ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศาลเจ้าอิตสึกูชิมะ"
Dinamik-bot (คุย | ส่วนร่วม) ล โรบอต เพิ่ม: hu:Itsukushima szentély |
ล โรบอต แก้ไข: fi:Itsukushima-jinja; ปรับแต่งให้อ่านง่าย |
||
บรรทัด 60: | บรรทัด 60: | ||
{{มรดกโลกญี่ปุ่น}} |
{{มรดกโลกญี่ปุ่น}} |
||
{{coor title dms|34|17|45|N|132|19|11|E|region:JP_type:landmark}} |
{{coor title dms|34|17|45|N|132|19|11|E|region:JP_type:landmark}} |
||
[[หมวดหมู่:มรดกโลกในประเทศญี่ปุ่น]] |
[[หมวดหมู่:มรดกโลกในประเทศญี่ปุ่น]] |
||
[[หมวดหมู่:มรดกโลกทางวัฒนธรรม]] |
[[หมวดหมู่:มรดกโลกทางวัฒนธรรม]] |
||
บรรทัด 72: | บรรทัด 73: | ||
[[es:Santuario Itsukushima]] |
[[es:Santuario Itsukushima]] |
||
[[fa:معبد ایتسوکوشیما]] |
[[fa:معبد ایتسوکوشیما]] |
||
[[fi:Itsukushima]] |
[[fi:Itsukushima-jinja]] |
||
[[fr:Itsukushima-jinja]] |
[[fr:Itsukushima-jinja]] |
||
[[he:מקדש השינטו באיטסוקושימה]] |
[[he:מקדש השינטו באיטסוקושימה]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 03:24, 3 สิงหาคม 2553
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ศาลเจ้าอิตสึกูชิมะ * | |
---|---|
แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก | |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ (厳島神社 อิสึกุชิมะจิ้นจะ Itsukushima Jinja)เป็นศาลเจ้าลัทธิชินโตบนเกาะอิทสึกุ เมืองฮะสึไคจิ จังหวัดฮิโระชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก และรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกฐานะอาคารต่างๆในศาลเจ้าให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น
ประวัติความเป็นมาของศาลเจ้าย้อนหลังไปได้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 การก่อสร้างสำเร็จจนมีลักษณะอย่างในปัจจุบันตั้งแต่ปี พ.ศ. 1711 โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากแม่ทัพคิโยโมริ ศาลเจ้าแห่งนี้เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของเกาะ ในอดีตชาวบ้านสามัญชนจะถูกห้ามไม่ให้ย่างเท้าขึ้นบนเกาะ และต้องเดินทางโดยเรือผ่านเสาประตูที่ลอยอยู่กลางทะเล
เสาโทริอิของศาลเจ้าอิสึกุชิมะเป็นจุดท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และทิวทัศน์ของเสาประตูที่อยู่หน้าภูเขามิเซนบนเกาะ ยังได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น (Three Views of Japan) เสาโทริอิถูกสร้างขึ้นในบริเวณนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1711 แต่เสาที่เห็นในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2418 ตัวเสาทำจากไม้การบูร มีความสูงประมาณ 16 เมตร มีเสาเล็กๆเป็นฐานรองอีก 4 เสา
ในเวลาที่น้ำขึ้น เสาโทริอิจะดูเหมือนลอยอยู่กลางทะเล เมื่อน้ำลง จะปรากฏให้เห็นพื้นโคลนเลนที่เสาตั้งอยู่ และสามารถเดินเท้าไปจากเกาะได้ ผู้มาเยือนมักจะวางเหรียญเงินไว้ที่ขารองเสาแล้วอธิษฐานขอพร การเก็บหอยเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่เป็นนิยมเวลาน้ำลง และเวลากลางคืนจะมีแสงไฟจากชายฝั่งส่องไปที่เสาให้ดูงดงามยิ่งขึ้น
การรักษาความสะอาดบริสุทธิ์ในศาลเจ้าถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนปี พ.ศ. 2421 ภายในศาลเจ้าจะไม่มีการอนุญาตให้มีการเกิดและการตาย แม้จนทุกวันนี้การฝังศพบนเกาะก็ยังเป็นสิ่งต้องห้าม
ในวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2547 ศาลเจ้าถูกพายุไต้ฝุ่นซองดาพัดจนเสียหายหนัก ทางเดินและหลังคาอาคารถูกทำลาย ทำให้ต้องปิดศาลเจ้าชั่วคราว แล้วเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในปี พ.ศ. 2549 แต่ก็ยังคงต้องดำเนินการซ่อมแซมต่อไป
มรดกโลก
ศาลเจ้าอิสีกุชิมะได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 20 เมื่อปี พ.ศ. 2539 ที่เมืองเมรีดา ประเทศเม็กซิโก ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังต่อไปนี้
- (i) - เป็นตัวแทนในการแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์
- (ii) - เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
- (iv) - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนา ทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
- (vi) - มีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือมีความโดดเด่นยิ่งในประวัติศาสตร์
-
อาคารศาลเจ้าที่สร้างอยู่บนพื้นน้ำ
-
ภาพระยะใกล้ของเสาโทริอิ
-
เสาโทริอิยามน้ำลง มองจากภายในศาลเจ้า