องเมียว

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

องเมียวโด (ญี่ปุ่น: 陰陽道โรมาจิOnmyōdō) หรือในประเทศไทยนิยมเรียกว่า องเมียว คือ รูปแบบวิชาเวทมนตร์โบราณแขนงหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีรากฐานมาจากโหราศาสตร์และลัทธิเต๋าในประเทศจีน

วิถีแห่งองเมียว[แก้]

คาดว่าเข้ามาสู่ญี่ปุ่นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 ก่อนจะผสมผสานเข้ากับความเชื่อ วิถีชีวิต ขนบประเพณีของชาวญี่ปุ่นจนมีรูปแบบที่เฉพาะตัว โดยเชื่อว่าสรรพสิ่งประกอบด้วยธาตุทั้งห้า อันได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ไม้ และเหล็ก และมีพลังเป็นบวกหรือลบ (หยิน-หยาง) ที่จะสร้างความสมดุลให้เกิดความรุ่งเรือง หรืออาจต่อต้านกันจนเกิดหายนะได้ ผู้ที่ศึกษาความสัมพันธ์ดังกล่าวอย่างถ่องแท้ย่อมหยั่งรู้และนำพลังธรรมชาติมาเป็นอำนาจของตนได้ รูปแบบเวทมนตร์นั้นมีทั้งการทำพิธีปัดเป่าโรคภัย พิธีบูชาเทพยดา การปลุกเสกยันต์ เครื่องราง การควบคุมภูตผี ตลอดจนการสาปแช่ง เป็นต้น ซึงเป็นลักษณะความเชื่อของศาสนาชินโต ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้นอย่างยิ่ง เช่น การเพาะปลูกซึ่งพึ่งพาการทำนายสภาพอากาศ การประกอบพิธีเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของพืชผลต่าง ๆ ตลอดจนการทำพิธีปัดเป่าสิ่งอัปมงคลที่ทำให้เกิดเภทภัยต่าง ๆ โดยเฉพาะการทำนายโชคชะตาตามตำราอี้จิง ซึ่งถือเป็นวิชาทำนายอีกรูปแบบหนึ่งที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป

เป็นเวลาหลายศตวรรษที่องเมียวค่อย ๆ ลดบทบาทเรื่องเวทมนตร์และผสมผสานเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับศาสนาชินโต ทว่าปัจจุบัน พิธีกรรมสำคัญหลายพิธีกรรมยังจำเป็นต้องให้นักพรตองเมียวเป็นผู้ประกอบพิธีอยู่

นอกจากนี้ชาวญี่ปุ่นยังได้ถ่ายทอดตำนาน เรื่องเล่า และความเชื่อเกี่ยวกับองเมียวไว้หลายวิธีทั้งการเล่าสืบต่อกันมา การบันทึก เช่นในหนังสือคอนจาคุโมโนกาตาริ (Konjaku Monogatarishū) ที่รวบรวมเรื่องราวบางตอนซึ่งเกี่ยวข้องกับองเมียวไว้ หรือการนำองเมียวไปใช้ในการสร้างการ์ตูนหรือภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งนอกจากจะให้ความบันเทิงแล้ว ยังเป็นการประยุกต์ที่น่าสนใจ เพราะนำความทันสมัยมาใช้อนุรักษ์วัฒนธรรมโบราณอันสะท้อนความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พลังและธาตุ[แก้]

หยิน-หยาง (yin-yang) พลังซึ่งคู่กัน หากเท่ากันจึงจะสร้างความสมดุล เช่น บวก-ลบ ชาย-หญิง พระอาทิตย์-พระจันทร์ ร้อน-หนาว กลางวัน-กลางคืน เป็นต้น (สิ่งแรกในแต่ละคู่คือหยาง อีกสิ่งคือหยิน) ภาพวงกลมสีขาว-ดำ คือ สัญลักษณ์ของคู่พลัง และเป็นสัญลักษณ์ของลักธิเต๋าเช่นกัน

ธาตุทั้งห้า ความสัมพันธ์ของธาตุทั้งห้าถือเป็นหลักสำคัญขององเมียว นอกจากนี้ ฮวงจุ้ย ตำราแพทย์จีนโบราณ และศาสตร์ต่าง ๆ ของประเทศแถบตะวันออกจำนวนมากล้วนมีพื้นฐานมาจากความสัมพันธ์นี้ ซึ่งอธิบายได้ว่า ทุกสิ่งจะมีธาตุเจ้าเรือนของตน หากจัดความสัมพันธ์ให้ถูกต้องย่อมนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ รุ่งเรือง โดยน้ำดับไฟ ไฟหลอมเหล็ก เหล็กตัดไม้ ไม้ทำลายดิน และดินกั้นน้ำ

องเมียวจิ ผู้ฝึก องเมียว[แก้]

องเมียวจิ (Onmyoji) นักพรตผู้ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ตามวิถีแห่งองเมียว อยู่ในชุดแขนเสื้อยาว สวมหมวกทรงสูง นักพรตองเมียวที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดได้แก่ อาเบโนะ เซย์เมย์

อาเบโนะ เซย์เมย์ (Abeno Seimei) นักพรตองเมียวที่มีชื่อเสียงที่สุดในสมัยเฮอัน มีชีวิตในช่วงปี 921 - 1005 ตำนานเล่าว่ามารดาของท่านคือสุนัขจิ้งจอก (ชาวญี่ปุ่นถือว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่มีเวทมนตร์) แรกเริ่มท่านศึกษาโหราศาสตร์จากอาจารย์คาโมโนะ ทาดะยุกิ (Kamono Tadayuki) ต่อมาจึงขึ้นรับตำแหน่งผู้นำขององเมียวซึ่งขึ้นตรงต่อราชสำนัก ท่านสร้างชื่อเสียงจากการใช้วิชาองเมียวในการทำนายภัยพิบัติทางธรรมชาติ

คำว่า "องเมียว"[แก้]

คำว่า องเมียว (陰陽) ในภาษาญี่ปุ่น เขียนเหมือนกับคำว่า "หยินหยาง" (陰陽) ในภาษาจีน ซึ่งมีความหมายเหมือนกันคือศาสตร์เกี่ยวกับโหราศาสตร์และศาสตร์ของเต๋า ในประเทศญี่ปุ่น ใช้ คำว่า องเมียวโด (คันจิ: 陰陽道, ฮิรางานะ: おんみょうどう ,โรมะจิ: Onmyōdō) ซึ่งหมายถึง วิชาเกี่ยวกับองเมียว (โดย "โด" หมายถึงวิชา เหมือน ยูโด หรือ เคนโด) และ องเมียวจิ (คันจิ: 陰陽師, ฮิรางานะ: おんみょうじ, โรมะจิ: Onmyōji) คือ บุคคลที่ฝึกฝนวิชาองเมียว นอกจากนี้ คำอ่านคำว่า องเมียวโด (陰陽道) ในภาษาญี่ปุ่นเขียนที่เขียนในตัวอักษรคันจิสามารถอ่านได้สองแบบคือ องเมียวโด และ องโยโด (おんようどう, โรมะจิ: On'yōdō) และเช่นเดียวกับ องเมียวจิ กับ องโยจิ

ดูเพิ่ม[แก้]