วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร
วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร | |
---|---|
![]() พระอุโบสถวัดมหาพฤฒาราม | |
![]() | |
ชื่อสามัญ | วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร, วัดมหาพฤฒาราม, วัดท่าเกวียน, วัดตะเคียน |
ที่ตั้ง | เลขที่ 517 ถนนมหาพฤฒาราม แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500 |
ประเภท | พระอารามหลวงชั้นตรี |
เวลาทำการ | 08.00-18.00 น. |
![]() |
วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมถนนมหาพฤฒาราม แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
ประวัติ[แก้]
วัดมหาพฤฒารามเป็นวัดโบราณที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยายังเป็นราชธานี ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของคลองผดุงกรุงเกษม แต่เดิมในช่วงสมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น วัดนี้แต่เดิมชื่อว่า "วัดท่าเกวียน" เนื่องจากเคยเป็นที่พักแรมของกองเกวียน ที่เดินทางเข้ามาค้าขายในกรุงเทพฯ แต่ต่อมาชาวบ้านก็พากันเรียกชื่อวัดนี้ว่า "วัดตะเคียน" สันนิษฐานว่า เรียกชื่อวัดตามต้นตะเคียนที่ขึ้นหนาแน่นอยู่รอบบริเวณวัดที่มีอาณาบริเวณถึง 14 ไร่
ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์เคยอยู่ในเพศบรรพชิตได้เสด็จมาพระราชทานผ้าป่าที่วัดนี้ ในคราวนั้น พระอธิการแก้วเจ้าอาวาสได้ทูลถวายพยากรณ์ว่า "จะได้เป็นเจ้าชีวิตในเร็วๆนี้" พระองค์จึงมีรับสั่งว่า "ถ้าได้ครองแผ่นดินจริงจะมาสร้างวัดให้อยู่ใหม่" หลังจากนั้นหลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์จึงโปรดเกล้าฯให้สถาปนาวัดขึ้นใหม่ ในเวลาต่อมาจึงโปรดให้พระราชทานสมณะศักดิ์ พระอธิการแก้วเป็น "พระมหาพฤฒาจารย์" และโปรดให้สร้างพระอารามใหม่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2397 จนถึง พ.ศ. 2409 โดยโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัต บุนนาค) เป็นแม่กองในการสถาปนา ต่อมาเมื่อทำการก่อสร้างแล้วเสร็จ จึงโปรดฯ ให้สถาปนาขึ้นในพระอารามหลวง พระราชทานนามว่า "วัดมหาพฤฒาราม"
ศิลปะและสถาปัตยกรรม[แก้]
จิตรกรรมฝาผนังของที่วัดมหาพฤฒาราม แตกต่างจากวัดอื่นตรงที่เขียนเรื่อง "ธุดงควัตร13" และการไปสืบพระพุทธศาสนาที่ลังกา แทนการเขียนเรื่องทศชาติชาดกหรือพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ของวัดอื่น โดยนำเอาศิลปะทางตะวันตกมา นำเอาวิธีการเขียนภาพแบบ 3 มิติ ตามวิธีการเขียนภาพจิตรกรรมตะวันตกเข้ามาใช้ในการเขียนภาพทิวทัศน์ มีการจัดองค์ประกอบภาพให้มีความลึก เหมือนจริงตามธรรมชาติ และรับเอารูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตกเข้ามาใช้ในการวาดภาพตกแต่งประดับอาคาร
พระอุโบสถของวัดมหาพฤฒาราม สร้างเป็นรูปโถงตลอด หลังคาลด 2 ชั้น ประดับช่อฟ้า ใบระกา หน้าจั่วเป็นสัญลักษณ์พระมงกุฎวางอยู่บนพานสองชั้นในบุษบก ซึ่งตั้งอยู่บนช้างสามเศียร หมายถึง เจ้าฟ้ามงกุฎ (รัชกาลที่4) ผู้ครองสยามประเทศ ทรงเป็นผู้สร้างพระอุโบสถหลังนี้ บานประตูและหน้าต่างของพระอุโบสถ เป็นรูปวัวลาก หมายถึง ชื่อเดิมของวัดท่าเกวียน รูปช้างหมายถึง เจ้าอาวาสพระอธิการแก้ว อายุ 107 ปี รูปเทวดาทูลพานสองชั้น ซึ่งมีพระมงกุฎวางอยู่ข้างบน หมายถึง เจ้าฟ้ามงกุฎ (รัชกาลที่4)
พระปรางค์ 4 องค์สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่พระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ที่ปรินิพพานไปแล้ว โดยมีขนาดใหญ่เล็กเรียงกัน ตั้งอยู่ระหว่างอุโบสถกับวิหารเหนือ
พระพุทธไสยาสน์ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ศิลปกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) ของวัดพระมหาพฤฒารามใหญ่โตเป็นรองก็แค่พระพุทธไสยาสน์ที่วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) เท่านั้น เป็นพระพุทธไสยาสน์ที่มีมาแต่ครั้งยังเป็น วัดท่าเกวียน และ วัดตะเคียน แต่เดิมไม่ได้ใหญ่ยาวดังในปัจจุบัน แต่รัชกาลที่ 4 ทรงปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปให้ใหญ่ขึ้น เป็นขนาดความยาวจากพระบาทถึงพระเกตุมาลา 19.25 เมตร และ พระอุระกว้าง 3.25 เมตร พระนาภีกว้าง 2 เมตร
รายนามเจ้าอาวาส[แก้]
พระมหาพฤฒาจารย์ (แก้ว) เป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่เป็นวัดท่าเกวียน[1] ภายหลังสถาปนาเป็นพระอารามหลวง วัดมหาพฤฒาราม มีเจ้าอาวาสดังรายนามต่อไปนี้
ลำดับที่ | รายนาม | เริ่มวาระ | สิ้นสุดวาระ | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
1 | พระครูธรรมจริยาภิรมย์ (สอน) | พ.ศ.2397
พ.ศ.2411 |
พ.ศ.2406
พ.ศ.2427 |
|
2 | พระศีลาจารย์พิพัฒน์ (สี) | พ.ศ.2406 | พ.ศ.2411 | ภายหลังเป็นเจ้าอาวาสวัดสุวรรณารามราชวรวิหาร |
3 | พระสาศนานุรักษ์ (ปาน) | พ.ศ.2430 | พ.ศ.2436 | ลาสิกขาบท |
4 | พระธรรมเจดีย์ (อุ่ม ธมฺมธโร ป.4) | พ.ศ.2436 | พ.ศ.2458 | เมื่อครั้งสมณศักดิ์ที่พระเทพสุธี ภายหลังได้ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร |
5 | พระธรรมธราจารย์ (อ่อน ปุญฺญุตฺตโม) | พ.ศ.2457 | พ.ศ.2484 | |
พระครูบริหารวรกิจ (เจ๊ก โสภีโต) | พ.ศ.2484 | พ.ศ.2491 | รักษาการเจ้าอาวาส | |
6 | พระเทพวิสุทธิเวที (สุด ฐิตวีโร ป.ธ.9) | พ.ศ.2491 | พ.ศ.2531 | |
7 | พระเทพวิสุทธิเวที (วิจิตร อาสโภ ป.ธ.7) | พ.ศ.2531 | พ.ศ.2552 | |
พระโสภณปัญญารังษี (สมนึก ปญฺญาโชโต ป.ธ.7 ) | พ.ศ.2552 | พ.ศ.2552 | รักษาการเจ้าอาวาส | |
8 | พระราชวชิราภรณ์ (สุรเดช รกฺขิตญาโณ ป.ธ.5) | พ.ศ.2553 | พ.ศ.2566 | ยกขึ้นเป็นกิตติมศักดิ์[2] |
พระธรรมสุธี (นรินทร์ นรินฺโท ป.ธ.3) | พ.ศ.2566 | ปัจจุบัน | รักษาการเจ้าอาวาส[3] |
ของหลวงที่พระราชทานไว้สำหรับวัด[แก้]
- ธรรมาสน์ชั้นเอก คราวงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ รัชกาลที่ 5 (ชำรุด)
- พระบรมรูปหล่อรัชกาลที่ 5 ทรงเครื่องยศจอมพลทหารบก สูงประมาณ 48 เซนติเมตร (สูญหาย)
- พระไตรปิฎกฉบับพิมพ์ สมัยรัชกาลที่ 5 พร้อมตู้บรรจุ
- ตู้สลักลายปิดทองล่องชาด สำหรับตั้งเทียนพรรษา คราวงานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา (ถูกไฟไหม้สมัยสงคราม พ.ศ. 2487)
- กระถางธูปกระเบื้องเคลือบ ลายสิงโต 1 กระถาง (แตกเสียหาย)
- ธรรมาสน์พระปาฏิโมกข์ คราวงานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ในปี พ.ศ. 2471 (ชำรุด)
คลังภาพ[แก้]
-
พระพุทธไสยาสน์
-
พระประธานในพระอุโบสถ
-
ภายในพระวิหาร
อ้างอิง[แก้]
- "วัดมหาพฤฒาราม" สงบงามคู่ย่านบางรัก[ลิงก์เสีย] โดย ผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤษภาคม 2551 13:58 น.
- เว็บไซต์ของวัดเก็บถาวร 2010-08-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ www.thaistudies.chula.ac.th http://www.thaistudies.chula.ac.th/2018/09/29/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%92%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1/.
{{cite web}}
:|title=
ไม่มีหรือว่างเปล่า (help) - ↑ "มส.พักตำแหน่งเจ้าอาวาส "พระราชวชิราภรณ์" พร้อมยกเป็นกิตติมศักดิ์ หลังปล่อย "คนนอก" คุมวัดมหาพฤฒาราม". เดลินิวส์.
- ↑ "แต่งตั้ง "พระธรรมสุธี" เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดมหาพฤฒาราม". เดลินิวส์.