พระองคุลิมาลเถระ
| พระองคุลิมาลเถระ | |
|---|---|
องคุลิมาล (ขวา) ไล่ตามพระพุทธเจ้าหมายจะตัดนิ้วของพระองค์เป็นนิ้วที่ 1,000 ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะโปรดให้กลับใจบวชเป็นพระภิกษุ | |
| ข้อมูลทั่วไป | |
| ชื่อเดิม | อหิงสกะ |
| ชื่ออื่น | อหิงสกะ, พระองคุลิมาล, อหิงสกะกุมาร, องคุลิมาลโจร, โจรองคุลิมาล |
| สถานที่เกิด | เมืองสาวัตถี |
| สถานที่บวช | ป่าองคุลิมาล |
| วิธีบวช | เอหิภิกขุอุปสัมปทา |
| สถานที่บรรลุธรรม | ป่าองคุลิมาล |
| อาจารย์ | อาจารย์ในเมืองตักสิลา |
| ฐานะเดิม | |
| ชาวเมือง | สาวัตถี |
| บิดา | ปุโรหิตของพระเจ้าปเสนทิ นามว่า "คัคคะ" |
| มารดา | นางมันตานี |
| วรรณะเดิม | วรรณะแพศย์ |
| สถานที่รำลึก | |
| สถานที่ | ซากบ้านมารดาองคุลิมาล ภายในเมืองสาวัตถี และป่าองคุลีมาล สถานที่หลบซ่อนตัว บวช และบรรลุธรรมของท่าน |
พระองคุลิมาลเถระ เป็นบุคคลสำคัญในยุคต้นแห่งพุทธศาสนา โดยเฉพาะตามพุทธประวัติพุทธฝ่ายเถรวาท เดิมนั้นเป็นโจรปล้นฆ่าคน เมื่อฆ่าจนครบ 999 คน ก็มาพบพระพุทธเจ้า และได้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ออกบวชเป็นพุทธสาวก แต่ภายหลังมีศรัทธาในพุทธศาสนา ได้กลับใจบวชเป็นพระภิกษุ และบรรลุเป็นพระอรหันต์ อีกทั้งมียังบทสวดของท่านอีกด้วย ชื่อ อังคุลิมาลปริตร คำว่า องคุลิมาล นั้นมาจากภาษาบาลี องฺคุลิมาล, จาก องฺคุลิ (นิ้วมือ) + มาล (มาลัย สร้อยคอ สาย แถว) แปลว่า ผู้มีนิ้วมือเป็นมาลัย
แต่เดิมนั้นองคุลิมาลชื่อว่า อหิงสกะ เป็นบุตรของปุโรหิตในราชสำนักของ พระเจ้าปเสนทิโกศล เมืองสาวัตถี บิดามีนามว่า "คัคคะ" มารดามีนามว่า นางมันตานี ตามตำนานกล่าวเมื่อองคุลีมาลเกิด ศาสตราวุธต่างๆเรืองแสงดุจเปลวไฟ พ่อที่เป็นปุโรหิตเห็นเหตุอัศจรรย์จึงใช้วิชาโหราศาสตร์ตรวจดวงชะตาบุตรที่เพิ่งเกิดพบว่าเกิดในฤกษ์ดาวโจรต่อไปจะกลายเป็นโจรฆ่าคนตาย จึงทูลบอกเรื่องนี้กับพระเจ้าประเสนทิโกศล พระเจ้าเสนทิโกศลถามว่าเป็นโจรปล้นราชสมบัติหรือ(กบถ) เมื่อได้คำตอบว่าเป็นโจรฆ่าคนทั่วไป จึงบอกให้เลี้ยงดูสังเกตนิสัยใจคอดูไปก่อน และตั้งชื่อเด็กว่าอหิงสกะแปลว่าผู้ไม่เบียดเบียนเป็นการแก้เคล็ด เมื่ออหิงสกะเติบใหญ่ก็ปรากฎว่าเป็นเด็กที่ทั้งซื่อสัตย์และมีเมตตาอย่างมาก จนทุกคนเริ่มคลายกังวลจากคำทำนาย อหิงสกะได้ไปเรียนวิชาที่เมืองตักกสิลา[1] และสามารถเรียนได้รวดเร็วอีกทั้งยังปรนนิบัติอาจารย์อย่างดี จนเป็นที่รักใคร่ของอาจารย์อย่างมาก เป็นเหตุให้ศิษย์อื่นริษยา จึงยุยงอาจารย์ว่าองคุลิมาลคิดจะทำร้าย ตอนแรกอาจารย์ก็ไม่เชื่อเลย แต่เมื่อลูกศิษย์ทุกคนรวมตัวกันและพูดเหมือนกัน จึงทำให้อาจารย์เริ่มระแวงจากระแวงก็กลายมาเป็นเชื่อจริงๆขึ้นมา อาจารย์จึงคิดจะกำจัดองคุลิมาลเสีย โดยบอกองคุลิมาลว่า มีสุดยอดวิชาอยู่วิชานึง ถ้าจะสำเร็จวิชานี้ ต้องฆ่าคนให้ได้ 1,000 คนเสียก่อน เพื่อบูชายัญชีวิตของคน 1,000 คนต่อเทพเจ้า องคุลิมาลเนื่องจากเคารพในอาจารย์และอยากสำเร็จวิชา องคุลิมาลจึงออกเดินทางฆ่าคนเพื่อให้ได้ครบพันคน แต่พอฆ่าไปหลายศพก็เริ่มจำไม่ได้ว่าฆ่าคนไปกี่คนแล้ว จึงตัดนิ้วหัวแม่มือคนที่ฆ่าไปมาคล้องที่คอเพื่อให้จำได้ว่าฆ่าไปกี่คนแล้ว เหตุนี้เอง อหิงสกะจึงได้รับสมญานามว่า องคุลิมาล ที่แปลว่าผู้มีนิ้วมือเป็นพวกมาลัย หลังจากแม่องคุลิมาลทราบข่าว แม่องคุลิมาลจึงเดินทางตามหาองคุลิมาลเพื่อขอร้องให้เลิกเป็นโจร พระพุทธเจ้าได้ทรงใช้จุตูปปาทญาณตรวจดูสัตว์โลกว่าวันนี้มีใครที่สามารถโปรดได้ พบองคุลิมาลในข่ายคือพระญาณ พบว่าถ้าองคุลิมาลฆ่าแม่ของตนจะทำอนันตริยกรรมทำให้ไม่สามารถบรรลุมรรคผลได้ในชาตินี้ จึงเสด็จไปโปรดด้วยการเดินตัดหน้าองคุลิมาลก่อนที่องคุลิมาลจะได้พบแม่ของตน องคุลิมาลได้วิ่งตามพระพุทธเจ้า แต่วิ่งอย่างไรก็ตามพระพุทธเจ้าไม่ทัน วิ่งไปตะโกนไปว่า สมณะโล้น จงหยุด พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า ฐิโต อหํ ตวญฺจ ติฎฺฐ แปลว่า เราหยุดแล้ว ท่านจงหยุดด้วยเถิด องคุลิมาลกล่าวว่าสมณะโล้นท่านโกหกอะไร ท่านยังไม่เห็นจะหยุดเลย พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า เราหยุดฆ่าสัตว์แล้ว ท่านต่างหากที่ยังไม่หยุดฆ่าสัตว์ องคุลิมาลได้สติ จึงหยุดวิ่งและได้ฟังคำสอนจากพระพุทธเจ้าจนบรรลุเป็นพระอรหันต์

[2] ต่อมา พระเจ้าประเสนทิโกศล ได้ทราบข่าวเรื่ององคุลิมาล จึงเตรียมจัดตั้งกองทหารเพื่อไปปราบ แต่ก่อนไปจึงจะไปทูลบอกเรื่องนี้แก่พระพุทธเจ้าเผื่อจะได้ฟังคำชี้แนะอะไร ซึ่งพระเจ้าประเสนทิโกศลมักจะปฏิบัติแบบนี้เสมอ ถ้ามีเหตุร้ายพระพุทธเจ้ามักตรัสเตือนให้ความคิดดีๆจนพระองค์ทรงรอดจากเรื่องร้ายได้เสมอ เมื่อทูลเรื่องนี้ให้พระพุทธเจ้าทราบ พระพุทธเจ้าจึงตรัสถามว่าถ้าตอนนี้องคุลิมาลบวชเป็นพระสงฆ์ พระองค์จะทำเช่นไร จะจับสึกเพื่อนำไปประหารหรือไม่ พระเจ้าประเสนทิโกศลทูลว่าถ้าคนหยาบช้าเช่นนั้นบวชได้กระหม่อมจะอภัยโทษให้เลย พระพุทธเจ้าจึงชี้ไปที่พระภิกษุรูปหนึ่งซึ่งก็คือองคุลิมาลที่บวชเป็นพระสงฆ์แล้ว แล้วตรัสบอกว่า ภิกษุรูปนี้คือองคุลิมาล
เรื่องราวขององคุลิมาลมีการเล่าขยายความเอาไว้ในเรื่อง กามนิต ของคาร์ล อดอล์ฟ เจลเลอร์รุป กวีชาวเดนมาร์ก
อ้างอิง
[แก้]- ↑ พระศรีคัมภีรญาณ,รศ.ดร.และคณะ. (2557). พจนานุกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย : Thai Tipitaka Dictionary Mahachulalongkornrajavidyalaya University.รายงานการวิจัย, กองวิชาการ : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หน้า 271 หรือ ขุ.อป.(ไทย) 32/585/89
- ↑ พระไตรปิฎก เล่มที่ 13 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 5 มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ อังคุลิมาลสูตร. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก . เข้าถึงเมื่อ 15-7-52