นักรบมนตรา ตำนานแปดดวงจันทร์

นักรบมนตรา ตำนานแปดดวงจันทร์
ใบปิดภาพยนตร์
กำกับ	วีรภัทร ชินะนาวิน
บทภาพยนตร์	สรพีเรศ ทรัพย์เสริมศรี
สร้างจาก	รามเกียรติ์
นักแสดงนำ	สรวิศ ตงเท่ง พัฒน์เตชินท์ ศศิพัฒนธาดา นลินี ชีวะสาคร รุจิระ ขจีเจริญ ธนกฤต เจนคลองธรรม มานพ ศรีจูเป้า อภินันท์ ธีระนันทกุล มนัสวิน มลิวงค์ ราณี แคมเปน
บริษัทผู้สร้าง	ริฟ สตูดิโอ
ผู้จัดจำหน่าย	วารา บาย จีดีเอช
วันฉาย	11 ตุลาคม พ.ศ. 2566
ประเทศ	ไทย
ภาษา	ไทย
ข้อมูลจาก IMDb
ข้อมูลจากสยามโซน

นักรบมนตรา ตำนานแปดดวงจันทร์ เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันไทยแนวโลดโผน-วิทยาศาสตร์ในปี พ.ศ. 2566 สร้างโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรามเกียรติ์ วรรณกรรมไทยซึ่งมีเค้าโครงจากมหากาพย์อินเดียรามายณะ ภาพยนตร์สร้างโดยริฟ สตูดิโอ กำกับโดยวีรภัทร ชินะนาวิน เขียนบทโดยสรพีเรศ ทรัพย์เสริมศรี และออกแบบตัวละครโดยชาคฤษ โนนคำ นักพากย์ผู้ให้เสียงตัวละครหลักได้แก่ สรวิศ ตงเท่ง, พัฒน์เตชินท์ ศศิพัฒนธาดา, นลินี ชีวะสาคร, รุจิระ ขจีเจริญ, ธนกฤต เจนคลองธรรม, มานพ ศรีจูเป้า, อภินันท์ ธีระนันทกุล, มนัสวิน มลิวงค์ และราณี แคมเปน ภาพยนตร์ออกฉายในวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2566

วานารา

เดิมทีวานาราคือดาวที่มีที่ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานอะดัมมากที่สุดในกลุ่มดาวของภาคีจึงเป็นดาวที่ภาคีจักรวาลต้องการให้เข้าร่วมเพื่อสะกัดกั้นภัยที่เล็ดลอดเข้ามาได้อย่างรวดเร็วที่สุดแต่กลับกันดาววานาราก็ต้องต่อสู้กับภัยที่ผ่านเข้ามารุกรานอยู่แล้วเนื่องจากเป็นชัยภูมิสำคัญในการเปิดทางให้เข้าออกฝ่ายใหนได้ครอบครองสะพานฝ่ายนั้นมีความได้เปรียบในการรบดังนั้นวานาราเองก็ต้องการการสนับสนุนจากอะไรก็ตามที่หยิบยื่นมาทั้งทางด้านการรบการปกครองและทรัพยากร

สงครามกลางเมือง

จากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์สงครามกลางเมืองระหว่างชาววานาราเองที่มีกลุ่มคนที่ยังคงยึดมั่นในคำสาบานเข้าปะทะกับฝ่ายที่เห็นด้วยกับพาลีซึ่งมีอำนาจรัฐเต็มรูปแบบทวีความรุนแรงขึ้นจนบานปลายเหตุการณ์นี้ถือเป็นความสูญเสียของชาววานาราที่เกิดขึ้นเองภายในซึ่งโดยปกติแล้วชาววานารามีความสูญเสียมากอยู่แล้วเดิมจากการปกป้องสิ่งที่เล็ดลอดเข้ามาผ่านสะพานอดัมจากเหตการณ์นี้ทำให้เกิดเด็กกำพร้าเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ

ภาคีจักรวาล

เมื่อวานาราเข้าร่วมกับภาคีจักรวาลและได้รับการปลูกฝังหน้าที่คำสาบานมาจากรุ่นสู่รุ่นเป็นเวลานานจากข้อตกลงกลายเป็นหน้าที่จากหน้าที่กลายเป็นความเชื่อและจากข้อตกลงการสนับสนุนต่างๆ กลายเป็นความหย่อนยานและเป็นช่องของการช่อโกงทรัพยากรตลอดเส้นทางจากทุกดวงดาวสู่วานาราการสนับสนุนที่มาถึงวานารานั้นลดลงอย่างต่อเนื่องแต่การล้มตายของชาววานารากลับสวนทาง

จักรวรรดิ

เมื่อพาลีราชาองค์ปัจจุบันของวานาราต้องพบกับปัญหาและการสูญเสียนี้ด้วยตัวเองความคิดในการรับการสนับสนุนจากฝ่ายที่เคยอยู่ตรงข้ามมาช้านานและแก้แค้นฝ่ายที่เคยฝังหัวว่าต้องปกป้องมาตลอดก็ผุดขึ้นและนำมาสู่การยุติการรบกับฝ่ายตรงข้ามการเปิดรับทุนทรัพยากรการช่วยเหลือต่างๆ รวมถึงเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายจักรวรรดิจึงเกิดขึ้น

หลังจากได้รับทรัพยากรเพิ่มจากฝ่ายจักรวรรดิก็ได้มีคำสั่งปลดประจำการระบบเกราะวานรรุ่นเก่าที่ใช้งานมาในศึกก่อนหน้านี้ทั้งหมดและได้ทดแทนด้วยการอัพเกรดเป็นเกราะวานรรุ่นใหม่เข้าประจำการแทนเพื่อเสริมกำลังรบเตรียมพร้อมที่จะแยกตัวเป็นอิสระจากภาคีจักรวาลและจะถูกใช้เป็นกำลังหลักในแผนการบุกอโยเดียของพาลีในอนาคตต่อไป

ด้วยทรัพยากรที่ได้มามากมายจากฝั่งจักรวรรดิกองทัพหลักของพาลีจึงประกอบไปด้วยระบบเกราะวานรรุ่นใหม่ประจำการรบเป็นหลักในจำนวนที่มากกว่าจำนวนของพลขับแต่เนื่องจากความเชื่อมั่นในความโดดเด่นของผีมือการรบของชาววานาราเองจึงพัฒนาระบบอัตโนมัติปัญญาประดิษฐเป็นเพียงเครื่องมือที่สามารถรบได้ด้วยตัวเองแต่ไม่มีเจตจำนงเป็นอิสระจากคำสั่งที่ได้รับ

กลุ่มต่อต้าน

จากการนำของสุครีพการรวมตัวกันของคนที่ยึดมั่นในคำสาบานและหน้าที่ที่ถูกปลูกฝังกันมาช้านานจากทั้งรุ่นก่อนศึกอสูรทอรัสทหารในปัจจุบันรวมถึงเด็กรุ่นใหม่ที่เลี้ยงดูมาทั้งที่หลบซ่อนอยู่จากรัฐบาลและที่ใช้ชีวิตเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของระบอบพาลีรวมกันเป็นกองกำลังกลุ่มต่อต้านเดียวกันภายใต้ชื่อกองทัพวานรสุริยะ

เริ่มต้นจากการสนับสนุนทุนจากไวท์กอลลิล่าสู่การเพิ่มกำลังรบด้วยการเข้าชิงเกราะวานรรุ่นก่อนหน้าที่ถูกปลดประจำการจากกองทัพพาลีทั้งลักลอบขนย้ายเองดักปล้นระหว่างเส้นทางขนส่งเพื่อให้ได้มาซึ่งจำนวนแต่ด้วยสภาพที่ปลดประจำการแล้วก็ยากที่จะปรับแต่งให้ล้ำหน้าไปกว่าฝ่ายกองทัพวานรอัสนีแค่ให้ประสิทธิภาพการใช้งานได้เท่าเทียมกันด้วยทรัพยากรที่มีก็ถือว่าเต็มกลืนแล้ว

การปรับแต่งระบบเกราะวานรที่มีให้ทัดเทียมกับวานรอัสนีโดยหลักๆ แล้วจะเสริมอาวุธที่ได้จากการรบในศึกย่อยต่างๆ ในบริเวณผิวดาวนอกตัวเมืองและด้วยการพัฒนาศักยภาพของระบบปฏิบัติการภายในซึ่งได้กองวิทยาการที่ศึกษาเศษซากบางส่วนของวารสารโสระดาที่ถูกค้นพบและเป็นผู้นำความรู้ที่ได้จากบันทึกมาประยุกต์ใช้กับเกราะวานรรุ่นเก่าที่มีอยู่ให้สามารถต่อกรกับรุ่นใหม่ที่ประจำการในกองทัพพาลีปัจจุบันได้แต่ถึงศักยภาพจะเข้าใกล้กันปริมาณยังคงมีความต่าง

นักรบมนตราฝึกหัด

จากกองทหารลับกลุ่มต่อต้านที่สุครีพก่อตั้งขึ้นจากศึกอสูรทอรัสรวมกับเด็กกำพร้าที่เพิ่มขึ้นจากทั้งสมครามภายนอกและภายในของวานาราเองกลายเป็นกองกำลังกลุ่มต่อต้านรุ่นใหม่อาวุธครบมือพร้อมเสริมทัพด้วยยานรบและระบบเกราะวานรด้วยความเชื่อจากบันทึกตำนานแห่งวานาราที่สุครีพศึกษาอยู่จึงเกิดเป็นโครงการเฟ้นหาผู้เข้ารับการฝึกเป็นนักรบมนตราฝึกหัดขึ้น

ตัวละคร

วายุ

1 ใน 3 เด็กกำพร้าจากสงครามกลางเมืองที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารับการฝึกเป็นนักรบมนตราฝึกหัดด้วยความสามารถที่เข้าถึงมิติจิตได้ผ่านการทดสอบโดยการสัมผัสลูกแก้วของสุครีพบนยอดหอคอยในด่านสุดท้ายของการสอบเข้ารับการฝึกมีนิสัยติดเล่นไม่จริงจังมีมนุษยสัมพันธ์ดีชอบเข้าสังคมมีเพื่อนใหม่รักห่วงใยพวกพ้องฝีมือการรบรวดเร็วแม่นยำด้านการต่อสู้ถึงจะไม่เก่งกาจที่สุดแต่ก็ถือเป็นแถวหน้าของกลุ่มต่อต้านในรุ่นเดียวกัน

ให้เสียงโดย: สรวิศ ตงเท่ง

เวฬา

1 ใน 3 นักรบมนตราฝึกหัดที่ผ่านการทดสอบด้วยคะแนนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของรุ่นและได้รับเหรียญทองจากการสอบรอบยุทธวิธีการรบเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นต่อการบรรลุเป้าหมายเก็บตัวจริงจังและด้วยจุดนี้ทำให้มักมีปากเสียงกับวายุอยู่เสมอมีความสามารถและทักษะด้านการรบระยะประชิดโดดเด่นอีกทั้งยังวางแผนการรบได้ดีในขณะแฝงตัวได้รับความไว้วางใจจากพาลีและได้รับความรักเสมือนเป็นลูกคนนึง

ให้เสียงโดย: พัฒน์เตชินท์ ศศิพัฒนธาดา

บุษบา

1 ใน 3 นักรบมนตราฝึกหัดที่ผ่านการทดสอบและสามารถเข้าถึงมิติจิตได้สนิทกับวายุและเวฬาตั้งแต่เป็นเด็กมีนิสัยเป็นผู้ใหญ่เกินวัยและคอยใกล่เกลี่ยให้ทุกครั้งที่วายุกับเวฬามีความเห็นไม่ลงรอยกันเป็นคนมีความมุ่งมั่นอ่อนโยนและเข้มแข็งในเวลาเดียวกันรักและห่วงใยในพวกพ้องมุ่งมั่นในการทำภาระกิจให้ลุล่วงมีความสามารถด้านการวางแผนการรบที่โดดเด่นและมีความเม่นยำในการโจมตีสนับสนุนจากระยะไกลสูง

ให้เสียงโดย: นลินี ชีวะสาคร

ทศกัณฐ์

ให้เสียงโดย: รุจิระ ขจีเจริญ

พาลี

ให้เสียงโดย: ธนกฤต เจนคลองธรรม

สุครีพ

ให้เสียงโดย: มานพ ศรีจูเป้า

องค์ราม

ให้เสียงโดย: อภินันท์ ธีระนันทกุล

ลักษมันตร์

ให้เสียงโดย: มนัสวิน มลิวงค์

สีดา

ให้เสียงโดย: ราณี แคมเปน

ท้าวเวสสุวรรณ

ให้เสียงโดย: ธชย ประทุมวรรณ

พระกาฬ

ให้เสียงโดย: ภัคภูมิ ลิ้มมานะสถาพร

ภูตโลหิต

ให้เสียงโดย: ศันสนีย์ ติณห์กีรดีศ

ภูตวารี

ให้เสียงโดย: บุญราศรี ฉายะวรรณ

ยุทโธปกรณ์

นอกจากเกราะวานรรุ่นมาตรฐานในกองทัพอัสนีที่ติดตั้งอาวุธตามหน้าที่และถูกมอบหมายให้ประจำการอยู่ในหน่วยต่างๆ แล้วยังมีเกราะวานรที่ถูกปรับแต่งพิเศษเพื่อพลขับเฉพาะที่มีความสามารถโดดเด่นพิเศษในกองทัพอีกด้วยเช่นนิลกาฬและพยับหมอกที่ถูกปรับแต่งพิเศษเพื่อให้เข้ากับรูปแบบการรบที่เวฬาและบุษบาถนัดมากที่สุด

นิลกาฬ

ติดตั้งดาบความถี่สูงคู่เพิ่มความสามารถในการโจมตีระยะประชิดขึ้นและยังให้ประโยชน์อีกทางคือเป็นอาวุธที่มีน้ำหนักเบากว่าอาวุธปกติที่เกราะวานรติดตั้งอีกทั้งเวฬาได้มีการปรับแต่งระบบปฏิบัติการให้เน้นการเคลื่อนไหวเสมือนเลียนแบบท่าทางการต่อสู้ของมนุษย์และติดตั้งระบบทรัสเตอร์พิเศษเพิ่มให้สามารถใช้ช่วยในการกระโดดกลางอากาศได้เป็นอย่างดีตัวหุ่นปลดอุปกรณ์ทุกอย่างที่ไม่จำเป็นต่อการต่อสู้ประชิดออกทั้งหมด

พยับหมอก

ติดตั้งปืนไรเฟิลซุ่มยิงอุปกรณ์เล็งเป้าจากตาของเกราะวานรและสโคปที่ตัวอาวุธอีกทั้งยังมีระบบดอททำให้ตอบโต้การถูกโจมตีได้อย่างรวดเร็วและสามารถสร้างความเสียหายได้รุนแรงจนเทียบเท่าอาวุธของหน่วยพลปืนใหญ่เพิ่มระยะการเล็งเป้าสามารถเล็งได้จากระยะไกลกว่าพลซุ่มยิงปกติปรับลดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นออกทั้งหมดเพื่อลดภาระชดเชยกับน้ำหนักปืนที่มีขนาดใหญ่เพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่ว

พายุพัด

เป็นเกราะวานรสำหรับวายุที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อพาระกิจลักลอบขึ้นไปทำลายภูติโลหิตบนยานพาลีโดยเฉพาะตัวหุ่นมีระบบปฏิบัติการพิเศษที่มีเฉพาะวายุเท่านั้นที่สามารถดึงศักยภาพออกมาใช้ได้ด้วยความสามารถในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วทั้งการทรงตัวพิเศษการวิ่งสองขาหรือสี่ขาสลับกับการห้อยโหนหรือการเบี่ยงตัวหลบในที่แคบความว่องไวในการขยับท่าทางของเกราะวานรรูปแบบนี้หาพลขับที่สามารถทำได้ทดแทนได้ยากมาก

แหล่งข้อมูลอื่น

• หน้าเฟซบุ๊กทางการของภาพยนตร์
• นักรบมนตรา ตำนานแปดดวงจันทร์ ที่เน็ตฟลิกซ์
• นักรบมนตรา ตำนานแปดดวงจันทร์ ที่สยามโซน
• นักรบมนตรา ตำนานแปดดวงจันทร์ ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส