รายชื่อตัวละครในอินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ตัวละคร [แก้]

เกี่ยวเนื่อง : อินุยาฉะ[แก้]

อินุยาฉะ 犬夜叉 『Inuyasha』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น คัปเปย์ ยามากุจิ , ไทย ภัทรวุฒิ สมุทรนาวี (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
เด็กหนุ่มครึ่งอสูร( 半妖 (Hanyō)"ฮันโย") ผู้มีเลือดผสมจากจอมอสูรขุนพลสุนัขปีศาจและมารดาผู้เป็นเจ้าหญิงชาวมนุษย์ชื่ออิซาโยอิ เกิดในคืนจันทรุปราคา เป็นคนปากไว มุทะลุ เกลียดการพ่ายแพ้ ขี้เก๊ก โลเล แถมยังไม่เป็นสุภาพบุรุษ แต่ว่ามีจิตใจดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น แรกเริ่มอินุยาฉะต้องการลูกแก้วสี่วิญญาณเพื่อจะเป็นอสูรที่สมบูรณ์ดังเช่นเดียวกับอสูรตนอื่น ๆ และชอบพออยู่กับ คิเคียว มิโกะผู้รักษาลูกแก้ว ต่อมาถูกนาราคุทำให้ผิดใจกันจนถูกคิเคียวยิงด้วยธนูปิดผนึกตรึงให้หลับไหลอยู่ที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ 50 ปีต่อมาเขาได้พบกับ คาโงเมะ หญิงสาวผู้เป็นดวงวิญญาณของคิเคียวกลับชาติมาเกิดในร่างตัวตนใหม่ เธอได้เผอิญมาปลุกเขาจากการหลับไหลและทำการปลดปล่อยอินุยาฉะออกจากผนึก จากนั้นไม่นานเมื่อลูกแก้วสี่วิญญาณได้มีเหตุให้แตกกระจายไปทุกทิศทางทั้งคู่จำต้องร่วมกันตามเก็บรวบรวมเศษชิ้นส่วนลูกแก้วเหล่านั้นซึ่งพวกเขามีเอี่ยวในการทำมันแตก และนี่ได้นำไปสู่เรื่องราวมากมายของอินุยาฉะทั้งความรัก แค้น เฮฮา บ้าบอ เสื่อม รั่ว ดราม่าโศกสลดผสานวนกันไปในเรื่องราวสายสัมพันธ์ของพวกพ้อง กับค่าความซึนเต็มร้อยที่มีอยู่ในสายสัมพันธ์ของสายเลือด ในการต่อสู้กับศัตรูตัวฉกาจอย่างนาราคุ อินุยาฉะมี "ดาบเขี้ยวอสูร" (เท็ตไซกะ) ซึ่งตีมาจากเขี้ยวของบิดาเป็นอาวุธประจำกาย ใช้เพื่อปกป้องตนเองและผนึกสัญชาตญาณปีศาจซึ่งจะตื่นขึ้นมาในเวลาที่เกิดอันตรายถึงชีวิต โดยมีท่าไม้ตายคือ "แผลแห่งลม" และ "พลังไหลระเบิด" (บทพากย์ฉบับโมเดิร์นไนน์การ์ตูนใช้ชื่อว่า "พลังคลื่นระเบิด") ที่จะจบชีวิตศัตรูได้ในการจู่โจมแค่ครั้งเดียวเท่านั้น นอกจากนั้นพลังพื้นฐานติดตัวมากับสายเลือดของอินุยาฉะคือสามารถเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ได้โดยการกระโดดในการวิ่งจนเหมือนกับเหาะได้ในชั่วระยะหนึ่ง มีพลังโจมตีของกรงเล็บในท่า"กรงเล็บคร่าวิญญาณ"กับ"กรงเล็บดาบโลหิต"ที่ใช้เลือดเป็นสื่อนำเพิ่มพลังโจมตี อีกทั้งมีประสาทการดมกลิ่นที่แม่นยำ ทว่าอินุยาฉะจะไม่มีพลังอสูรและกลายเป็นมนุษย์ในคืนเดือนดับที่พระจันทร์หายลับไปจากท้องฟ้า จุดอ่อนคือ เดือนดับ อาหารรสจัด กลิ่นเหม็น น้ำตาผู้หญิงและคำว่า "นั่งลงเดี๋ยวนี้" ของคาโงเมะ เขามีเสื้อขนหนูไฟที่อินุไทโชบิดาของเขามอบให้ไว้ก่อนจะตายเป็นชุดผ้าเนื้อดีที่เป็นประหนึ่งเกราะชั้นหนึ่งที่กันได้ไม่ว่าจะไฟตามคุณสมบัติเลื่องชื่อของชุดหรือกันปกป้องจากสิ่งมีคมทั่วไปไม่ให้ทำร้ายโดนเจ้าของที่ครอบครองมัน อินุยาฉะสูง168เซนติเมตร หนัก65.1กิโลกรัม อินุยาฉะมีรูปลักษณ์ภายนอกอายุ 15 ปี แต่พิจารณาจากสภาพแวดล้อมสมัยเด็กที่เขายังอยู่กับมารดากับตอนเสริมเนื้อเรื่องที่จาเก็นฝากตัวเป็นข้ารับใช้ติดตามเส็ตโชมารูเป็นช่วงหลังจากที่บิดาของเขาเสียชีวิต จะพบว่าอายุจริงของอินุยาฉะอยู่ที่ช่วงกว่า 200 ปีเมื่อได้พบกับคาโงเมะ



ฮิงุราชิ คาโงเมะ 日暮かごめ 『Higurashi Kagome』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ซัตสึกิ ยูกิโนะ, ไทย วิภาดา จตุยศพร (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
สาวมัธยมต้นธรรมดา ๆ อาศัยอยู่ในบ้านศาลเจ้าฮิงุราชิกับคุณปู่ คุณแม่ โซตะน้องชายและแมวเลี้ยงตัวอ้วนปุโย แต่แล้วในวันเกิดครบรอบ 15 ปี คาโงเมะถูกปีศาจตะขาบตนหนึ่งที่โผล่จากบ่อน้ำเก่าของศาลเจ้าจับลากตัวข้ามกาลเวลากลับมา 500 ปีก่อนในยุคแห่งสงคราม เพื่อที่จะพบกับ อินุยาฉะ ที่ถูกคิเคียวผนึกไว้ คาโงเมะที่จวนตัวได้ปลดผนึกอินุยาฉะออกและได้รับรู้ว่าตัวเธอคือ คิเคียว กลับชาติมาเกิดจากการที่สิ่งวิเศษซึ่งคิเคียวต้องการเผาทำลายไปพร้อมกับร่างนั้นได้ติดตามข้ามชาติภพมาปรากฏอยู่ที่ตัวคาโงเมะด้วย แต่ลูกแก้วสี่วิญญาณที่มาอยู่กับเธอมีเวลาเป็นลูกแก้วกลม ๆ ได้ไม่นาน คาโงเมะที่มาจากยุคสมัยที่สงบสุขไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ กับการใช้อาวุธต่อสู้เธอไม่เคยยิงธนูและได้รับความจำเป็นต้องหัดยิงมันในยุคสงครามนี้ทันที คาโงเมะและอินุยาฉะจึงได้มาเป็นคู่หูในการรวบรวมเศษลูกแก้วสี่วิญญาณหลังจากเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ลูกแก้วสี่วิญญาณแตกเป็นเสี่ยง ๆ และกระจายไปทั่ว ด้วยสิ่งแวดล้อมที่เติบโตมากับคนในครอบครัวฮิงุราชิทำให้คาโงเมะเป็นคาโงเมะที่ใจกว้างมองโลกในแง่ดีและมีจิตใจบริสุทธิ์อย่างที่คน ๆ หนึ่งในสมัยปัจจุบันที่มีทั้งเรื่องเรียน งานบ้าน กลุ่มเพื่อน ความรัก งานสู้กับปีศาจในยุคสงครามและปัญหาเล็ก ๆ จากคนในครอบครัวอย่างข้ออ้างในการหยุดเรียนให้เธอของคุณปู่ จะคงมีได้ อย่างไรก็ตามในแก่นแท้ของวิญญาณคาโงเมะมีพลังในแบบของมิโกะทุกประการที่สามารถใช้ในการปัดเป่าชำระล้างความชั่วร้าย ศรธนูของเธอมีพลังวิญญาณแรงกล้าในการทำลายไอปีศาจรวมทั้งต่อสู้กับโยไคได้ฉกาจไม่แพ้อาวุธของผู้ใด หากเมื่อเธอชำนาญในพลังเทคนิควิชามากขึ้นเท่านั้นจะไม่ผิดจากมิโกะระดับสูงเช่นคิเคียวมาใช้พลังเอง ตัวคาโงเมะใช้เพียงธนูก็เพียงพอในการต่อสู้ร่วมกับอินุยาฉะและพวกพ้อง(เธอไม่ใช่สายฝึกฝนวิชาเสริมอย่างเวทอาคม) แต่คาโงเมะเป็นมิโกะผู้ไม่เคยรู้ตัวว่าเป็นมิโกะมาก่อน เธอไม่ได้เก็บงำระงับอารมณ์ได้เท่าเทียมผู้ที่เติบโตมาพร้อมกับตำแหน่งหน้าที่ซึ่งมักฝึกอบรมจิตใจและการแสดงออกอย่างเยือกเย็นไม่แสดงกิริยาฉุนโกรธในสีหน้าท่าทางให้โจ่งแจ้ง เธอจึงมีอาการแสดงความรู้สึกรู้สาหึงหวงและใส่ใจอินุยาฉะเวลาเขาทำอะไรให้เธอไม่สบายใจ คาโงเมะมักเลือกเก็บเงียบเรื่องราวคับข้องเอาไว้ ค่อยรวมยอดเล่นงานเขาทีหลัง เพราะคาโงเมะยังมีไม้เด็ดก็คือ คำสั่ง "นั่งลงเดี๋ยวนี้" ซึ่งเป็นอาคมที่จะฉุดสร้อย "ประคำสะกดวิญญาณ" ที่คอของอินุยาฉะให้เขาสยบลง หยุดการเคลื่อนไหว หรือใช้เพื่อทำโทษอินุยาฉะได้ชะงักนัก ส่วนในโลกปัจจุบันนั้นคาโงเมะมีเพื่อนสนิทชื่อว่า ยูกะ เอริ และอายูมิ และมีเพื่อนร่วมทางเพื่อไปรวบรวมลูกแก้วสี่วิญญาณคือ มิโรคุ ซังโกะ ชิปโป และคิราร่า คาโงเมะมีหนุ่ม ๆ หลายคนที่หมายปองคือ โคงะ หัวหน้าเผ่าหมาป่าอสูร และ โฮโจคุง เพื่อนร่วมโรงเรียน คาโงเมะสูง165.5เซนติเมตร หนัก58กิโลกรัม


* 日暮かごめ(ひぐらし かごめ)"Kagome Higurashi" เขียนเป็นคำไทยได้สองแบบ ชื่อ かごめ คาโกเมะ หรือ คาโงเมะ และ สกุล ひぐらし ฮิกุราชิ หรือ ฮิงุราชิ



ชิปโป 七宝 『Shippō』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น คุมิโกะ วาตานาเบะ, ไทย อรุณี นันทิวาส (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
ปีศาจจิ้งจอก( 狐 "Kitsune", สุนัขจิ้งจอก )ที่ยังอยู่ในวัยเด็ก ด้วยพ่อของเขาถูกพี่น้องอสูรสายฟ้า( ฮิเท็น และ มันเท็น )ฆ่าตาย ทีแรกชิปโปต้องการมาขโมยเศษลูกแก้วสี่วิญญาณจากคาโกเมะเพื่อไปแก้แค้นให้พ่อ แต่ก็ได้อินุยาฉะมาช่วยแก้แค้นให้ ชิปโปจึงถืออินุยาฉะเป็นผู้มีพระคุณและร่วมเดินทางมากับพวกอินุยาฉะ แต่ดูเหมือนจะสนิทกับคาโกเมะมากกว่าเพราะชิปโปถูกอินุยาฉะแกล้งอยู่เป็นประจำ ปีศาจจิ้งจอกนั้นมีวิชาประจำเผ่า กลมายาจิ้งจอกที่เป็นทักษะสร้างมายาลวงตาจำแลงทำให้เป้าหมายเห็นรับภาพแล้วรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในขณะหนึ่ง ชิปโปมักใช้วิชานี้แปลงร่างเลียนแบบต่าง ๆ นา ๆ หรือใช้ร่วมประกอบกับอุปกรณ์ที่ไว้ใช้ป้องกันตัวเอาชีวิตรอดและไว้ใช้ลวงหลอกผู้คน ซึ่งหนึ่งในเหยื่อไม่ไกลที่ติดกับบ่อยที่สุดมักคืออินุยาฉะ และอีกท่าโจมตีประจำเผ่าเรียกว่าไฟจิ้งจอกเป็นทักษะหากินสุดเบสิคของเผ่าจิ้งจอกปีศาจ แต่ส่วนมากประโยชน์ของท่าไม้ตายเหล่านี้ของชิปโปมีไว้เพียงลวงความสนใจของศัตรู แม้พลังปีศาจของเขาที่ยังเล็กจะดูไม่ค่อยมีดีเก่งกาจอะไรนักหากวิชาจิ้งจอกของชิปโปก็ได้ใช้เป็นตัวช่วยในเวลาคับขันได้หลายครั้ง จิ้งจอกน้อยชิปโปชอบวาดภาพระบายสีมีความเจ้าชู้เล็ก ๆ ถึงจะยังเป็นเด็กแต่บางครั้งก็กล้าหาญไม่เบา





เกี่ยวเนื่อง : คิเคียว[แก้]

คิเคียว 桔梗 『Kikyō』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น โนริโกะ ฮิดากะ, ไทย ศรีอาภา เรือนนาค (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
มิโกะผู้คุ้มครองลูกแก้วสี่วิญญาณให้สะอาดบริสุทธิ์ คิเคียวเป็นมิโกะ(นักบวชหญิงของชินโต)ที่มีความเก่งกาจและพลังวิญญาณสูงที่สุดของช่วงศตวรรษแห่งยุคสงครามนั้น ฐานะมิโกะของเธอเป็นตำแหน่งของหญิงสาวที่ได้รับความเคารพนับถือจากชาวบ้านและเป็นที่น่าหวาดเกรงของอสูรปีศาจทั่วไปแต่ก็ยังมีปีศาจและมนุษย์ที่ชั่วร้ายพวกที่กล้าตายอยู่บ้างบางพวกที่ต้องการมาชิงลูกแก้วสี่วิญญาณจากเธอ คิเคียวมีบุคลิกสุขุมจริงจังไม่แสดงออกในสีหน้าท่าทางมากนักเธอมีใบหน้านิ่งสงบหากแต่เศร้าสร้อยและเรียบเฉยนอกจากคอยปกป้องลูกแก้วสี่วิญญาณเธอยังเป็นมิโกะผู้โอบอ้อมอารีที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านอีกด้วย แต่สถานะมิโกะนี้จะคงอยู่แค่ก่อนเมื่อใดหญิงสาวผู้นั้นแต่งงานออกไปใช้ชีวิตกับคนรักแม้จะยังคงมีพลังวิญญาณอยู่แต่จะเป็นการสิ้นสุดความเป็นมิโกะ คิเคียวที่มีความรักให้กับ อินุยาฉะ และต้องการอยู่กับอินุยาฉะเท่ากับเธอได้เลือกแล้วว่าต้องการละจากตำแหน่งหน้าที่ความเป็นมิโกะมาเป็นเพียงคนธรรมดา แต่เธอพลาดจากสิทธิที่จะใช้ชีวิตแบบหญิงสามัญชนที่มีความสุขด้วยแผนร้ายของนาราคุ ทำให้คิเคียวผิดใจกับอินุยาฉะและได้ผนึกอินุยาฉะไว้ แล้วด้วยบาดแผลร้ายแรงคิเคียวสิ้นชีวิตไปพร้อมกับความพยายามทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายที่จะปกป้องรักษาลูกแก้วสี่วิญญาณโดยให้ คาเอเดะ น้องสาวเผาลูกแก้ววิเศษไปพร้อมร่างของเธอ 500 ปีต่อมาคิเคียวได้กลับชาติมาเกิดเป็น คาโกเมะ และจากนั้นไม่นานเมื่อคาโกเมะถูกปีศาจนำพากลับมาที่ยุคสงคราม เป็น 50ปี หลังการตายของคิเคียว แล้วคิเคียวก็ถูกทำให้ฟื้นคืนขึ้นมาด้วยรูปลักษณ์กายหยาบเดิมอีกครั้งด้วยน้ำมือของปีศาจอุราซึเอะเป็นร่างที่มีรูปกายเสมือนมนุษย์สมัยมีชีวิตที่ได้สร้างขึ้นจากเถ้ากระดูกและดินสุสานเพื่อให้เธอตามหารวบรวมเศษลูกแก้วสี่วิญญาณที่แตกกระจาย คิเคียวซึ่งกลับมาในโลกด้วยวิญญาณความโกรธแค้นพร้อมทั้งอำนาจเดิมอันร้ายกาจที่เธอมี คำสั่งบงการนั้นได้รับการปฏิเสธและคิเคียวตอบแทนปีศาจที่หาญกล้าปลุกชีพเธอให้ฟื้นมารับรู้ความทุกข์อีกครั้งด้วยการชำระล้าง(ฆ่าทิ้ง)และปลีกตัวเดินทางแยกไปเพียงผู้เดียวด้วยความมุ่งหมายแน่วแน่ในวิธีการที่ตั้งใจไว้ที่จะกำจัด นาราคุ หลังจากที่รู้ข้อเท็จจริงว่าโศกนาฎกรรมระหว่างเธอกับอินุยาฉะเป็นนาราคุที่ทำให้เป็นไป คิเคียวซึ่งยังมีใจให้อินุยาฉะอยู่ก็มักจะออกโรงมาช่วยเหลืออินุยาฉะอยู่เสมอ ต่อมาภายหลังเธอถูกความชั่วร้ายในใยแมงมุมของนาราคุเข้าครอบงำจิตใจจึงไม่สามารถชำระล้างลูกแก้วและช่วยโคฮาคุได้ คิเคียวจึงฝากโคฮาคุไว้ใต้การดูแลของคาโกเมะและในความอ่อนแอก่อนหมดสิ้นพลังเธอใช้พลังวิญญาณเฮือกสุดท้ายที่จะสะกดนาราคุให้ตายตกไปตามกันแต่มันไม่สำเร็จเพราะในตอนนั้นความชั่วร้ายของนาราคุที่ได้ครอบครองลูกแก้วสี่วิญญาณมีมากจนเกินไป อย่างไรก็ตามคาโกเมะได้ใช้ธนูแห่งเขาอัซซึสะชำระล้างความชั่วร้ายในตัวของคิเคียวและช่วยจิตวิญญาณของเธอเอาไว้ได้ คิเคียวจึงไม่ต้องใช้เวลาในวาระสุดท้ายแต่เพียงลำพังและได้จากภพนี้ไปอีกครั้งภายในอ้อมกอดของอินุยาฉะชายคนที่เธอรัก คิเคียวสูง158เซนติเมตร หนัก50.3กิโลกรัม ก่อนสิ้นชีวิตคิเคียวอายุ 18 ปี



คาเอเดะ 楓『Kaede』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ฮิซาโกะ เคียวดะ, ไทย อรุณี นันทิวาส (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
น้องสาวของคิเคียวรับหน้าที่เป็นมิโกะผู้ดูแลหมู่บ้านต่อจากพี่สาว หลังจากคิเคียวตายและอินุยาฉะถูกผนึกอยู่ที่ต้นไม้เวลาล่วงผ่านไปถึง50ปี คาเอเดะก็ได้แก่ชราลง หลังจากคาโกเมะมาที่ยุคสงครามคาเอเดะเป็นผู้คอยให้คำแนะนำต่าง ๆ แก่พวกอินุยาฉะเสมอ ตอนที่คิเคียวตายในตอนแรกคาเอเดะ อายุ 10 ปี และเมื่อคาโกเมะมาที่ยุคสงครามเท่ากับ 60ปี ระยะเวลาตามหารวบรวมเศษลูกแก้ว 1 ปี เป็น 61 และ+3 ปี คาเอเดะอายุ 64 ปีในตอนสุดท้ายของอินุยาฉะภาคปัจฉิมบท คุณยายคาเอเดะเป็นผู้ที่ลงมนต์สวมสร้อย"ประคำสะกดวิญญาณ"( 言魂の念珠 "โคโตะดามะโนะเน็นจุ" ) สยบความห้าวจัดหลังได้หลุดออกจากผนึกของอินุยาฉะในตอนเริ่มแรกของเรื่อง



แมลงส่งวิญญาณ 死魂虫 『Shini dama chuu』[แก้]

ชินิดามะจู ถูกคิเคียวนำมาใช้เก็บเกี่ยวนำวิญญาณของหญิงสาวที่ตายแล้วมาให้ตนเพื่อใช้ในการคงรักษาสภาพการยึดโยงระหว่างกายหยาบกับวิญญาณ แมลงส่งวิญญาณมีลักษณะลำตัวยาว คล้ายงูและมีสีขาวเรืองแสงเปล่งประกาย


อะสุกะ 飛鳥 『Asuka』 คุโจ 胡蝶 『Kochō』[แก้]

สองชิกิกามิของคิเคียว อะสุกะ เกิดมาจากกระดาษพับรูปนก เป็นรูปแบบเด็กหญิงสวมชุดสีฟ้าอ่อน คุโจ เกิดมาจากกระดาษพับรูปผีเสื้อ เป็นรูปแบบเด็กหญิงสวมชุดสีเหลืองอ่อน ทำหน้าที่เป็นข้ารับใช้ช่วยเหลือความสะดวกแก่คิเคียวในตอนที่เธอเริ่มจะอ่อนแอมากแล้ว สามารถใช้ส่งสาร สืบข่าว ชิกิกามิเป็นศาสตร์แขนงวิชาอนเมียวโดและคิเคียวผู้เป็นมิโกะใช้มันได้ดี บทบาทของพวกเธอจบลงโดยการปกป้องโคฮาคุจากการตามสังหารชิงเศษลูกแก้วของเบียคุยะที่เป็นร่างแบ่งภาคสุดท้ายของนาราคุ





เกี่ยวเนื่อง : เส็ตโชมารู[แก้]

เส็ตโชมารู 殺生丸 『Sesshōmaru』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น เคน นาริตะ, ไทย ไกวัล วัฒนไกร (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
พี่ชายต่างแม่ของอินุยาฉะที่ไม่ลงรอยกันเท่าไหร่นัก คืออสูรชั้นสูง( 大妖怪 (Daiyōkai)"ไดโยไค") นิสัยน่ากลัวโหดร้ายและเย็นชา หากใครพาลระรานตนจะฆ่าโดยไม่ลังเล ตอนแรกหวังแค่อยากเก่งขึ้น จึงค้นหาสุสานของพ่อเพื่อชิง "ดาบเขี้ยวอสูร" (เท็ตไซกะ) มรดกอาวุธสำคัญชิ้นนึงของพ่อ กับเรียกตนว่า"พี่ชายผู้นี้"กับ อินุยาฉะ พลาดท่าโดนน้องใช้ดาบเขี้ยวอสูรตัดแขนซ้ายขาด

จึงออกค้นหาแขนปีศาจข้างใหม่มาใช้สู้กับินุยาฉะแต่พลาดทุกที จนถูกนาราคุหลอกให้ใส่แขนมนุษย์ที่มีเศษลูกแก้ว 4 วิญญาณ สสู้แพ้น้อง กับแขนโดนกัดกิน จึงรู้ว่าโดนหลอกใช้จึงไล่ล่านาราคุไปในตัวอีกที

แม้ตนมี "ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น" (เท็นเซย์กะ) ที่พ่อยกให้ ใช้คืนชีพคนตาย 100 คน แค่แกว่ง 1 ที แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ใช่ฆ่าใครในภพนี้ แต่เพราะดาบนี้ ตนพบกับริน เด็กหญิงตัวน้อยผู้ยื่นมือเข้ามาช่วยดูแลตนตอนบาดเจ็บหลังสู้แพ้น้อง พอรินถูกสมุนเผ่าหมาป่าปีศาจฆ่าตาย ตนใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นคืนชีพกับให้มาติดตามตน นิสัยตนเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เริ่มเข้าใจพ่อกับน้อง รับรู้ต่อผู้คนที่ทุกข์ทนลำบากรู้จักเห็นใจผู้อื่น ดูมีจิตใจเมตตาที่ดีขึ้น ภายหลังจากที่ดาบมารสมิง(โทคิจิน)ใช้การไม่ได้อีกดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นได้รับการเปิดใช้ท่าไม้ตาย "จันทร์เสี้ยวปรภพ" (เมโดซันเกตสึฮะ) เมื่อฟันออกไปจะเปิดโพรงปรภพขนาดมหึมาส่งคู่ต่อสู้ไปยังปรโลก ทว่าสุดท้ายเส็ตโชมารูก็สละความต้องการในพลังสิ่งอื่นใดพลังนี้ได้ย้ายไปรวมที่ดาบเขี้ยวอสูรของอินุยาฉะ เมื่อเข้าถึงตนเองเส็ตโชมารูได้รับดาบที่เป็นของเขาเองอย่างแท้จริง "ดาบเขี้ยวดินระเบิด" ( 爆砕牙 "บาคุไซกะ") ซึ่งสร้างมาจากพลังอสูรของตัวเขาเองพร้อมกับแขนข้างซ้าย นอกจากนั้นโดยพลังอำนาจฤทธิ์พื้นฐานเส็ตโชมารูสามารถเหาะเหินไปในอากาศ มีความเร็วการเคลื่อนที่ที่รวดเร็วได้จนเห็นเป็นภาพติดตา มีประสาทสัมผัสรับกลิ่นที่ยอดเยี่ยม และ ทักษะกรงเล็บกับพิษ ทั้งเล็บพิษแส้พิษ(แม้แต่น้ำลายก็มีพิษร้ายแรงอย่างที่ใช้ในร่างอสูรที่เขาจะเล่นงานอินุยาฉะตอนแรก ๆ) พลังพิษนี้สามารถเลือกใช้หรือไม่ใช้ได้ตามต้องการ กระทั่งหางทั้งสองซึ่งมองเผิน ๆ อาจนึกว่าเป็นเครื่องประดับเสริมบารมีโดยปกติในร่างมนุษย์หางที่พันพาดบ่าด้านขวาเส็ตโชมารูยังเคยใช้มันจับอินุยาฉะม้วนเหวี่ยงอินุยาฉะออกไป แต่เห็นได้ชัดเส็ตโชมารูมีความไว้ตัวรวมถึงหางปุย ๆ นุ่มนิ่มนี้นอกจากการใช้จับอินุยาฉะเขาไม่ได้ใช้ออกกับคู่ต่อสู้อื่นอีก ในอุปนิสัยสันโดษวิถีกับบุคลิกสูงส่งสงบนิ่งและวางเฉยเส็ตโชมารูมีระยะห่างที่ไม่อนุญาตให้ใครใกล้ชิด นอกเหนือการจะฆ่าหรือต่อสู้เขาไม่แม้แต่ลำบากไปยุ่งเกี่ยวถูกต้องตัวใครอย่างเป็นอสูรชั้นสูงที่คงความงดงามในทุกท่วงท่าได้ทุกกระเบียดนิ้ว ทั้งนี้เว้น จาเก็น ข้ารับใช้ผู้ติดตามเขามาอย่างยาวนาน อินุยาฉะที่ยังไงก็เป็นน้อง บุคคลที่เขายอมรับว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัว คาโกเมะคนรักของอินุยาฉะ และ รินที่เขาห่วงแหน(ปกติเส็ตโชมารูได้ปกปิดมันไว้)ที่เส็ตโชมารูได้ให้ความใกล้ชิดและปฏิบัติตนเองแตกต่างไปตามแต่ละคน อย่างไรก็ตามเส็ตโชมารูซึ่งเดิมไม่ได้มีความสนโลกกับใครอื่นแต่อย่างใดกลับกลายมาเป็นหนึ่งในผู้ที่ออกตามล่านาราคุเป็นด้วยใจความประโยคเดียว "ข้าไม่ยกโทษให้มัน" ที่ได้ตอบข้อสงสัยของอินุยาฉะที่ถามในเรื่องนี้ เส็ตโซมารูสูง175เซนติเมตร หนัก78กิโลกรัมไม่นับรวมชุดเกราะ มีรูปลักษณ์ในร่างมนุษย์เหมือนอายุเพียง 19 ปี อายุจริงอยู่ที่ 500 ปี(+???)


* 殺生丸(せっしょうまる)"Sesshomaru" หรือ "Sesshoumaru" มีการใช้ตัวเขียนโดยอักษรภาษาอังกฤษในทั่วโลกอยู่สองรูปแบบ และในไทยเขียนเป็นคำไทยได้อยู่หลายวิธีตามการออกเสียงสูงเสียงต่ำ せっ sess (เส็ต, เซ็ช, เซ็ท, เซช, เซซ ,เซส) しょう shou (โช) まる maru (มารุ , มารู) แล้วแต่ผู้แปลสันทัดถนัดรูปแบบใด ตราบใดที่ไม่ผิดหลักการออกเสียงของการทับศัพท์ :


//เบ็ดเตล็ด。ตัวพิมพ์อักษรไทยของชื่อ 殺生丸 (せっしょうまる) ไม่สอดคล้องตรงกันในการแปลตีพิมพ์ในไทย รูปแบบอักษร "เส็ตโชมารู" ริเริ่มจากค่ายลิขสิทธิ์อนิเมะที่ได้ใช้ในการพิมพ์แนะนำเรื่อง รูปแบบอักษร "เซชโชมารู" "เซ็ทโชมารุ" ริเริ่มจากค่ายลิขสิทธิ์มังงะและคงรูปแบบการพิมพ์แตกต่างกันบ้างไปตามแต่ละเล่มจากเล่มที่เปิดตัวก่อนหน้า และผลนั้นได้หยั่งเมล็ดความสับสนเล็ก ๆ กับกลุ่มแฟนคลับผู้ชมผู้อ่านชาวไทยกับการเขียนหรือพิมพ์ในชื่อนี้เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่นำไปใช้พูดคุยสืบค้นหรือแต่งเติมเรื่องราวแฟนฟิคชั่นโดจินชิ ซึ่งทั้งนี้มิอาจนับเป็นความมึนงงที่มากน้อยแต่อย่างใดได้ (ไม่มีข้อสรุปในประเด็นนี้)

ริน りん 『Rin』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น มามิโกะ โนโตะ, ไทย ศรีอาภา เรือนนาค (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
เดิมเธอเป็นเด็กหญิงชาวบ้านธรรมดาแต่ต้องมาเห็นพ่อแม่ถูกโจรป่าฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตาจึงช็อคจนพูดไม่ได้ จนวันหนึ่งโชคชะตานำพาให้รินไปพบ เส็ตโชมารู ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาจากการปะทะกับพลังของดาบเขี้ยวอสูร เธอยื่นมือเข้าไปช่วยดูแลจุนเจือเอาใจใส่เขา แม้แรกเจอรินได้รับการขู่ขวัญอย่างน่าหวาดกลัวจากเส็ตโชมารูแต่ท่าทางน่ากลัวนั้นหาได้มีผลกับรินไม่จนเมื่อเส็ตโชมารูหันมาสนใจถามไถ่บาดแผลที่เธอได้มาอย่างสงสัย รินได้ส่งรอยยิ้มบริสุทธิ์ของความดีใจให้กับเขา แต่ต่อมาเมื่อรินกลับหมู่บ้านเธอโชคร้ายถูกสมุนเผ่าหมาป่าปีศาจของโคงะฆ่าตาย จากนั้นโลกของรินก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเมื่อรินได้เส็ตโชมารูใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นช่วยชุบดึงชีวิตกลับมาจากความตาย เธอจึงได้คอยติดตามไปกับเส็ตโชมารูและกลับมาพูดได้ดังเดิม รินได้รับการดูแลที่ให้อิสระในการเลือกใช้ชีวิตในแบบของเธอที่เป็นตัวเธอเองอยู่ภายในสายตาการรับรู้ของเส็ตโชมารู และเป็นศัตรูที่เจ้าเล่ห์หัวไวเช่นนาราคุที่จับทางถูกได้เป็นรายแรกรินถูกมุ่งนำมาเป็นแผนเผื่อทางรอดไว้ทางหนึ่งที่เลิศล้ำดียิ่ง ในการที่เส็ตโชมารูหันมาออกตามล่านาราคุอย่างจริงจังในเส้นทางทำให้รินได้พบปะรู้จักกับพวกอินุยาฉะคาโกเมะ ด้วยจิตใจที่สดใสซื่อตรงและกล้าหาญรินมีอย่างหนึ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เธอมักทำเป็นกิจวัตร รินมัก "เก็บดอกไม้ไปให้ท่านเส็ตโชมารู" เป็นเรื่องปกติอย่างสม่ำเสมอ ตอนที่จาเก็นไม่สบายรินที่เป็นเพียงเด็กชาวมนุษย์กลับตั้งใจเด็ดเดี่ยวไปหายารักษามาให้ เธอเป็นห่วงโคฮาคุเพื่อนวัยใกล้เคียงกันที่เคยเกือบฆ่าเธอว่าจะโดนเส็ตโชมารูฆ่าการแสดงออกเล็ก ๆ ของรินเป็นที่รับรู้ของเส็ตโชมารูตลอดเวลา ความอบอุ่นมีเมตตากับทุกอย่างที่เป็นตัวตนของรินมีผลต่อการเปลี่ยนในทางที่ดีของเส็ตโชมารูแม้เขาจะทำอ้างไม่สนใจแต่เธอได้รับการใส่ใจมองหาให้รินหลบไปอยู่ในที่ปลอดภัยเวลาที่เส็ตโชมารูรู้ว่าต้องออกไปต่อสู้ที่อันตรายโดยรินจะมีอะอุนคอยรั้งอยู่ดูแล หากเป็นเรื่องรินเส็ตโชมารูจะมีการตอบสนองไวมากเขาไม่ใช้พิษเมื่อมีรินอยู่ใกล้และเขาพยายามไม่ฆ่าใครต่อหน้าเธอยกเว้นจำเป็น ทว่าในการฝึกจันทร์เสี้ยวปรภพให้สำเร็จท่านแม่ของเส็ตโชมารูได้ฉวยใช้สาวน้อยคนนี้มาเล่นงานบุตรชายในการทดสอบ ที่โลกปรภพเธอนั้นหมดลมหายใจลงทั้งยังไม่สามารถใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นชุบชีวิตขึ้นมาอีกทำให้เส็ตโชมารูตระหนักถึงคุณค่าของชีวิต แท้จริงสิ่งใดที่มีค่ากับเขาจริง หลังจากการตามล่านาราคุจบสิ้นรินได้ถูกฝากไว้ในความดูแลของ คาเอเดะ โดยเส็ตโชมารูแวะเวียนมาเยี่ยมและนำของกำนัลมามอบให้รินเป็นครั้งคราว รินพบและเริ่มติดตามเส็ตโชมารูในตอนที่เธออายุ 7 ปี ซึ่งนับว่ารินเป็นจุดอ่อนหนึ่งเดียวที่เส็ตโชมารูเต็มใจหาให้ตนเอง แต่ด้วยดีกรีความโหดของเส็ตโชมารูความสำคัญของรินต่อเส็ตโชมารูในเรื่องนี้ใคร ๆ จึงไม่อาจก้ำเกินประเมินเป็นคำพูดออกมาได้ง่ายดายนัก



จาเก็น 邪見 『Jaken』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น โช / ยูอิชิ นากาชิมะ, ไทย ภัทรวุฒิ สมุทรนาวี (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
อสูรรับใช้ที่คอยติดตามเส็ตโชมารู ในอดีตจาเก็นเคยเป็นผู้นำชนเผ่าของเขามาก่อนจนในการต่อสู้หนึ่งขณะที่กำลังจะโดนศัตรูที่ร้ายกาจกินเขาได้รับการช่วยเหลือจากเส็ตโชมารู(ที่ผ่านทางมาแล้วฆ่าอะไรก็ตามที่ขัดตาขวางหน้าทางเดิน) บัดนั้นจาเก็นสรรเสริญออกมาคำหนึ่ง"เท่"แล้วจาเก็นก็ได้โยนความเป็นหัวหน้าเผ่าของเขาทิ้งไป และตามติดไปสวามิภักดิ์เป็นข้ารับใช้ติดตามเส็ตโชมารูจากนั้นเป็นต้นมา จาเก็นมีความจงรักภักดีต่อเส็ตโชมารูมากแต่มักจะโดนเส็ตโชมารูแสดงท่าทีเย็นชาโหดร้ายใส่อยู่เสมอ เขาจึงต้องคอยสังเกตดูสีหน้าของเส็ตโชมารูตลอดเวลา จาเก็นมีอาวุธเป็นไม้เท้าหัวคนซึ่งได้รับมอบมาจากเส็ตโชมารูเจ้านายของเขา(ให้ถือไว้)ไม้เท้านี้ของจาเก็นสามารถใช้ค้นหาทางเข้าสุสานของท่านพ่อของเส็ตโชมารูและสามารถพ่นเปลวไฟที่ร้ายแรงมากจนสามารถทำลายอะไรที่อยู่เบื้องหน้าไม้เท้านั้นให้ถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่านได้ หลังจากมีรินมาติดตามเส็ตโชมารูด้วยหน้าที่ที่จาเก็นที่ได้รับเป็นพี่เลี้ยงคอยอยู่เฝ้าเป็นเพื่อนเล่นและดูแลความปลอดภัยให้รินร่วมกับอะอุนในระหว่างที่เส็ตโชมารูมีเรื่องให้ออกไปที่อื่นซักพัก ตัวของจาเก็นเล็กจ้อยกว่ารินที่เป็นเด็กมนุษย์เสียอีก และเมื่อจาเก็นเจอกับอินุยาฉะ เขาก็โดนอินุยาฉะซ้อม จาเก็นเคยพูดไว้ตอนหนึ่งว่าเขาได้ติดตามเส็ตโชมารูมาแล้วหลายร้อยปีและได้ผ่านร้อนผ่านหนาวในโลกนี้มากว่า 3000 ปี ซึ่งตัวเลขนี้เป็นการโม้ข่มชาวบ้านแท้จริงอายุของจาเก็นยังไม่ถึงหลักพัน แต่อาจเป็นเพราะติดตามเป็นข้ารับใช้เส็ตโชมารูมานานมากจริง ๆ เขาสามารถใช้เซ้นส์คาดเดาอารมณ์ความคิดของเส็ตโชมารูได้อย่างแม่นยำ โดยบางครั้งจาเก็นก็พูดความในใจของเจ้านายออกมาได้ตรงเผงมากจนเกินไปจึงโดนเส็ตโชมารูลงโทษอย่างโหดร้ายและเย็นชา กระนั้นถึงบางครั้งจาเก็นเพียงนินทาใส่ไฟเจ้านายด้วยความคิดเห็นส่วนตัวจากระยะไกล ๆ หรือแอบใส่ไฟอยู่แค่ในใจโดยไม่ได้พูดออกมาเส็ตโชมารูก็เหมือนจะรับรู้ได้เช่นกันแล้วจาเก็นก็โดนลงโทษอย่างโหดร้ายและเย็นชาอยู่ดี



อะ-อุน 阿吽 『A-Un』[แก้]

สัตว์อสูรลักขณาคล้ายม้ามังกร มีสองหัว ขวา"อะ" ซ้าย"อุน" ส่วนหัวและขนาดตัวใกล้เคียงกับม้า ลำคอ กรงเล็บ เกล็ด และหางใกล้เคียงมังกร มีลักษณ์เปลวเพลิงสีฟ้าครามที่เท้าเวลาที่เหินเดินอากาศ สามารถยิงพลังงานสายฟ้าออกมาจากปากและมีพลังในการควบคุมสภาพอากาศขนาดย่อม อะ-อุนเป็นสัตว์อสูรพาหนะของเส็ตโชมารู ซึ่ง อะ-อุน เริ่มปรากฏตัวในอนิเมะปีที่2 หลังจากนั้นไม่นานเมื่อมีรินมาอยู่ด้วยเส็ตโชมารูก็เหมือนจะยกให้รินไปโดยสารไป ชื่อ "อะ-อุน" นี้ รินเป็นผู้ตั้งให้และใช้เรียกกันต่อมา อะ-อุนไม่ค่อยเชื่อฟังจาเก็น ซึ่งผิดกับที่เชื่อฟังเส็ตโชมารูกับริน หรือแม้แต่โคฮาคุที่เข้ามาเดินทางด้วยภายหลังอยู่พักหนึ่ง อะ-อุนเป็นสัตว์อสูรที่เป็นมังสวิรัติและค่อนข้างใจดี





เกี่ยวเนื่อง : มิโรคุ[แก้]

มิโรคุ 弥勒 『Miroku』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น โคจิ สึจิทานิ และ โมโตกิ ทาคางิ, ไทย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
นักบวชซึ่งมีพลังวิชาของสายอาชีพอย่างที่ใช้การได้สามารถใช้ปราบปีศาจส่งวิญญาณหาเลี้ยงปากท้องได้ด้วยสัจจริงเขากลับเพียงเป็นนักบวชทุศีลจอมลามกที่จีบผู้หญิงไปวัน ๆ ไม่ว่าเจอผู้หญิงสวย ๆ ที่ไหนเขาก็มักจะพูดว่า "ช่วยคลอดลูกให้ข้าสักคนได้มั้ยครับ" จนติดเป็นนิสัย แต่ว่าหลังจากได้พบกับซังโกะ มิโรคุมีเพียงซังโกะเป็นคนที่เขารักอย่างจริงจังแม้จะยังไม่ทิ้งลายคำพูดติดปากติดนิสัยเดิมเลยก็ตาม มีไม้ตายเฉพาะเจาะจงคือ "ช่องว่างแห่งลม" ที่ถ้าไม่จำเป็นเขาไม่อยากเลือกใช้ เขาตัดสินใจร่วมเดินทางไปกับพวกอินุยาฉะเพื่อจะปราบนาราคุเพราะคำสาปที่สืบทอดในตระกูลจากที่ปู่ของเขาถูกนาราคุสาปให้มีช่องว่างแห่งลมที่มือและมันเป็นคำสาปที่จะสืบทอดไปยังลูกหลานจนกว่านาราคุจะถูกกำจัด โดยช่องว่างแห่งลมสามารถดูดทุกสิ่งให้หายเข้าไปในความว่างเปล่า แต่อย่างร้ายแรงสำหรับผู้ใช้เองตรงที่ช่องว่างแห่งลมจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายจะดูดกลืนร่างกายเจ้าของเองโดยไม่มีเหลือแม้แต่ส่วนเดียว ภายหลังในตอนจบของเรื่อง คำสาปช่องว่างแห่งลมได้ถูกทำลายลงและมิโรคุก็ได้ร่วมชีวิตครอบครัวกับซังโกะโดยมีลูกสาวฝาแฝดและลูกชายอีกหนึ่งคน มิโรคุสูง178เซนติเมตร หนัก78กิโลกรัม ในตอนที่เข้าร่วมกลุ่มกับพวกอินุยาฉะ มิโรคุอายุ 18 ปี เขาเป็นนักบวชในสายนิกายโจโด(หนึ่งในนิกายที่แตกแขนงออกไปจากนิกายหลักทางฝ่ายมหายานของพุทธในญี่ปุ่น ซึ่งนิกายย่อยโจโดซินชูในญี่ปุ่นเป็นเพียงนิกายเดียวที่นักบวชนั้นใช้ชีวิตโดยทั่วไปไม่ผิดแผกจากปุถุชนเช่นฆราวาสนักมาตั้งแต่สมัยอดีต)


ฮาจิ 八衛 『Hachi』 , ฮาจิมอน 八衛門 『Hachiemon』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น โทชิฮิโกะ นากาจิม่า
ปีศาจทานุกิที่ไม่มีพลังต่อสู้ เป็นลูกน้องของมิโรคุ ถึงต่อสู้ไม่ได้ฮาจิก็พอสามารถแปลงร่างตัวใหญ่ขึ้นในรูปแบบคล้ายมะระสีเหลืองลอยได้ให้มิโรคุโดยสาร ฮาจิเป็นปีศาจที่มีนิสัยสุภาพ



มุชิน 夢心 『Mushin』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ยูซุรุ ฟุจิโมะโตะ
เป็นนักบวชผู้สูงอายุที่เลี้ยงดูมิโรคุมา หลังจากที่พ่อของมิโรคุถูกช่องว่างแห่งลมดูดกลืนชีวิตและร่างกายไป เขายังคงอยู่ดูแลที่วัดและเก็บรักษาบริเวณซึ่งพ่อและปู่ของมิโรคุได้เสียชีวิตไว้ นาน ๆ ครั้งมิโรคุก็จะแวะไปหาเขาซักทีแต่ไปทีไร ก็เห็นมุชินดื่มเหล้าหัวราน้ำตลอดทุกที


มิยาสุ 弥萢 『Miyatsu』[แก้]

ปู่ของมิโรคุ นักบวชฝีมือเก่งฉกาจเป็นผู้ที่ถูกนาราคุสาปแช่ง นับเป็นคนแรกของสายตระกูลที่มีช่องว่างแห่งลม ถัดจากเขาเป็นพ่อของมิโรคุและสืบทอดมาถึงมิโรคุ มิยาสุได้ทำการต่อสู้กันหลายครั้งกับนาราคุ ในแต่ละครั้งนาราคุจะมาในรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันโดยในตอนที่เขาถูกสาปนาราคุอยู่ในคราบร่างสตรี และมิยาสุยังเป็นนักบวชผู้ปิดผนึกเทพธิดาปีศาจที่ชื่อคางุยะไว้ในกระจกแห่งชีวิตเมื่อห้าสิบปีก่อนอีกด้วย(คางุยะ มีบทบาทใน อินุยาฉะเดอะมูฟวี่2) มิยาสุเสียชีวิตจากการถูกช่องว่างแห่งลมที่มือตนเองดูดกลืนเข้าไป






เกี่ยวเนื่อง : ซังโกะ[แก้]

ซังโกะ 珊瑚 『Sango』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น โฮโกะ คุวาชิมะ , ไทย ศรีอาภา เรือนนาค (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
นักล่าปีศาจสาวฝีมือดีที่ถูกนาราคุหลอกไปทำร้ายจนปางตายด้วยน้ำมือของ โคฮาคุ ผู้เป็นน้องชายตัวเองซ้ำยังถูกนาราคุเป่าหูว่าทุกคนในหมู่บ้านซังโกะถูกล้างเผ่าพันธุ์ด้วยเป็นฝีมือของอินุยาฉะ ทำให้ซังโกะโกรธแค้นตามไปล้างแค้นกับอินุยาฉะ แต่เมื่อหลังจากรู้ความจริง ซังโกะจึงเข้าร่วมกับอินุยาฉะเพื่อกำจัดนาราคุ ต่อมาได้ตกลงเป็นคู่รักกับมิโรคุ พร้อมกับสัญญากันว่าจะแต่งงานกันเมื่อแก้แค้นนาราคุได้แล้ว มีอาวุธประจำกายคือ กระดูกบิน ซึ่งเป็นอาวุธในลักษณะของบูมเมอแรงยักษ์ ในตอนท้ายสุดของเรื่องเธอตกลงแต่งงานสร้างครอบครัวกับมิโรคุ ทั้งสองมีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นลูกสาวฝาแฝดและลูกชายอีกหนึ่งคน ซังโกะสูง173เซนติเมตร หนัก 65 กิโลกรัม ในตอนที่เข้าร่วมกลุ่มกับพวกอินุยาฉะ ซังโกะอายุ 16 ปี


โคฮาคุ 琥珀 『Kohaku』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น อากิโกะ ยาจิมะ, ไทย วิภาดา จตุยศพร (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
น้องชายของซังโกะ เขาถูกนาราคุควบคุมจิตใจให้ฆ่าพ่อฆ่าพวกพ้องของตัวเองและยังลบความทรงจำ เพื่อใช้ให้โคฮาคุจัดการกับซังโกะและพวกอินุยาฉะ แต่ภายหลังก็ได้ความทรงจำกลับคืนมาแต่ไม่เอ่ยปากบอกใครเพื่อหาจังหวะเพื่อจะจัดการกับหัวใจของนาราคุ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ซังโกะโกรธแค้นนาราคุมาก โคฮาคุได้ร่วมมือกับคางุระในการทรยศนาราคุ แต่นาราคุรู้ทันจึงสังหารคางุระซะ ก่อนที่คางุระจะถูกฆ่าได้ใช้ขนนกพาโคฮาคุหนีไป ต่อมาโคฮาคุก็ไปหลบอยู่กับคิเคียวแต่ตอนที่นาราคุคิดจะใช้ใยแมงมุมเพื่อที่จะให้จิตใจของคิเคียวมัวหมองจึงให้โคฮาคุหนีไปโดยให้มีชิกิกามิคอยติดตามคุ้มครอง แต่นาราคุได้ส่งเบียคุยะมาดักกลางทางแต่แล้วก็ได้เส็ตโชมารูมาเจอและช่วยไว้(เหมือนไม่ได้ตั้งใจ)จึงได้มาอยู่กับเส็ตโชมารูในที่สุด ในตอนจบของเรื่อง โคฮาคุออกผจญโลกกว้างเพียงลำพังเพื่อฝึกฝนตนเองให้เป็นนักล่าปีศาจที่เก่งกาจที่สุด อาวุธคู่มือของโคฮาคุคือเคียวโซ่ ในตอนแรกเริ่มเปิดตัวมีบทบาทโคฮาคุมีอายุ 11 ปี


* 琥珀(こはく)Kohaku เขียนเป็นคำไทยได้สองแบบ โคฮาคุ หรือ โกฮาคุ แต่หากต้องการอ่านตรงความหมายชื่อ คือ โคฮาคุ



คิราร่า 雲母 『Kirara』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ทาราโกะ
สัตว์อสูรคู่หูของซังโกะ คิราร่าได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านของซังโกะตั้งแต่ซังโกะยังไม่เกิด และยังเคยเป็นสัตว์อสูรของ มิโดริโกะ ผู้ที่เป็นตำนานเล่าขานของหมู่บ้านนักล่าปีศาจว่าคือมิโกะผู้ที่สร้างลูกแก้วสี่วิญญาณขึ้นมา คิราร่านั้นมี 2 ลักษณะร่าง ร่างหนึ่งคล้ายแมวน้อยตัวเล็ก ๆ น่ารัก แต่อีกร่างหนึ่งคือแมวปีศาจที่มีร่างกายขนาดใหญ่พอ ๆ กับเสือตัวโตเต็มวัย มีลักษณ์เปลวเพลิงลุกโชนสีส้มแสดเมื่อเปลี่ยนร่าง เมื่อออกเหินเดินบนอากาศจะมีเพลิงไฟที่เท้าและปลายหาง นอกจากเป็นเพื่อนร่วมรบคู่หูของซังโกะแล้วคิราร่ายังเป็นพาหนะให้ซังโกะ มิโรคุ รวมถึงคาโงเมะ(ในตอนที่อินุยาฉะไปพบคิเคียว)ขี่ได้อีกด้วย



ชาโกะ シャコ 『Shako』[แก้]

ปู่ของซังโกะและโคฮาคุ 50ปีก่อนเป็นผู้ที่ฆ่าปีศาจตะขาบตัวเดียวกับที่ดึงคาโกเมะมาที่โลกยุคสงคราม ชาโกะเป็นผู้ส่งมอบลูกแก้วสี่วิญญาณไปให้คิเคียวพิทักษ์รักษา และเช่นเดียวกับซังโกะหลานสาวเขามีอาวุธที่สร้างขึ้นมาจากกระดูกของปีศาจคือกระดูกบิน คิราร่าเคยเป็นคู่หูของเขา






เกี่ยวเนื่อง : นาราคุ[แก้]

นาราคุ 奈落 『Naraku』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น โทชิยุกิ โมริกาวะ, ไทย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
ครึ่งปีศาจ(半妖 (Hanyō)"ฮันโย")จอมวางแผน นิชั่ว ใช้งานคนอื่น ไม่ไว้ใจใคร ดูดปีศาจมากมายมาดูดเข้าร่างเพื่อให้เก่งกว่าเดิมจุดอ่อนเหมือนครึ่งอสูร คือวันที่พลังอสูรหายไป แต่ต่างกันที่ตนเลือกวันเองได้ โดยช่วงนั้นจะรวมส่วนที่เก่งมาประกอบสร้างร่างใหม่กับส่วนอ่อนจะคายออกกำจัดไป ทำซ้ำไปมา แม้ร่างพื้นฐานคือ ไม่มีหน้าจึงใส่ฮูดหนังปีศาจบาบูนสีขาวคลุมตัว คอยจำแลงกายเป็นใครไปเรื่อยๆ แต่จุดอ่อนคือปลอมแผลไฟไหม้รูปแมงมุมหลังไม่ได้

เดิมคือโจรป่าที่มีแผลไฟไหม้กลางหลังเป็นรูปแมงมุม สมชื่อ โอนิงุโมะ ( 鬼蜘蛛(おにぐも)) ที่หักหลังพวกพ้อง โจรป่าตามมาแก้แค้น จุดไฟเผาทั้งตัวจนเป็นมัมมี่ถูกห่อเสื่อโยนลงไปในหุบเหวลึกที่เรียกกันว่า "นาราคุ" ( 奈落 , นรก)จนสาหัสกว่าเดิม กระดูกหักทั้งตัวขยับไม่ได้ ทำได้แค่มองเพดานกับพูดเท่านั้น แต่ถูกมิโกะ ชื่อคิเคียวพบเข้าจึงถูกดูแลอย่างดี จึงตกหลุมรักคิเคียว อย่างสุดหัวใจและต้องการได้นางมาเป็นของตน แต่วันนึงความชั่วร้ายของตนเรียงฝูงปีศาจมาหา ตนจึงยอมให้ฝูงปีศาจมากินตนเป็นอาหารแลกกับการที่ตนได้ร่างใหม่ ปีศาจหลายร้อยพันเข้ากัดกินสิงสู่ร่างกายกลายเป็นครึ่งอสูร นาราคุ(ตามชื่อ)

แต่จิตชั่วร้ายของปีศาจ ยึดร่างกับกดจิตของโอนิงุโมะไว้ คือ นาราคุ วางแผนให้ อินุยาฉะ และ คิเคียว ฆ่ากันเองเพื่อชิงลูกแก้ว 4 วิญญาณมา ผลคืออินุยาฉะถูกคิเคียวผนึก แต่ก่อนคิเคียวตายได้นำลูกแก้ว 4 วิญญาณไปเผากับศพตัวเองจนสลายหายไปข้ามยุค ตนที่หมดหวังจึงหาอื่นๆเพื่อได้พลังแต่พลาดตลอด 50 ปี

ช่วง 50 ปี ปู่ของมิโรคุคือพระ สู้กันตนมาหลายที ครั้งสุดท้ายตนได้สาปให้มือขวาเป็นรูใช้ช่องว่างแห่งลมอันตกทอดมาสู่รุ่นมิโรคุวิธีรักษาให้รูหายไปคือ ตนต้องตายเท่านั้น ไม่งั้นคำสาปจะตกทอดสู่ลูกหลานจนถึงมิโรคุต่อไป ถึงตัดมือจะรอดจากช่องว่างแห่งลม แต่คำสาปจะตกทอดต่อตามเดิม

พอรู้ว่า ลูกแก้ว 4 วิญญาณกลับมาอีกที แต่แตกกระจายเป็นเศษๆ ตนได้หมายรวบรวมกันเป็นลูกแก้วแปดเปื้อนด้วยความชั่วร้าย โดยนำเศษทั้งหมดมาเก็บไว้กับตัวเพื่อเพิ่มพลังตลอด กับล่อให้ครอบครัวนักล่าปีศาจของซังโกะมาติดกับจัดฉากฆ่าตาย นำชิ้นนึงไปฝังศพโคฮาคุคืนชีพมาเป็นหุ่นเชิด โดนตนถูกใจร่างกับหน้าตาของลูกชายไดเมียวในปราสาท ที่ชื่อคาเงวากิ ฮิโตมิ จึงฆ่ากับสวมรอยเป็นหน้ากับร่างนั้นนับแต่นั้น จัดฉากให้ซังโกะกับโคฮาคุฆ่ากันเองพลาด ตนถูกธนูของคาโงเมะยิงจนสาหัส แอบนำปีศาจนับพันมาสู้กันเองในถ้ำทำหนอนพิษ คิเคียวสงสัยสืบจนล่อให้ตนดูดหนอนพิษได้ร่างเก่งกว่าเดิมกับถูกจับได้ว่าตนคือครึ่งอสูร รับเศษลูกแก้วจากคิเคียวที่ไปชิงจากคาโงเมะมาอีกที

เพราะผลของการดูดหนอนพิษ ตนได้สร้างร่างแบ่งภาคขึ้นมามากมายเป็นสมุน โดยทุกตัวมีแผลบนหลังเป็นรูปแมงมุมเหมือนตน หลังจากแยกมุโซ(จิตส่วนโอนุงุโมะ)ออกมาแต่ดันแยกส่วนหัวใจออกมาด้วยจึงดูดกลับมาเก่งกว่าเดิมสร้างเขตอาคมได้ แต่อินุยาฉาะได้พลังดาบเขี้ยวอสูรสีแดงทำลายเขตอาคมกับทำร้ายตนได้ตนสาหัสจึงหนีไปซ่อนที่เขาฮาคุเรย์ กับคืนชีพ 7 สังหารไปถ่วงเวลาอินุยาฉะ พอตนสรางร่างใหม่ได้แยกส่วนหัวใจของตนออกมาเป็นทารก แต่พอทารกแยกเป็นฮัคคุโดชิกับอากาโกะคิดทรยศ ตนจึงตามเก็บกวาดกับรวมหัวใจได้อีกที ฆ่าคิเคียวสำเร็จ แต่หวังชิงเศษลูกแก้วจากโคฮาคุแต่พลาดตลอด จนสุดท้ายได้มา แต่ถูกพวกอินุยาฉะกับเส็ตโชมารุปราบฆ่าตายไปในที่สุด

ไซเมียวโช 最猛勝 『Saimyōshō』[แก้]

แมลงพิษที่มาจากขุมนรก มีพิษร้ายแรง ถูกนาราคุนำมาใช้ประโยชน์ในการทำลายการใช้ช่องว่างแห่งลมของมิโรคุ โดยเมื่อไหร่ที่มิโรคุใช้ช่องว่างแห่งลม ไซเมียวโชที่ถูกปล่อยออกมาสแตนบายแล้วอยู่ในแถว ๆ นั้นก็จะพร้อมบินเข้าไปในช่องว่างแห่งลมทันที นอกจากนี้ฝูงไซเมียวโชยังสามารถสะกดรอยเป็นสายสืบส่งข่าวนำสาร ทั้งยังตามเก็บของชิ้นเล็ก ๆ ให้นาราคุได้อีกด้วย



คันนะ 神無 『Kanna』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ยูกานะ, ไทย วิภาดา จตุยศพร (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
เป็นร่างแบ่งภาคที่นาราคุสร้างขึ้นด้วยแก่นของความว่างเปล่า เป็นร่างแรกนับเป็นพี่สาวของคางุระ คันนะเป็นผู้ใช้คันฉ่องกระจกที่สามารถส่องดูภาพเป้าหมายที่ต้องการมองดู ในระยะต่อหน้าสามารถใช้ดูดวิญญาณของคน ทั้งสามารถสะท้อนพลังการโจมตีต่าง ๆ กลับไปได้ เป็นร่างแบ่งภาคที่นาราคุไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุด แต่ภายหลังนาราคุทรยศเธอโดยให้เธอสังเวยชีวิตเพื่อทำลายดาบเขี้ยวอสูร เมื่อเห็นว่าไม่สำเร็จจึงบังคับให้เธอตายและพาพวกอินุยาฉะไปด้วย หลังคันนะเรียกปีศาจกระจก (鏡の妖怪 "Kagami no yōkai") คันนะใช้ความรู้สึกสุดท้ายเพื่อบอกคาโงเมะถึงวิธีกำจัดนาราคุ ทำให้ทุกคนรู้ว่าคันนะเองก็มีความรู้สึกและหัวใจเช่นกัน



คางุระ 神楽 『Kagura』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น อิสุมิ โอกามิ, ไทย อรุณี นันทิวาส (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
เป็นร่างแบ่งภาคที่นาราคุสร้างขึ้นเป็นร่างที่ 2 ต่อจากคันนะ คางุระเป็นผู้ใช้ลม เธอใช้พัดจีบลักษณะพัดเหล็กสงครามเป็นอาวุธบงการกระแสลมไปตัดเฉือนโจมตีสกัดกั้นเป้าหมายและสามารถเชิดซากศพให้เคลื่อนไหวต่อสู้ได้เหมือนมีชีวิต มีขนนกที่ใช้ปักผมดั่งปิ่นสองเส้นซึ่งแต่ละเส้นนำออกมาใช้ขยายเป็นพาหนะสัญจรลอยไปบนอากาศไปไหนมาไหนได้ แต่ด้วยว่า "ข้าคือสายลม" คือตัวตนของเธอ หลังทำงานตามคำสั่งให้นาราคุได้ไม่นานเธอต้องการพยายามหาอิสรภาพให้กับตนเอง สบกับโอกาสที่ได้พบเจอเส็ตโชมารู คางุระหักหลังนาราคุด้วยการแอบไปส่งข่าวให้เส็ตโชมารูอยู่เสมอ เพราะเธอเชื่อว่าเส็ตโชมารูมีพลังแข็งแกร่งมากพอที่จะฆ่านาราคุได้ ทว่านาราคุรู้เจตนาทรยศของเธอจึงกุมหัวใจของเธอไว้บังคับให้ไปทำงานให้ แต่แล้วคางุระก็หมดประโยชน์ หัวใจของคางุระถูกนาราคุทำลาย แต่ว่าการถ่วงเวลาของเธอก็ช่วยส่งให้โคฮาคุหนีไปได้ เธอยอมรับความตายอย่างสงบต่อหน้าเส็ตโชมารูโดยไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากชายคนที่เธอศรัทธาและหลงรัก ( 'ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นก็ช่วยไม่ได้' เส็ตโชมารูมองส่งด้วยความเห็นใจและกล่าวกับตนเองในใจ) ในที่สุดวิญญาณของคางุระก็เป็นอิสระเช่นสายลมโดยแท้จริง



โกชินคิ 悟心鬼 『Goshinki』[แก้]

เป็นร่างแบ่งภาคที่นาราคุสร้างขึ้นมาเป็นร่างที่ 3 เป็นปีศาจตัวใหญ่ตะกละ ชอบกินมนุษย์เป็นอาหาร แต่มีความแข็งแกร่งรวดเร็ว สามารถอ่านใจคนได้ โกชินคิเป็นปีศาจที่สามารถทำให้ดาบเขี้ยวอสูรหักด้วยการกัด แต่ก็ถูกฆ่าโดยพลังปีศาจในตัวของอินุยาฉะที่ถูกสะกดโดยดาบเขี้ยวอสูรนั้นตื่นขึ้นมา เขี้ยวของโกชินคินั้นถูกเส็ตโชมารูนำไปให้ช่างตีดาบตีขึ้นเป็นดาบที่ชื่อว่าดาบมารสมิง (ปรากฏตัวในตอนที่ 43 แค่ตอนเดียว)



จูโรมารู 獣郎丸 『Juroumaru』 คาเงโรมารู 影郎丸 『Kageromaru』[แก้]

เป็นร่างแบ่งภาคร่างที่ 4 ของนาราคุ จูโรมารูมีลักษณะเป็นผู้ชายผมสีม่วงชมพูใส่โซ่ตรวนและที่ครอบปากแต่เมื่อปลดทั้งสองอย่างนั้นออกจะอาละวาดไม่หยุดจนกว่าจะฆ่าทุกคนที่อยู่ในบริเวณหมด เป็นศัตรูที่รับมือได้ลำบาก เพราะทางอินุยาฉะนั้นดาบเขี้ยวอสูรที่ตีซ่อมขึ้นใหม่นั้นยังหนักอยู่ จูโรมารูไม่เชื่อฟังใครนอกจากคาเงโรมารูตนเดียว เพราะไม่เชื่อฟังใครจึงถูกนาราคุจับใส่กรงแล้วพามาหาโคงะ แข็งแกร่งและรวดเร็วมากถึงขนานตามโคงะทัน ส่วนคาเงโรมารูเป็นปีศาจที่มีหัวและหน้าเหมือนกับจูโรมารูแต่ไม่มีขา มีมือเป็นใบมีดเหมือนตั๊กแตน ตัวเล็ก อาศัยอยู่ในท้องของจูโรมารู รวดเร็วมากสามารถดำดินได้ แต่ทั้งสองก็ตายเพราะถูกอินุยาฉะที่บังเอิญใช้ดาบเขี้ยวอสูรฆ่า



มุโซ 無双 『Musō』/ โอนิงุโมะ 鬼蜘蛛 『Onigumo』[แก้]

มุโซนักบวชที่เดินทางไปกับศิษย์ของเขาในขณะแยกกันไปสำรวจเขาไปทางแม่น้ำมุโซพบชายคนหนึ่งเมื่อชายคนนั้นหันกลับมาก็พบว่าไม่มีใบหน้า ชายคนนั้นลุกเดินเข้าหาเขาและพูดว่า"ใบหน้านั้นให้ข้า" แล้วมุโซที่เป็นนักบวชจึงได้หายไปจากโลกกลายเป็นมุโชอีกตนหนึ่งที่ใช้ชื่อและใบหน้าของมุโซ ปีศาจตนนี้เป็นร่างแยกของ นาราคุ ในส่วนที่มีจิตใจของ โอนิงุโมะ โจรป่าที่หลงรักมิโกะคิเคียวและขายชีวิตกับวิญญาณจนมาเป็นนาราคุ ไม่นานจากนั้นนาราคุได้เก็บเขากลับไปเพราะนาราคุรู้ตัวแล้วว่ายังไม่ใช่เวลาที่จะตัดขาดจากตัวตนของโอนิงุโมะได้



ฮักคุโดชิ 白童子 『Hakudoshi』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ไอ โคบายาชิ
ร่างแบ่งภาคแยกอีกหนึ่งที่มาจากนาราคุ แยกออกมาตอนที่นาราคุหลบไปยังเขาฮักคุเร ซึ่งในตอนแรกคือหัวใจของนาราคุ หลังจากถูกนักบวชผ่าออกเป็นสองซีก ซีกที่มีหัวใจถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี ส่วนซีกที่ไม่มีหัวใจคือฮักคุโดชินั่นเอง มีความสามารถพิเศษคืออ่านใจคนและครอบงำจิตใจคนได้ ต่อมาท้ายสุดชีวิตของฮักคุโดชิถูกมิโรคุใช้ช่องว่างแห่งลมดูดกลืนเข้าไปตามแผนการของนาราคุ เหตุเพราะอยากเป็นใหญ่กว่านาราคุ



อากาโกะ 赤子 『Akago』[แก้]

หัวใจที่แท้จริงของนาราคุ ทารกปีศาจอากาโกะมีความสามารถอย่างเดียวกับฮักคุโดชิแต่แกร่งกว่าหลายเท่านัก เป็นหัวใจที่ทรยศร่างต้นของตัวเอง ได้หินฟุโยเฮคิมาครอบครองเพื่อให้พลังปีศาจหายไป ทำให้ไม่มีศัตรูรายไหนตามเจอสุดท้ายอาศัยอยู่ในร่างของโมเรียวมารุเพื่อต่อสู้กับนาราคุและพวกอินุยาฉะ



โมเรียวมารู 魍魎丸 『Moryomaru』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น มาซาคิ เทราโซมะ
เป็นปีศาจที่ไม่มีจิตวิญญาณ นาราคุสร้างขึ้นเพื่อใช้เก็บซ่อนหัวใจ(หัวใจคือ ทารก"อากาโกะ")เอาไว้ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญของอากาโกะที่จะใช้ต่อกรกับนาราคุและพวกอินุยาฉะ ต่อมาโมเรียวมารุได้ดูดกลืนร่างโกเรียวมารุที่เป็นนักพรตที่มีแขนปีศาจ ทำให้มีจิตสำนึกพูดโต้ตอบได้ แต่พอแพ้เส็ตโชมารู โมเรียวมารูก็ดูดกลืนปีศาจอื่น ๆ เพื่อให้ได้พลังปีศาจของปีศาจเหล่านั้นมาเสริมให้ตนแข็งแกร่งขึ้น แต่สุดท้ายก็โดนนาราคุกำจัดและเก็บกลืนหัวใจที่อยากมีชีวิตเองตนนั้นของมันกลับเข้าร่างไป



เบียคุยะ 白夜 『Byakuya』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น มิทสุอากิ มาโดโนะ, ไทย ภัทรวุฒิ สมุทรนาวี (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
ร่างแบ่งภาคใหม่ของนาราคุ เป็นผู้สร้างภาพลวงตาและมายาแห่งฝัน สามารถถอดดวงตาของตนออกบินสังเกตการณ์ในที่ต่าง ๆ แล้วเรียลไทม์ภาพเสียงเหตุการณ์กลับมาที่ร่างตนได้ เขาใช้กระเรียนกระดาษในการลอยไปไหนมาไหนในอากาศ อาวุธที่ใช้เป็นประจำคือดอกราตรีขาวซึ่งจะสร้างภาพลวงตาให้ศัตรูสับสน เนื่องจากคางุระ ฮักคุโดชิ โคฮาคุ และอากาโกะทรยศนาราคุ เบียคุยะจึงเป็นร่างแบ่งภาคของนาราคุที่มีฤทธิ์มากที่สุด เพราะต้องทำหน้าที่แทนที่ตนอื่น ๆ แม้เบียคุยะไม่ได้ชอบใจนาราคุ แต่ก็หักหลังไม่ได้ ท้ายที่สุดเขาได้ทำงานให้นาราคุโดยส่งคาโงเมะไปในมิติปรภพพร้อมกับเป็นกาลซึ่งจบชีวิตตัวตนของเขาเอง



มางัตสึฮิ 曲霊 『Magatsuhi』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ทาเกะชิ คุซาโอะ
เกิดจากความชั่วร้ายในลูกแก้วสี่วิญญาณ นาราคุดึงเขาออกมาเป็นลักษณะทางกายภาพหน้าที่ของเขาคือการล่อหลอกพวกอินุยาฉะและเส็ตโชมารูให้สนใจไปทางอื่น แต่ตัวจริงเป็นปีศาจแฝงร่างซึ่งมีเป็นลักษณะของวิญญาณซึ่งเป็นนามธรรม





เกี่ยวเนื่อง : อินุไทโช[แก้]

อินุไทโช 犬の大将 『Inu no Taisho』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น อากิโอะ โอสึกะ
จอมขุนพลสุนัขอสูรซึ่งมีความเป็นมาในอดีตว่าเดิมมาจากดินแดนทางตะวันตก อินุไทโชคือท่านพ่อของ เส็ตโชมารู และ อินุยาฉะ โดยเผ่าพันธุ์คืออินุโยไค( 犬妖怪 "Inu yōkai" )จัดเป็นไดโยไค( 大妖怪 "Daiyōkai" )อสูรชั้นสูงที่มีพลังอำนาจอย่างมาก อินุไทโชเสียชีวิตในวันคืนเดียวกับที่อินุยาฉะเกิด ทั้งที่อินุไทโชเองอาการเพียบจากการต่อสู้อื่นก่อนหน้าและรู้ตนว่าชีวิตไม่อาจอยู่รอดยาวนานมากไปกว่าเวลาใกล้ ๆ นั้น เขาบาดเจ็บหนักใกล้ตายแต่ยังฝืนรีบร้อนไปเพื่อให้ทันช่วยเจ้าหญิงอิซาโยอิและทารกน้อยไว้ อินุไทโชเป็นเจ้าของดาบเขี้ยวอสูร( 鉄砕牙 "เท็ตไซกะ" )ที่ส่งมอบให้กับอินุยาฉะ ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น( 天生牙 "เท็นเซย์กะ" )ที่ยกมอบให้กับเส็ตโซมารู และเป็นเจ้าของดาบเขี้ยวเมฆาคลั่ง( 叢雲牙 "โซอุนกะ" )ที่มีบทบาทอยู่ในอินุยาฉะเดอะมูฟวี่3 แล้วท่านขุนพลสุนัขอสูรอินุไทโชยังเป็นผู้ที่มอบเสื้อขนหนูไฟให้กับเจ้าหญิงอิซาโยอิ และเป็นบิดาผู้ที่ตั้งชื่อ "อินุยาฉะ" ให้กับ อินุยาฉะ ลักษณะทางกายภาพเป็นรูปธรรมขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ของจอมอสูรอินุไทโชปรากฏตัวแค่ในเดอะมูฟวี่3 ในฉบับมังงะและอนิเมะซีรีส์มีเพียงการกล่าวถึงของภาพวาดในร่างอสูรเท่านั้น


* อินุโยไค( 犬妖怪 "Inu yōkai" , Dog demons ) สุนัขอสูร "อินุโยไค" คือวงศ์วานอสูรที่อยู่ลำดับบนของเผ่าพันธุ์อสูรซึ่งมีพลังอำนาจมากที่สุดเผ่าพันธุ์หนึ่ง อินุโยไคเป็นตระกูลอสูรที่มีความสามารถเหาะเหิน มีประสาทสัมผัสรับกลิ่นดีเยี่ยม การรักษาตนเองขั้นสูงและสามารถสร้างอาวุธจากพลังภายในร่างกายของตนเอง อินุไทโชเองใช้ประโยชน์จากพลังอสูรที่มีได้คุ้มค่าถึงขีดสุดขั้นหนึ่ง เช่น เล็บ เขี้ยว ใช้สังหารหรือผนึกศัตรู ใช้พลังสร้างเป็นอาวุธหรือสร้างขึ้นเป็นดาบ


* ไดโยไค( 大妖怪 "Daiyōkai" , Great demon ) อสูรปีศาจภูติผีชั้นสูงที่ยิ่งใหญ่ "ไดโยไค" มีตัวตนดำรงอยู่ในระดับชั้นสถานะที่แตกต่าง ด้วยสติปัญญารากฐานร่างกายมีความแข็งแกร่งและทรงพลังเหนือกว่าอสูรปีศาจภูติผีชั้นต่ำชั้นสามัญ ความที่มีช่วงชีวิตอันยาวนานอย่างมากทำให้ผู้ที่เป็นไดโยไคค่อนข้างสงบกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่พบเจอและไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปที่เล็กน้อยไร้ความสำคัญ เช่น แม้ว่าจะเกิดสงครามของมนุษย์เกิดการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยเกิดเภทภัยพิบัติวอดวายอย่างไร หากไม่ได้กระทบกระเทือนเกี่ยวข้องด้วยโดยตรงจะไม่มีค่อยมีเรื่องให้ถึงมือที่ไดโยไคจำเป็นต้องจัดการเอง ทั้งนี้วิถีทางขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยส่วนตนของไดโยไคตนนั้น ตัวตนของไดโยไคชั้นสูงเป็นที่เคารพยำเกรงของผู้ที่รู้ความ ชนชั้นสูงในหมู่ไดโยไคบางส่วนบางวงศ์เป็นตัวตนอันยิ่งใหญ่ เช่นราชาของเผ่าพันธุ์โดยเฉพาะหรือเช่นกษัตริย์ไปจนถึงจักรพรรดิ ซึ่งควบฐานะขุนพลหรือจอมพลผู้บัญชาการและประมุข ปกครองบริวารอสูรภูติพรายปีศาจและอสุรกาย มีดินแดนอาณาจักรกว้างใหญ่ไพศาลเป็นของตนเอง แต่ไดโยไคชั้นผู้นำบางตนที่อยู่มานานเกินไปแล้วอาจเกิดเบื่อหน่ายวิถีชีวิตความเป็นอยู่บ้างนาน ๆ ครั้งจะจับทัพรบพุ่งกันข้ามแผ่นดินเมื่อต้องการขยายดินแดนต้องการเปลี่ยนถิ่นฐานหรือด้วยเหตุผลส่วนตนอื่น ๆ ไดโยไคนั้นมีทั้งรูปลักษณ์มนุษย์และรูปลักษณ์อสูร ที่มักใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในรูปกายร่างมนุษย์มากกว่าจะอยู่ในร่างอสูรที่แท้จริง อาทิ อินุไทโช เส็ตโชมารู ท่านแม่ของเส็ตโชมารู เมโนมารุ โฮชิโยมิ ชิชินคิ และมีไดโยไคบางตนที่อยู่ในร่างอสูรตลอดเช่นกัน อาทิ ริวคตสึเซย์ภูติมังกรกระดูก ราชาปีศาจแมวป่า


//เบ็ดเตล็ด。 อินุไทโช ภายแรก อาจารย์ รูมิโกะ ทาคาฮาชิ ให้นามเรียกขานเขาว่า โทกะโอ ( 闘牙王(とうがおう)"Tōgaō" ) :: "กษัตริย์เขี้ยวนักรบ" เป็นชื่อเรียกที่ไม่เป็นทางการใช้เฉพาะใน CM แรกก่อนปล่อยตัว แล้วได้เปลี่ยนมาเรียกว่า อินุยาฉะ โนะ จิจิ ( 犬夜叉の父 "Inuyasha no chichi" ) :: "พ่อของอินุยาฉะ" ในการสร้างงาน แต่เนื่องจากชื่อเรียกอสูรสุนัขโยไคตนพ่อจำเป็นที่จะไม่ซ้ำกับตัวละครอื่น จึงได้สิ้นสุดที่ อินุไทโช 犬大将 "Inu Taisho" คำเรียกย่อ ๆ ที่มาจาก อินุ โนะ ไทโช ( 犬の大将 (犬(いぬ)の大将(たいしょう)"Inu no Taisho" ) :: "ขุนพลสุนัข" ความหมายเมื่อโยงกับเนื้อเรื่องคือ จอมขุนพลสุนัขอสูร เป็นคำเรียกขานที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง

(ในเนื้อเรื่อง อินุยาฉะเรียกอินุไทโชท่านพ่อของตนว่า โอยาจิ ( 親父(おやじ)"oyaji" ) , เส็ตโชมารูเรียกอินุไทโชท่านพ่อของตนว่า จิจิวเอะ ( 父上(ちちうえ)"chichiue" ) ซึ่งคือสรรพนามคำแทนตัวของ พ่อหรือบิดา อันเป็นรูปแบบของคำเรียกส่วนหนึ่งจากที่มีอยู่หลายรูปแบบของญี่ปุ่นที่มีการให้ความสำคัญแยกไปตาม ความให้เกียรติ เคารพ ผู้ที่ควรใช้คำนั้นเรียก ความสนิท คุ้นเคย เป็นรายละเอียดปลีกย่อยทางภาษาของญี่ปุ่น และอีกปัจจัยในการใช้คำรูปแบบไหนขึ้นอยู่กับตัวของผู้ที่เลือกใช้คำเรียกนั้นเองด้วยอีกทางหนึ่ง)



อิซาโยอิ 十六夜 『Izayoi』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น คิกุโกะ อิโนะอุเอะ
ท่านแม่ของอินุยาฉะเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ที่หลงรักกับอินุไทโชผู้เป็นอสูร เจ้าหญิงอิซาโยอิมีจิตใจอ่อนโยนและกิริยางามตาเธอสวยงามสมเป็นขัตติยนารี เธอได้ดูแลอินุยาฉะอย่างดีมาเพียงลำพัง แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมที่โชคร้ายเพราะไม่มีใครโดยเฉพาะในสังคมบรรดาศักดิ์มนุษย์ที่เธอใช้ชีวิตอยู่จะยอมรับเรื่องแบบนี้ได้ เจ้าหญิงอิซาโยอิได้เสียชีวิตลงเมื่ออินุยาฉะอายุ 5 ขวบปี ลักษณะเป็นรูปธรรมของเธอปรากฏขึ้นในมังงะและอนิเมะครั้งแรกโดยการแปลงตัวของปีศาจผีไร้หน้าจากอุบายที่เส็ตโชมารูวางหลอกอินุยาฉะเพื่อหาที่ตั้งสุสานอินุไทโชบิดาของพวกเขาพี่น้อง ต่อมาท่านแม่ของอินุยาฉะปรากฏเป็นการนึกถึงในมโนภาพความทรงจำของอินุยาฉะ และได้ปรากฏเรื่องราวของเจ้าหญิงอิซาโยอิในขณะที่ยังมีชีวิตกับการถือกำเนิดของอินุยาฉะบุตรชายของเธอในอินุยาฉะเดอะมูฟวี่3




ท่านแม่ของเส็ตโชมารู ชื่อว่าอินุกามิ殺生丸のお母様 『Sesshōmaru no okāsama』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น โยชิโกะ ซากากิบาระ, ไทย (โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
ท่านแม่ของเส็ตโชมารูเป็นไดโยไค( 大妖怪 "Daiyōkai" ) ในร่างมนุษย์มีโฉมที่งดงามทว่าเป็นจอมอสูรที่เย็นชา ที่มีเอกลักษณ์ ในการยั่วเย้าประสาทผู้คน เพียงแต่การกระทำการพูดของเธอก็ดูคลับคล้ายกับเส็ตโชมารูอย่างมากแม้มันจะเป็นไปอย่างสนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจ และนั่นอาจเป็นผลให้นิสัยทัศนะคติของเส็ตโชมารูบุตรชายของเธอออกมาเป็นเช่นนี้ ท่านแม่ของเส็ตโชมารูพำนักที่ปราสาทที่อยู่สูงขึ้นไปบนฟากฟ้าที่ที่รายล้อมด้วยหมู่เมฆ เธอคือผู้ดูแลและถือครองศิลาปรภพ( 冥道石 "เมโดเซกิ" ) ที่อินุไทโซให้ไว้สำหรับเมื่อไหร่ที่เส็ตโชมารูมาถามหาวิธีใช้พลังจันทร์เสี้ยวปรภพ( 冥道残月破 "เมโดซันเกตสึฮะ") ที่อยู่ในดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นให้กลายเป็นจันทร์ที่เต็มดวงกับเธอให้ทดสอบเขา ในการฝึกให้จันทร์เสี้ยวปรภพสำเร็จเธอบอกให้เส็ตโชมารูอย่าได้หวาดกลัวหรือโศกเศร้าก่อนที่โคฮาคุกับรินจะถูกหมาป่าแห่งปรภพจับตัวไปสู่ปรภพ เมื่อเส็ตโชมารูสังหารจ้าวปรภพและเปิดโพรงปรภพกลับมาพร้อมร่างไร้ลมหายใจของรินที่เส็ตโชมารูอุ้มแนบอกของเขา ท่านแม่ผู้นี้ของเส็ตโชมารูที่เฝ้ามองเหตุการณ์ตลอดการทดสอบได้สอบถามเจ้าปีศาจน้อยข้ารับใช้ซึ่งคอยติดตามเส็ตโชมารูบุตรชายของเธอเพิ่มเติมถึงความสำคัญของสาวน้อยนางนี้และมองขาดทันทีเมื่อเห็นสภาพบุตรชายเธอจึงใช้ศิลาปรภพเรียกชีวิตรินคืนกลับมาให้แก่เส็ตโชมารู และทำการตักเตือนสอนสั่งในสิ่งที่เธอเองผู้เป็นท่านแม่และอินุไทโชผู้เป็นท่านพ่อฝากฝังไว้ให้ในการฝึกฝน ก่อนจากกันท่านแม่ของเส็ตโชมารูยังได้ใจดีเผื่อแผ่ไปถึงโคฮาคุว่าเจ้าก็เป็นอีกคนที่ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นชุบชีวิตให้ไม่ได้ ท่านแม่ของเส็ตโชมารูปรากฏตัวในอินุยาฉะภาคปัจฉิมบทและมีการกล่าวถึงจากจาเก็นกับเส็ตโชมารูในดราม่าซีดีAsatte


//เบ็ดเตล็ด。 แม้อาจารย์รูมิโกะ ทาคาฮาชิ ไม่ได้ให้ชื่อท่านแม่ของเส็ตโชมารู อย่างเป็นทางการ แต่แฟนคลับของเรื่องนี้บางคนจะเรียก ท่านแม่ของเส็ตโชมารู ในชื่อเล่นว่า อินุคิมิ “Inukimi” ที่มาจาก อินุ โนะ คิมิ ( 犬の君 “Inu no Kimi” ) คือความหมายที่ถูกต้องไปในทางแนวของชนชั้นสูง เนื่องจากคำว่า โนะ คิมิ ( の君 "no Kimi" ) เป็นคำยกย่องสำหรับชนชั้นสูงในยุคสมัยเฮอัน

(ในเนื้อเรื่องทั้งหมด เส็ตโชมารู ไม่เคยเอ่ยคำเรียกขานท่านแม่ของเขาเองตรง ๆ แม้แต่คำเดียว มีเพียงจาเก็นที่เป็นผู้ที่เอ่ยปากเรียกเธอด้วยความเคารพว่า โกโบโดะ-ซามะ ( 御母堂様 , "Gobodō-sama" ) ซึ่งเป็นคำเรียกแม่ของผู้อื่นด้วยความให้เกียรติอย่างสูง ความหมายในภาษาอังกฤษคือ "Lady Mother" ในการแปลตีพิมพ์ของค่ายลิขสิทธิ์มังงะในไทยเป็นคำว่า "พระมารดา" ซับไทยกับในพากษ์ภาษาไทยเป็น "นายหญิง" หรือ "ท่านแม่ของท่าน" , ในขณะที่ท่านแม่ของเส็ตโชมารูเองแทนตนเองกับบุตรชายว่า ฮะฮะ ( 母 (はは)"haha") ซึ่งคือสรรพนามคำแทนตัวของ มารดา )



โทโตไซ 刀々斎 『Tōtōsai』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น โจจิ ยานามิ, ไทย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
อสูรที่เป็นช่างตีดาบฝีมือเยี่ยมที่ปู่เมียวกะมักจะแอบมาหลบภัยอยู่ด้วยบ่อย ๆ โทโตไซเป็นลูกน้องที่ภักดีของท่านขุนพลสุนัขอสูรอินุไทโช เขาคือผู้ตีดาบเขี้ยวอสูรของอินุยาฉะและดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นของเส็ตโชมารู ขอบเขตความรับผิดชอบของโทโตไซนั้นยังรวมไปถึงการดูแลเป็นผู้ลับคมและซ่อมแซมดาบของพี่น้องคู่นี้เช่นกัน เขามีความค่อนข้างหวาดกลัวเส็ตโชมารู โดยในตอนแรกที่โทโตไซปรากฏตัวในเนื้อเรื่องเป็นเพราะเขาหนีคนพี่ไปพึ่งคนน้อง เส็ตโชมารูไม่พอใจดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นที่ใช้เป็นอาวุธฆ่าใครไม่ได้ต้องการจะให้โทโตไซตีดาบใหม่ให้แต่โทโตไซไม่ยอมเขาว่าเป็นคำสั่งเสียของอินุไทโชถึงไม่พอใจก็ช่วยไม่ได้โทโตไซหนีมาเพื่อจะพึ่งอินุยาฉะให้อินุยาฉะช่วยแต่อินุยาฉะตอนนั้นยังใช้ดาบเขี้ยวอสูรไม่เป็น การเผ่นไปหาอินุยาฉะครั้งนั้นของเขาทำให้อินุยาฉะได้มีโอกาสจับทางใช้แผลแห่งลมได้จากการต่อสู้กับเส็ตโชมารูแล้วนั่นเป็นครั้งที่ทำให้เส็ตโชมารูอาการแทบสาหัสแต่ตามที่โทโตไซพูดกับพวกอินุยาฉะเส็ตโชมารูได้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นช่วยไว้(ส่งให้ไปนอนพักฟื้นรอเจอรินในป่า) โทโตไซเป็นผู้คอยไขข้อข้องใจและสอนทั้งทางตรงทั้งอย่างอ้อม ๆ ในเรื่องของดาบกับความหมายที่แท้จริงที่อินุไทโชเจ้านายที่ตายไปของเขาต้องการให้บุตรชายทั้งสองรับรู้ และในอนิเมะปีที่5 บ้านของโทโตไซก็ได้หายไปจากฝีมือของบุคคลที่เขาได้ยั่วโทโสที่ส่งบ้านเขาทั้งหลังไปยังปรภพ แน่นอนว่าเขาโทโตไซและโมโม มีความไวในเรื่องแบบนี้พวกเขารอดปลอดภัยเพราะได้หลบออกมาทันก่อน


โมโม 猛々 『Mō-Mō』[แก้]

วัวสามตา เป็นสัตว์อสูรพาหนะคู่บุญและเพื่อนร่วมทางของโทโตไซ สามารถสร้างกลุ่มเมฆขนาดพอดีตัวใช้เหยียบลอยในอากาศไปไหนมาไหนได้ และความสามารถอีกอย่างที่เปิดเผยการใช้งานภายหลัง(อนิเมะปี5 ภาคปัจฉิมบท)คือการถ่ายทอดสดเหตุการณ์ที่อยู่ในอีกสถานที่หนึ่งมาแสดงให้เห็นขึ้นตรงหน้า โมโมเป็นสัตว์อสูรที่เป็นมังสวิรัติ



ซายะ 鞘 『Saya』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น คาเนตะ คาเนสึกิ
วิญญาณปีศาจชราตัวเล็กสีขาวเทาที่มีหน้าที่คอยรักษาอยู่ที่ฝักดาบของดาบโซอุนกะ เป็นลูกน้องผู้มีความภักดีกับอินุไทโช ขณะที่อินุไทโชตายอินุยาฉะยังเล็กอยู่และเส็ตโชมารูก็ไม่น่าไปตอแย เขาจึงผนึกดาบโซอุนกะและหลับไหลไปพร้อมกับดาบจนถึงยุคปัจจุบันของคาโงเมะ เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับดาบโซอุนกะที่ตรงไปหาอินุยาฉะและทำการบงการ ซายะกลับมาที่ยุคสงครามพร้อมคาโกเมะและได้เป็นผู้เล่าเรื่องราวว่าเกิดสิ่งใดขึ้นในการประชุมพลกับโทโตไซกับเมียวกะ(ปรากฏตัวใน อินุยาฉะ เดอะมูฟวี่3 ชื่อภาคในไทยคือ อภินิหารดาบครองฟ้าดิน)



โบคุเซ็นโอ 朴仙翁 『Bokusen-oh』[แก้]

ปีศาจต้นโมคุเรน ( 木蓮(もくれん)"Mokuren" , แมกโนเลีย ) อายุ 2000+ โบคุเซ็นโอเป็นสหายกับอินุไทโชฝักของดาบเขี้ยวอสูรและดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นก็สร้างมาจาก(กิ่ง)ส่วนหนึ่งของเขา และเนื่องจากโบคุเซ็นโอเป็นต้นไม้ไม่สามารถขยับไปไหนได้จึงถูกโทโตไซฝากให้ช่วยส่งมอบดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นที่เป็นมรดกของดูต่างหน้าของอินุไทโชให้แก่เส็ตโชมารู ด้วยอายุวัยที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนานเขาถือเป็นผู้รู้ความหนหลังของปีศาจอสูรอย่างมากตนหนึ่ง ที่รอคอยโอกาสเฉลยเรื่องราว เช่น เมื่อเส็ตโชมารูได้ไปถามเขาเรื่องสายเลือดอสูรของอินุยาฉะ



เมียวกะ 冥加 『Myōga』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น เคนอิจิ โองาตะ
เป็นปีศาจหมัด(หมัดตัวที่ดูดเลือด) ผู้ให้คำแนะนำเรื่องต่าง ๆ แก่อินุยาฉะ เดิมทีเป็นผู้ติดตามท่านพ่อของอินุยาฉะ ปู่หมัดเมียวกะติดนิสัยอยู่อย่างหนึ่งคือ พอมีเรื่องอันตรายเมื่อไหร่จะหายไปเป็นตนแรกทันที เมียวกะสูง 0.7 เซนติเมตร


โชกะ 生姜 『Shōga』[แก้]

ปีศาจตัวหมัดคู่หมั้นหญิงของเมียวกะ ที่หมั้นหมายโดยพ่อแม่ของพวกเขาทั้งสอง เธอไล่ตามคู่หมั้นของเธอไปทั่วประเทศ มีความมุ่งมั่นที่จะกำจัดความเจ้าชู้ของเขาและบังคับให้เมียวกะแต่งงานกับตัวเอง โชกะมีความสามารถพิเศษเมื่อกัดดูดเลือดสิ่งมีชีวิตใดแล้วจะสามารถบังคับให้ทำตามเหมือนมีจิตใจเดียวกับตนได้ แต่ความสามารถของเธอมีขอบเขตเพียงสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เช่นนก และ อินุยาฉะ โชกะสูง 0.7 เซนติเมตร



ฮากาเนะบาชิ 鋼バチ 『Hagane bachi』[แก้]

ปีศาจผึ้งเหล็กที่สามารถซ่อมแซมฝักของดาบเขี้ยวอสูรและดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นได้ (ฝักของดาบทั้งสองเล่มทำมาจากวัสดุชนิดเดียวกัน) เมียวกะบอกว่าพวกมันมีพลังมากพอที่จะสามารถต่อยอินุยาฉะตายได้







เกี่ยวเนื่อง : ครอบครัวฮิงุราชิ[แก้]

คุณปู่ じいちゃん 『Jīchan』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น คัทซึมิ ซูซูกิ
คุณปู่เป็นผู้ดูแลศาลเจ้าคนปัจจุบัน โดยปกติจะคอยดูแลบริเวณศาลเจ้าฮิงุราชิทั้งตัวศาลเจ้า บ่อน้ำเก่า ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นคนแก่ที่ค่อนข้างปกติ คุณปู่มักคิดหาสินค้าใหม่ ๆ อย่างเช่น ของฝากเรซิ่นลูกแก้วสี่วิญญาณ เพื่อหาค่าใช้จ่ายเข้าบ้าน หรือการชอบเล่าตำนานประหลาด ๆ เช่น ตำนานประวัติศาสตร์ของผักดอง ให้กับหลานอย่างคาโงเมะและโซตะฟัง คุณปู่เป็นคนที่คอยหาข้อแก้ตัวบอกกับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนของคาโงเมะในเวลาที่คาโกเมะอยู่ที่ยุคสงครามแต่ดูเหมือนข้ออ้างที่ใช้ยิ่งอ้างไปเพื่อน ๆ ยิ่งเป็นกังวลห่วงคาโงเมะเข้าไปใหญ่ เช่น คาโงเมะเป็นเก๊าท์ เอวเดาะทำให้ต้องหยุดเรียน เป็นบ่อยครั้งที่คุณปู่เอาอาการป่วยของโรคชราที่ตัวเองเป็นมาอ้าง เขามีเหตุการณ์เบื้องหลังเป็นเรื่องที่น่าเศร้าหลังจากที่ลูกชายเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตไม่นานภรรยาของเขาก็เสียชีวิต การแต่งตัวคุณปู่เป็นแบบชินโตของญี่ปุ่นในชุดลำลองกับฮากามะเวลาปกติและในชุดพิธีการ(อย่างในอินุยาฉะ ตอนที่11 และเดอะมูฟวี่1)เมื่อต้องใช้ทำงานพิธี


คุณแม่ ママ 『Mama』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น อาซาโกะ โดโด
คุณแม่ของคาโงเมะ ในเรื่องมีการเปิดเผยว่าสามีของเธอเสียชีวิตตอนที่ลูกทั้งสองยังเล็กเธอเป็นสะใภ้ที่ดูแลบ้านและครอบครัวได้ดี ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่มีใจเปิดกว้างเมื่อพบกับอินุยาฉะที่มาหาที่บ้านก็ไม่ได้ตกใจอะไรยอมรับได้อย่างรวดเร็ว แม้คุณแม่มีความเป็นห่วงลูกสาวแต่ก็คอยให้กำลังใจและคอยผลักดันให้คาโกเมะมุ่งมั่นอย่างไม่ลังเลต่อไปอย่างที่ใจคาโงเมะคิด


ฮิงุราชิ โซตะ 日暮草太 『Higurashi Sōta』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น อากิโกะ นากางาวะ
น้องชายของคาโงเมะ พ่อของโซตะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในตอนที่พี่สาวยังเล็กและตัวโซตะเองยังอยู่ในท้องคุณแม่โซตะจึงไม่เคยมีโอกาสรู้จักตัวจริงของคุณพ่อ เด็กชายกลัวความมืดและขี้อายเมื่อจะต้องไปสารภาพกับเด็กที่ชอบโซตะขอให้อินุยาฉะให้คำแนะนำเขาเพราะคิดว่าอินุยาฉะกับพี่สาวเป็นแฟนกันและมักไปเดทกัน ในเรื่องนี้อินุยาฉะและคาโงเมะช่วยแก้ปัญหาในด้านนี้ให้เขาแล้ว นอกจากนั้นโซตะก็เป็นเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไปในยุคนี้ที่ชอบเล่นฟุตบอลมีเพื่อนและไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ บ้างเป็นครั้งคราว คาโงเมะเคยสั่งให้เขาโดดลงบ่อกลืนกระดูกแต่ไม่เกิดอะไรขึ้นเพราะคนที่เข้าออกได้มีเพียงแค่คาโงเมะและอินุยาฉะที่มีส่วนเชื่อมโยงกับลูกแก้วสี่วิญญาณ หลังจากที่คาโงเมะย้ายไปอยู่ในยุคสงครามอย่างถาวรได้ 3 ปี โซตะที่เรียนขึ้นชั้นมัธยมต้นตอบเพื่อนที่อยากรู้อยากเห็นเรื่องของพี่สาวของเขาว่า พี่สาวแต่งงานไปหลังเรียนจบ


ปุโย ブヨ 『Buyo』[แก้]

แมวประจำบ้านฮิงุราชิ คาโงเมะถูกดึงไปที่ยุคสงครามครั้งแรกเพราะตามหาเจ้าแมวอ้วนตัวนี้ และครั้งใดที่อินุยาฉะมาบ้านคาโงเมะเมื่อเขาไม่มีอะไรทำว่าง ๆ จะมาหยอกเล่นอยู่กับปุโย






เกี่ยวเนื่อง : โคงะ[แก้]

โคงะ 鋼牙 『Koga』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ไทกิ มัตสึโนะ, ไทย ภัคภูมิ ลิ้มมานะสภาพร (TIGA, โรส (เฉพาะภาคปัจฉิมบท))
หัวหน้าของเผ่าหมาป่าปีศาจ มีลูกน้องตนสนิทสองตนชื่อ กินตะ และ ฮักคาคุ เขาเป็นคู่กัดกับอินุยาฉะเพราะหลงรักคาโกเมะ โคงะมีเศษลูกแก้วอสูรฝังอยู่ที่แขนขวาและขาทั้ง 2 ข้าง (ภายหลังเหลือแค่ที่ขา2ข้าง เพราะถูกปีศาจนก โกคุรักคุ ที่เป็นคู่อริชิงไป) โคงะออกตามล่านาราคุ โดยการถอนตัวออกจากการเป็นหัวหน้าฝูงหมาป่าของตนเพื่อมาแก้แค้นนาราคุ เพราะนาราคุได้ฆ่าพรรคพวกของเขาไปมากมายเพียงเพื่อจะเป็นเครื่องมือในการกำจัดอินุยาฉะไปให้พ้นทาง แต่ในภายหลังได้ถูกนาราคุชิงเอาเศษลูกแก้วไป จึงออกจากกลุ่มของพวกอินุยาฉะเพื่อกลับไปเป็นหัวหน้าฝูงหมาป่าตามเดิม โคงะสูง 176 เซนติเมตร


กินตะ 銀太 『Ginta』 ฮักคาคุ 白角 『Hakkaku』[แก้]

สมาชิกเผ่าหมาป่าปีศาจและเป็นลูกน้องตนใกล้ชิดของโคงะ กินตะและฮักคาคุเป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้งสองคอยวิ่งติดตามโคงะไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน


อายาเมะ 菖蒲 『Ayame』[แก้]

หลานสาวของหัวหน้าเผ่าหมาป่าปีศาจทางเหนือ เธอเคยได้รับการช่วยเหลือจากโคงะให้รอดพ้นจากปีศาจวิหคในวัยเด็กและได้สัญญาว่าจะแต่งงานกันเมื่อเธอโตขึ้น และสุดท้ายอายาเมะก็ได้แต่งงานกับโคงะที่เผ่าในที่สุด








บท ลูกแก้วสี่วิญญาณ ที่แตกเป็นเศษ และ การหาที่ตั้งสุสานที่นำไปสู่ดาบเขี้ยวอสูร[แก้]

ปีศาจตะขาบ 百足上臈 『Mukadejōrō』[แก้]

มุคาเดะโจโรเคยมีชีวิตอยู่ในช่วงยุคสงครามแต่ภายในการเข่นฆ่าแย่งชิงกันของบรรดาปีศาจด้วยกันได้ตายลงด้วยฝีมือนักล่าปีศาจ แต่ตราบใดที่อยู่ใกล้ลูกแก้วสี่วิญญาณมุคาเดะโจโรจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง คิเคียวกับชาวบ้านเลยได้เก็บรวบรวมกระดูกของปีศาจตนนี้ทิ้งลงไปในบ่อกลืนกระดูก จนเวลาผ่านไปถึงยุคปัจจุบันในระหว่างที่คาโงเมะกำลังเดินตามหาปุโยแมวอ้วนของบ้านฮิงุราชิที่บ่อน้ำปิดในบริเวณศาลเจ้า มุคาเดะโจโรรู้สึกถึงพลังของลูกแก้วสี่วิญญาณจากในตัวคาโงเมะจึงลากตัวเธอลงบ่อน้ำแห้งนั้นทะลุผ่านห้วงมิติในบ่อกลับมาที่ยุคสงคราม ปีศาจตะขาบถูกอินุยาฉะที่เพิ่งได้รับการปลดจากผนึกฆ่าด้วยท่ากรงเล็บคร่าวิญญาณตายในท่าเดียว



ปีศาจอีกากินซากศพ 屍舞烏 『Shibugarasu』[แก้]

ปีศาจอีกากินซากศพมันรู้ข่าวของลูกแก้วสี่วิญญาณที่ปรากฏขึ้นในยุคสงครามอีกครั้งจึงแฝงตัวมาในคราบหัวหน้าโจรป่าลักพาคาโงเมะ อินุยาฉะที่คิดว่าสังหารหัวหน้าโจรได้สำเร็จได้โดนชิบุการาสุฉวยโอกาสออกจากซากศพหัวหน้าโจรคาบลูกแก้วบินจากไป เมื่อทั้งสองไล่ตามมันจนไปถึงแม่น้ำก็พบเด็กคนหนึ่งโดนมันจับตัวจึงได้ช่วยเหลือเด็กก่อนปีศาจอีกาจึงได้บินขึ้นไปไกลขึ้นจนเกินระยะของตามล่าแต่โชคดีขาของอีกาปีศาจข้างหนึ่งยังคงติดอยู่ที่ตัวเด็กคนที่ช่วยเอาไว้ ปีศาจอีกากินซากศพตายลงด้วยลูกธนูหัดยิงของคาโงเมะ


โกคิชิ 小吉 『Kokichi』[แก้]

เด็กชายเล็กๆในหมู่บ้านที่ถูกชิบุการาสุจับตัวที่สะพานเหนือแม่น้ำแต่ได้รับการช่วยเหลือจากคาโกเมะกับอินุยาฉะได้ทันเวลา ขาของปีศาจอีกากินซากศพที่ถูกอินุยาฉะตัดยังคงติดอยู่ที่หลังของเด็กคนนี้จนคาโกเมะได้ยินเด็กร้องและสังเกตเห็นจึงคว้ามันมาผูกติดกับลูกธนูและยิงออกไปสังหารปีศาจอีกา พร้อมกับลูกแก้วสี่วิญญาณที่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ



ปีศาจเส้นผมยูระ 逆さ髪の結羅 『Sakasagami no Yura』[แก้]

ซาคาซากามิ ยูระ เป็นปีศาจที่เกิดจากหวีสางผมหญิงสาวที่ตาย เธอรู้ข่าวลูกแก้วสี่วิญญาณว่าอยู่ที่คาโกเมะจากสัมผัสของกลุ่มด้ายเส้นผมที่ส่งไปที่หมู่บ้านของคาเอเดะเส้นผมของเธอสามารถชักเชิดผู้คนให้ทำตามแบบเดียวกับการใช้ใยเชิดหุ่น หลังอินุยาฉะนำยายคาเอเดะไปซ่อนในกองใบไม้ อินุยาฉะก็ไปรอรับคาโกเมะและมุ่งไปจัดการกับยูระแต่ก็ถูกยูระเล่นงานเสียจนแทบแย่ อินุยาฉะไม่ใช่ผู้ที่สังหารเธอโดยตรง คาโกเมะเป็นผู้ที่เจอกับหวีสางผมของยูระที่กระโหลกสีแดงแล้วทำลายมันด้วยหัวลูกธนูแฝงพลังศักดิ์สิทธิ์



ปีศาจผีไร้หน้า 無女 『Mu-on'na』[แก้]

มูอนนะ ปีศาจที่เกิดจากหญิงที่ทุกข์ทรมานเศร้าโศกจากการสูญเสียลูกและความอดอยากในสงคราม ปีศาจตนนี้ปลอมตนเป็นอิซาโยอิมารดาของอินุยาฉะโดยอุบายของเส็ตโชมารูในการหาไข่มุกสีดำทางด้านขวาซึ่งเป็นทางเข้าสุสานบิดาของพี่น้องที่ไม่ค่อยถูกกันคู่นี้ ปีศาจมูอนนะมีความต้องการเติมเต็มช่องว่างในตนเองด้วยจิตวิญญาณของผู้อื่น เธอพยายามดูดอินุยาฉะเข้าไปในตัวแต่ถูกจาเก็นขัดขวางไว้ก่อนเพราะไม่ใช่จุดประสงค์ ผีไร้หน้าตายเพราะการปกป้องอินุยาฉะด้วยหัวใจสำนึกในความเป็นแม่ของเธอที่ต้องการปกป้องลูก




บท ช่วยท่านหญิงสึยุจากปีศาจกบ[แก้]

ท่านหญิงสึยุ 露姫 『Tsuyu-Hime』[แก้]

ท่านหญิงผู้งดงามของเมืองไค ได้แต่งงานกับเจ้าเมือง แต่ไม่นานเจ้าเมืองสามีของเธอก็เปลี่ยนไปเขาใช้ผ้าพันแผลพันหน้าตา ภายหลังที่พวกอินุยาฉะและอามาริ โนบุนากะ เข้ามาช่วยเธอในปราสาท ท่านหญิงสึยุได้ทราบว่าเจ้าเมืองถูกสิงโดยปีศาจกบ


สึคุโมะ โนะ กามะ 九十九の蝦蟇 『Tsukumo no Gama』[แก้]

ปีศาจกบที่เข้าสิงร่างสามีของท่านหญิงสึยุ และใช้อำนาจของเจ้าเมืองลักพาผู้หญิงในเมืองและขังท่านหญิงสึยุในไข่กบเพื่อเลี้ยงเก็บไว้กินวิญญาณเป็นอาหาร สึคุโมะ กามะ ถูกเปิดเผยตัวตนโดยคาโงเมะกับอินุยาฉะเป็นผู้ขับไล่เขาออกจากร่างเจ้าเมืองและสังหาร


ฮิโยมารุ 日吉丸 『Hiyoshimaru』[แก้]

ฮิโยมารุลิงตัวเล็กสีขาว สัตว์เลี้ยงคู่หูของ อามาริ โนบุนากะ ที่สั่งให้เขาไปหาอาหารมาให้ แต่ฮิโยมารุกลับเอาเสื้อผ้าหญิงสาวชุดหนึ่งมาให้เขาระหว่างที่หญิงผู้นั้นอาบน้ำอยู่ที่ทะเลสาบ


โนบุนากะ อามาริ 信長甘利 『Nobunaga Amari』[แก้]

คนซุ่มซ่ามที่ต้องการช่วยหญิงที่หลงรักจากปีศาจกบ ฮิโยมารุลิงสัตว์เลี้ยงคู่หูของเขาไปหาอาหารและได้ไปขโมยเสื้อผ้าชุดหนึ่งซึ่งเป็นของคาโงเมะที่กำลังอาบน้ำกลับมาให้เขาเหตุนี้ทำให้เขาได้รู้จักกับคาโงเมะและอินุยาฉะที่โดนให้ตามมาทวงชุดคืน ที่ปราสาทอามาริยืนยันที่จะไม่ให้อินุยาฉะฆ่าปีศาจกบเพราะในนั้นยังมีสามีของท่านหญิงสึยุหญิงที่เขาหลงรักที่ยังมีชีวิตอยู่ อินุยาฉะแปลกประหลาดใจมากว่าเขามีโอกาสดีขนาดนี้กลับไม่ฉวยโอกาสฆ่าศัตรูหัวใจและยอมรับว่าอามาริเป็นคนดีที่ซื่อบื้อจริง ๆ




บท ความแค้นของจิ้งจอกชิปโป กับ พี่น้องอสูรสายฟ้า[แก้]

พ่อของชิปโป 七宝の父 『Shippō no chichi』[แก้]

อสูรจิ้งจอกพ่อที่แสนใจดีของชิปโป เขาได้รับเศษลูกแก้วสี่วิญญาณมาโดยบังเอิญและถูกฆ่าโดยสองพี่น้องอสูรสายฟ้า ฮิเท็น มันเท็น


มันเท็น 満天『Manten』[แก้]

ผู้คนและปีศาจในแถบนั้นรู้จักกันในชื่อสองพี่น้องอสูรสายฟ้า มันเท็นเป็นอสูรสายฟ้าตนน้อง ใช้พลังด้วยการปล่อยสายฟ้าออกจากปากและสัญจรอากาศด้วยการขี่เมฆดำ มีเศษเสี้ยวลูกแก้วสี่วิญญาณสองชิ้นอยู่ที่หน้าผาก เขาคือผู้ที่ฆ่าพ่อของชิปโปและถลกหนังมาผูกรอบเอว ตัวมันเท็นค่อนข้างกลมไม่ค่อยมีผม เขาจับตัวคาโงเมะไว้เพื่อจะไปสร้างยาปลูกผมหากพี่เขาให้เก็บตัวเธอไว้ก่อนเป็นตัวประกัน แต่เนื่องจากบนหัวเหลืออยู่เพียงไม่กี่เส้นแล้วคาโงเมะและอินุยาฉะเป็นเหตุให้ผมเขาหลุดร่วงจนหมดจึงโมโหมากปล่อยพลังอาละวาด สุดท้ายเขาถูกอินุยาฉะฆ่าตาย


ฮิเท็น 飛天 『Hiten』[แก้]

ผู้คนและปีศาจในแถบนั้นรู้จักกันในชื่อสองพี่น้องอสูรสายฟ้า ฮิเท็นเป็นอสูรสายฟ้าตนพี่ ใช้พลังสายฟ้าผ่านง้าวอัสนีบาต( 雷撃刃 "ไรเกคิจิน" ) และสัญจรอากาศด้วยการเหยียบกงล้อเพลิง มีเศษลูกแก้วสี่วิญญาณอยู่ที่หน้าผากสามชิ้น ในขณะที่มันเท็นจับคาโงเมะมาจะใช้หนังไปทำเป็นยาปลุกผม เขาเป็นผู้ห้ามเอาไว้เพื่อจะใช้คาโงเมะแลกกับเศษลูกแก้วสี่วิญญาณจากอินุยาฉะตามที่คาโงเมะคุยไว้ เมื่อมันเท็นน้องชายตายเขาแค้นอินุยาฉะมาก ฮิเท็นกินร่างของมันเท็นเพื่อดูดกลืนพลังอสูรมาเพิ่มให้ตนและเปลี่ยนไปใช้พลังรบเต็มที่ แต่ก็แพ้แก่ลูกฮึดของอินุยาฉะซึ่งมีดาบเขี้ยวอสูร



โซเท็น 蒼天 『Sōten』[แก้]

น้องของฮิเท็น และ มันเท็น เป็นอสูรสายฟ้าเช่นเดียวกับพวกพี่ชาย เธอคือน้องตนเล็กสุด โซเท็นเป็นเด็กผู้หญิงที่ต้องการแก้แค้นให้พี่ชายทั้งสองเธอต่อสู้กับชิปโปด้วยดินสอสี แต่แล้วก็จบลงด้วยความเสมอและรู้สึกว่ามันเปล่าประโยชน์ (เฉพาะในอนิเมะ ตอนที่68)


โคริว 紅竜 『Kōryū』[แก้]

ข้ารับใช้ที่คอยดูแลโซเท็น เป็นมังกรแดงตัวเล็ก ๆ สั้น ๆ ป้อม ๆ หน้าตาดูง่วงนอน (เฉพาะในอนิเมะ ตอนที่68)




บท วิญญาณอาฆาต[แก้]

อิเคดะ ซาโตรุ 池田悟 『Ikeda Satoru』[แก้]

ซาโตรุเป็นเพื่อนร่วมชั้นของโซตะน้องชายของคาโงเมะ เขาป่วยและนอนอยู่ที่โรงพยาบาลตลอดหกเดือนหลังจากพี่สาวของเขาตายในบ้านที่ไฟไหม้ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์แปลก ๆ เกิดขึ้นกับซาโตรุบ่อย ๆ


ทาทาริโมะเกะ タタリモッケ 『Tatarimokke』[แก้]

จิตวิญญาณปีศาจซึ่งทำหน้าที่รับวิญญาณของเด็กที่ตายไปตัดสิน ทาทาริโมะเกะจะเล่นขลุ่ยไปกับพวกเด็ก ๆ จนกว่าเหล่าเด็ก ๆ จะพร้อมรับคำตัดสินว่าจะไปได้ยังสวรรค์หรือยมโลก แต่เมื่อไหร่ที่ดวงตาของทาทาริโมะเกะลืมเปิดขึ้นอย่างสมบูรณ์วิญญาณของเด็กชั่วร้ายดวงนั้นจะถูกลากลงไปในส่วนลึกของนรกภูมิ อินุยาฉะไม่สามารถทำอะไรมันได้และคาโงเมะก็เกือบถูกลูกหลงโดนดูดเข้าประตูนรก สุดท้ายทาทาริโมะเกะก็เปลี่ยนใจที่จะพา อิเคดะ มายุ ไปยังนรก เพราะความที่มายุยังคงมีสำนึกที่ดีในหัวใจ


อิเคดะ มายุ 池田真由 『Ikeda Mayu』[แก้]

พี่สาววัย10ปีของซาโตรุ เธอน้อยใจแม่ที่สนใจน้องชายมากกว่าเธอจึงไม่ไปงานประชุมผู้ปกครองแม้แม่จะบอกว่าวันนั้นโซตารุน้องชายของเธอป่วยและต้องดูแลก็ตาม เธอไม่ได้สนใจที่น้องนำคำของแม่มาเตือนเรื่องอย่าตากผ้าพันคอไว้ใกล้เครื่องทำความร้อน มายุเข้าไปหลบอยู่ในตู้ขณะที่แม่ออกไปซื้อของข้างนอก ไฟไหม้บ้านของเธอแต่ทั้งที่แม่กลับมาแม่ก็ไม่รักเธอถึงได้ปล่อยให้เธอตาย วิญญาณของมายุอาฆาตแค้นน้องชายและพยายามจะฆ่าเขา แต่ก่อนหน้าที่มายุจะลงมือหนักเกินกว่าจะแก้ไขคาโงเมะก็ได้มาพยายามเจรจากับเธอ (ซึ่งคาโงเมะได้เรียกสิ่งลี้ลับแบบนี้ว่า "ผี" ) หลังจบเรื่องราวมายุได้แวะมาลาคาโงเมะก่อนเธอจะไปสู่สุคติ




บท คืนเดือนดับ ปีศาจแมงมุมหัวคน[แก้]

นาซุนะ なずな 『Nazuna』[แก้]

เด็กสาวรุ่นเยาว์ที่ตกจากหน้าผาหลังจากถูกปีศาจไล่ล่าและได้อินุยาฉะช่วยเหลือเอาไว้ แล้วเธอก็ตกใจเมื่อเห็นอินุยาฉะ เธอคิดว่าเขาคงเป็นปีศาจน่ากลัวอีกตัวหนึ่งและรีบกลับไปที่วัดซึ่งมีเจ้าอาวาสที่ให้ที่พักพิงแก่เธอหลังจากพ่อแม่ของเธอตาย


คุโมะกาชิระ 蜘蛛頭 『Kumogashira』[แก้]

ปีศาจแมงมุมหัวคน ปลอมตัวเป็นนักบวชชราในวัดที่นาสุนะมาพักอาศัยเขาเป็นปีศาจที่กินพ่อแม่ของนาซุนะ คุโมะกาชิระเห็นโอกาสที่จะแย่งชิงเศษลูกแก้วสี่วิญญาณเขาเชิญพวกอินุยาฉะเข้าพักที่วัด ในคืนนั้นเป็นคืนเดือนมืดและอินุยาฉะได้กลายเป็นร่างมนุษย์ซึ่งไม่มีพลังอสูร




บท แม่หมอปีศาจ ผู้สร้างหุ่นดินเผา[แก้]

อุราซึเอะ 裏陶 『Urasue』[แก้]

ยักษ์ปีศาจในรูปลักษณ์แม่หมอชราที่ชั่วร้าย เป็นผู้ที่ไปปล้นหลุมฝังศพของคิเคียว นำเถ้ากระดูกและเศษดินสุสานมาสร้างเป็นร่างดินเผาเพื่อปลุกชีพคิเคียวมิโกะซึ่งเคยปกป้องลูกแก้วสี่วิญญาณในอดีต ด้วยต้องการอยากได้ลูกแก้วสี่วิญญาณจึงคิดการใช้ให้คิเคียวไปหารวบรวมมันมาให้ แต่เมื่อทำตัวหุ่นดินร่างคิเคียวเสร็จก็ได้ทราบว่าคิเคียวได้ไปเกิดใหม่เป็นคาโงเมะแล้ว อุราซึเอะแค้นใจมากมุ่งไปลักพาตัวคาโงเมะมาและทำพิธีดึงวิญญาณผ่านอ่างสมุนไพรที่เตรียมไว้เพื่อการนี้ แต่แล้วก็พบข้อผิดพลาดวิญญาณของคาโงเมะมีขนาดใหญ่เกินไปวิญญาณย้ายออกมาได้เพียงส่วนน้อย ทว่านั้นเพียงพอแล้วสำหรับการตื่นขึ้นของคิเคียวในร่างใหม่อุราซึเอะดีใจอย่างมากและเริ่มสั่งหุ่นดินเผาที่ตนสร้าง แต่ทางคิเคียวที่ฟื้นขึ้นมานั้นมีความโกรธแค้นอย่างมากมายมหาศาลโกรธทั้งอินุยาฉะที่เป็นเหตุทำให้เธอต้องตายและโกรธที่ถูกปลุกขึ้นมาให้พบกับความทุกข์ทรมานอีกครั้ง อุราซึเอะถูกชำระล้าง(ฆ่า)โดยคิเคียว


คาวารามารุ 瓦丸 『Kawaramaru』[แก้]

ในอดีตเป็นผู้บังคับบัญชากองกำลังทหารแต่ได้ถูกลูกน้องหักหลังและทำให้ตาย คาวารามารุคือคนที่ถูกคืนชีพขึ้นมาก่อนหน้าในแบบเดียวกับคิเคียวโดยอุราซึเอะแม่หมอผู้สร้างหุ่นดินเผา เขาเป็นพี่ชายของเอ็นจุ สำหรับพวกเขาพี่น้องอุราซึเอะคือ "แม่" ที่ให้กำเนิดพวกเขาขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะเป็นการคืนชีพให้เพราะจะให้เขามาเป็นผู้นำกองทัพหุ่นดินก็ตาม เมื่ออุราซึเอะตายเขาตัดสินใจสานต่อความฝันในการยึดครองประเทศ ด้วยวิชาอาคมที่เรียนรู้มาจากอุราซึเอะคาวารามารุเข้าพิชิตปราสาทอย่างไร้ความปราณี และเมื่อได้พบกับอินุยาฉะที่มีส่วนในการทำให้แม่หมอปีศาจตายเขาสาบานว่าจะฆ่าอินุยาฉะ


เอ็นจุ 炎珠 『Enju』[แก้]

คนที่ถูกคืนชีพขึ้นมาแบบเดียวกับคิเคียวโดยอุราซึเอะแม่หมอนักปั้นหุ่น เอ็นจุคือน้องสาวของคาวารามารุ สำหรับพวกเขาพี่น้องอุราซึเอะคือ แม่ ที่ให้กำเนิดพวกเขาขึ้นมาอีกครั้ง จากที่ไม่ไกลนักเอ็นจุอยู่ในเหตุการณ์ที่อุราซึเอะ "แม่" ของเธอถูกคิเคียวฆ่าแต่แม้จะรู้สึกเศร้าเธอก็ยอมรับมันได้ ภายหลังคาโงเมะและเอ็นจุไปเผชิญหน้ากับคาวารามารุ เธอให้เหตุผลกับพี่ชายว่าพวกเขาพี่น้องเป็นคนที่ตายไปแล้วไม่มีสิทธิจะยุ่งเกี่ยวอะไรกับโลกนี้อีก




บท มิโกะคนตาย[แก้]

เซไก 晴海 『Seikai』[แก้]

นักบวชที่อยู่ในระหว่างเดินทาง เขาพบมิโกะในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีความผิดปกติบางอย่าง มิโกะเป็นคนที่ตายไปแล้วแต่ยังใช้เวลาเสมือนยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้โดยการขโมยวิญญาณหญิงสาวผู้ตายอื่น ๆ มาหล่อเลี้ยงกายของตนเอง เซไกเห็นว่าการคงอยู่เช่นนี้ของมิโกะคือความชั่วร้ายที่ไม่ควรดำรงอยู่ในโลกและตัดสินโดยไม่รอถามหาเหตุความจำเป็น เขาลงมือโจมตีคิเคียวด้วยพลังปราณสะกดมารทว่าโดนการสะท้อนของพลังจากพลังวิญญาณที่กล้าแข็งแกร่งกว่าของมิโกะคิเคียว ผลสะท้อนนี้ได้เป็นการจบชีวิตของเขาลง ก่อนที่นักบวชเซไกจะสิ้นใจได้บอกทิ้งท้ายกับคิเคียวว่าการที่เจ้ายังอยู่แบบนี้มีแต่เป็นการน่าสังเวชเท่านั้น



ซาโยะ さよ 『Sayo』[แก้]

เด็กหญิงในหมู่บ้านชนบท ซาโยะเป็นเด็กที่ทำตัวเข้าไปสนิทสนมกับมิโกะคิเคียวที่เข้ามาพักช่วยเหลือชาวบ้านอยู่ในหมู่บ้าน ซาโยะยังรู้สึกว่าตนผูกพันกับมิโกะจนอยากจะมีเธอเป็นพี่สาว แต่แล้วหลังจากที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งนักบวชเซไกพยายามปราบมิโกะผู้นั้นแล้วตายลง ซาโยะรู้สึกกลัวคิเคียว




บท ปราสาทฮิโตมิ[แก้]

ฮิโตมิ นางาซากิ 人見長崎 『Hitomi Nagasaki』[แก้]

ไดเมียวเจ้าของปราสาทฮิโตมิบิดาของคาเงวากิที่ถูกครอบงำโดยนาราคุ เป็นผู้มีอำนาจสั่งการว่าจ้างนักล่าปีศาจในหมู่บ้านของซังโกะ


ฮิโตมิ คาเงวากิ 人見蔭刀 『Hitomi Kagewaki』[แก้]

บุตรชายเจ้าของปราสาทฮิโตมิ ในตอนที่นาราคุต้องการร่างพร้อมสถานะชั่วคราวนาราคุได้สังหารพ่อของเขา และกลืนตัวตนของเขาไป แล้วจากนั้นนาราคุก็ใช้รูปลักษณ์ของ คาเงวากิ ฮิโตมิ ต่อมา




บท เทพแห่งวารีตัวปลอม[แก้]

ทาโร่มารุ 太郎丸 『Tarōmaru』[แก้]

เด็กชายที่หนีมาหาพวกอินุยาฉะ เมื่อกลุ่มของอินุยาฉะผ่านมาที่หมู่บ้านริมทะเลสาบซึ่งกำลังจะมีงานส่งเครื่องสังเวย ทาโร่มารุบอกว่าเขาเป็นลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านที่ต้องถูกส่งไปสังเวยครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อนของเขาที่จะโดนส่งไปแทน และขอร้องให้พวกอินุยาฉะช่วยเหลือโดยหาเทพแห่งสายน้ำตัวจริงแล้วให้ท่านเทพจัดการปีศาจที่สร้างความเดือดร้อนตนนั้น


เซย์คิชิ 末吉 『Suekichi』[แก้]

เพื่อนที่ดีที่สุดของทาโร่มารุ เขาเสียสละตนเพื่อเป็นเครื่องสังเวยเทพวารีแทนเพื่อนของเขา ภายหลังถูกพวกอินุยาฉะช่วยไว้ได้ก่อนจะกลายเป็นเหยื่อเทพเจ้าตัวปลอม


ไดจา 大蛇 『Daija』[แก้]

ปีศาจงูที่แอบอ้างตนเป็นเทพเจ้า เขาแย่งชิงอำนาจของเทพแห่งสายน้ำตัวจริงและเข้าควบคุมวังบาดาลแห่งทะเลสาบ จากนั้นบังคับให้คนในหมู่บ้านมนุษย์คอยส่งเด็กมาสังเวยให้เขา ไดจาต่อสู้กับพวกอินุยาฉะแต่แล้วก็แพ้ทางธนูของคาโงเมะและกลับสู่ร่างจริงซึ่งเป็นเพียงงูใหญ่ตัวหนึ่ง


เทพวารี 水神『Suijin』[แก้]

เทพธิดาวารีแห่งทะเลสาบ หกเดือนก่อนที่พวกอินุยาฉะจะมาถึงและหาทางข้ามทะเลสาบ ซุยจิน ได้ถูกปีศาจงูขโมยเอาตรีศูลเทพวารี( あまこいの鉾 "อามะโคย โนะ โฮโกะ" ) อาวุธศักดิ์สิทธิ์ประจำกายเทพที่เป็นแหล่งพลังอำนาจเทพส่วนมากของเธอไป ซุยจินที่ตัวหดเล็กลงจึงถูกปีศาจตนนั้นขังไว้ในถ้ำเล็ก ๆ เมื่อพวกอินุยาฉะนำตรีศูลกลับคืนมาให้แก่เธอก็สามารถกลับไปใช้ร่างตัวโตขนาดมนุษย์ปกติได้ดังเดิมพร้อมพลังอำนาจเทพที่ฟื้นคืน และซุยจินยังคงทำหน้าที่เป็นเทพวารีแห่งทะเลสาบผู้ปกปักษ์รักษาของชาวบ้านบริเวณนั้นต่อไป




บท ครึ่งอสูรเจ้าของสวนสมุนไพร[แก้]

แม่ของจิเน็นจิ 地念児の母 『Jinenji no haha』[แก้]

หญิงชาวบ้านที่ทำอาชีพขายสมุนไพรและเลี้ยงลูกชายมาเพียงลำพัง เมื่อครั้งยังเป็นเด็กสาวในระหว่างหาสมุนไพรในป่าเธอได้หกล้มขาแพลงและได้ตกหลุมรักชายรูปงามซึ่งมีรัศมีนุ่มนวลที่ปรากฏตัวออกมาช่วยเอาไว้ แม่ของจิเน็นจิถูกชาวบ้านเกลียดชังไม่พอใจหาว่าเป็นแม่มดที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับปีศาจและยังมีลูกเป็นครึ่งปีศาจ เธอและลูกจึงย้ายตนเองออกมาอาศัยอยู่ไกลจากหมู่บ้าน


จิเน็นจิ 地念児 『Jinenji』[แก้]

ครึ่งอสูรที่อาศัยอยู่กับแม่ของเขาที่กระท่อมห่างไกลผู้คนเพราะโดนพวกชาวบ้านรังเกียจ และทั้งสองแม่ลูกใช้เวลาปลูกพืชสมุนไพรที่เป็นประโยชน์มากมาย เป็นครอบครัวที่นิสัยจิตใจดี พวกอินุยาฉะรวมถึงรินก็เคยไปหาสมุนไพรจากเขา




บท โกชินคิและการสร้างดาบมารสมิง[แก้]

ยูกิ 結城 『Yuki』[แก้]

เธอและพี่ชายเป็นเพียงสองคนที่รอดอยู่ในขณะที่โกชินคิบุกฆ่าและกินคนในหมู่บ้าน เด็กทั้งสองได้ถูกอินุยาฉะช่วยไว้ทันเวลาและให้หนีไป


ไคจินโบ 灰刃坊 『Kaijinbō』[แก้]

ลูกศิษย์เคยฝึกงานของโทโตไซ เขาฆ่าเด็กจำนวนมากเพื่อการฝึกฝนวิถีสร้างดาบในแบบของเขา โทโตไซรังเกียจและรับไม่ได้กับพฤติกรรมนี้ของเขาจึงเนรเทศเขาออกจากสำนัก ไคจินโบคือปีศาจผู้ที่เส็ตโชมารูนำหัวของอสูรโกชินคิไปให้เขาใช้เขี้ยวของมัน(ที่สามารถกัดดาบเขี้ยวอสูรหัก)สร้างเป็นดาบขึ้นมา ดาบมารสมิง( 闘鬼神 "โทคิจิน" ) เกิดขึ้นจากฝีมือการตีของไคจินโบ แต่ที่สุดแล้วหลังสร้างเสร็จไคจินโบก็ถูกจิตมารที่รุนแรงจากดาบครอบงำและตายเพราะทนรังสีอาฆาตของดาบมารสมิงไม่ไหว




บท แดนสุขาวดี ฤๅษีกินคน[แก้]

โทคาจิน 桃果人 『Tōkajin』[แก้]

ชายที่อาศัยอยู่บนหน้าผาในโทเก็นเคียว(แดนสุขาวดีในคติโลก)และฝึกวิชาต้องห้าม เขาใช้ นินเมนกะ เพื่อพยายามบรรลุระดับความเป็นอมตะ โทคาจินเขามีกล่องมิติที่จะย่อส่วนตัวคนแล้วเลี้ยงไว้กินภายหลัง ในตอนที่เจอกับคาโงเมะเขานำเธอมาเพื่อจะกิน เมื่ออินุยาฉะมาช่วยเธอก็พลาดท่าโดนจับได้เกือบถูกโทคาจินกลืนเข้าไปผ่านผิวหนังของเขาแต่อินุยาฉะก็รอดมาได้ด้วยดาบเขี้ยวอสูรซึ่งคาโงเมะหยิบยื่นให้


เซนนิน 仙人 『Sennin』[แก้]

ฤๅษีซึ่งบำเพ็ญพรตอยู่ในหุบเขาและเปิดสำนักฝึกสอนสานุศิษย์ แต่ก็ถูก โทคาจิน ศิษย์คนหนึ่งของเขาทรยศ ร่างกายของเซนนินถูกกินโดยศิษย์ของเขาเอง แต่ศีรษะและส่วนบนของเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ในรูปแบบของพืชดอกในกระถาง ด้วยเขายังไม่ได้เปิดเผยความลับทั้งหมดของวิชาชีวิตอมตะ(ในเรื่องนี้คงหมายถึงอยู่ไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่โดนฆ่าก็จะไม่ตาย) เมื่อเซนนินเห็นรัศมีพลังวิญญาณในศรของคาโงเมะเขาก็ช่วยเธอโดยการแปลงตนเป็นคันธนู เพื่อปลดปล่อยตนเองและทำลายความชั่วร้ายของศิษย์ชั่วที่เกิดจากน้ำมือของเขา


นินเมนกะ 人面果 『Ninmenka』[แก้]

พรรณไม้ปีศาจที่กินอาหารจากเลือดในร่างกายของมนุษย์แล้วออกเป็นผลไม้หน้าตาแบบหัวมนุษย์




บท รักแรกของชิปโป[แก้]

ซาสึกิ 五月 『Satsuki』[แก้]

เด็กหญิงที่รอคอยการกลับมาของพี่ชายแม้ความจริงพี่ชายของเธอจะได้รับการยืนยันจากปากของชาวบ้านแล้วว่าพี่ชายได้ตายไปแล้วในการสงคราม เธอทั้งขโมยของและโกหกแต่ก็ได้เปลี่ยนแปลงในท้ายที่สุดหลังจากที่ชิปโปได้ช่วยชีวิตเธอไว้จากอิโมริโยไค และยอมรับความจริงว่าพี่ชายของเธอไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว ซาสึกิเป็นรักแรกของชิปโป


อิโมริโยไค イモリ妖怪 『Imori yōkai』[แก้]

อิโมริโยไค จิ้งจกน้ำ(イモリ หรือ Newts "นิวต์" ซาลาแมนเดอร์ขนาดเล็ก)ที่หลอกใช้ซาสึกิ แม้จะเป็นปีศาจที่อ่อนแอมากแต่ชิปโปยังคงสู้มันไม่ได้ มันถูกจัดการโดยอินุยาฉะและซ้ำโดยมิโรคุ แต่ซาสึกิเข้าใจว่าเป็นฝีมือจัดการของชิปโป




บท สองพี่น้องนินจา[แก้]

เซรินะ セリナ 『Serina』[แก้]

หมู่บ้านนินจาที่ถูกทำลายโดยฝูงปีศาจเซรินะและน้องสาวจึงหาทางแก้แค้นให้ครอบครัว พวกเธอมาเจอซังโกะที่เอากระดูกบินกลับมาซ่อมและจุดธูปไหว้บิดาที่หมู่บ้านนักล่าปีศาจและขอให้ซังโกะฝึกวิชาให้ คืนนั้นสองพี่น้องได้ขโมยอาวุธในหมู่บ้านนักล่าปีศาจและออกไปแก้แค้น เซรินะใช้วิชานินจาได้แย่กว่าน้องสาว


ซูซุนะ スズナ 『Suzuna』[แก้]

หมู่บ้านนินจาที่ถูกทำลายโดยฝูงปีศาจซูซุนะและพี่สาวจึงหาทางแก้แค้นให้ครอบครัว พวกเธอมาเจอซังโกะที่หมู่บ้านนักล่าปีศาจและขอให้ซังโกะฝึกวิชาให้ แล้วคืนนั้นสองพี่น้องขโมยอาวุธรวมทั้งกระดูกบินลอบหนีออกไปแก้แค้นแต่ตัวพวกเธอไม่รู้ว่าอาวุธที่ทำมาจากกระดูกของปีศาจต้องนำไปทำให้บริสุทธิ์ก่อนจึงจะใช้งานได้ปลอดภัยไม่ชักนำเรียกแขกอันตรายให้ตนงานเข้าเดือดร้อนต่อชีวิต พวกเธอจึงถูกฝูงกลุ่มปีศาจรุมล่า หากยังดีที่ซังโกะและพวกอินุยาฉะไปช่วยไว้ได้ทัน ซูซุนะมีความชำนาญคล่องแคล่วมากกว่าพี่สาว




บท มิโกะสีดำสึบากิ[แก้]

อาจารย์ของสึบากิ 椿の先生 『Tsubaki no sensei』[แก้]

ผู้นำอนเมียวจิ ที่เปิดสำนักที่สอนวิชาอนเมียวโดให้กับทั้งชายและหญิง เขาเป็นผู้มอบหน้าที่ดูแลพิทักษ์ลูกแก้วสี่วิญญาณให้กับคิเคียว แต่ สึบากิ ลูกศิษย์หญิงซึ่งโดดเด่นในสำนักของเขารับเรื่องนี้ไม่ได้เธอมาถามเขาทำไมถึงไม่ใช่เธอที่เซนเซย์ให้รับหน้าที่สำคัญนั้น คำตอบที่ศิษย์ได้ไปคือคิเคียวมีอำนาจไกลเกินกว่าเธอ ทั้งจิตใจของสึบากินั้นมันไม่บริสุทธิ์ และจากนั้นศิษย์ใกล้ชิดที่เขาเลี้ยงดูมานามสึบากิได้ไปจากสำนัก


สึบากิ 椿 『Tsubaki』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น มิโฮะ ยามาดะ
มิโกะผู้มีพรสวรรค์ผู้รักหลงในความงามของตน เธอได้รับความนับถือจากชาวบ้านและผู้ฝึกวิชาด้วยกันว่าอยู่ในระดับเดียวกับคิเคียว แต่คิเคียวกลับเป็นคนได้รับหน้าที่จากอาจารย์ของเธอให้เป็นผู้ปกป้องลูกแก้วสี่วิญญาณ สึบากิข้องใจและอิจฉาคิเคียวว่ามีดีกว่าเธอที่ตรงไหนจึงไปพยายามทดสอบลองดีด้วยการลอบส่งงูพิษที่เลี้ยงไว้ให้ไปทำร้ายคิเคียวและได้โดนสะท้อนคำสาปกลับคืนทำให้มีรอยแผลเป็นบนใบหน้า นับแต่นั้นสึบากิจึงผันตัวกลายเป็นมิโกะสีดำอย่างเต็มรูปแบบ ถึงขนาดขายวิญญาณให้ปีศาจเพื่อที่จะคงความงามของตนตลอดกาล 50ปีต่อมาสึบากิถูกยุยงจากนาราคุให้กำจัดคาโกเมะที่เป็นคิเคียวกลับชาติมาเกิด เธอได้พบเจอกับพวกอินุยาฉะและได้พบกับคิเคียวที่เปลี่ยนไป แต่สึบากิยังคงมีความฝังใจเธอกลับมาที่สำนักเพื่อทำพิธีกรรมที่หอคำต้องห้ามซึ่งอาจารย์เคยสั่งไม่ให้เข้า แต่สึบากิต้องการอำนาจที่มากขึ้น เธอกลายเป็นครึ่งอสูรยักษ์ปีศาจและก่อนได้จบชีวิตลงไซเมียวโชบินออกมาจากลูกตาของเธอพร้อมกับเศษลูกแก้วสี่วิญญาณกลับไปหานาราคุ เธออยู่ในรูปแก่ชราผมหงอกขาวเนื้อหนังเหี่ยวย่นก่อนที่จะตาย


โบตั๋น 牡丹 『Botan』 โมมิจิ 紅葉 『Momiji』[แก้]

พี่น้องมิโกะฝึกหัดที่มีความเคารพศรัทธามิโกะสึบากิอย่างมาก พวกเธอสองสาวได้จับมือกันพยายามจะเอาชนะพวกอินุยาฉะ โดยใช้วิชาอนเมียวขั้นต้น เป็นชิกิกามิตัวเล็กๆที่ยังไม่สมบูรณ์กลุ่มหนึ่งและยังสร้างอีกสองตนเป็นตุ๊กตาคาโกเมะและอินุยาฉะขนาดใหญ่ หุ่นอาคมสองตัวนี้จะว่าเหมือนก็พอเหมือนอยู่จะว่าไม่เหมือนกันก็เข้าเคล้าเป็นคาโกเมะกับอินุยาฉะฉบับกลมป้อมแลดูหน้ารักน่าชังไปหมดอย่างที่พวกเธอชอบอะไรที่มันน่ารัก ๆ ขณะที่โบตั๋นและโมมิจิสั่งให้อินุยาฉะตัวกลมป๊อกที่พวกเธอสร้างวิ่งเข้าไปโจมตีก็ได้มีคำพูดหนึ่งดังขึ้นมาจากฝ่ายศัตรู




บท ฟาดฟันลูกแก้วอาคม ดาบเขี้ยวอสูรสีแดง[แก้]

ชิโอริ 紫織 『Shiori』[แก้]

เด็กหญิงครึ่งอสูร บุตรีของสึคุโยมารุลูกชายของหัวหน้าเผ่าปีศาจค้างคาวและชิสุมนุษย์หญิงชาวบ้าน แม้จะเป็นลูกครึ่งแต่ชิโอริมีพลังปีศาจขั้นสูง เธอเป็นผู้ถือครองลูกแก้วอาคมแทนปีศาจหัวหน้าเผ่าผู้เป็นปู่และปกปักษ์เผ่าปีศาจค้างคาวด้วยม่านอาคมที่แข็งแกร่งอย่างมาก อินุยาฉะพบเธอในการพัฒนาดาบเขี้ยวอสูรเป็นดาบเขี้ยวอสูรสีแดง


ชิสุ 紫津 『Shizu』[แก้]

แม่ของชิโอริ เดิมหมู่บ้านที่เธออยู่ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจากปีศาจค้างคาวจนกระทั่ง ชิสุ ได้พบกับ สึคุโยมารุ ปีศาจค้างคาวผู้เป็นบุตรชายของผู้นำตระกูลปีศาจค้างคาว และพบว่าเขามีความต้องการความสงบสุขไม่อยากรบกันอีกเช่นกันกับเธอ ทั้งสองตกหลุมรักกันและกันแล้วไม่นานก็ได้ให้กำเนิดบุตรสาวนามชิโอริ


สึคุโยมารุ 月夜丸 『Tsukuyomaru』[แก้]

พ่อของชิโอริ บุครชายของหัวหน้าเผ่าค้างคาวปีศาจเป็นผู้ที่ถือครองลูกแก้วอาคมปกป้องเผ่าจากสิ่งต่าง ๆ ที่จะมาทำลายได้ เมื่อเขาพบกับชิสุทั้งสองได้รักกันและครองรักกันอย่างสงบสุข เป็นความสงบสุขเวลาสั้น ๆ เมื่อบุตรสาวของเขากับชิสุคลอดออกมา เด็กหญิงเป็นครึ่งอสูรที่ได้รับสืบทอดความสามารถถือครองลูกแก้วอาคมจากเขาไป จากนั้นไม่นานสึคุโยมารุก็สิ้นชีวิต


ไทโกคุมารุ 大獄丸 『Taigokumaru』[แก้]

ผู้นำตระกูลปีศาจค้างคาว ไทโกคุมารุเป็นไดโยไค( 大妖怪 "daiyōkai" ) ซึ่งเป็นปู่ของชิโอริ แต่แรกไทโกคุมารุไม่ต้องการให้สึคุโยมารุบุตรชายของเขาที่มีใจอ่อนโยนอยู่แล้วไปข้องแวะกับมนุษย์เพราะมองว่ามันทำให้เขาอ่อนแอลง ยิ่งเมื่อพบว่าสึคุโยมารุได้ไปตกหลุมรักกับมนุษย์ผู้หญิงในหมู่บ้านยิ่งทำให้ขุ่นเคือง จนเมื่อสึคุโยมารุขอถอนตัวจากการถือครองลูกแก้วอาคมของเผ่าเพื่อไปใช้ชีวิตกับภรรยาและลูกที่จะเกิด ทว่าภายหลังไทโกคุมารุเปิดเผยขึ้นมาเองว่าเขาเลือกฆ่าบุตรชายของเขาเองเพื่อขจัดอุปสรรคของแผนการในการบุกทำลายหมู่บ้านแต่มันน่ารำคาญตรงที่พลังถือครองลูกแก้วตกไปอยู่กับชิโอริจึงเปลี่ยนแผนแสร้งสัญญาจะไม่ทำร้ายคนในหมู่บ้านเพื่อรับชิโอริเข้าเผ่าและเก็บตัวเธอให้ไม่รับรู้โลกภายนอกจะได้ไม่ขัดขืนเหมือนสึคุโยมารุ สุดท้ายเขาพ่ายแพ้ด้วยจิตวิญญาณของสึคุโยมารุซึ่งยังคงอยู่คอยดูแลบุตรสาวและอินุยาฉะสามารถทำลายลูกแก้วอาคมด้วยการร่วมมือจากชิโอริที่เป็นผู้ถือครองลูกแก้ว




บท เผ่าแมวป่าอสูร[แก้]

โทรัน 冬嵐 『Tōran』[แก้]

อสูรเผ่าแมวป่า ชื่อของเธอเป็นการอิงกับหนึ่งในสี่ฤดูกาลเธอเป็นตัวแทนของฤดูหนาว โทรันเป็นอสูรผู้มีพลังแห่งเหมันต์หิมะน้ำแข็งและการแช่แข็งโจมตีศัตรู โทรันมีน้องสามตนคือ คารัน ชุนรัน และโชรัน ในอดีตท่านจ้าวราชาของเผ่าแมวป่าอสูรเป็นศัตรูกับจอมขุนพลสุนัขอสูรอินุไทโชและได้พ่ายแพ้สิ้นชีวิตไป สมาชิกเผ่าที่รอดจึงได้สาบานว่าจะแก้แค้นเรื่องราวต่อมาใน 50 ปีก่อนเนื้อเรื่องตามล่านาราคุในปัจจุบันอสูรเผ่าแมวป่าก่อการสงครามจะชิงดินแดนอีกครั้งแต่ถูกหยุดไว้โดยทัพผสมของเหล่าอสูรปีศาจในปกครองของอินุไทโชที่มีเส็ตโชมารูก้าวเข้ามานำทัพ (ในตอนนั้นอินุยาฉะเพิ่งโดนผนึก) 50 ปีต่อมาที่เศษลูกแก้วสี่วิญญาณกระจายตกไปทั่วโทรันและสมาชิกร่วมเผ่ามีความหวังในการคืนชีพให้ท่านจ้าวทั้งยังต้องการจะทำสงครามอีกเป็นครั้งที่สาม แต่เมื่อราชาอสูรเผ่าแมวป่าจะคืนชีพกลับยังขาดพลังชีวิตไปไม่เพียงพอได้ดูดเอาพลังชีวิตสมาชิกในเผ่าและน้องทั้งสามของโทรันไปใช้เพิ่มพลัง เมื่อเป็นเช่นนั้นโทรันเสียใจมากแต่ไม่อาจแก้ปัญหานี้ได้ แล้วศัตรูก็กลับเป็นฝ่ายช่วยเหลือ ท้ายที่สุดเส็ตโชมารูใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นวาดทำลายวิญญาณราชาอสูรปีศาจแมวป่าและอินุยาฉะฟาดพลังของดาบเขี้ยวอสูรทำลายร่างนั้นลงไม่ให้เหลือทางฟื้นขึ้นมาได้อีก โทรันกับน้องของเธอที่ฟื้นขึ้นมาได้ล้มเลิกความตั้งใจเป็นปรปักษ์และกลับถิ่นฐานเดิมของเผ่า


ชูรัน 秋嵐 『Shūran』[แก้]

อสูรเผ่าแมวป่า ชื่อของเขาเป็นการอิงกับหนึ่งในสี่ฤดูกาลเขาเป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ร่วง ชูรันอสูรผู้มีพลังในการจัดการควบคุมสายฟ้าและการสร้างแสงสว่างจ้าทำให้ศัตรูตาบอดพร่ามองไม่เห็น


คารัน 夏嵐 『Karan』[แก้]

อสูรเผ่าแมวป่า ชื่อของเธอเป็นการอิงกับหนึ่งในสี่ฤดูกาลเธอเป็นตัวแทนของฤดูร้อน คารันอสูรผู้มีพลังในการใช้เพลิงไฟ มีลูกเล่นในการใช้ระเบิดควันขนาดเล็กที่จะปล่อยกลิ่นรบกวนปราสาทผู้รับกลิ่น มันมีผลกับอินุยาฉะแต่ไม่ส่งผลกับเส็ตโชมารู


ชุนรัน 春嵐 『Shunran』[แก้]

อสูรเผ่าแมวป่า ชื่อของเธอเป็นการอิงกับหนึ่งในสี่ฤดูกาลเธอเป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ผลิ ชุนรันมีพลังในการสร้างภาพลวงตาโดยอาศัยรูปแบบกลีบดอกซากุระและสามารถใช้สายลมในการหันเหความสนใจทำให้ศัตรูตกอยู่ในภาพลวงเร็วขึ้น




บท เมื่อซังโกะถูกขอความรัก[แก้]

หมีปีศาจ 熊妖怪 『Kuma yōkai』[แก้]

คุมะโยไคมันถูกสังหารโดยกลุ่มนักล่าปีศาจเมื่อหกปีก่อนแต่ซากของมันไม่ได้ถูกเผาทำลายแบบที่นักล่าได้แนะนำวิธีให้ทำ เจ้าของปราสาทในตอนนั้นกลับเก็บมันไว้ในฐานะของประดับบารมีต่อมาคุมะโยไคมันจึงตื่นขึ้นมาเพื่อล้างแค้น ซังโกะต่อสู้กับมันด้วยอารมโกรธเกรี้ยวเพราะแต่ตัวจริงของมันตอนนี้เป็นวิญญาณมิโรคุจึงได้เป็นฝ่ายผนึกสยบวิญญาณคุมะโยไคด้วยบทสวดแห่งพระสูตร


ทาเคดะ คุราโนะสึเกะ 武田蔵乃介 『Takeda Kuranosuke』[แก้]

ไดเมียวเจ้าของปราสาททาเคดะ ได้ว่าจ้างพวกอินุยาฉะให้ช่วยกำจัดปีศาจให้ เมื่อหกปีก่อนหน้าเขาที่เขายังไม่ได้ขึ้นครองปราสาทเขาได้ตกหลุมรักซังโกะเมื่อพบกันครั้งนี้คุราโนะสึเกะตั้งใจจะขอเธอแต่งงาน แต่ซังโกะที่มีใครบางคนอยู่ในใจอยู่แล้วได้ตอบปฏิเสธเขาไป แม้กระนั้นเขาก็ยังคงหวังดีกับซังโกะและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือถ้าซังโกะต้องการ




บท แผนขโมยดาบเขี้ยวอสูรของจาเก็น กับอดีตอันรุ่งเรืองของเขา[แก้]

มุโอโตโคะ 無男 『Muotoko』[แก้]

ปีศาจไร้หน้าที่เกิดจากความเศร้าเสียใจของชายที่ตายในสงคราม เขาถูกจาเก็นเรียกมาใช้ในการขโมยดาบเขี้ยวอสูร(จาเก็นคิดการนี้ด้วยตัวเอง) มุโอโตโคะถูกสั่งให้ไปขโมยของสำคัญของพวกอินุยาฉะ เมื่อลงมือปีศาจตนนี้หยิบของสำคัญมาได้ทุกอย่างจริง ๆ แม้กระทั่งเศษลูกแก้วสี่วิญญาณ ยกเว้นดาบเขี้ยวอสูรที่เป็นเป้าหมาย มุโอโตโคะถูกซ้อมโดยจาเก็นที่สุดท้ายปล่อยเขาไปไม่สนใจแล้วไปลงมือด้วยตนเอง


บิคุนิ 比丘尼 『Bikuni』[แก้]

บิคุนิ อายุ300+ ผู้นำกลุ่มปีศาจที่ควบคุมภูเขาทางทิศตะวันออกเป็นศัตรูของจาเก็นสมัยก่อน เมื่อทั้งสองเผ่ารบพุ่งกันบิคุนิที่กำลังจะจับจาเก็นกินก็ถูกเส็ตโชมารูที่จะผ่านทางเดินนี้ไป ฆ่า




บท หมอผีปราบปีศาจ[แก้]

ฮาไรยะ 祓い屋 『Haraiya』[แก้]

หญิงชราหมอผีที่ขยับระดับตัวเองขึ้นมาปราบปีศาจด้วย รู้จักกันกับพวกอินุยาฉะเป็นครั้งแรกในการขับไล่ปีศาจพังพอนในทุ่งนา พวกอินุยาฉะคิดว่าหมอผีคนนี้เป็นนักต้มตุ๋น แต่การมีหมอผีคอยปราบพวกตัวเล็กตัวน้อยก็เป็นเรื่องที่ดี ถึงฮาไรยะจะไม่ค่อยน่าเชื่อถือเลยก็ตาม



หัวของยักษ์ 鬼の首 『Oni no kubi』[แก้]

หัวของยักษ์ปีศาจที่ฆ่าเจ้าหญิงและปลอมตัวเป็นเจ้าหญิงแล้วลวงนักบวชที่เดินทางผ่านมาให้พักที่ปราสาท เพื่อรวบรวมพลังจากผู้มีพลังวิญญาณที่จะเรียกคืนพลังและคืนชีพร่างยักษ์ของตน มิโรคุเกือบจะตกเป็นเหยื่อของมัน อย่างไรก็ตามโอนิโนะคุบิก็ถูกดูดไปในช่องว่างแห่งลม




บท สามภูตแห่งเทพวานร[แก้]

กอน ゴン 『Gon』[แก้]

กอนสวมเสื้อสีดำลายแดงขวาง สามภูติลิงเล็ก ๆ มีหน้าที่ปกป้องวิหารเทพเจ้าวานร วันหนึ่งวิหารถูกไฟไหม้และหินที่เทพเจ้าวานรของพวกเขาสถิตอยู่ได้หายไปในครั้งนั้น พวกคาโกเมะเดินทางผ่านมาที่วิหารศาลเจ้านี้พวกเขาจึงต่อสู้กับชิปโปกับอินุยาฉะ


เคน ケン 『Ken』[แก้]

เคนสวมเอี๊ยมสีแดงลายพระจันทร์เสี้ยวสีขาว สามภูติลิงเล็ก ๆ มีหน้าที่ปกป้องวิหารเทพเจ้าวานร วันหนึ่งวิหารถูกไฟไหม้และหินที่เทพเจ้าวานรของพวกเขาสถิตอยู่ได้หายไปในครั้งนั้น พวกเขายื่นหินก้อนหนึ่งให้อินุยาฉะและเป็นที่แน่นอนที่ อินุยาฉะจะพลาดติดกับดักระดับนี้


บุน ブン 『Bun』[แก้]

บุนสวมเสื้อสีฟ้าลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนสีน้ำเงิน สามภูติลิงเล็ก ๆ มีหน้าที่ปกป้องวิหารเทพเจ้าวานร วันหนึ่งวิหารถูกไฟไหม้และหินที่เทพเจ้าวานรของพวกเขาสถิตอยู่ได้หายไปในครั้งนั้น มือข้างหนึ่งของอินุยาฉะโดนติดไว้กับหินที่ทั้งสามมอบให้ ทำให้สภาพอินุยาฉะต้องลำบากลำบนไปไม่น้อย


ซารุคามิ 猿神 『Sarugami』[แก้]

เทพวานรสถิตอยู่ในหินกลม ๆ ขนาดกำลังพอดีซึ่งตั้งอยู่ภายในศาลเจ้าเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านแต่วันหนึ่งวิหารศาลเจ้าเกิดไฟไหม้ ครั้นหลบหนีจากไฟสามภูติลิงได้ทำหินสถิตท่านเทพหาย หลังตามการสืบสวนของคาโกเมะไปเจอกับ เทพวานรชรา ที่ได้ถูกชาวบ้านไม่รู้เรื่องรู้ราวนำหินสถิตไปเป็นหินทับผักดอง ซารุคามิได้ระบุว่าความชั่วร้ายได้ผ่านหมู่บ้านนี้ไปโดยมุ่งไปทิศอุชิโทระ (ในทิศทั้งแปดทางตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่าง ฉลู "อุชิ" 丑(うし)กับ พยัคฆ์ "โทระ" と寅(とら)เรียกว่า "อุชิโทระ" 艮 (うしとら) Ushitora) พวกอินุยาฉะที่กำลังขาดร่องรอยเบาะแสจึงได้ทราบว่าจะไปไล่ล่านาราคุต่อไปที่ใด




บท นักพรตประหลาดกับคิราระสีดำ[แก้]

โควเมะ 小梅 『Koume』[แก้]

เด็กหญิงที่มาตามหาแมวปีศาจของเธอจนมาเจอกับพวกอินุยาฉะและเข้าใจผิดว่าเนโกะมาตะตนนั้นเป็นตัวเดียวกับคิราร่า เธอกับชิปโปร่วมมือกันตามหาแมว และวิ่งหนีเทซโซที่จะกินพวกเขา


คุโรโระ クロロ 『Kuroro』[แก้]

แมวปีศาจ คุโรโระมีหน้าตาเหมือนคิราร่าต่างกันเพียงขนที่เป็นสีดำรอบคอกับขีดใต้ตาสองข้าง เนโกะมาตะตนนี้ถูกใส่ร้ายจนโดนไล่ออกจากจากหมู่บ้าน หลังจากพิสูจน์ความจริงและกำราบเทซโซปีศาจหนูได้แล้วก็ได้กลับไปอยู่ที่หมู่บ้านอีกครั้ง


เทซโซ 鉄鼠 『Tesso』[แก้]

ปีศาจหนูที่ปลอมตัวเป็นมนุษย์ เป็นผู้นำทางความเชื่อของชาวบ้านและหลอกว่าคุโรโระเป็นตัวนำภัยพิบัติให้ขับไล่ออกจากหมู่บ้าน แต่เมื่อคุโรโระออกไปจากหมู่บ้านแล้วเทซโซปล่อยให้พวกหนูอาละวาดกัดกินพืชสวนไร่นายุ้งฉาง สุดท้ายอินุยาฉะเป็นผู้สังหารเทซโซ




บท ลูกแก้วอสูรเลียนแบบ[แก้]

โชสึเกะ 小助 『Shosuke』[แก้]

พ่อแม่และเพื่อนบ้านในหมู่บ้านคนอื่นๆของเขาโดนพาตัวไปโดยโอโรจิดายุ โชสุเกะเป็นเพียงคนเดียวที่รอดมาได้ ห้าวันต่อมาพวกอินุยาฉะมาถึงและได้ไต่ถามเขาแล้วโชสุเกะก็ได้ไปเห็นชาวบ้านที่โดนจับไปอยู่ในไข่ของกบ


โอโรจิดายุ オロチ太夫 『Orochidayū』[แก้]

ปีศาจงู โอโรจิดายุที่ต้องการที่จะสร้างลูกแก้วแบบลูกแก้วสี่วิญญาณแต่เลือกที่จะใช้วิญญาณของมนุษย์ในการสร้าง จึงร่วมมือกับกิวโอและดึงกามะจิโร่มาร่วมมือด้วย


อิซุโมะ 出雲 『Izumo』 / กิวโอ 牛王 『Gyu-Oh』[แก้]

ครึ่งอสูรปีศาจวัว พ่อของเขาเป็นมนุษย์ชื่ออิซุโมะ และแม่เป็นปีศาจวัว เขาต้องการที่จะเป็นมนุษย์อย่างเต็มตัว เมื่อได้ข่าวว่าลูกแก้วสี่วิญญาณถูกทำลายและต้องใช้เวลาในการรวบรวม ด้วยความกลัวเขาจึงได้ร่วมมือกับโอโรจิดายุในการสร้างลูกแก้วเลียนแบบลูกแก้วสี่วิญญาณขึ้นมา โดยไม่มีพลังของมิโดริโกะลูกแก้วจึงสามารถใช้เปลี่ยนร่างได้เพียงเวลาไม่นานและยังต้องใช้วิญญาณเป็นจำนวนมากกว่าปกติแต่เขาก็เลือกที่จะทำ เมื่อต้องสู้กับพวกอินุยาฉะเขาเสี่ยงใช้ลูกแก้วที่ยังไม่สำเร็จในคืนที่จะทำให้เขาสมความปรารถนาด้วยร่างกิวโอ แต่สุดท้ายไม่อาจเอาชนะอินุยาฉะได้ก่อนฟ้าสาง กิวโอต้องกลับเป็นอิซุโมะ ร่างมนุษย์ในยามเช้าทนพลังของลูกแก้วปลอมแปลงนี้ไม่ได้ ร่างของเขากลับเป็นมนุษย์เพียงครึ่งเดียวและตาย เขาเสียใจที่ไม่อาจตายอย่าง มนุษย์


สึคุโมะ โนะ กามะจิโร่ 九十九の蝦蟇次郎 『Tsukumo no Gamajirō』[แก้]

ปีศาจกบ กามะจิโร่ที่มีหน้าหน้ารวบรวมคนในทรงกลมสารที่เขาสร้างเหมือนไข่กบ บางทีเขาที่หิว ๆ ก็ต้องการกินวิญญาณในนั้นแต่โอโรจุดายุเตือนเขาว่าห้ามกิน กามะจิโร่ถูกฆ่าตายพร้อมปีศาจตนอื่น ๆ




บท เขตอาคมแห่งเขาฮักคุเรและเจ็ดสังหารที่คืนชีพ[แก้]

คันสุเกะ 勘助 『Kansuke』[แก้]

ในกลุ่มโจรรู้จักเขาในชื่อ ราเซ็ตซึ หัวหน้าโจรป่า เขาหลงเชื่อคำโอนิงุโมะไปขโมยลูกแก้วสี่วิญญาณจากคิเคียวแต่โดนอินุยาฉะเล่นงานกลับมาและสูญเสียดวงตาข้างขวา แล้วราเซ็ตซึก็รู้ตัวว่าถูกโอนิงุโมะหลอกใช้ แล้วตอนนั้นโอนิงุโมะก็ได้รับการสนับสนุนให้ขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าโจร ราเซ็ตซึต้องการแก้แค้นเอาคืน เขาและลูกน้องหลอกโอนิงุโมะไปฆ่าโดยเผาแล้วโยนลงหน้าผา 50ปีต่อมาเขาเป็นเพียงชาวนาแก่ ๆ วัย70ปลายที่ใกล้ตายชื่อ คันสุเกะ ขณะที่หมดหวังทอดอาลัยในชีวิตเขาได้พบกับมิโกะที่ผ่านทางมา คันสุเกะหยุดเธอโดยให้เหตุผลว่ารู้สึกถึงพลังอำนาจของเธอที่จะช่วยเขาได้และสารภาพอดีตของเขาให้มิโกะรับฟังทั้งหมดโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกันกับคิเคียวคนนั้น ก่อนตายคันสุเกะขอให้มิโกะช่วยนำปอยผมของเขาไปชำระล้างบาปกรรมที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ฮักคุเร



โอยากาตะ お館様 『O-Yakata』[แก้]

ไดเมียวเจ้าของปราสาทแห่งคิตาชิโระ(北城の殿様)ทางภาคเหนือ โอยากาตะเจ้านายที่ว่าจ้างเหล่าเจ็ดสังหารให้ทำงานให้ก่อนจะดัดหลังด้วยการสั่งฆ่าทั้ง7 เขาถูกฆ่าล้างแค้นโดยบังโกสึหัวหน้ากลุ่มเจ็ดสังหารที่เพิ่งฟื้นขึนมาจากความตาย และรับเอาบันริวไปเป็นรางวัลค่าจ้างงานก่อนหน้า


7 สังหาร 七人隊 『Shichinintai』[แก้]

กลุ่มทหารรับจ้างไม่เข้ารับใช้ใคร รับจ้างสู้รบในสงครามกับปราบปีศาจ ฆ่านับไม่ถ้วนเพื่อความบันเทิง ทั้ง 7 คนรักกันเหมือนพี่น้อง แต่เพราะเก่งกับอันตรายเกินไป จึงถูกแคว้นพันธมิตรไล่ล่าจนโดนจับประหารตัดหัวจนเสียชีวิตไปเมื่อ 15 ปีก่อน

แต่นาราคุสาหัส(หลังแพ้อินุยาฉะ)นำเศษลูกแก้ว 4 วิญญาณมาคืนชีพหลอกใช้เพื่อถ่วงเวลากันพวกอินุยาฉะไว้ในขณะพักฟื้น

บังโกซึ 蛮骨 『Bankotsu |ผู้มีสันดานหยาบช้า
หัวหน้า กับพี่ใหญ่ของกลุ่มแม้อายุน้อยสุด แต่เก่งสุด รักพวกพ้องมาก แต่หัวขี้เลื่อย นำเศษลูกแก้ว 4 วิญญาณของน้องๆที่ตายมาใส่ที่คอกับแขน 2 ข้างกับดาบให้เก่งกว่าเดิม คือคนสุดท้ายที่รอดตาย ต้องการแก้แค้นให้พวกพ้องที่ตายไป จึงสู้ตัดสันแพ้อินุยาฉะกับตายไปอีกที
เคียวโกซึ 凶骨 『Kyōkotsu |ผู้ชั่วร้าย』
ตัวใหญ่โตเหมือนยักษ์ บ้าพลังกับตะกละ กินปีศาจในหุบเขาจึงตัวโตผิดมนุษย์ ถูกโคงะฆ่าตาย เพราะถูกดึงเศษลูกแก้วออกมาจากหน้าผาก
คินโกซึ 銀骨 『Ginkotsu |ผู้มีร่างกายเป็นเหล็ก』
ไซบอร์กโบราณ ไม่ค่อยพูด พอแพ้อินุยาฉะทีนึง จึงถูกเร็นโกสึรักษาดัดแปลงเป็นไซบอร์กมีร่างเป็นรถถัง แพ้โคงะ กับสละชีวิตตนช่วยเร็นโกซึซึ่งเป็นผู้มีพระคุณของตนไว้
มูโกซึ 霧骨 『Mukotsu |ผู้ใช้พิษ』
มีหน้าตาที่น่าเกลียด ใช้ควันพิษหลากชนิด กับบ้าผู้หญิง ขณะที่จับพวกคาโกเมะ ถูกเส็ตโชมารูที่แวะมาหาฆ่าตาย
จาโกซึ 蛇骨 『Jakotsu |ผู้ใช้งู』
กะเทยโรคจิต ที่เห็นชายหล่อหรือผู้หญิงเกิดบ้าฆ่าทุกที ใช้ดาบกระดูกงู ภักดีต่อบังโกซึมาก สู้แพ้อินุยาฉะ กับโดนเร็นโกซึหักหลังฆ่าตายไป เพราะหมดประโยชน์
เร็นโกซึ 煉骨 『Renkotsu |ผู้ใช้ไฟ』
ชายฉลาดกับเจ้าเล่ห์ คิดจะทรยศพวกพ้องของตนเอง ใช้ไฟกับปืนเป็นหลัก ล่อให้จาโกซึสู้ เพื่อชิงเศษลูกแก้ว 4 วิญญาณมาเพิ่มพลัง แต่สุดท้ายต้องถูกบังโกซึ(มือเปล่า)จับได้ฆ่าตายง่ายๆ
ซุยโกซึ 睡骨 『Suikotsu |ผู้หลับใหล』
ชาย 2 บุคลิก ตัวจริงคือหมอใจดีชอบช่วยเหลือคน แต่อีกบุคลิกนึงคือนิสัยโหดร้ายชอบการฆ่าฟัน ใช้กรงเล็บคู่ ปกติถูกด้านดีกดไว้อยู่แต่พอโมโหด้านชั่วจะตื่น สุดท้ายด้านดีได้สติกลับก่อนตายขอร้องให้คิเคียวเอาเศษลูกแก้วไปจากตนซะเพราะไม่อยากฆ่าใครอีก กับไม่ไว้ใจตัวเอง แต่โดนจาโกซึแย่งไปก่อน

ในอดีตคือหมอในสงครามตอนกำลังถูกโจรป่าฆ่า ก็ฆ่าโจรป่าเพื่อป้องกันตัวจนเป็นบ้า ถูกด้านชั่วยึดร่าง ไล่ฆ่าคนไปทั่วเพื่อสนุก จนไปร่วมกับบังโกสึ

ชินทาโร่ 新太郎 『Shintarō』[แก้]

บุตรชายของหัวหน้าหมู่บ้าน พ่อของเขาหายไปและไม่กลับมาจากเกาะฮิจิริซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารของท่านฮาคุชิน เขาเคยไปขอให้พวกชาวบ้านช่วยแต่ไม่มีใครยอม เมื่อได้พบกันกับพวกอินุยาฉะที่ต้องการไปที่เกาะฮิจิริพอดีเขาจึงเป็นผู้ที่ร่วมทางพาพวกอินุยาฉะไปที่นั่น แต่ไปถึงเขาได้เจอศพของพ่อที่โดนปีศาจฆ่าตาย ชินทาโร่เป็นผู้ที่ได้เห็นอินุยาฉะต่อสู้กับเบียคุยะ



ฮาคุชิน 白心 『Hakushin』[แก้]

นักบวชพุทธ ท่านฮาคุชินเป็นพระนักบวชระดับสูงที่ได้รับการนับถือเคารพเชิดชูในความดีจากชาวบ้าน ซึ่งฮาคุชินเป็นผู้ที่ยอมเสียสละตัวเองเพื่อช่วยชาวบ้านให้พ้นภัยจากโรคระบาดในพื้นที่ แต่ขณะที่กำลังรอคอยที่จะตายพระฮาคุชินกลับแพ้พ่ายเสร็จแก่มารในใจของตนเองที่เข้าครอบงำในความรู้สึกก่อนตายและจิตใจภายในก็หวนไห้หลงทางจนเกลียดชังนักบวชลูกศิษย์เหล่าผู้ที่อธิษฐานขอความตายแก่เขาเพื่อที่ว่าพวกนั้นเองจะได้อยู่รอด โรคระบาดนั้นหายหมดสิ้นทั่วอาณาเขตพื้นที่บริเวณเขาฮักคุเรได้ถูกชะล้างและคงสภาพความบริสุทธิ์ของแผ่นดินไปจนถึงอากาศใกล้เคียงกับการเป็นแดนดินอุดมคติ แต่ฮาคุชินยังไม่ได้จากโลกแห่งนี้ไปวิญญาณพระนักบวชฮาคุชินไม่อาจละทิ้งสังขารร่างกายยังคงติดห่วงผูกพันเฝ้ารักษาภารกิจการชำระล้างอยู่ในวิหารส่วนลึกของเขาฮักคุเร ด้วยพลังวิญญาณพลังจิตอันกล้าแข็ง และวัชระ ( Vajra(ヴァジュラ・金剛杵)อุปกรณ์สื่ออาคมวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่นักบวชทางสายวัชรยานและมหายานมักนิยมใช้ประกอบร่วมกับการกำกับมนต์คาถา) ซึ่งฮาคุชินได้ใช้เป็นแกนหลักจัดตั้งอาคม ได้สร้างเป็นปราการข่ายเวทย์อาคมซึ่งแข็งแกร่งทรงพลังอย่างมากครอบคลุมอาณาบริเวณทำให้ไม่มี อสุรกาย ภูติ ผี ปีศาจ อสูร หรือพลังความชั่วร้ายใดเข้ากล้ำกลายในบริเวณภูเขาฮักคุเรได้ แต่แล้วเป็นนาราคุที่ได้ใช้ประโยชน์จากอาคมของฮาคุชินโดยอาศัยช่องว่างทางจิตใจส่วนนี้ สุดท้ายคิเคียวมิโกะซึ่งเคยเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณแก่ชาวบ้านในอีกทางเช่นกันทั้งยังเข้าใจดีถึงความรู้สึกรู้ซึ้งว่าความตายและทุกข์จากการที่ตายไปแล้วแต่ยังต้องคงอยู่ในร่างที่น่าสังเวชใจตนเองเป็นเช่นไร ได้มาช่วยปลดปล่อยฮาคุชินจากภาระด้วยคำพูดวาจาตรงจุด ให้ระลึกถึงเหตุผลตระหนักแก่ใจตนว่าที่แท้ตัวนักบวชฮาคุชินเองนั้นจริงแล้วจิตสุดท้ายยังวางไม่ลงและยังไม่พร้อมตาย การช่วยเหลือทางหนึ่งนี้เป็นการช่วยปลดปล่อยท่านฮาคุชินข้ามผ่านสังสารที่ติดอยู่ในชาติภพปัจจุบันไปสู่สุคติ




บท เชื้อสายปีศาจจากแผ่นดินใหญ่[แก้]

คิสึเกะ 喜助 『Kisuke』[แก้]

ด้วยความบริสุทธิ์ใจของคิสึเกะ ชายหนุ่มขอให้พวกอินุยาฉะช่วยเหลือพวกผู้หญิงจากโจฮัคไค


โจฮัคไค 猪九戒 『Chokyūkai』[แก้]

เขาสืบเขื้อสายมาจากบรรพบุรุษของเขา จากประเทศจีน โจฮัคไค(ตือโป้ยก่าย)ที่เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในตำนานไซอิ๋ว โจฮัคไค(ตือเก้าก่าย)ปีศาจหมูตนนี้ ได้รับแรงบรรดาลใจจากบรรพบุรษและตั้งใจทำตามในเรื่องของความบ้าผู้หญิง


ชาโกโจ 沙悟浄 『Sha Gojyo』[แก้]

เขาสืบเขื้อสายมาจากบรรพบุรุษของเขา จากประเทศจีน ชาโกโจ(ซัวเจ๋ง)ที่เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในตำนานไซอิ๋ว ชาโกโจตนนี้เป็นปีศาจกัปปะ ที่ถูกโจฮัคไคใช้ให้ลักพาตัวควบคุมผู้หญิงโดยรัดเกล้า(แบบที่อยู่บนหัวซุนอู่คง(ซุนหงอคง)) และห่วงรัดเกล้านี้ได้ไปอยู่บนหัวของอินุยาฉะในตอนนี้ด้วยเช่นกัน ชาโกโจเป็นปีศาจที่ขี้ขลาดมากถึงขนาดที่อินุยาฉะแค่แยกเขี้ยวขู่ก็ตัวสั่นแล้ว


ซงโกคู 孙悟空 『Son Goku』[แก้]

เขาสืบเขื้อสายมาจากบรรพบุรุษของเขา จากประเทศจีน ซงโกคู(ซุนอู่คง)ที่เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในตำนานไซอิ๋ว ซงโกคูตนนี้แม้จะมีชื่อเสียงเลื่องลือของบรรพบุรุษให้คุยอวดแต่เขาเป็นเพียงลูกหลานปีศาจลิงที่อ่อนด๋อยและขี้กลัว




บท ท่าไม้ตายใหม่ของชิปโป แผลแห่งใจ[แก้]

อิปโปะ 一宝 『Ippō』[แก้]

หนึ่งในกลุ่มจิ้งจอกเด็กที่มักจะไปรังควานหมู่บ้านของมิซูกิ เขาพร้อมกับพี่น้องเข้าใจคาดผิดไปว่าชิปโปเป็นผู้ใช้แผลแห่งลม เพราะเขาเกิดก่อนจึงได้ชื่อ "อิปโปะ" ที่หมายถึง หนึ่งสมบัติ ชื่อของพวกเขาเมื่อรวมกับ "ชิปโป" จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของเจ็ดสมบัติในภาษาญี่ปุ่น อิปโปะสวมเสื้อลายขวางแดงตัดม่วง


จิบโปะ 二宝 『Jippō』[แก้]

หนึ่งในกลุ่มจิ้งจอกเด็กที่มักจะไปรังควานหมู่บ้านของมิซูกิ เพราะเขาเกิดเป็นตนที่สองจึงได้ชื่อ "จิปโปะ" ที่หมายถึง สองสมบัติ ชื่อของพวกเขาเมื่อรวมกับ "ชิปโป" จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของเจ็ดสมบัติในภาษาญี่ปุ่น จิปโปะสวมเสื้อกั๊กสีน้ำตาล


ซัมโปะ 三宝 『Sanpō』[แก้]

หนึ่งในกลุ่มจิ้งจอกเด็กที่มักจะไปรังควานหมู่บ้านของมิซูกิ เพราะเขาเกิดเป็นตนที่สามจึงได้ชื่อ "ซัมโปะ" ที่หมายถึง สามสมบัติ ชื่อของพวกเขาเมื่อรวมกับ "ชิปโป" จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของเจ็ดสมบัติในภาษาญี่ปุ่น ซัมโปะสวมเสื้อยืดสีเขียว


ชิโฮะ ะ四宝 『Shihō』[แก้]

หนึ่งในกลุ่มจิ้งจอกเด็กที่มักจะไปรังควานหมู่บ้านของมิซูกิ เพราะเขาเกิดเป็นตนที่สี่จึงได้ชื่อ "ชิโฮะ" ที่หมายถึง สี่สมบัติ ชื่อของพวกเขาเมื่อรวมกับ "ชิปโป" จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของเจ็ดสมบัติในภาษาญี่ปุ่น ชิโฮะสวมผ้ากันเปื้อนสีฟ้า


โกโฮะ 五宝 『Gohō』[แก้]

หนึ่งในกลุ่มจิ้งจอกเด็กที่มักจะไปรังควานหมู่บ้านของมิซูกิ เพราะเขาเกิดเป็นตนที่ห้าจึงได้ชื่อ "โกโฮะ" ที่หมายถึง ห้าสมบัติ ชื่อของพวกเขาเมื่อรวมกับ "ชิปโป" จะตั้งอยู่บนพื้นฐานของเจ็ดสมบัติในภาษาญี่ปุ่น โกโฮะสวมเสื้อรัดรูปสีแดง


มิซูกิ みずき 『Mizuki』[แก้]

เด็กหญิงผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่มักจะโดนกลุ่มปีศาจจิ้งจอกรังควาน กลุ่มของอินุยาฉะเดินทางผ่านไปแถวนั้นชิปโปเลยได้สมอ้างกับพวกจิ้งจอกว่าเป็นผู้นำกลุ่มของอินุยาฉะอวดเพื่อน ๆ ในเผ่าเดียวกับเขา ชิปโปเล่นตลกใส่มิซูกิจนโดนเธอตะโกนใส่หน้าว่า ฉันเกลี่ยดเธอ




บท กับดักของคำสาปภาพพระโพธิสัตว์คันนอน[แก้]

ชินโนสุเกะ 篠助 『Shinosuke』[แก้]

นักเดินทางหนุ่มคู่หมั้นของวาคานะ เขาถูกบังคับให้ไปเข้าร่วมสงครามก่อนแต่งงานไม่กี่วัน เขาได้รับบาดเจ็บและกลับมาที่หมู่บ้าน


วาคานะ 若菜 『Wakana』[แก้]

คู่หมั้นของชินโนสุเกะ วาคานะถูกครอบงำโดยไข่ปีศาจซาลาแมนเดอร์ซึ่งมันบังคับให้เธอฆ่าพวกผู้ชายและนำไปให้ซาลาแมนเดอร์


มาสึ まつ 『Matsu』[แก้]

หนึ่งในหญิงที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านหลังสูญเสียสามีและลูกเธอได้ไปได้อธิษฐานกับภาพวาดเทพคันนอนที่วัดและได้ถูกโจมตีโดยปีศาจในภาพ มาสึและหญิงในหมู่บ้านทั้งหมดล่อหลอกผู้ชายและฆ่านำผิวหนังไปให้ซานโชโอะ มาสึเป็นผู้ที่บังคับให้ซังโกะกลืนไข่ซาลาแมนเดอร์


ซานโชโอะ 山椒魚 『Sanshōuo』[แก้]

ปีศาจซาลาแมนเดอร์ขนาดใหญ่ เป็นปีศาจที่ถูกนักบวชปิดผนึกไว้ในภาพเทพคันนอน( 観世音菩薩 Kanzeonbosatsu "คันเซะองโบะซัทสึ", โพธิสัตว์อวโลกิเตศวร/กวนอิม)ภาพแขวนในวัด ตื่นจากสะกดให้อยู่ในภาพด้วยผลกระทบจากพลังปีศาจของนาราคุ มันใช้ฟองไข่ในการบังคับบงการหญิงในหมู่บ้าน ซานโชโอะถูกอินุยาฉะฆ่าตายโดยแผลแห่งลม




บท ซาระแห่งปราสาทอาซาโนะ[แก้]

อาซาโนะ โซจู 阿佐野双樹 『Asano Sōju』[แก้]

ไดเมียวเจ้าของปราสาทอาซาโนะ ในขณะที่ถูกศัตรูล้อมปราสาทก็มีอสูรตนหนึ่งผ่านทางลงมาและทำลายใจกลางกองทัพฝ่ายข้าศึกศัตรูของเขา แต่ดีใจได้ไม่นานเขาก็พบว่าบุตรีของเขา ซาระ ได้ไปหลงรักอสูรตนนั้น เขาจึงระดมไพร่พลทหารและส่งกองพลปืนเป็นทัพหน้าเพื่อจะฆ่าเจ้าปีศาจอสูรนั่น สุดท้ายโซจูฆ่าตัวตายเพราะกลัวจะมีการโจมตีโต้กลับของเส็ตโชมารู


อาซาโนะ ซาระ 阿佐野娑蘿 『Asano Sara』[แก้]

ท่านหญิงซาระแห่งปราสาทอาซาโนะ หญิงสาวชาวมนุษย์ผู้หลงรักเส็ตโชมารูเมื่อเธอพบเห็นเขาผู้ที่ฆ่าข้าศึกฝ่ายศัตรูที่ล้อมปราสาท (เส็ตโชมารูออกจากสุสานอินุไทโชมาลงตรงนั้นพอดี) บิดาของซาระเมื่อรู้ว่าบุตรสาวไปหลงรักเจ้าปีศาจที่ไหนก็ไม่รู้ศักดาฐานะจึงได้นำกองพลปืนยาวจากปราสาทไปเพื่อสังหารเส็ตโชมารู และอย่างไม่ต้องเอ่ยว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุนั้นเองปราสาทได้ถูกโซจูบิดาของเธอที่กลายเป็นบ้าเผาทำลายพร้อมกับการจบชีวิตตนเองของเขา ท่านหญิงซาระและข้ารับใช้หญิงส่วนหนึ่งออกมาบวชอยู่ในสำนักชีแต่แม้จะป่วยหนักซาระยังคงต้องการพบกับเส็ตโชมารูอีกครั้งจึงตัดสินใจขายกายเนื้อและวิญญาณให้แก่เหล่าปีศาจแล้วถือกำเนิดเป็นอสุรกายปีศาจในแบบเดียวกับนาราคุ เธอมีขลุ่ยอยู่เลาหนึ่งและมักจะนำมันออกมาเล่นอยู่เสมอ ซาระถูกเส็ตโชมารูสังหารเป็นการปลดปล่อยให้ไปจากโลก




บท อสูรนินจา อาวุธปีศาจที่ไคจินโบเคยสร้างไว้[แก้]

สึคิโยมิ 月黄泉 『Tsukiyomi』[แก้]

มิโกะคนรักของโฮชิโยมิ ผู้ที่ตายไปพร้อมกับการปิดผนึกผู้ที่รัก สึคิโยมิมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับมิโดริโกะผู้ซึ่งเป็นผู้เป็นเหตุให้กำเนิดลูกแก้วสี่วิญญาณ (การแต่งตัวและเกราะของมิโกะทั้งสองบ่งบอกว่าอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์การแต่งกายของมิโกะ)


โฮชิโยมิ 星黄泉 『Hoshiyomi』[แก้]

อสูรนินจาที่เคยถูกคนรักปิดผนึกและดูถูกมนุษย์นับแต่นั้นเป็นต้นมา เป็นไดโยไค( 大妖怪 "daiyōkai" ) เจ้าของ "ง้าวคู่ฟ้าดิน"( 乾坤の薙刀 "เคนคอน โนะ นากินาตะ" ) หรือที่มีการพากษ์ในอนิเมะ "ดาบคู่ฟ้าดิน" ที่เขาได้ให้ไคจินโบตีขึ้น โฮชิโยมิหลังจากเขาฮัคคุเรล่มสลาย เขาให้ลูกสมุนทั้งสี่ออกตามเอาอาวุธคืน แต่อาวุธชิ้นนั้นอยู่ที่อากิโทกิ โฮโจ ที่พอดีไปขอให้พวกอินุยาฉะช่วยในการเอาอาวุธประจำตระกูลไปชำระล้างความชั่วร้าย


เบียกโกะ 白虎 『Byakko』[แก้]

เบียกโกะแห่งสายฟ้า หนึ่งในลูกน้องของโฮชิโยมิ


เก็นบุ 玄武 『Genbu』[แก้]

เก็นบุแห่งความมืด หนึ่งในลูกน้องของโฮชิโยมิ


ซูซาคุ 朱雀 『Suzaku』[แก้]

ซูซาคุแห่งบุบผา หนึ่งในลูกน้องของโฮชิโยมิ


เซริว 青竜 『Seiryū』[แก้]

เซริวแห่งจันทรา หนึ่งในลูกน้องของโฮชิโยมิ




บท การตายของเหล่าผู้มีพลังวิญญาณ และ อสูรผู้ขี่อาชากีบเพลิง[แก้]

ชินเซน 神泉 『Shinsen』[แก้]

นักบวชที่ปิดผนึกอสูรเรนโกคูคิและเอ็นเท เขาเป็นหนึ่งในผู้มีพลังวิญญาณสูงส่งที่ถูกคางุระและทารกปีศาจฆ่าตาย ก่อนตายชินเซนได้ใช้พลังผ่าร่างทารกปีศาจออกเป็นสองส่วน หากแต่สองส่วนนั้นภายหลังกลับแยกออกเป็นทารกอากาโกะและเด็กปีศาจฮักคุโดชิ



เรนโกคูคิ 煉獄鬼 『Rengokuki』[แก้]

อสูรผู้ที่มุ่งมั่งพิสูจน์ความเชื่อที่ตามตำนานว่าผู้ที่ขับขี่เอ็นเทจะได้เป็นนายของโลก เรนโกคูคิแข่งขันและได้อสูรพาหนะนี้มาครอบครองแต่ว่าเขาก็ถูกปิดผนึกโดยนักบวชชื่อชินเซน นานหลายทศวรรษจนนักบวชรูปนั้นถูกฆ่าโดยอากาโกะ หลังจากหลุดจากผนึกเขาต้องการพิสูจน์ตนเองในการเป็นนักขี่ม้าแห่งปีศาจร้ายและยึดครองโลกต่อไป แต่เมื่อเรนโกคูคิจะได้สู้กับฮัคคุโดชิและสังหารเด็กนั่นตามที่คิด เอ็นเทที่เขาขี่ก็สลัดเขาทิ้งไปให้ฮักคุโดชิขี่แทน เรนโกคูคิได้ตายลงด้วยการฆ่าของฮักคุโดชิ



เอ็นเท 炎蹄 『Entei』[แก้]

อสูรกีบเพลิง มีตำนานเล่าถึงมันว่าผู้ที่ได้ขี่ปีศาจร้ายตนนี้จะได้เป็นนายแห่งโลก เอ็นเทเป็นสัตว์อสูรรูปแบบม้ามีความสามารถในการลอยเหินเหยียบอากาศ และมันได้ทอดทิ้งนายเก่ามาอยู่กับฮักคุโดชิ




บท การตามหาเศษลูกแก้วสี่วิญญาณชิ้นสุดท้าย[แก้]

มิมิเซนริ 耳千里 『Mimisenri』[แก้]

ปีศาจหูทิพย์ มิมิเซนริมีความสามารถในการได้ยินสรรพสิ่งที่เป็นไปที่มีอยู่ที่เกิดขึ้นไม่ว่าบนดินในน้ำบนอากาศ ได้ยินสรรพสำเนียงในทุกโลกทุกภพ ด้วยการณ์นี้นาราคุจึงไปสอบถามสถานที่อยู่ของเศษลูกแก้วสี่วิญญาณชิ้นสุดท้ายจากเขา



เก็นตะ 甘太 『Kanta』[แก้]

ปีศาจนากเด็กที่มาเจอกับพวกอินุยาฉะ พ่อของเขาถูกฮัคคุโดชิตัดหัวแต่เขาได้เก็บหัวของพ่อไว้เพราะหวังว่ามันจะนำมาต่อคืนกันได้แล้วพ่อจะฟื้น ชิปโปที่เสียพ่อไปในเหตุการณ์ใกล้เคียงกับแบบนี้เข้าใจความรู้สึกของเก็นตะ และชิปโปกับคาโกเมะได้ขอร้องเส็ตโชมารูให้ช่วย


พ่อของเก็นตะ 甘太の父 『Kanta no chichi』[แก้]

ปีศาจตัวนากพ่อที่แสนใจดีของเก็นตะ เขาโดนฮักคุโดชิที่ค้นหาอะไรบางอย่างอยู่ตัดหัว และด้วยเหตุผลบางประการเขาได้รับการอนุเคราะห์จากเส็ตโชมารูในการชุบชีวิตกลับคืนมา พ่อของเก็นตะได้เล่าเรื่องในระหว่างที่หัวของเขากำลังเที่ยวไปในเส้นทางระหว่างพรมแดนของโลกนี้กับโลกหน้า ซึ่งเส็ตโชมารูและอินุยาฉะได้ฟังก็ทราบว่าที่แห่งนั้นคือสุสานของอินุไทโชบิดาของพวกเขา พ่อของเก็นตะเป็นผู้ที่ได้ชี้เบาะแสของแรงจูงใจในการกระทำของฮักคุโดชิ



โกสุ 牛頭 เมสุ 馬頭 『Gozu Mezu』[แก้]

คู่อารักษ์รูปปั้นหินลักษณะมนุษย์ยักษ์สูงยืนกระหนาบเฝ้าซ้ายขวาประตูทางเข้าสู่โลกหลังความตาย โกสุเมสุ ( 牛頭馬頭 , หัววัวหัวม้า ) พวกเขาจะถามผู้ที่มาว่า "ต้องการที่จะผ่านเข้าไปหรือไม่" อินุยาฉะ คาโกเมะและพรรคพวกไปที่นั่นแล้วพบว่าไม่สามารถทำอะไรอารักษ์ทั้งสองได้เพราะสิ่งที่เป็นสมบัติของโลกนี้ไม่อาจทำร้ายทั้งสองตน ขณะนั้นที่อินุยาฉะตัดโซ่ประตูขาดคางุระที่ซุ่มอยู่แถวนั้นได้สั่งให้สมุนปีศาจที่เธอพามาเข้าไปในประตูแต่ทุกอย่างที่โดนแสงจากประตูได้กลายเป็นหิน เหตุนี้พวกอินุยาฉะจึงรู้ตนได้ว่าไม่อาจผ่านเข้าไปโดยทางนี้แต่ในตอนที่ประตูเปิดนั้นเองคาโกเมะก็สัมผัสได้ถึงพลังของลูกแก้วสี่วิญญาณที่อยู่ด้านหลังของประตูพวกเขาจึงได้ไปหาทางอื่นกันแทน ฝั่งคางุระซึ่งหนีรอดมาได้นำความเรื่องเส้นทางนี้ไปบอกกับเส็ตโชมารู เมื่อเส็ตโชมารูมาถึงและสู้กับโกสุและเมสุ อารักษ์ถามคำถามเดิมและพูดว่าสิ่งที่เป็นของโลกฝั่งนี้ทำร้ายพวกเขาไม่ได้เส็ตโชมารูจึงชักดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นขึ้นมา โกสุ เมสุยอมรับและเคารพในผู้ครองสมบัติที่มีอำนาจเด็ดขาดของโลกอีกภพหนึ่งที่มีสิทธิ์เหนือกว่าพวกตนและคุกเข่าเชิญให้ผ่านประตูไป




เอบิ 阿毘 『Abi』, เอบิฮิเมะ 阿毘姫 『Abi-hime』[แก้]

เจ้าหญิงเผ่าวิหคอสูรที่มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับโลกหลังความตาย เอบิฮิเมะเป็นไดโยไค( 大妖怪 "Daiyōkai" )วิหคอสูร อยู่ในรูปแบบกายมนุษย์และเป็นผู้ควบคุมฝูงวิหคปีศาจไปล่ามนุษย์และนำเลือดไปใช้เจือจางพิษที่เท็กเคแม่ของเธอ และได้ปะทะกับพวกอินุยาฉะในระหว่างนั้น เอบิและแม่ถูกนาราคุใช้เป็นเบี้ยและตายเพื่อการเปิดทางไปสู่ลูกแก้วสี่วิญญาณชิ้นสุดท้าย


เท็กเค 鉄鶏 『Tekkei』[แก้]

แม่ของเอบิฮิเมะ เป็นไดโยไค( 大妖怪 "Daiyōkai" )วิหคอสูร ก่อนหน้าเท็กเคเพิ่งจะกินหัวหน้าเผ่าศัตรูแล้วติดพิษจึงเก็บตัวพักอยู่แต่ในภูเขาไม่ได้ออกหน้าฉากแล้วให้เอบิบุตรสาวนำลูกเผ่าไปล่ามนุษย์จำนวนมากเพื่อเอาเลือดมาเจือจางพิษในตน เท็กเคและเอบิฮิเมะได้ทำข้อตกลงกับนาราคุที่มาเสนอให้ความช่วยเหลือในการแก้พิษ แต่แล้วเมื่อพบข้อสงสัยในตัวนาราคุ เท็กเคกินนาราคุเข้าไปแล้วนั่นก็เป็นการจบชีวิตตนเอง นาราคุระเบิดเปิดหัวเท็กเคออกมาเลือดมากมายได้ไหลนองเป็นสายธารเป็นทางผ่านไปสู่โลกหลังความตาย



ลูกชายของโฮเซนกิ 宝仙鬼の息子 『Hōsenki no Musuko』[แก้]

เขาเป็นไดโยไค( 大妖怪 "Daiyōkai" ) อสูรหอยนางรม โฮเซนกิพ่อของเขาเป็นผู้ที่สร้างไข่มุกดำเม็ดที่เคยอยู่ในตาข้างขวาของอินุยาฉะ เพื่อขอความช่วยเหลือในการหาวิธีการผ่านไปยังดินแดนอีกโลกหลังความตายพวกอินุยาฉะมาหาที่ถิ่นของเขาเพื่อไข่มุกดำซักหนึ่งเม็ด แต่ก็ได้พบว่าโฮเซนกิผู้พ่อตายไปแล้ว และไข่มุกดำได้ใช้หมดไปแล้วเช่นกัน ลูกชายของโฮเซนกิที่รับหน้าที่ต่อจึงบอกเรื่องที่ช่วยไม่ได้กับพวกอินุยาฉะว่าถ้าต้องการมุกเม็ดใหม่ต้องรอการผลิตไปอีก100ร้อยปี


โฮเซนกิ 宝仙鬼 『Hōsenki 』[แก้]

โฮเซนกิสหายของอินุไทโช เป็นไดโยไค( 大妖怪 "Daiyōkai" ) อสูรหอยนางรมผู้รังสรรค์อัญมณีและยังเป็นผู้สร้างที่สร้างไข่มุกดำที่เคยอยู่ในนัยย์ตาขวาของอินุยาฉะ โฮเซนกิตอนที่ตายเขานึกว่าร่างหลังความตายของเขาจะได้อยู่อย่างสงบในโลกหลังความตายโดยตั้งใจไปอาศัยที่โครงกระดูกของสหายตน ทว่าได้มีเศษลูกแก้วสี่วิญญาณชิ้นหนึ่งตกลงมาที่ร่างส่วนกระโหลกของเขา




บท ความผิดพลาดในอดีตของนักบวชมิโรคุ[แก้]

นูชิ 主 『Nushi』[แก้]

นายของทะเลสาบใกล้บ้านชิมะ สองปีก่อนที่ชิมะป่วยหนักพ่อของชิมะได้รับยาและคำแนะนำจากมิโรคุให้ไปหาน้ำสะอาดมาใช้ต้ม พ่อของชิมะได้ไปนำน้ำจากทะเลสาบของนูชิและสัญญาว่าถ้าลูกสาวหายดีจะตอบแทนด้วยสิ่งที่ท่านต้องการ ฝ่ายนูชิที่เป็นนายแห่งทะเลสาบแห่งนั้นเป็นปีศาจปลาดุกเขาต้องการชิมะให้แต่งงานมาเป็นภรรยาของตนเป็นสิ่งตอบแทน ชิมะที่มารู้ภายหลังว่าเป็นพ่อเธอเองที่ไปสัญญาไว้เธอขอโทษนูชิแต่นูชิไม่ยอม


แม่ของชิมะ 志麻の母 『Shima no haha』[แก้]

แม่ของชิมะ ไม่ต้องการให้ลูกสาวแต่งงานกับนูชิ


พ่อของชิมะ 志麻の父 『Shima no chichi』[แก้]

พ่อของชิมะเป็นคนที่สัญญากับนายแห่งทะเลสาบ แต่เขารู้สึกเสียใจมากไม่อยากให่ชิมะแต่งงานกับปีศาจปลาดุกนูชิ เมื่อเขาเจอกับมิโรคุเขาขอให้มิโรคุช่วยแต่งงานกับลูกสาวเร็วๆ


ชิมะ 志麻 『Shima』[แก้]

หญิงสาวซึ่งอ้างว่าเคยนอนกับมิโรคุ ทำให้มิโรคุสับสนมึนงงมากว่าหญิงคนนี้หรือเคยเป็นของเขา แต่ที่จริงแล้วชิมะสมอ้างขึ้นเพื่อหนีการแต่งงานกับปีศาจปลาดุกที่กำลังจะมาทวงสัญญา ภายหลังเธอขอโทษซังโกะและอวยพรให้พวกเขาทั้งสองอยู่คู่กันอย่างมีความสุข




บท จะขออยู่กับท่านเส็ตโชมารูไปตลอดกาล[แก้]

อังโคคุคิ 音獄鬼 『Ongokuki』[แก้]

เป็นปีศาจทีลักพาตัวเด็กด้วยเสียงขลุ่ยเพื่อไปขายให้กับปีศาจตนอื่น คืนหนึ่งเขาลักพาตัวรินและพาไปไว้ในถ้ำเดียวกับเด็กคนอื่น ๆ ที่ถูกลักพามาก่อนหน้า แต่ไม่นานกลุ่มนักบวชล่าปีศาจซึ่งรับงานจากชาวบ้านก็มาล่าอังโคคุคิถึงหน้าถ้ำ แล้วอังโคคุคิก็ได้ถูกสังหาร (บทตอนเดียวในอินุยาฉะปีที่4 )


อุนไก 雲涯 『Ungai』[แก้]

นักบวช ที่มีชื่อเสียงในทางล่าอสูรปีศาจ เขาและกลุ่มของเขาจัดเป็นผู้มีฝีมือสูงและเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวบ้าน และมิโรคุที่เล่าว่าในนักบวชเป็นที่รู้กันดีว่าอุนไกนั้นมีคติความคิดกับพวกปีศาจอย่างรุนแรงเมื่อพบเจอเขาจะไม่ปล่อยเอาไว้ อุนไกและพวกพบเส็ตโชมารูตอนที่เส็ตโชมารูเพิ่งเสร็จจากเก็บกวาดฆ่าล้างพวกโจรป่าที่ไปบุกทำลายหมู่บ้าน ทีแรกอุนไกเข้าใจว่าเป็นอสูรตนนี้ที่ฆ่ามนุษย์จึงทำการโจมตีแต่เส็ตโชมารูก็หลบฉากออกไปพวกอุนไกจึงรู้ว่าที่ตายนั่นเป็นพวกโจรป่า เขาเจอกับรินที่มีกลิ่นไอปีศาจติดตัวในป่าจึงได้จะถามเธอแต่รินก็ขี่อะอุนเหาะจากไป โชคดีเมื่อได้พบกับพวกอินุยาฉะก็เป็นคืนเดือนดับพอดีแต่เขายังได้เตือนอินุยาฉะว่าให้ทิ้งดาบที่มีไอปีศาจนั่นไปและมองพวกชิปโป คิราร่าว่าก็เป็นปีศาจ มนุษย์ไม่ควรอยู่ร่วมกับปีศาจอสูรใด ๆ จากนั้นเมื่อเขาตามล่าปีศาจตามคำไหว้วานของชาวบ้านไปถึงถ้ำของอัคโคคุคิ ปีศาจผู้ลักพาเด็ก ๆ พวกของเขาได้สังหารมันแล้วช่วยเด็กๆออกมา หากทว่าในกลุ่มนั้นมีเด็กคนหนึ่งไม่ยอมออกมาจากถ้ำ และเด็กคนนั้นคือรินที่กำลังรอให้ท่านเส็ตโชมารูของเธอมารับ อุนไกและกลุ่มนักบวชจึงได้มีโอกาสทำการล้อมและพยายามจะปราบสังหารเส็ตโชมารู ในขณะนั้นพวกอินุยาฉะที่รู้ข่าวของรินจากจาเก็นก็รีบตามกลิ่นมาซุ่มรอดูว่า(นักบวช)จะรอดหรือไม่ จากเหตุการณ์ในบทนี้นักบวชอุนไกก็ดูจะได้เปิดมุมมองใหม่ในด้านอื่น ๆ ของอสูรปีศาจที่เขาเกลียดชัง




บท โกเรียวมารุ นักพรตล่าปีศาจ[แก้]

ยาโดริซานากิ 宿り蛹 『Yadori-sanagi』[แก้]

ปีศาจแมลงดักแด้ปรสิต นาราคุใช้พวกมันในการขโมยหินฟุโยเฮคิจากปีศาจภูเขา และสั่งให้คางุระและโคฮาคุกำจัดพวกมันเพื่อรักษาความลับ


ปีศาจภูเขา 岳山人 『Gakusanjin』[แก้]

กาคุซันจินเป็นเจ้าของหินฟุโยเฮคิ ซึ่งมีอยู่ในตัวเขาเอง กาคุซันจินใช้ฟุโยเฮคิเพื่อปกป้องตนเองปิดบังไอปีศาจของตนเองแล้วนอนหลับอย่างสงบนิ่งกับที่เหมือนภูเขาทั่วไป ก่อนที่นาราคุจะแย่งชิงเอามันไปจากเขาเพื่อใช้ปกปิดหัวใจของนาราคุเองจากพวกอินุยาฉะ จากนั้นไม่นานกาคุซันจินก็ถูกสังหารโดยกลุ่มนักพรตเด็กในสังกัดของโกเรียวมารุเพราะพวกเด็กเหล่านี้ไม่แยกแยะระหว่างปีศาจที่อันตรายหรือปีศาจที่ไม่มีพิษมีภัย พวกอินุยาฉะพบกาคุซันจินอีกครั้งเขาก็เป็นศพไปแล้ว


กลุ่มนักพรตเด็กฝึกหัด 行者 『Gyōja』[แก้]

เหล่าเด็กกำพร้าที่พ่อแม่ถูกปีศาจฆ่าตาย โกเรียวมารุได้รับมาดูแลและฝึกให้ล่าปีศาจ นักพรตเด็กเหล่านี้มีเจตนาดีในการฆ่าปีศาจเพื่อช่วยเหลือผู้คนแต่ปีศาจที่พวกเขาฆ่าไปมีทั้งปีศาจที่ชั่วร้ายและปีศาจที่บริสุทธิ์ พวกอินุยาฉะหลังจากทราบว่ากาคุซันจินถูกฆ่าจึงได้ตามมาตรวจสอบ เมื่อเด็กเหล่านี้เห็นคาโกเมะยืนขวางอินุยาฉะซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะกำจัดก็ขู่จะฆ่า ในภายหลังจากที่โกเรียวมารุตายเด็กเหล่านี้ก็ได้ถูกส่งไปยังอยู่ยังหมู่บ้านใกล้เคียง


โกเรียวมารุ 御霊丸 『Goryomaru』[แก้]

แต่เดิมเป็นนักพรตที่ถูกปีศาจกลืนกินแขนข้างหนึ่งไป แต่โกเรียวมารุได้ใช้มนต์สะกดปีศาจตนนั้นให้อยู่ในโอวาท และใช้พลังจากแขนปีศาจข้างนั้นในการปราบปีศาจ รับเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นสานุศิษย์เพื่อไปทำการล่าปีศาจโดยแจกน้ำเต้าบรรจุพลังแสงของแขนปีศาจให้ใช้สู้กับปีศาจ ต่อมาถูกสังหารโดยฮักคุโดชิและกลายร่างเป็นโมเรียวมารุ




บท ปีศาจหมาป่าจากทางตอนเหนือ[แก้]

โรโย 老狼 『Rōyō』[แก้]

ปีศาจหมาป่าที่หลบหนีการตามล่ามาจากทางเหนือถูกช่วยไว้โดยโคงะ แต่ไม่นานโรโยตายจากพิษบาดแผลที่ได้มาจากการปกป้องพี่หมาป่าของเขา


โชโร 長老 『Chōrō』[แก้]

ปู่ของอายาเมะผู้นำเผ่าหมาป่าปีศาจทางภาคเหนือ เขาอยู่ในร่างหมาป่าชราสีขาว โชโรอยากให้อายาเมะและโคงะแต่งงานกันเพื่อจะได้รวมเผ่าให้แข็งแกร่งขึ้น ในระหว่างหลบหนีพี่น้องหมาป่าของเขาโรโยปกป้องเขาจากการโจมตีทำให้เขารอดปลอดภัยมาได้



ไค 灰 『Kai』[แก้]

ไคและน้องชายชินตะเป็นปีศาจหมาป่าจากเผ่าทางตอนเหนือที่ถูกเล่นงานโดยเบียคุยะ พวกเขาหนีมาด้วยความเสียสละของปีศาจตนอื่นในเผ่า ไคได้รับบาดเจ็บจากการปกป้องน้องชายของเขา แต่แล้วน้องชายของเขาก็ถูกจับเป็นตัวประกัน เบียคุยะบังคับให้เขาไปฆ่าโคงะและเอาลูกแก้วสี่วิญญาณมาให้ แต่เขาไม่ทันได้สู้เวลาที่กำหนดก็หมดเสียก่อนไคจึงรีบกลับไปช่วยน้องชาย ในภายหลังเขาและน้องได้ไปเป็นแขกผู้ร่วมงานแต่งงานของโคงะที่เผ่าหมาป่าปีศาจของโคงะ


ชินตะ 芯太 『Shinta』[แก้]

ชินตะและพี่ชายของเขาไคเป็นปีศาจหมาป่าจากเผ่าทางตอนเหนือที่ถูกเล่นงานโดยเบียคุยะ ชินตะได้ถูกจับเป็นตัวประกันแลกกับการที่ให้พี่ชายของเขาไปหาโคงะให้ฆ่าแล้วนำเศษลูกแก้วสี่วิญญาณกลับมา แต่พี่ชายของเขาได้นำพาโคงะมาเพื่อพบกับชินตะที่กำลังจะถูกปีศาจแมลงกิน โคงะตรงเข้าไปช่วยเอาไว้ทันแต่ก็เสียเศษลูกแก้วสี่วิญญาณไป ในภายหลังเขาและพี่ได้ไปเป็นแขกผู้ร่วมงานแต่งงานของโคงะที่เผ่าหมาป่าปีศาจของโคงะ




บท ดาบปีศาจเกล็ดมังกร[แก้]

มูจินะ ムジナ 『Mujina』[แก้]

ปีศาจเพศชายที่ปลอมตัวเป็นเด็กผู้หญิงไปหลอกใช้ชิปโปให้นำดาบเขี้ยวอสูรมาให้ด้วยถูกใจในความแข็งแกร่งของดาบเล่มนั้นต้องการจะใช้ดาบเขี้ยวอสูรในการป้องกันตัวระหว่างออกเดินทางรอบโลก ดาบของมูจินะมีความสามารถในการใช้ดาบดูดซับพลังปีศาจของดาบคู่ต่อสู้ แต่ดาบนี้มันอ่อนแอเปราะบางเกินไปมันหักในการฟันกับดาบเขี้ยวอสูรของอินุยาฉะ แต่ว่าอินุยาฉะสนใจความสามารถนี้ของดาบอย่างมาก


โทชู 刀秋 『Tōshū』[แก้]

เป็นช่างตีดาบที่มูจินะขโมยไปใช้ โทชูเป็นคนธรรมดาที่เข้าใจในความอ่อนแอของความเป็นคน แต่เขาก็ไม่รู้ขีดจำกัดของร่างกายตนเอง หลังสร้างดาบปีศาจดักคิขึ้นจากเกร็ดของมนุษย์มังกรจนสำเร็จเขาพยายามเอาชนะดาบเขี้ยวอสูรเพื่อดูดพลังให้ดักคิ แล้วเขาก็ตายจากการใช้ดักคิ


ริวจิน 竜人 『Ryūjin』[แก้]

มนุษย์มังกรที่ถูกเรียกมาโดยโทชูในสนามรบ เขาให้โทชูตีดาบปีศาจดักคิขึ้นมาจากเกล็ดของเขา แต่เมื่อไปทวงดาบได้ถูกโทชูหลบหนี ริวจินโดนพลังคลื่นระเบิดของอินุยาฉะใส่โล่ของเขาแต่ริวจินตายเพราะโทชูใช้ดักดิฆ่าดูดพลังปีศาจกลายเป็นดักคิที่สมบูรณ์




บท การต่อสู้ของพี่น้องอสูรเงินและทอง[แก้]

กินกะ 銀禍 『Ginka』[แก้]

ฝาแฝดเงิน เป็นอสูรที่ควบคุมสายฟ้า เผ่าของพวกเขาเกิดมามีร่างกายเดียวกันพวกเขาพี่น้องจึงต้องต่อสู้กันจนกว่าอีกฝ่ายจะตาย ในระหว่างการต่อสู้ของทั้งสองไซเมียวโช คันนะ โมเรียวมารุก็โผล่มาและต้องการพลังของเลือดของพวกเขาไปใช้


คินกะ 金禍 『Kinka』[แก้]

ฝาแฝดทอง เป็นอสูรที่ควบคุมเปลวเพลิง เผ่าของพวกเขาเกิดมามีร่างกายเดียวกันพวกเขาพี่น้องจึงต้องต่อสู้กันจนกว่าอีกฝ่ายจะตาย ในระหว่างการต่อสู้ของทั้งสองไซเมียวโช คันนะ โมเรียวมารุก็โผล่มาและต้องการพลังของเลือดของพวกเขาไปใช้ คินกะรอดชีวิตอยู่ได้นานกว่ากินกะเล็กน้อย




บท แดนศักดิ์สิทธิ์ของอสูรเซียนปีศาจ[แก้]

เฮบิ อน นะ 蛇女 『Hebi-on'na』[แก้]

ปีศาจงูที่โยเรไทเซย์ใช้หลอกล่อทดสอบอินุยาฉะ ถูกวางบทเป็นแม่ที่กำลังป่วยของเก็นโนสุเกะ


เก็นโนสุเกะ 弦之介 『Gennosuke』[แก้]

ปีศาจตั๊กแตนที่โยเรไทเซย์หลอกล่อทดสอบอินุยาฉะ ถูกวางบทเป็นลูกชายที่ไปซื้อยาให้แม่ของเขา


โยเรไทเซย์ 妖霊大聖 『Yōreitaisei』[แก้]

จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ผู้ลึกลับ สถานะเป็นเทพเซียนฝ่ายอสูรปีศาจ โยเรไทเซย์คือคำเรียกขานที่ยิ่งใหญ่และดี แต่เมื่อมาเจอกับอินุยาฉะ เขาก็โดนอินุยาฉะจับบิดม้วนรวมไปถึงโดนยันหัวด้วยฝ่าเท้าตามฉบับวิสัยอินุยาฉะ โยเรไทเซย์เป็นผู้ฝึกสอนการใช้งานและควบคุมดาบเขี้ยวอสูรหลังจากที่พัฒนาไปเป็นรูปแบบดาบเขี้ยวอสูรเกล็ดมังกรแก่อินุยาฉะ




บท ปีศาจโครงกระดูก[แก้]

ปีศาจกระดูก 骨鬼 『Hone oni』[แก้]

โฮเนะโอนิ เธอปรากฏตัวในภาพลักษณ์ของหญิงสาวที่เดินทางคนเดียวและหลอกล่อชายหนุ่มที่หลงเชื่อมาเป็นเหยื่อ เธอมีวิธีการฆ่าโดยการฉีกกระดูกผ่านทางปาก อินุยาฉะและสหายของเขาเดินทางผ่านไปและพบสภาพของเหยื่อที่กระดูกหายไป เมื่อมิโรคุได้ยินว่ามีสาวสวยเขาก็ยืนยันทันทีว่าจะจัดการงานชิ้นนี้ พอดีคืนนั้นเป็นเดือนดับซึ่งอินุยาฉะต้องกลายร่างเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา คาโกเมะกับชิปโปเลยอยู่เฝ้าเป็นเพื่อนอินุยาฉะ เขาและซังโกะจึงเป็นเพียงสองคนที่ออกไปตามล่าปีศาจ ทั้งสองพบกันหญิงสาวซึ่งร้องไห้บอกว่าคฤหาสน์ได้ถูกครอบงำโดยปีศาจโครงกระดูกและพ่อแม่ของเธอถูกปีศาจนั้นฆ่าตาย แต่เมื่อมิโรคุไปที่โถงของคฤหาสน์ก็มีโครงกระดูกขนาดใหญ่โผล่ออกมา


ปีศาจกระดูกตนพ่อ 骨鬼の父 『Hone oni no chichi』[แก้]

โฮเนะโอนิ โนะ จิจิ ปีศาจกระดูกตนพ่อที่ซ่อนอยู่ตัวอยู่ในส่วนกลางของคฤหาสน์ ปีศาจกระดูกตนพ่อส่งลูกสาวออกไปล่ากระดูกของเหยื่อกลับมาเพื่อเสริมพลังปีศาจของของพวกเขา ปีศาจโครงกระดูกแพ้แสงและถูกจัดการในยามเช้า




เดอะมูฟวี่1 อินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน: สัมผัสรักข้ามเวลา [แก้]

เฮียวกะ 飛妖蛾 『Hyōga』[แก้]

ศัตรูเก่าของอินุไทโช เป็นไดโยไค( 大妖怪 "Daiyōkai" )หัวหน้าตระกูลอสูรผีเสื้อปีศาจ ที่ถูกปราบลงโดยอินุไทโชพร้อมกับเมโนมารุบุตรชายของเขา หลังจากเขาตายพลังอันมากมายมหาศาลของเขาก็ยังคงอยู่และมันถูกดูดซับไปโดยลูกชายของเขาในพิธีสืบทอดของตระกูลเฮียวกะ ลักษณะทางกายภาพตอนที่มีชีวิตอยู่ของเฮียวกะผู้พ่อมีเพียงการกล่าวถึงเป็นเรื่องราวในแบบภาพวาดเท่านั้น


เมโนมารุ 瑪瑙丸 『Menōmaru』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น โทโมกาซุ เซกิ
เมโนมารุเป็นไดโยไค( 大妖怪 "Daiyōkai" ) 200 ปีก่อนบิดาของเขานำทัพอสูรปีศาจจากแผ่นดินใหญ่ข้ามทะเลจีนและเกาหลีเข้ามาโจมตีญี่ปุ่น ปีศาจผีเสื้อมีเทคนิคการเพิ่มพลังให้ตนโดยการขโมยวิญญาณของผู้อื่น แต่พวกเขาถูกหยุดไว้โดยอินุไทโชครั้งที่มียังชีวิตดำรงตำแหน่งปกครองอสูรในดินแดนแถบที่ราบมุซาชิในสมัยนั้น พลังอำนาจของเฮียวกะได้ถูกเขี้ยวของอินุไทโชผนึกไว้ที่ต้นไม้โบราณ แต่เมื่อเศษลูกแก้วสี่วิญญาณถูกทำให้แตกเป็นเสี่ยงกระจายออกไปก็มีชิ้นส่วนหนึ่งไปตกที่ต้นไม้โบราณนั้น เมโนมารุจึงได้ฟื้นขึ้นมาและเริ่มลงมือสารต่อการณ์ในอดีต


รูริ 琉璃 『Ruri』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น เฮะกิรุ ชีนะ
หนึ่งในสองสมุนคนสนิทของเมโนมารุ เป็นผู้ที่ใส่ลูกปัดมางาตามะสะกดกับคิราร่าและคาโกเมะ ชีวิตของเธอจบสิ้นลงหลังถูกซังโกะโจมตีสวนกลับด้วยกระดูกบินผ่าร่างและได้โดนพลังการเรียกรวมวิญญาณของเฮียวกะเจ้านายของเธอเองดึงดูดวิญญาณออกไป


ฮาริ 玻璃 『Hari』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น โทโมโกะ คาวาคะมิ
หนึ่งในสองสมุนคนสนิทของเมโนมารุ เป็นผู้ที่ก๊อบปี้ลอกเลียนพลังช่องว่างแห่งลมของมิโรคุ และมีจุดจบที่โดนช่องว่างแห่งลมที่ก๊อบปี้มาดูดกลืนเข้าไป




เดอะมูฟวี่2 อินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน: ปราสาทดินแดนแห่งกระจก [แก้]

คางุยะ 神久夜 『Kaguya』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น มิเอโกะ ฮาราดะ
เจ้าหญิงคางุยะที่น่าจะเป็นเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ในตำนาน แต่เจ้าหญิงคางุยะซึ่งกลับมาที่โลกมนุษย์อีกครั้งกลับถูกปีศาจไดโยไค( 大妖怪 "Daiyōkai" )ตนนี้กลืนกินและใช้ร่างรูปลักษณ์สมบัติของเทพธิดา คางุยะผู้นี้ยังคงเรียกตนเองว่า"เทพธิดาแห่งดวงจันทร์" เธอมีพลังในด้านการสะกดเวลาโดยใช้ กระจกแห่งชีวิต( 命鏡 "มิคากามิ" ) และเพื่อหยุดการไหลของเวลาคางุยะตั้งใจจะตรึงโลกให้อยู่แต่ใน "คืนนิรันดร์" แต่อย่างไรก็ตามผ้าคลุมนางฟ้าที่เป็นแหล่งพลังงานหลักของคางุยะถูกขโมยไประหว่างที่เธออาบน้ำ ด้วยความโกรธแค้นคางุยะทำลายผู้คนในหมู่บ้านใกล้เคียงบริเวณนั้นฐานที่กล้าขโมยผ้าคลุมของเธอ และเหตุนั้นเองจึงได้ถูกขัดขวางโดยนักบวชมิยาสุ(ปู่ของมิโรคุ) และปิดผนึกคางุยะลงในกระจกของเธอเอง คางุยะตื่นขึ้นในกระจกแห่งชีวิตซึ่งถูกพบโดยคางุระและคันนะ คางุยะให้ทั้งสองไปหาห้าวัตถุห้าสิ่งมาปลดผนึกตน



อากิโทกิ โฮโจ 北条秋時 『Akitoki Hōjō』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ยูจิ อุเอดะ
ผ้าคลุมนางฟ้าที่ถูกขโมยมาจากคางุยะตกทอดมาในตระกูลของเขา โฮโจคนนี้คาโกเมะเห็นทีแรกเธอนึกว่าเป็นคนที่เธอรู้จัก แต่เมื่อคิดดูแล้วคาโกเมะให้ข้อสรุปว่าเขาคงเป็นบรรพบุรุษของโฮโจคุงเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอไม่ผิดแน่นอน เขาหลงรักคาโกเมะแต่รู้ตัวว่าไม่สมหวัง เรื่องราวภายหลังเขาขอให้ภรรยาเปลี่ยนชื่อจากสุซาคุเป็นคาโกเมะ(เรื่องราวส่วนนี้อยู่ใน อินุยาฉะปี4 ช่วงตอนที่137)




เดอะมูฟวี่3 อินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน: อภินิหารดาบครองฟ้าดิน [แก้]

เซตสึนะ โนะ ทาเคมารุ 刹那の猛丸 『Setsuna no Takemaru』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ยาสึโนริ มัทสึโมโตะ
คนรู้จักของเจ้าหญิงอิซาโยอิ ชายผู้ที่หลงรักอิซาโยอิจนขาดสติ แม้หลังจากที่อิซาโยอิตั้งครรภ์กับอินุไทโชและใกล้จะคลอดอินุยาฉะเขาก็ยังคิดว่าตนอาจมีสิทธิ์ครอบครองเจ้าหญิงและไม่ยอมปล่อยเธอเป็นอิสระ เขาจับทัพล้อมตัวปราสาทที่เจ้าหญิงอยู่และสั่งให้จุดไฟเผาไม่ยอมให้จ้าวอสูรฝ่าเข้าไปช่วยเจ้าหญิงได้ แต่เมื่ออินุไทโชมาถึงได้ใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นชุบชีวิตเจ้าหญิงอิซาโยอิฟื้นกลับมาและให้นางหนีไปพร้อมกับอินุยาฉะที่เพิ่งเกิด นั่นเป็นการทำลายความหวังของเขา ทาเคมารุผู้ถูกฟันแขนซ้ายขาดได้สิ้นชีวิตลงพร้อมอินุไทโชซึ่งเจ็บสาหัสมาก่อนหน้าในปราสาทที่ลุกโชติช่วง จนกระทั่งในยุคปัจจุบันของคาโงเมะเมื่อ "ดาบเขี้ยวเมฆาคลั่ง"(โซอุนกะ) ของอินุไทโชตื่นขึ้น ดาบเขี้ยวเมฆาคลั่งได้มองหาใครซักคนที่เหมาะจะช่วงใช้มันและทาเคมารุได้ถูกปลุกชีพขึ้นมา พร้อมด้วยการใช้พลังจากขุมนรกอันโดดเด่นของโซอุนกะปลุกซากทัพเหล่าทหารเพื่อต่อกรสู้กับบุตรชายของอินุไทโชผู้ที่เขาอาฆาตมาดแค้น


โซอุนกะ 叢雲牙 『Sō'unga』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ฟูมิฮิโกะ ทาจิกิ
โซอุนกะหรือดาบเขี้ยวเมฆาคลั่ง คือหนึ่งในสามดาบ(ซึ่งประกอบด้วยดาบ เท็ตไซกะ(เขี้ยวอสูร) เท็นเซย์กะ(เขี้ยวฟ้าฟื้น) โซอุนกะ(เขี้ยวเมฆาคลั่ง)) อันเป็นที่รู้จักในนามดาบครองโลกทั้งสาม(โลกมนุษย์ สวรรค์ นรก)ที่ทรงพลังของอินุไทโช โซอุนกะไม่ใช่ดาบที่สร้างขึ้นจากเขี้ยวของอินุไทโชเหมือนอย่างดาบอีกสองเล่ม โซอุนกะเป็นดาบโบราณที่มีอยู่มาเก่าก่อนสถิตด้วยวิญญาณมังกรปีศาจร้ายจากนรกภูมิ ซึ่งดาบเล่มนี้ได้เป็นที่แย่งชิงของผู้ที่ต้องการครองโลกด้วยการก่อมรสุมโลหิต จนกระทั่งอินุไทโชได้สยบมันลง แต่แล้วเมื่อขุนพลสุนัขอสูรอินุไทโชตายลงดาบเขี้ยวเมฆาคลั่งก็ปราศจากนายแห่งดาบที่จะคอยควบคุมช่วงใช้ พวกโทโตไซจึงได้ลงมติปิดผนึกดาบเล่มนี้ไว้แล้วโยนลงบ่อกลืนกระดูกโดยซายะรับปากว่าจะผนึกมันให้เท่าที่ทำได้ประมาณ 700 ปี และต่อมาในยุคปัจจุบันของคาโงเมะ(เมื่อนับจากการผนึกดาบนั้นเป็นเวลา 700 ปี) โซอุนได้กะหลุดจากการผนึกและได้กลับมาที่ยุคสงครามพร้อมกับอินุยาฉะ(ที่ยุคสงครามเป็น 200 ปีหลังจากการผนึกดาบ)ด้วยอำนาจชั่วร้ายของมันที่ขาดซึ่งเจ้าของที่มีพลังมากพอจะควบคุม ทว่าโซอุนกะไม่อาจอยู่บงการใช้ร่างอินุยาฉะได้นานเพราะเส็ตโชมารูและคาโงเมะมาหยุดมันไว้ ภายหลังจากนั้นโซอุนกะได้ปลุกชีพทาเคมารุขึ้นมาให้ต่อสู้กับเส็ตโชมารูและอินุยาฉะสองพี่น้อง หลังจากทาเคมารุพ่ายแพ้โซอุนกะทำการเปิดทางเชื่อมเขตแดนสู่นรกภูมิขึ้นมาบนโลกมนุษย์โดยตรงและหากปล่อยให้เมื่อใดดินแดนของคนเป็นกับคนตายเชื่อมรวมเป็นหนึ่งก็จะเป็นเวลาซึ่งไม่มีสิ่งมีชีวิตของทางฝั่งโลกมนุษย์ที่จะทนอยู่ได้ โซอุนกะสิ้นท่าลงด้วยความร่วมมืออย่างหาได้ยากยิ่งของอินุยาฉะและเส็ตโชมารูในการยินยอมใช้พลังลงดาบร่วมด้วยในที่สุด




เดอะมูฟวี่4 อินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน: เปลวเพลิงแห่งเกาะลี้ลับ [แก้]

เซเท็น 斉天 『Seiten』[แก้]

เจ้าของปืนใหญ่ไซเท็นโฮ เขาเคยเป็นอสูรในปกครองของอินุไทโชหลังการสิ้นชีวิตของเจ้านายเขาและคุจากุต้องการไปจัดการกับพวกจตุรเทพอสูรสงครามจึงไปขอให้เส็ตโชมารูช่วยไปกำจัดปีศาจร้ายพวกนั้น อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รับคำตอบอย่างที่เป็นโดยปกติคือพวกเขาไม่ได้รับการแยแส เซเท็นและคุจากุทั้งสองตัดสินใจไปจัดการเอง และได้ถูกเคียวระฆ่า


คุจากุ 紅邪鬼 『Kujaku』[แก้]

เจ้าของพัดคุจากุเซน เขาเคยเป็นอสูรในปกครองของอินุไทโชหลังการสิ้นชีวิตของเจ้านายเขาและเซเท็นต้องการไปจัดการกับพวกจตุรเทพอสูรสงครามจึงไปขอให้เส็ตโชมารูช่วยเป็นผู้นำไปกำจัดปีศาจร้ายพวกนั้น แต่แม้จะรู้ว่าเป็นความต้องการก่อนหน้าของอินุไทโชผู้เป็นท่านพ่อของเขาเส็ตโชมารูก็ไม่แยแสมากมาย(แต่ยังอุตส่าห์ตามไปดูเงียบ ๆ) เซเท็นและคุจากุทั้งสองตัดสินใจไปจัดการเอง คุจากุได้ถูกเคียวระฆ่า แต่ด้วยความภักดีและรู้สึกผิดเขาได้ขอโทษท่านเส็ตโชมารูเป็นประโยคสุดท้ายก่อนตาย



คานาเดะ 奏 『Kanade』[แก้]

มิโกะผู้คุ้มครองแห่งเกาะโฮไร เพื่อไม่ให้จตุรเทพอสูรสงครามสร้างความเดือดร้อนที่ไหนได้เพิ่มเติมเธอสละชีวิตตนเองพร้อมกับการผนึกปีศาจร้ายเหล่านี้ไว้ให้อยู่แค่ที่เกาะโฮไร


อะซากิ 浅葱 『Asagi』[แก้]

เด็กลูกครึ่งอสูรในเกาะโฮไร เธอโตที่สุดในกลุ่ม อาซากิมีบทบาทเป็นพี่คนโตดูแลน้อง ๆ

ได 橙 『Dai』[แก้]

เด็กลูกครึ่งอสูรในเกาะโฮไร ไดเป็นฝาแฝดกับโรคุ

โรคุ 緑 『Roku』[แก้]

เด็กลูกครึ่งอสูรในเกาะโฮไร โรคุเป็นฝาแฝดกับไร

โมเอกิ 萌黄 『Moeg』[แก้]

เด็กลูกครึ่งอสูรในเกาะโฮไร โมเอกิเป็นเด็กที่พูดน้อยนุ่มนวล เป็นคนเสนอความคิดเห็นให้ต่อแพเพื่อออกจากเกาะ

ชิอน 紫苑 『Shion』[แก้]

เด็กลูกครึ่งอสูรในเกาะโฮไร ชิอนเป็นเด็กที่ฉลาด เงียบและขี้อายที่สุดในกลุ่ม

ไอ 藍 『Ai』[แก้]

เด็กลูกครึ่งอสูรในเกาะโฮไร ไอเป็นน้องสาวคนเล็กของกลุ่ม



จตุรเทพอสูรสงคราม 四闘神 『Shitōshin』[แก้]

กลุ่มไดโยไค( 大妖怪 "Daiyōkai" ) ปีศาจอสูรสี่ตนที่อ้างตนเป็นเทพโจมตียึดเกาะโฮไรซึ่งมีผู้อาศัยอยู่ทั้งมนุษย์อสูรและบรรดาเด็ก ๆ ครึ่งอสูร จตุรเทพอสูรสงครามได้ถูกคานาเดะมิโกะระดับสูงแห่งเกาะโฮไรผนึกไว้ด้วยเตากังสดาล แต่ในทุก50ปีทางเข้าของเกาะแห่งนี้จะเปิดขึ้นหนึ่งครั้งจตุรเทพอสูรสงครามจึงได้วางแผนหาทางออกไปเป็นอิสระโดยอาศัยช่วงเวลานั้น ไปบังคับเชิญด้วยสัญลักษณ์กับผู้ที่พวกเขาคิดจะใช้เป็นเครื่องมือ อย่าง อินุยาฉะ คิเคียว และเส็ตโชมารู
จูระ 獣羅 『Jūra |สัตว์ร้าย』
อสูรพยัคฆ์ได้ร่วมมือกับโกระในการต่อสู้ที่บริเวณชายหาดเกาะโฮไร จูระถูกสังหารโดยพลังของโกระที่ถูกมิโรคุใช้พลังช่องว่างแห่งลมเบี่ยงทิศทางมาและซังโกะใช้กระดูกบินปิดฉาก
โกระ 剛羅 『Gōra |แข็งแกร่ง』
อสูรเต่าที่เคยดูดเลือดของคิเคียวไปใช้สร้างเป็นร่างโคลนเพื่อจะใช้ปลดผนึกอาคมที่ขังพวกเขาไว้ โกระเป็นผู้ที่ต่อสู้กับมิโรคุและซังโกะจากในทะเล เกราะของโกระแข็งแกร่งเกินไป เขาตายด้วยพลังคลื่นระเบิดของอินุยาฉะ
เคียวระ 凶羅 『Kyōra |โชคร้าย』
อสูรวิหคไฟผู้กระตือรือร้นในการเอาชนะคู่ต่อสู้ เป็นผู้ที่ไปทำสัญลักษณ์เส็ตโชมารูและได้ต่อสู้กับศัตรูตนเดียวกันกับที่ไปเชิญที่บริเวณของเตากังสดาล สุดท้ายเคียวระโดนพลังคลื่นมังกรฟ้าของเส็ตโชมารูทำลายจนไม่เหลือซาก
ริวระ 龍羅 『Ryūra |มังกร』
ผู้นำกลุ่มจตุรเทพอสูรสงคราม อสูรมังกรนักรบที่แข็งแกร่งเป็นผู้ที่ต่อสู้กับอินุยาฉะท่ามกลางเด็ก ๆ ครึ่งอสูรและคาโกเมะที่บริเวณใจกลางหมู่บ้านในเกาะ ริวระโดนลูกฮึดของอินุยาฉะเกือบจะเอาชนะ เขาได้รวมพลังของจตุรเทพอสูรสงครามกลายเป็นเป็นร่างอสูรสี่หน้าสี่กร คาโกเมะได้ใช้คันธนูที่คิเคียววางทิ้งไว้ให้ใช้ศรศักดิ์สิทธิ์กับอินุยาฉะที่ใช้พลังคลื่นระเบิดทำลายริวระในร่างชิโตชิน





อื่นๆ ศัตรูเก่าของอินุไทโช[แก้]

ริวคตสึเซย์ 竜骨精 『Ryūkotsusei』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น คาซึฮิโกะ อิโนะอุเอะ
ภูตมังกรกระดูก ริวคตสึเซย์เป็นไดโยไค( 大妖怪 "Daiyōkai" )มังกรที่เคยคุกคามที่ราบมุซาชิในอดีตจนถูกอินุไทโชปราบลงและผนึกไว้ที่หน้าผา ไดโยไคตนนี้คือคู่ต่อสู้ที่สร้างบาดแผลสาหัสแก่อินุไทโชบิดาของเส็ตโชมารูและอินุยาฉะ ซึ่งอาการสาหัสนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อินุไทโชถึงแก่ความตาย ภูตมังกรกระดูกตื่นขึ้นมาจากสะกดเพราะโดนหุ่นอาคมแทนตัวของนาราคุปลุก หลังจากทำลายหุ่นอาคมของนาราคุแล้วริวคตสึเซย์ตัดสินใจที่จะฆ่าลูกชายคนเล็กของศัตรูเก่าเพื่อความบันเทิงใจ แต่ด้วยบาดแผลลึกที่ได้มาจากการโดนเล็บอินุไทโชผนึกก็ทำให้เขามีจุดอ่อนร้ายแรง ริวคตสึเซย์จึงโดนอินุยาฉะที่มาหาทางทำให้ดาบเขี้ยวอสูรเบาลงฆ่าตายด้วยพลังไหลระเบิด(หรือในบทพากษ์ "พลังคลื่นระบิด")



ชิชินกิ 死神鬼 『Shishinki』[แก้]

อสูรภูติผีแห่งความตาย ชิชินกิ เป็นไดโยไค( 大妖怪 "Daiyōkai" )ที่มาหาเรื่องเส็ตโชมารูว่าเดิมวิชาพลังปรภพเป็นพลังวิชาของเขาแต่ถูกอินุไทโชที่ต่อสู้กับเขาครั้งนั้นใช้วิธีแย่งชิงไป เขาได้ยุแยงอย่างเย้ยหยันแก่เส็ตโชมารูว่าพลังปรภพ(หรือ"จันทร์เสี้ยวปรภพ" ซึ่งเป็นคำที่ใช้ส่วนใหญ่ของบทพากย์ไทย)ของดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นของเส็ตโชมารูนั้นยังไม่สมบูรณ์ ชิชินกินั้นได้แสดงพลังปรภพในแบบของตนให้เห็นและสามารถเปิดโพรงปรภพได้ทีหนึ่งหลายโพรงด้วยรูปแบบทรงกลมจันทร์ที่เต็มดวงอีกด้วย แม้เมื่อเทียบกันมันมีขนาดเส้นศูนย์กลางเล็กกว่าจันทร์เสี้ยวปรภพของดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นที่เส็ตโชมารูใช้อยู่มาก สถานการณ์นี้อินุยาฉะที่เป็นเจ้าของดาบเขี้ยวอสูร และสมาชิกทั้งสองกลุ่มอีกทั้งเมียวกะอยู่ร่วมเหตุการณ์ระหว่างนั้นชิชินกิได้เอ่ยถึงความลับของดาบเขี้ยวทั้งสองเล่มต่อหน้าสองพี่น้อง สุดท้ายด้วยความอ่อนด้อยประมาทไม่ประมาณตนของชิชินกิเอง เขาจึงถูกส่งเข้าไปในปรภพด้วยพลังแบบของเขาเอง ส่วน ข้ารับใช้ของชิชินกิ( 死神鬼のアシスタント) ที่เขาได้ส่งมาลองเชิงและหลอกล่อบทบาทหมดไปตั้งแต่ทีแรกที่โดนโจมตี




อื่นๆ ผู้ใช้พลังวิญญาณ จิตวิญญาณ เซียนฤๅษี และมิโกะ[แก้]

มิโดริโกะ 翠子 『Midoriko』[แก้]

ผู้เป็นผู้ให้กำเนิดลูกแก้วสี่วิญญาณ มิโดริโกะ คือ มิโกะที่มีพลังวิญญาณแข็งแกร่งและมีพลังชำระล้างสูงส่งที่สุดในอดีตซึ่งเป็นที่เกรงขามหวาดกลัวของบรรดาปีศาจ จนปีศาจเหล่านั้นรวมกลุ่มกันเพื่อสังหารเธอ ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ณ โถงถ้ำแห่งหนึ่งการต่อสู้ของเธอดำเนินไปถึง 7วัน7คืน ถึงจะเก่งกล้าแค่ไหนด้วยว่าตัวของมิโดริโกะเป็นมนุษย์ร่างกายกับจิตใจย่อมอ่อนล้า เธอเสียท่าถูกปีศาจที่รวมตัวกันกลืนกินเข้าไปในปากของมัน มิโดริโกะใช้ความพยายามครั้งสุดท้ายดึงหัวใจของมันใส่เข้าไปในร่างกายตนเองแล้วหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณของตัวเธอเอง การกระทำนี้ทำให้กำเนิดลูกแก้วสี่วิญญาณ ( 四魂の玉 "ชิกอน โนะ ทามะ" ) ขึ้นมา มิโดริโกะและเหล่าปีศาจถูกขังอยู่ในตัวลูกแก้วสี่วิญญาณและยังคงต่อสู้กันเรื่อยมาถึงปัจจุบัน ศพของมิโดริโกะกลายเป็นหินมัมมี่ถ้ำแห่งนั้นอยูที่บริเวณหมู่บ้านนักล่าปีศาจของซังโกะ



อัซซึสะยามะ โนะ เซเรย์ 梓山の精霊 『Azusayama no seirei』[แก้]

จิตวิญญาณแห่งเขาอัซซึสะ เป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งขุนเขา ปรากฏตัวเมื่อคาโกเมะผ่านเขตอาคมเข้ามาที่เขาอัซซึสะและต้องการมานำ คันธนูศักดิ์สิทธิ์แห่งเขาอัซซึสะ( 梓山長弓 "อัซซึสะยามะ โชคิว") ไป โดยได้แปลงเป็นคิเคียวและทำการทดสอบคาโกเมะ



ยาคุโรโดคุเซน 薬老毒仙 『Yakurōdokusen』[แก้]

เซียนแพทย์พิษฤๅษีขี้เมา อายุ2000+ ปีศาจที่ช่วยซังโกะในการซ่อมแซมกระดูกบินที่เสียหายอย่างหนักกลับขึ้นมาใหม่และทำให้กระดูกบินมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิมด้วยการดูดซับและแพร่พิษทำให้กระดูกบินสามารถใช้โจมตีนาราคุผ่านเขตอาคมเข้า ยาคุโรโดคุเซนยังให้ยากับมิโรคุที่ไม่ได้ช่วยรักษาแผลแต่จะทำให้ไม่เจ็บปวดใด ๆ



ฮิโตมิโกะ 瞳子 『Hitomiko』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ฟูมิโกะ โอริคาสะ
มิโกะที่ได้รับความนับถือและมืพลังอำนาจในระดับเดียวกับคิเคียว สิบห้าปีก่อนสมัยที่เธอยังเป็นเด็กเล็กนาราคุไม่อยากมีปัญหายุ่งยากเมื่อเธอโตขึ้นเขาจึงได้วางแผนมาสกัดกั้นฮิโตมิโกะไว้ โดยในเวลานั้นเธอกำลังเล่นกับเพื่อนด้วยเพลงที่ร้องว่า"คาโกเมะ คาโกเมะ" แต่เมื่อหันไปกลับเป็นนาราคุที่ยืนอยู่ตรงนั้น แม้เธอจะยังเด็กแต่ก็มีพลังพอจะปกป้องตนเองหากแต่เพื่อน ๆ ของเธอได้ถูกฆ่าตายโดยนาราคุ อาจารย์ของเธอซึ่งได้ช่วยเธอไว้ถูกนาราคุฆ่าตายได้สั่งเสียไว้ว่าในอนาคตเภทภัยจะเพิ่มมากขึ้นให้ระวังตัวและเขาได้ส่งมอบ กระพรวนเทพบันเทิง( 神楽鈴 "คากุระซูสุ" ) ซึ่งเป็นอาวุธแก่ฮิโตมิโกะซึ่งยังเป็นเด็กน้อย สิบห้าปีต่อมาในขณะที่ฮิโตมิโกะพยายามจะช่วยพวกชาวบ้านโดยไม่รู้ว่านั่นเป็นกับดักของนาราคุ เมื่อรู้ตัวมันก็สายเกินไปชีวิตของเธอจบลง แต่เมื่อเธอจะตายได้สั่งเสียให้ชาวบ้านตัดหัวของเธอแล้วให้ฝังแยกกับตัวเพื่อไม่ให้มีใครใช้ประโยชน์จากศพของเธอได้ แต่พวกชาวบ้านไม่ได้ทำตามเพราะคิดว่ามันไม่ควรทำอย่างนั้น ไม่กี่วันต่อมาคาโกเมะได้เดินทางมาถึงแล้วร่างและวิญญาณของฮิโตมิโกะก็โดนนาราคุนำมาใช้งานบังคับให้เล่นงานคาโกเมะ




อื่นๆ อสูร ปีศาจ และมนุษย์ที่กลายเป็นปีศาจ[แก้]

หน้ากากกินเนื้อ 肉付きの面 『Nikudzukinomen』[แก้]

หน้ากากละคร โนห์ ( 能 "Nō" ) ต้องสาป เกิดมาจากต้นไม้กินคนที่มีเศษลูกแก้วสี่วิญญาณชิ้นหนึ่งฝังอยู่จากห้าร้อยปีก่อนในยุคสงครามซึ่งโดนนำมาทำเป็นหน้ากาก มันโดนปิดผนึกอยู่ในกล่องและฝากศาลเจ้าฮิงุราชิให้ปัดเป่ามาตลอดจนกระทั่งพลังของเศษของเศษลูกแก้วสี่วิญญาณที่คาโกเมะพกมาในยุคสมัยปัจจุบันไปกระตุ้นมันเข้า หน้ากากได้ออกมาหาร่างกายโดยการกลืนร่างของมนุษย์ ถูกอินุยาฉะกำจัดในบริเวณตึกที่กำลังก่อสร้าง



โรยากัน 狼野干 『Rōyakan』[แก้]

ปีศาจหมาป่าผู้พิทักษ์แห่งป่ามีนิสัยดี โรยากันรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณอินุไทโชและเส็ตโชมารูที่เคย(มีส่วน)ช่วยเขาเอาไว้ ต่อมาเมื่อพบกับอินุยาฉะโรยากันถูกนาราคุทดลองฝังปีศาจรากหัวบิน(飛頭根 Hitōkon)และเศษลูกแก้วสี่วิญญาณทำให้อาละวาด อินุยาฉะต่อสู้และถอนรากไม้ออกจากหัวของโรยากันเขาจึงกลับมาเป็นปีศาจหมาป่าใจดีหัวอ่อนตามปกติ



ปีศาจตั๊กแตนตำข้าว 妖怪蟷螂 『Ookamakari』[แก้]

ปีศาจตั๊กแตนตำข้าวที่ปลอมตัวเป็นหญิงสาวเดินทางลำพังหลอกล่อชายหนุ่มให้หลงติดกับและกิน โอคามาคาริตนนี้ถูกจัดการด้วยช่องว่างแห่งลม แต่ขณะที่โดนดูดไปในช่องว่างปีศาจตั๊กแตนได้ฝากรอยแผลไว้ที่ช่องว่างแห่งลมของมิโรคุ



สึโบสึไค 壷使い 『Tsubo Tsukai』[แก้]

ปีศาจที่เลี้ยงแมลงปีศาจพิษไว้ใน ไหแมลง( 蠱壺蟲, 蠱壷虫(ここちゅう) "Kokochu" ) ของมันแล้วใช้เล่นงานศัตรู สึโบ สึไค รับงานจากนาราคุมาเล่นงานมิโรคุที่วัดของมุชิน ตายด้วยกระดูกบินของซังโกะ



โคโดกุ 蠱毒 『Kodoku』[แก้]

ปีศาจตนสุดท้ายที่สู้ชนะและอยู่รอดจากการถูกนำมาผนึกขังรวมกันไว้หลายร้อยตัวแล้วปล่อยให้ต่อสู้เข่นฆ่ากลืนกินกันเองจนกว่าจะเหลือเพียงแค่หนึ่งเดียวที่แข็งแกร่งมีพิษร้ายแรงที่สุด นักบวชมิโรคุและมิโกะคิเคียวมีความรู้ทราบว่าเป็นศาสตร์อวิชชาใด ในขณะที่อินุยาฉะไม่รู้ว่ามันคืออะไรและเป็นอันตรายอย่างไรแล้วโดดลงไปสู้กับมัน โคโดกุ (ในเนื้อเรื่องอนิเมะในไทยเรียกมันว่า หนอนพิษ) คือศาสตร์แห่งพิษ คุณไสยมนตร์ดำชนิดหนึ่งในญี่ปุ่นที่ใช้สรรค์สร้างหนอนแมลงพิษหรือเรียกได้ว่าทำให้กลายเป็นปีศาจอสุรกาย (ศาสตร์เช่นเดียวกันกับ 蠱 gǔ "กู่" อวิชชาพิษ ไสยเวทย์ดำอันเลื่องลือในดินแดนแถบเหมียวเจียงในจีน) เป็นการใช้ไสยเวทย์สายดำชนิดหนึ่ง นาราคุใช้โคโดกุในการสร้างร่างพิษขึ้นใหม่ที่มีความร้ายกาจขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่ร่างกายของนาราคุโดนพลังจากศรของคาโงเมะทำลายไปในครั้งหนึ่ง



แมลงส่งวิญญาณขนาดใหญ่ 巨大死魂虫 『Kyodai Shini dama chuu』[แก้]

แมลงส่งวิญญาณขนาดใหญ่มีลักษณะลำตัวสีแดงเข้มยาวคล้ายงูอาศัยอยู่ในทะเลสาบ มันถูกรบกวนโดยแมลงพิษชของนาราคุ และเข้าโจมตีโดยต้องการจะกินวิญญาณที่มีอยู่กับคิเคียวทั้งหมด เคียวไดชินิทามะจูถูกอินุยาฉะฆ่า



กาเทนมารุ 蛾天丸 『Gatenmaru』[แก้]

ปีศาจมอด(ตัวมอดแมลง)ที่ปลอมตัวใช้ชีวิตเป็นหัวหน้าพวกโจรป่าและให้ลูกน้องจับหญิงสาวชาวบ้านมาให้โดยที่พวกโจรไม่รู้ว่าหัวหน้าของตนเป็นปีศาจที่เพื่อดูดเลือดและพลังชีวิตของพวกผู้หญิงที่จับมา คนที่ถูกดูดพลังร่างกายไปร่างกายจะเหี่ยวแห้งและตายลงอย่างรวดเร็ว หลังจากอินุยาฉะที่มากับคาโกเมะเปิดเผยว่ากาเทนมารุเป็นปีศาจอินุยาฉะโดนเขาขังไว้ในรังใหมพิษ เมื่ออินุยาฉะออกมาพร้อมกับการตื่นขึ้นของสายเลือกอสูร แล้วกาเทนมารุก็ถูกอินุยาฉะฆ่า



หมาปีศาจ 山犬妖怪 『Yamainu yōkai』[แก้]

ปีศาจหมาภูเขา(ชนิดที่มีหน้าตาร่างจริงของปีศาจเป็นญาติ ๆ กับพวกหมาป่าสีน้ำตาล) ยามะอินุโยไคสิงศพเจ้าหญิงและล่อลวงชาวบ้านเพศชายเพื่อที่จะกิน ได้ถูกซังโกะกำจัดเนื่องจากต้องการให้มิโรคุเป็นเหยื่อคนสุดท้าย



นานาฟุชิ ナナフシ 『Nanafushi』[แก้]

ปีศาจแมลงที่ต่อสู้กับอินุยาฉะ และแวบเดียวตายด้วยแผลแห่งลม



บุนสะ ブンザ 『Bunza』[แก้]

ปีศาจแมวป่าชนิดหนึ่ง ด้วยตัวเล็ก ๆ เขาได้ออกเดินทางฝึกฝนวิชา เจอกับอินุยาฉะที่บ้านของโทโตไซและรู้สึกทึ่งอินุยาฉะที่เป็นครึ่งอสูรที่มีวิชาความสามารถดีขนาดนั้น หลังจากอินุยาฉะช่วยเหลือเขา บุนสะก็ได้เป็นเพื่อนกับอินุยาฉะ



ปีศาจพังพอน 巨大なイタチ妖怪 『Kyodaina itachi yōkai』[แก้]

พังพอนปีศาจที่โจมตีหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ถ้ำของมัน ได้ปลอมตัวเป็นมิโรคุโดยตั้งใจจะกินซาจิ แต่ก็ได้พบกับความหวาดต่อช่องว่างแห่งลมของมิโรคุจนหนีไป



ลิงบาบูนปีศาจ ひひの妖怪 『Hihi no yōkai』[แก้]

ปีศาจลิงในป่าที่กินมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ขนาดเล็กกว่าตนเอง พวกอินุยาฉะได้กลิ่นคิราร่ามาจากฮิฮิโนะโยไคจึงเข้าใจว่ามันกินคิราร่าซังโกะโกรธมากและฆ่ามัน



การามารุ 蛾羅丸 『Garamaru』[แก้]

ปีศาจมอดพี่ชายของกาเทนมารุ ในตอนที่อินุยาฉะและพรรคพวก ถูกขังอยู่ในป่าของความโศกเศร้าเมื่อพบหน้ากับการามารุพวกเขาเข้าใจว่าเป็นปีศาจมอดตนน้องที่ชื่อกาเท็นมารุ การามารุโมโหและมีแผนที่จะกินเลือดและหัวใจพวกเขาแต่หลังจากที่กลายร่างเป็นร่างที่แท้จริงก็ถูกอินุยาฉะสังหาร



ซุชิเนซึมิ 厨子鼠 『Zushinezumi』[แก้]

ปีศาจหนูเจ้าของศาลเจ้าหนู ซุชิเนซึมิได้โดนฮัคคุโดชิสังหารเพียงเพราะเขาเป็นเจ้าของกล่องหนูสัตว์ร้ายที่ไม่ว่าจะฆ่าเท่าไหร่ก็เพิ่มจำนวนตามชิ้นส่วนที่ถูกหั่นไป แผนใช้หนูแพร่ระบาดก่อความวุ่นวายนี้ไปทั่วทำไปเพื่อการล่อให้คิเคียวออกมา



เมโอจู 冥王獣 『Meiōjū』[แก้]

ปีศาจที่มีเกราะแข็งแกร่งมากแม้แต่พลังอสูรลิ่มเพชรของดาบเขี้ยวอสูรก็โจมตีไม่เข้า เมโอจูถูกโมเรียวมารูดูดกลืน



ปีศาจหมาป่าสามหัว 三つ首の狼 『Mittsu kubi no ōkami』[แก้]

ปีศาจผู้พิทักษ์ของสุสานเผ่าหมาป่าปีศาจ โคงะสู้กับปีศาจหมาป่าสามหัวเพื่อจะนำโกไรชิสมบัติของเผ่าพันธุ์ไปใช้



โยเมจุ 溶命樹 『Yōmeiju』[แก้]

ปีศาจต้นไม้กินเนื้อที่ใช้การทำละลายดูดกลืนสารอาหารถูกมิโกะ(จากภาพในอนิเมะน่าจะเป็นคิเคียว)ปิดผนึกไว้เมื่อห้าสิบปีก่อน มันตื่นขึ้นมาเพราะเศษลูกแก้วสี่วิญญาณและกินนักบวชไปจนพวกอินุยาฉะมาถึงและจะสยบมันแต่โยเมจุได้ถูกนาราคุดูดกลืนไปก่อนภายใต้ความไม่เข้าใจของพวกอินุยาฉะ นาราคุใช้มันในการกลืนทารกอากาโกะที่ซ่อนตัวอยู่ภายในโมเรียวมารุกลับคืนสู่ร่าง



คาโอ 花皇 『Kaō』[แก้]

ปีศาจดอกไม้ที่ดูดกลืนความเศร้าโศกเสียใจของผู้คนเป็นอาหาร คาโอพบกับพวกอินุยาฉะหลังการแตกสลายสิ้นไปของตัวตนคิเคียว เขามีความสำเร็จในการทำให้พวกอินุยาฉะตกอยู่ในภวังค์ที่เขาสร้างขึ้น แต่ไม่นานมันก็ถูกทำลายและอินุยาฉะโกรธมากที่คาโอมาใช้ความเศร้าของเขาเป็นอาหาร



มิสุชิ 蛟 『Mizuchi』[แก้]

งูน้ำปีศาจเพศชายที่ใช้พิษ มิสุชิมันใช้ลมหายใจพิษของมันสู้กับอินุยาฉะ และอินุยาฉะฆ่ามันโดยดาบเขี้ยวอสูร (ตัวละครนี้มีบทบาทเฉพาะในมังงะ)



นิโคะเซน 二枯仙 『Nikosen』[แก้]

เดิมเป็นนักบวช เขาเริ่มดูดซับพลังชีวิตจากต้นไม้เพื่อความเป็นอมตะในระหว่างนั้นรูปร่างหน้าตาเขาก็เปลี่ยนไปมีลักษณะเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ขึ้นร่างกายเป็นไม้และมีใบหน้าของชายชราที่มีตาปูดโปนน่าเกลียด นิโคเซนตัดสินใจจะกินอินุยาฉะและคาโกเมะ แต่สุดท้ายก็ถูกฆ่าโดยดาบเขี้ยวอสูรเกล็ดมังกรของอินุยาฉะ (ตัวละครนี้มีบทบาทเฉพาะในมังงะ)



นูมะวาตาริ 沼渡 『Numawatari』[แก้]

เป็นปีศาจในบ่อน้ำที่จะสามารถจะย้ายตนเองจากบ่อหนึ่งไปอีกบ่อหนึ่ง มันกินทุกอย่างที่เข้าใกล้มันไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ เนื่องจากรินอยากดื่มน้ำ ริน จาเก็น ได้เข้าไปใกล้บ่อแต่เส็ตโชมารูหยุดเธอไว้ กลุ่มของอินุยาฉะที่มาถึงได้เข้าไปหามันแทนเนื่องจากได้รับการไหว้วานจากชาวบ้านในหมู่บ้านให้มาดู นูมะวาตาริเป็นปีศาจที่มีลักษณ์คือน้ำการโจมตีต่าง ๆ ด้วยดาบเขี้ยวอสูรทั้งพลังคลื่นระเบิด พลังอสูรลิ่มเพชร ที่อินุยาฉะพยายามโจมตีไปทำอะไรมันไม่ได้ มีแต่ดาบเขี้ยวอสูรเกร็ดมังกรที่พอจะดูดซับพลังปีศาจของนูมะวาตาริได้แต่พลังปีศาจมีขนาดใหญ่เกินไป มิโรคุพยายามจะช่วยแม้เขาจะถูกเพื่อน ๆ บังคับให้หยุดเพราะกลัวแผลแห่งลมจะเร่งขยายใหญ่อีก สุดท้ายเส็ตโชมารูทำลายปีศาจตนนี้โดยใช้จันทร์เสี้ยวปรภพที่ยังไม่สมบูรณ์ของดาบเขี้ยวฟ้าฟิ้นส่งน้ำทั้งหมดที่เป็นลักษณ์ของนูมะวาตาริไปยังปรภพ (ตัวละครนี้มีบทบาทเฉพาะในมังงะ)



เน โนะ คุบิ 根の首 『Ne no Kubi』[แก้]

ครั้งหนึ่งเนโนะคุบิเคยถูกผนึกโดยคิเคียวก่อนที่เธอจะได้พบกับอินุยาฉะ 50 ปีต่อมันมันหลุดออกมาจากผนึกและออกฆ่าคนเพื่อฟื้นคืนความแข็งแกร่ง มันต้องการค้นหาคิเคียวและแย่งชิงลูกแก้วสี่วิญญาณที่อยู่ในการพิทักษ์ของเธอโดยที่มันไม่รู้ว่าคิเคียวได้ตายไปแล้วและลูกแก้วสี่วิญญาณก็ได้หายสิ้นไปพร้อมกับการตายของนาราคุแล้ว ที่หมู่บ้านเนโนะคุบิเข้าโจมตีคาโกเมะซึ่งมีลักษณะหน้าตาและพลังวิญญาณคล้ายกันกับคิเคียว สุดท้ายหัวของมันถูกลูกธนูของคาโกเมะยิงใส่และถูกกำจัดโดยอินุยาฉะ (จากมังงะตอนพิเศษ ตอนที่ 559)




อื่นๆ มนุษย์ และ วิญญาณ[แก้]

ริคิชิ 利吉 『Rikichi』[แก้]

ชาวบ้านในหมู่บ้านของคาเอเดะ ริคิชิเป็นผู้ช่วยและคนงานของหมู่บ้าน (เขามีส่วนร่วมในการนำกลุ่มชาวบ้านสกัดปีศาจตะขาบในตอนแรกของเรื่องและเขามีบทชัดอีกครั้งในอินุยาฉะเดอะมูฟวี่1)



โคทัตสึ 紅達 『Kōtatsu』[แก้]

จิตกรยากไร้ที่หลงใหลท่านหญิงคนที่ช่วยหยุดยามที่ตีเขาหน้าปราสาท เขาใช้หมึกเลือดในการวาดภาพและเรียกปีศาจให้มีตัวตนออกมาจากภาพที่วาดได้ โคทัตสึวางแผนลักพาตัวท่านหญิงไปเป็นภรรยา เขาหมกมุ่นอยู่กับการวาดและเก็บสังเวยเลือด พยายามสู้กับพวกอินุยาฉะด้วยปีศาจจากภาพวาดของเขาแต่สู้ไม่ได้จึงได้สังเวยเลือดของตนให้กับน้ำหมึก แต่แล้วแทนที่มันจะไปช่วยเพิ่มพลังให้หมึกเลือดกลับกลืนกินชีวิตของโคทัตสึเอง หลังเขาสิ้นคิดเสียท่าสังเวยตนเองไป อินุยาฉะ คาโกเมะ ชิปโปและมิโรคุจึงพบว่าสาเหตุที่ทำให้หมึกนี้วิเศษขึ้นมาก็ด้วยมีเศษลูกแก้วสี่วิญญาณชิ้นหนึ่งอยู่ในกระบอกหมึก



ไทจิ 太一 『Taichi』[แก้]

เด็กที่ช่วยพันแผลให้โคฮาคุ เขาเป็นบุตรชายคนตัดไม้ ภายหลังไทจิโดนปีศาจควบคุมให้ทำร้ายพ่อของเขาเอง โคฮาคุที่เคยเกิดเหตุการณ์คล้าย ๆ กันและซังโกะที่มาตามน้องได้ช่วยไทจิเอาไว้ แต่ในอนิเมะคากุระเป็นผู้ที่จัดการกับปีศาจด้วยพลังของเธอและพาโคฮาคุไป



โคฮารุ 小春 『Koharu』[แก้]

เด็กสาวกำพร้าที่เคยพบกับมิโรคุที่แบ่งอาหารให้เธอและสัญญาว่าจะกลับมารับ สามปีต่อมาเธอหนีมาจากเจ้านายที่ไล่ล่าและพบกับมิโรคุอีกครั้งในกลุ่มของพวกอินุยาฉะ พวกอินุยาฉะที่ได้รับฟังเรื่องราวก่อนหน้าของทั้งสองรู้สึกรังเกียจมิโรคุมากเพราะตอนนั้นโคฮารุอายุเพียง11ปีแต่มิโรคุกลับเพียงแค่แบ่งอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วยังทำเคยนิสัยไปพร่ำเพรื่อให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ กับเด็กสาวขอให้เธอออกลูกให้อีก จากนั้นโคฮารุได้ถูกคันนะร่างแยกของนาราคุดึงวิญญาณเข้าไปในกระจกและสะกดให้เธอโจมตีมิโรคุ แต่คาโกเมะแก้ทางได้ด้วยลูกธนูยิงไปที่กระจกแล้ววิญญาณทั้งหมดก็ทะลักออกมา โคฮารุตื่นขึ้นมาเป็นปกติแล้วรู้ตัวว่าแล้วเธอนั้นอกหักแต่ก็ยังคงภาวนาให้มิโรคุประสบความสำเร็จในการปราบนาราคุ



โคยูกิ 小雪 『Koyuki』[แก้]

โคยูกิเป็นผู้ที่ช่วยชีวิตมิโรคุไว้เมื่อเจ็ดปีก่อน เมื่อมิโรคุพบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เหมือนกับโคยูกิเธอได้พามิโรคุไปที่บ้านของเธอที่มีเด็ก ๆ หลายคน เธอบอกว่าเด็กเหล่านี้เป็นลูกของเขามิโรคุอยู่ที่บ้านของเธอคอยดูแลเด็ก ๆ พวกซังโกะอินุยาฉะมองเห็นว่าเด็กเหล่านั้นเป็นลูกหิมะ พวกเขาช่วยกันจนสามารถปลดปล่อยวิญญาณของโคยูกิจากปีศาจหิมะซึ่งเข้าครอบงำเธอในบางครั้ง



โอคุงาตะ 奥方 『Okugata』[แก้]

ท่านหญิงเจ้าของปราสาทที่คลอดลูกเป็นลูกกรอก(เด็กตายในท้อง) เธอกลายเป็นเหยื่อของอากาโกะที่คันนะพามาให้ดูแลโดยปรับเปลี่ยนความทรงจำให้แทนที่ลูกของเธอว่ายังมีชีวิตอยู่ และแม้หญิงคนนี้จะตายหลังจากนั้นร่างของเธอที่ตายแล้วยังได้รับหน้าที่อุ้มทารกซึ่งก็คือตัวอากาโกะในตอนที่อากาโกะจะหาช่องว่างแทรกไปควบคุมความมืดดำในจิตใจของคาโกเมะ




อื่นๆ เพื่อนนักเรียนของพี่น้องบ้านฮิงุราชิ[แก้]

โฮโจ 北条 『Hōjō』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ยูจิ อุเอดะ
เพื่อนร่วมชั้นของคาโกเมะ ที่มีความสนใจคาโกเมะเป็นพิเศษ เขาเป็นคู่แข่งทางความรักเพียงคนเดียวของอินุยาฉะในโลกยุคปัจจุบันนี้แม้เขาไม่เคยพบกับอินุยาฉะเลย ถึงเขาจะชวนคาโกเมะไปเที่ยวไปดูหนังบ่อยครั้งแต่คาโกเมะมักลืมเรื่องของโฮโจคุงทุกครั้งเพราะเธอมัวยุ่งอยู่กับเรื่องราวในยุคสงคราม เขาเอาของมาฝากให้คาโกเมะเสมอ เป็นพวกของเพื่อสุขภาพ ตามข้อมูลจากคุณปู่ของคาโกเมะที่เอาเรื่องสุขภาพมาอ้างในการหยุดเรียนของหลาน บรรพบุรุษในยุคสงครามของโฮโจคุง คือ อากิโทกิ โฮโจ


อายูมิ あゆみ 『Ayumi』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น นามิ โอคาโมโตะ
เพื่อนร่วมชั้นของคาโกเมะ อายูมิเป็นหนึ่งในสามเพื่อนในกลุ่มที่สนิทที่สุด เธอสนับสนุนคาโกเมะให้คบกับอินุยาฉะมากที่สุดในกลุ่ม อายูมิผมหยักศกสีดำยาวประบ่า


ยูกะ 由加 『Yuka』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น คาโอริ ชิมิซึ
เพื่อนร่วมชั้นของคาโกเมะ ยูกะเป็นหนึ่งในสามเพื่อนในกลุ่มที่สนิทที่สุด ในตอนแรก ๆ เธอ เอริและบางทีอายูมิร่วมด้วยไม่สนับสนุนคาโกเมะกับอินุยาฉะ เพราะคิดว่าโฮโจคุงมีดีน่าคบกว่า แต่เธอเปลี่ยนใจหลังได้พูดคุยกับอินุยาฉะ ยูกะผมตรงสีน้ำตาลเข้มตัดสั้น


เอริ 絵理 『Eri』[แก้]

ให้เสียงโดย
ญี่ปุ่น ยุกิ มาซุดะ
เพื่อนร่วมชั้นของคาโกเมะ เอริเป็นหนึ่งในสามเพื่อนในกลุ่มที่สนิทที่สุด ในตอนแรก ๆ เธอ ยูกะและบางทีอายูมิร่วมด้วยไม่สนับสนุนคาโกเมะกับอินุยาฉะ เพราะคิดว่าโฮโจคุงมีดีน่าคบกว่า แต่เธอเปลี่ยนใจหลังได้พูดคุยกับอินุยาฉะ เอริผมตรงสีดำยาวประบ่าและใส่ที่คาดผม



มากิ マキ 『Maki』[แก้]

เพื่อนร่วมชั้นของคาโกเมะ ที่ต้องรับบทตัวเอกฝ่ายหญิงในละครเวทีแต่เธอข้อเท้าบิดเสียก่อนทำให้บทนี้เป็นของคาโกเมะที่ต้องขึ้นเล่นแทน มากิมีผมสั้นสีดำ



ฮิโตมิ 瞳 『Hitomi』[แก้]

เพื่อนร่วมชั้นของโซตะน้องชายคาโกเมะ และเธอเป็นแฟนคนแรกของโซตะ ในการเอาชนะความกลัวเข้าไปจีบเธอคนนี้โซตะต้องใช้ความพยายามอย่างมากเขาไปขอคำแนะนำจากอินุยาฉะ