traditions of Dress: An Exploration of Identity Within Contemporary Fashion Contexts (วิทยานิพนธ์ Thesis) (ภาษาอังกฤษ). Auckland University of Technology.
  9. 1 2 Flags, color, and the legal narrative : public memory, identity, and critique. Anne Wagner, Sarah Marusek. Cham, Switzerland: Springer. 2021. p. 125. ISBN 978-3-030-32865-8. OCLC 1253353500.{{cite book}}: CS1 maint: others (ลิงก์)
  10. 1 2 Passport to Korean culture. Haeoe Hongbowŏn (2009 ed.). Seoul, Korea: Korean Culture and Information Service. 2009. ISBN 978-89-7375-153-2. OCLC 680802927.{{cite book}}: CS1 maint: others (ลิงก์)
  11. 1 2 Gwak, Sung Youn Sonya (2006). Be(com)ing Korean in the United States: Exploring Ethnic Identity Formation Through Cultural Practices. Cambria Press. ISBN 9781621969723.
  12. 1 2 Lopez Velazquez, Laura (2021). "Hanbok during the Goryeo and Joseon dynasty". www.korea.net. สืบค้นเมื่อ 2022-08-21.
  13. 쿠키뉴스 (2014-09-15). "한복데이, 전국 5개 도시서 펼쳐진다". 쿠키뉴스 (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 2022-03-11.

ข้อมูล

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]