พิมล ศรีวิกรม์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิมล ศรีวิกรม์ ป.ช., ป.ม. | |
---|---|
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 14 เมษายน พ.ศ. 2507 จังหวัดพระนคร ประเทศไทย |
พรรค | เพื่อไทย |
ศาสนา | พุทธ |
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิมล ศรีวิกรม์ (เกิด 14 เมษายน พ.ศ. 2507) นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย กรรมการโรงเรียนศรีวิกรม์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อดีตรองโฆษกพรรคไทยรักไทย และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย
ประวัติ[แก้]
พิมล ศรีวิกรม์ เกิดเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2507 เป็นลูกชายของนายเฉลิมพันธ์ และคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ ที่มีรากฐานทางธุรกิจ ทางการเมืองมั่นคงครอบครัวหนึ่ง เริ่มตั้งแต่คุณพ่อของเขาที่เป็นนักการเมือง สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และลาออกมาตั้งกลุ่ม "10 มกราฯ" ปี 2530 ช่วงปลายรัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
ส่วนคุณแม่ของผศ.พิมล ถือเป็นแม่บ้าน ที่คอยสนับสนุนทางการเมือง มีธุรกิจโรงเรียนศรีวิกรม์ สอนตั้งแต่ระดับประถม มัธยม และเปิดสอน ถึงระดับการบริหารธุรกิจ รวมทั้งธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทต่างๆมากมาย แต่การดำเนินบริษัทมาถึง ปี 2540 ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ลดค่าเงินบาท ทำให้ธุรกิจครอบครัว ได้รับผลกระทบสาหัส
ผศ.พิมล ทายาทตระกูลศรีวิกรม์ ได้ก้าวเข้าสู่การเมือง เป็นเลขาส่วนตัว ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ครั้งแรก เมื่อพรรคไทยรักไทยลงเลือกตั้งปี 2544 และตัวผศ.พิมลเอง ลงเลือกตั้งในนามส.ส.เขต เมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 พรรคไทยรักไทย เขต 18 กรุงเทพมหานคร ได้คะแนนเสียง 3,151 คะแนน ไม่ลงคะแนนเสียง 3,234 บัตรเสีย 164
ผศ.พิมล ถือว่าเป็นนักการเมืองหนุ่มวัยแรงคนหนึ่ง หลังจากติดตาม ดร.สมคิด ทำให้ตัวเขาได้บ่มเพาะวิชาความรู้ทั้งที่เรียนมา และการถ่ายถอดงานทางการเมืองมาจากผู้เป็นพ่อ และมาจากการร่วมงานการเมืองเคียงข้าง ดร.สมคิด มานานหลายปี
หลังจากช่วงรัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ผศ.พิมล ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549[1] และได้เข้าไปช่วย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ก่อตั้งกลุ่มธรรมาธิปไตย และภายหลังได้เข้าร่วมกลุ่มกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ตั้งเป็นพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย[2]
การศึกษา[แก้]
- มัธยมตอนปลาย - โรงเรียนคลิฟตัน เมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ
- ปริญญาตรี - คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (University of Pennsylvania) ประเทศสหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2529
- ปริญญาโท - บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เมืองลอสแอนเจลิส (UCLA) ประเทศสหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2532
ประสบการณ์[แก้]
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ส.ส.เขต พรรคไทยรักไทย กรุงเทพมหานคร ปี 2544 และ 2548
- นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย
- ที่ปรึกษา รมช.กระทรวงพานิชย์ 2538-2539
- รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง 2546-2547
- เลขานุการ รมว.กระทรวงการคลัง(นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) 2547
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
- พ.ศ. 2546 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[3]
- พ.ศ. 2545 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)[4]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "เปิดรายชื่อ ทั้ง 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นระยะเวลา 5 ปี !!!". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-08. สืบค้นเมื่อ 2011-06-02.
- ↑ บ้านเลขที่ 111 ซบอก'เพื่อไทย'แล้ว[ลิงก์เสีย]
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๐ ตอนที่ ๑๙ ข หน้า ๓๓, ๑ ธันวาคม ๒๕๔๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๑๙ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๖๕, ๔ ธันวาคม ๒๕๔๕
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2507
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- อาจารย์คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์
- นักการเมืองไทย
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร
- พรรคไทยรักไทย
- พรรคชาติพัฒนา (พ.ศ. 2550)
- พรรคเพื่อไทย
- บุคคลจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- บุคคลจากโรงเรียนศรีวิกรม์
- บุคคลจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
- บุคคลในวงการพลศึกษา
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ม.