ข้ามไปเนื้อหา

พิบูลย์ รัชกิจประการ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พิบูลย์ รัชกิจประการ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล
เริ่มดำรงตำแหน่ง
24 มีนาคม พ.ศ. 2562
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด5 กรกฎาคม พ.ศ. 2504 (63 ปี)
อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ประเทศไทย
พรรคการเมืองภูมิใจไทย (2561–ปัจจุบัน)
คู่สมรสทิพรัตน์ รัชกิจประการ

พิบูลย์ รัชกิจประการ (เกิด 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2504) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล 2 สมัย อดีตนายกเทศมนตรีเมืองสตูล[1]

ประวัติ

[แก้]

พิบูลย์ รัชกิจประการ เกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2504 ที่ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เป็นบุตรของนายสุทัศน์ และนางกุยเฮียง รัชกิจประการ เป็นน้องชายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในรัฐบาลของเศรษฐา ทวีสิน พิบูลย์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาการเกษตร จาก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์[2] สมรสกับ นางทิพรัตน์ รัชกิจประการ มีบุตร-ธิดา 4 คน

การทำงาน

[แก้]

พิบูลย์ ทำอาชีพธุรกิจส่วนตัว โดยเป็นเจ้าของบริษัทสตูลอะความารีน ฟีดซัพพลาย

งานการเมือง

[แก้]

พิบูลย์ เคยเป็นนายกเทศมนตรีเมืองสตูล ต่อมาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปี พ.ศ. 2562 และ พ.ศ. 2566 สังกัดพรรคภูมิใจไทย

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

[แก้]

พิบูลย์ รัชกิจประการ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 2 สมัย คือ

  1. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จังหวัดสตูล สังกัดพรรคภูมิใจไทย
  2. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 จังหวัดสตูล สังกัดพรรคภูมิใจไทย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "รัชกิจประการ" ฐานที่มั่นภูมิใจใต้
  2. พิบูลย์ รัชกิจประการ
  3. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๕, เล่ม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๕, ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๑๐, ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์, เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๒, ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๗