วรรณคดีสโมสร
พระราชลัญจกรพระคเณศร์ | |
ก่อตั้ง | 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2457 |
---|---|
สํานักงานใหญ่ | จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม |
ภาษาทางการ | ภาษาไทย |
ผู้ก่อตั้ง | พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว |
วรรณคดีสโมสร จัดตั้งขึ้นโดยพระราชกฤษฎีกาตั้งวรรณคดีสโมสร พ.ศ. 2457 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการแต่งหนังสือให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย โดยคัดเลือกหนังสือดีที่เป็นตัวอย่างชั้นเลิศในการประพันธ์ประเภทต่าง ๆ ซึ่งต้องเป็นหนังสือดีและแต่งดีวรรณคดีสโมสรจึงจะรับไว้พิจารณา หนังสือที่พิจารณาจัดไว้ทั้งสิ้น 5 ประเภท
ประวัติ
[แก้]พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตราพระราชกฤษฎีกา ตั้งวรรณคดีสโมสร ขึ้นเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2457 เพื่อส่งเสริมการแต่งหนังสือให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย และได้สาระประโยชน์ เนื่องจากในยุคนั้นการแต่งหนังสือมักเลียนแบบการแต่งหนังสือภาษาต่างประเทศ ทำให้หลักไวยากรณ์ผิดเพี้ยนไป คำว่า "วรรณคดี" ก็ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกพร้อมกับพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ เพื่อให้มีความหมายสอดคล้องกับคำว่า "literature" ในภาษาอังกฤษ
คณะกรรมการของวรรณคดีสโมสรเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่ทรงแต่งตั้งขึ้นทำหน้าที่คัดเลือกหนังสือดี หนังสือที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับพระราชทานรางวัล และได้รับพระบรมราชานุญาตให้ประทับตราพระราชลัญจกรรูปพระคเณศร์ นับเป็นการมอบรางวัลทางวรรณกรรมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย[1]
ตามพระราชกฤษฎีกา ได้แบ่งประเภทของหนังสือไว้ 5 ประเภท[2] ดังนี้
- กวีนิพนธ์ คือ งานประพันธ์โคลง กลอน กาพย์ ฉันท์
- ละครไทย คือ เนื้อเรื่องที่ประพันธ์เป็นกลอนแปด
- นิทาน คือ เนื้อเรื่องที่ประพันธ์เป็นร้อยแก้ว
- ละครพูด คือ เนื้อเรื่องที่เขียนขึ้นสำหรับแสดงบนเวทีใช้หลักการน้ำเสียง ความชัดเจน
- ความอธิบาย คือ การแสดงศิลปะด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ที่ไม่ใช่แบบเรียน ตำรา หนังสือโบราณคดี หรือพงศาวดาร
วรรณคดีสโมสร ยุติบทบาทลงในปี พ.ศ. 2468 แต่หลังจากนั้น สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงก่อตั้ง "สมาคมวรรณคดี" ขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2474 และยังใช้มาตรฐานเดิมในการพิจารณาวินิจฉัย หนังสือกลอนลิลิต อยู่[3]
- ประเภทลิลิต ได้แก่ ลิลิตพระลอ
- ประเภทฉันท์ ได้แก่ สมุทรโฆษคำฉันท์
- ประเภทกาพย์ ได้แก่ มหาชาติกลอนเทศน์
- ประเภทความเรียงเรื่องนิทาน ได้แก่ สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน)
- ประเภทกลอนสุภาพ ได้แก่ เสภาเรื่อง ขุนช้างขุนแผน
- ประเภทบทละครรำ ได้แก่ อิเหนา
- ประเภทบทละครร้อง ได้แก่ สาวเครือฟ้า
- ประเภทบทละครพูด ได้แก่ หัวใจนักรบ
- ประเภทบทละครพูดคำฉันท์ ได้แก่ มัทนะพาธา
- ประเภทความเรียงอธิบาย ได้แก่ พระราชพิธีสิบสองเดือน
- ประเภทกวีนิพนธ์ ได้แก่ พระนลคำหลวง
- ประเภทกาพย์เห่เรือ ได้แก่ กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร
- ประเภทนิราศ ได้แก่ นิราศนรินทร์
- ประเภทกลอนนิทาน ได้แก่ พระอภัยมณี
ดูเพิ่ม
[แก้]- หนังสือและบทความ
- 100 ปี วรรณคดีสโมสร. (2558). กรุงเทพฯ: สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร.
- ธนาพล ลิ่มอภิชาต และวริศา กิตติคุณเสรี. (2551, ต.ค.-ธ.ค.). ประวัติศาสตร์และการเมืองของวาทกรรม “หนังสือดี”. อ่าน. 1(3): 38-60.
- อาทิตย์ ศรีจันทร์. (2559, ม.ค.-เม.ย.). วรรณคดีสโมสรกับองค์ความรู้เรื่องวรรณกรรมในสังคมไทย: ข้อวิพากษ์ในบริบทของสังคมการเมืองของการทำให้เป็นสมัยใหม่ (Modernization). สงขลานครินทร์ ฉบับมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. 22(1): 147-187.
- Thanapol Limapichart. (2014). The Royal Society of Literature, or, The Birth of Modern Cultural Authority in Thailand. In Disturbing Convention Decentering Thai Literary Cultural. edited by Rachel V. Harrison et al. pp. 37-62. London: Rowman& Littlefield International.
- เว็บไซด์
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ร้อยเรื่องเมืองไทย: วรรณคดีสโมสร, บุคคลสำคัญของโลกชาวไทย
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-14. สืบค้นเมื่อ 2008-10-04.
- ↑ พิเชฐ แสงทอง, วรรณกรรมท้องถิ่น เก็บถาวร 2008-09-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-01-24. สืบค้นเมื่อ 2008-10-04.