ระบบฟิวดัล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ระบบฟิวดัล ระบบเจ้าครองนคร หรือที่รู้จักกันในชื่อระบบเจ้าขุนมูลนาย หรือบ้างใช้ว่า ศักดินาสวามิภักดิ์ (อังกฤษ: feudalism) คือระบอบการปกครองในอดีตเป็นระบบการเมืองที่ผสมผสานระหว่างขนบธรรมเนียมทางกฎหมาย เศรษฐกิจ การทหารและวัฒนธรรมที่รุ่งเรืองในทวีปยุโรปยุคกลางตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ถึง 15[1][2]

การแต่งตั้งอัศวิน

พื้นฐานและที่มา[แก้]

ระดับชั้นในระบบเจ้าขุนมูลนายของตะวันตกเป็นระบบสังคมและเศรษฐกิจที่เป็นระบบที่ใช้ในสังคมของยุโรปอย่างกว้างขวางในยุคกลาง หัวใจของระบบคือการมอบดินแดนให้เป็นการแลกเปลี่ยนกับการสนับสนุนทางการทหาร

ธรรมชาติของระบบเจ้าขุนมูลนายเป็นระบบที่สร้างระดับชั้นในสังคม ที่ผู้มีส่วนร่วมต่างก็ทราบฐานะและหน้าที่ของตนในระบบสังคมนั้น ว่ามีความเกี่ยวข้องและรับผิดชอบต่อผู้ใดที่เหนือกว่า และต่ำกว่าตนเองอย่างใด การรักษาความสัมพันธ์ดังว่าเป็นไปตามการสืบดินแดนตามกฎบัตรต่าง ๆ หรือประเพณีที่วางไว้อย่างเคร่งครัด แต่กฎของประเพณีอันสำคัญที่สุดและปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดที่สุดคือกฎสิทธิของบุตรคนแรกซึ่งหมายความว่าสมบัติ/ที่ดินทุกอย่างของผู้ที่เสียชีวิตต้องตกเป็นของบุตรชายคนโตเท่านั้น

บุคคลในสังคมระบบเจ้าขุนมูลนายเป็น "บริวาร" (vassal) หรือ "ข้า" ของประมุข ฉะนั้นจึงต้องสาบานความภักดีต่อประมุข ผู้ที่มีความรับผิดชอบและหน้าที่ในการพิทักษ์และรักษาความยุติธรรมให้แก่ผู้อยู่ภายใต้การปกครอง สังคมเจ้าขุนมูลนายเป็นสังคมที่สมาชิกในสังคมมีความภักดีและหน้าที่รับผิดชอบต่อกันและกัน เป็นสังคมที่ประกอบด้วยผู้ครองดินแดนผู้เป็นทหารและชนชั้นแรงงานที่เป็นเกษตรกร ขุนนางที่เป็นผู้ครองดินแดนที่ว่านี้ก็รวมทั้งบิชอปเพราะถือเป็นผู้ครองดินแดนเช่นเดียวกับขุนนางฆราวาส ชนชั้นที่ต่ำที่สุดในระบบนี้คือเกษตรกร หรือ villeins ต่ำกว่านั้นก็เป็นข้าที่ดิน (serfs)

ระบบเจ้าขุนมูลนายรุ่งเรืองมาจนกระทั่งเมื่อระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเพราะขุนนางท้องถิ่นถูกลิดรอนอำนาจไปให้กษัตริย์ที่ส่วนกลาง โดยก่อนหน้านั้นผู้มีอำนาจที่แท้จริงคือขุนนางผู้ครองดินแดน ผู้มีเกษตรกรอยู่ภายใต้การปกครองผู้มีหน้าที่เสียค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ระบบการศาลก็เป็นระบบที่ทำกันในท้องถิ่นที่ปกครอง ระบบก็จะมีความแตกต่างกันออกไปบ้างแต่โดยทั่วไปแล้วเกษตรกรก็จะมีที่ดินทำมาหากินในแปลงเล็กๆ หรือแปลงที่ร่วมกันทำกับผู้อื่นที่ใช้เป็นที่ปลูกพืชสำหรับตนเองและครอบครัว และมีสิทธิที่จะหาฟืนจากป่าของผู้ครองดินแดนมาใช้ โดยระบบที่ใช้กันมากคือระบบการแบ่งที่ดินเป็นผืนยาว ๆ รอบดินแดนของแมเนอร์

ระบบเจ้าขุนมูลนายตะวันตกที่วิวัฒนาการขึ้นในขณะที่บ้านเมืองอยู่ในสภาพอันระส่ำระสายในคริสต์ศตวรรษที่ 8 ในฝรั่งเศส ทำให้สร้างความมีกฎมีระเบียบขึ้นบ้าง การเป็นเจ้าของดินแดนก็อาจจะได้มาโดยการยินยอมหรือการยึดครอง ผู้ครองดินแดนใหญ่ ๆ อาจจะได้รับหน้าที่ทางกฎหมายและทางการปกครองจากรัฐบาลกลางพอสมควร เมื่อมาถึงระดับดินแดนในปกครองผู้ครองดินแดนก็อาจจะทำข้อตกลงกับเจ้าของดินแดนที่ย่อยลงไปอื่น ๆ ในการก่อตั้งกองทหารท้องถิ่นเพื่อการป้องกันตนเอง ระบบศักดินาเป็นระบบที่มีกฎหมายและจารีตที่เป็นของตนเองที่มามีบทบาทอันสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของยุโรปในยุคกลาง ระบบศักดินานำเข้ามาใช้ในอังกฤษโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษในปี พ.ศ. 1609 แต่ทรงลิดรอนอำนาจจากขุนนางที่เป็นบริวารของพระองค์เป็นอันมากและใช้ระบบการบริหารจากส่วนกลาง ระบบศักดินามีองค์ประกอบสามอย่าง: เจ้าของที่ดิน, ที่ดิน และ รัฐบาล สมาชิกในระบบศักดินารวมทั้งพระมหากษัตริย์ผู้เป็นประมุขของระบบ แต่ละคนต่างก็มีอภิสิทธิ์แตกต่างกันไปตามที่ระบุตามกฎระบบศักดินาในการรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่กำหนด

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "The Problem of Feudalism: An Historiographical Essay", by Robert Harbison, 1996, Western Kentucky University.
  2. Charles West, Reframing the Feudal Revolution: Political and Social Transformation Between Marne and Moselle, c. 800–c. 1100 (Cambridge: Cambridge University Press, 2013).