ชินจิ โอโนะ
![]() | |||
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | ชินจิ โอโนะ | ||
วันเกิด | 27 กันยายน ค.ศ. 1979 | ||
สถานที่เกิด | นูมาซุ จังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น | ||
ส่วนสูง | 1.75 m (5 ft 9 in) | ||
ตำแหน่ง | กองกลาง | ||
สโมสรเยาวชน | |||
Imazawa Boys Soccer Club | |||
1992–1995 | โรงเรียนมัธยมต้นอิมาซาวะ | ||
1995–1998 | โรงเรียนพาณิชยการชิมิซุ | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
1998–2001 | อูราวะ เรดไดมอนส์ | 86 | (20) |
2001–2005 | ไฟเยอโนร์ด | 112 | (19) |
2006–2007 | อูราวะ เรดไดมอนส์ | 53 | (8) |
2007–2010 | เฟาเอ็ฟเอ็ล โบคุม | 29 | (0) |
2010–2012 | ชิมิซุ เอส-พัลส์ | 64 | (8) |
2012–2014 | เวสเทิร์นซิดนีย์ วอนเดอเรอส์ | 51 | (10) |
2014–2019 | ฮกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโระ | 62 | (2) |
2019–2020 | เอ็ฟซี รีวกีว | 23 | (0) |
2021–2023 | ฮกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโระ | 6 | (0) |
ทีมชาติ | |||
1995 | ญี่ปุ่น U17 | 3 | (0) |
1999 | ญี่ปุ่น U20 | 6 | (2) |
2004 | ญี่ปุ่น U23 | 3 | (2) |
1998–2008[1] | ญี่ปุ่น | 56 | (6) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2023 (UTC) |
ชินจิ โอโนะ (ญี่ปุ่น: 小野 伸二; โรมาจิ: Ono Shinji) เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวญี่ปุ่น เกิดเมื่อวันที่ 27 กันยายน 1979[2] เล่นในตำแหน่งกองกลาง โดยค้าแข้งอยู่กับสโมสรฮกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโระ ในเจลีก 1 ของญี่ปุ่นเป็นสโมสรสุดท้าย
โอโนะได้รับฉายาว่า "อัจฉริยะ" (ญี่ปุ่น: 天才; โรมาจิ: tensai) เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งของวงการฟุตบอลเอเชีย มีทัศนวิสัยที่ดี เทคนิคเยี่ยม การจ่ายบอลที่แม่นยำ[3] แม้ตำแหน่งจะเป็นกองกลางตัวรุก แต่สามารถเล่นได้สารพัดตำแหน่งตั้งแต่กองกลาง กองกลางตัวรับ หรือแม้กระทั่งปีก
เส้นทางอาชีพ
[แก้]อูราวะ เรดไดมอนส์
[แก้]โอโนะเกิดและโตที่จังหวัดชิซูโอกะ และเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับอูราวะ เรดไดมอนส์ในเจลีกเมื่อปี 1998 และในปีเดียวกันนั้น ก็มีชื่อติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ไปลุยศึกฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศสในวัยเพียงแค่ 18 ปีนับว่ามีอายุน้อยที่สุดในทีม[4] หลังจากนั้นเริ่มเข้าตาสโมสรต่างชาติมากขึ้นเมื่อได้ลงเล่นในรายการฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก 1999 ที่ประเทศไนจีเรีย โดยรับหน้าที่เป็นกัปตันทีมฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี โดยนำทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ในปีต่อมา โอโนะมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่ารุนแรงในรอบคัดเลือกรายการโอลิมปิกฤดูร้อน 2000 กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 2 ปี ทำให้พลาดโอกาสเล่นในช่วงที่เหลือของฤดูกาลและกีฬาโอลิมปิกรอบคัดเลือก
ไฟเยอโนร์ด
[แก้]หลังจากทำผลงานได้ดีในรายการฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพปี 2001 สโมสรไฟเยอโนร์ดจึงได้ดึงตัวไปร่วมทีมเพื่อลุยศึกเอเรอดีวีซี ลีกสูงสุดของประเทศเนเธอร์แลนด์ในปี 2001 และในฤดูกาลแรกก็สามารถพาไฟเยอโนร์ดคว้าแชมป์ยูฟ่าคัพได้ในปี 2002 สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้ชูถ้วยแชมป์ยุโรป แต่หลังจากนั้น โอโนะมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่เอ็นทำให้ไม่ได้ลงเล่นเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในฤดูกาล 2004-05 ที่พลาดการลงสนามเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้สโมสรตัดสินใจขายออกไป[5] อย่างไรก็ตาม โอโนะถือว่าเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จในเมืองรอตเทอร์ดามไม่น้อย แม้กระทั่งเวสลีย์ สไนเดอร์ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติเนเธอร์แลนด์ยังเคยยอมรับว่าชินจิ โอโนะ เป็นนักฟุตบอลที่ต่อกรด้วยยากที่สุด[6]
กลับอูราวะ เรดไดมอนส์
[แก้]หลังจากนั้นในปี 2006 โอโนะเดินทางกลับมาค้าแข้งที่เจลีกอีกครั้งกับต้นสังกัดเดิม โดยเซ็นสัญญา 3 ปี
โบคุม
[แก้]ในช่วงตลาดหน้าหนาวปี 2008 สโมสรโบคุมในประเทศเยอรมนีในระดับบุนเดิสลีกาได้ซื้อตัวโอโนะไปร่วมทีม และโอโนะได้ประเดิมสนามเป็นครั้งแรกในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปี 2008 ในเกมที่พบกับแวร์เดอร์ เบรเมนและทำสองแอสซิสต์ช่วยให้โบคุมบุกเอาชนะเบรเมนได้เป็นครั้งแรก แต่ในช่วงสองปีต่อมา โอโนะได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนทำให้ได้ลงสนามให้กับโบคุมไปเพียงแค่ 34 นัด แม้จะทำไป 4 แอสซิสต์แต่สโมสรยังไม่ประทับใจในผลงาน และเมื่อช่วงพักเบรกหน้าหนาวของฤดูกาล 2009-10 โอโนะตัดสินใจขอย้ายกลับญี่ปุ่นด้วยเหตุผลส่วนตัว และสโมสรก็ยินยอมปล่อยตัวภายใต้เงื่อนไขที่ว่าสโมสรต้องหาตัวแทนให้ได้ก่อน ชื่อของโอโนะในวัย 30 ปีนั้นทำให้สโมสรในญี่ปุ่นหลายแห่งสนใจ
ชิมิซุ เอส-พัลส์
[แก้]เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2010 โอโนะได้มาค้าแข้งที่จังหวัดชิซูโอกะบ้านเกิดอีกครั้งด้วยการเซ็นสัญญากับชิมิซุ เอส-พัลส์ ด้วยค่าตัวเพียง 300,000 ยูโร เพราะสัญญากับโบคุมกำลังจะหมดในช่วงฤดูร้อนปี 2010 โอโนะให้เหตุผลในการกลับมาครั้งนี้ว่าอยากจะกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาและลูกๆที่อยู่ที่ญี่ปุ่น[7]
เวสเทิร์นซิดนีย์ วอนเดอเรอส์
[แก้]ในวันที่ 28 กันยายน 2012 โอโนะได้ย้ายไปร่วมกับเวสเทิร์นซิดนีย์ วอนเดอเรอส์ในเอลีกของประเทศออสเตรเลียด้วยสัญญาสองปี และได้ลงประเดิมสนามในวันที่ 6 ตุลาคม ในเกมที่เสมอแบบไร้สกอร์กับเซนทรัลโคสต์ มาริเนอร์ส ซึ่งเป็นเกมแรกของฤดูกาล หลังจากนั้นช่วยยิงประตูให้กับทีมหลายครั้ง แต่ตัดสินใจกลับญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยในวันที่ 16 มกราคม 2014 สโมสรได้ประกาศว่าโอโนะจะกลับญี่ปุ่นหลีงจากจบฤดูกาลในช่วงฤดูร้อน ซึ่งในตอนนั้น โอโนะตกเป็นข่าวกับทีมในเจลีก ดิวิชัน 2อย่างคอนซาโดเล ซัปโปโระที่สนใจจะดึงตัวไปร่วมทีมในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง หวังจะขึ้นลีกสูงสุด[8] และในวันที่ 4 พฤษภาคม 2014 โอโนะเล่นเกมเอลีกเป็นนักสุดท้ายในเกมที่พบกับบริสเบน โรร์
คอนซาโดเล ซัปโปโระ
[แก้]หลังจากหมดสัญญากับทีมเอลีก โอโนะกลับญี่ปุ่นอีกครั้งด้วยการเซ็นสัญญากับคอนซาโดเล ซัปโปโระในเดือนพฤษภาคม 2014
ระดับนานาชาติ
[แก้]เมื่อไหร่ก็ตามที่โอโนะมีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์ มักจะถูกเรียกตัวติดทีมชาติเสมอ โดยได้ลงประเดิมสนามในนามทีมชาติชุดใหญ่ในวันที่ 1 เมษายน 1998 ในเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติเกาหลีใต้ หลังจากมีชื่อติดทีมชาติชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 1998 ก็กลายเป็นกำลังหลักในการลุยฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นร่วมกันเป็นเจ้าภาพ โอโนะมาทุกระดับตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี และยังเป็นหนึ่งในสามผู้เล่นที่อายุเกินโควตาสำหรับการลงเล่นฟุตบอลโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่กรุงเอเธนส์ อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บทำให้โอโนะพลาดการลงช่วยทีมในรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2006 และพลาดรายการคอนเฟเดอเรชันส์คัพปี 2003 และ 2005 แต่ก็กลับมาฟิตทันติดทีมชาติลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 3 ในชีวิตที่เยอรมนี
สถิติระดับสโมสร
[แก้]ข้อมูลล่าสุด 23 กุมภาพันธ์ 2016.[9]
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ถ้วย | ลีกคัพ | ระดับทวีป | อื่นๆ | รวม | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ลงสนาม | ประตู | ||
อูราวะ เรดไดมอนส์ | 1998 | 27 | 9 | 2 | 0 | 0 | 0 | – | – | 29 | 9 | ||
1999 | 14 | 2 | 2 | 0 | 0 | 0 | – | – | 16 | 2 | |||
2000 | 24 | 7 | 2 | 1 | – | – | – | 26 | 8 | ||||
2001 | 14 | 2 | – | 4 | 3 | – | – | 18 | 5 | ||||
ไฟเยอโนร์ด | 2001–02 | 30 | 3 | 2 | 1 | – | 12 | 2 | – | 44 | 6 | ||
2002–03 | 29 | 7 | 2 | 0 | — | 5 | 0 | 3 | 2 | 39 | 9 | ||
2003–04 | 24 | 2 | 1 | 0 | — | 4 | 0 | — | 29 | 2 | |||
2004–05 | 25 | 7 | 2 | 0 | — | 7 | 1 | — | 34 | 8 | |||
2005–06 | 4 | 0 | 0 | 0 | — | 1 | 0 | — | 5 | 0 | |||
อูราวะ เรดไดมอนส์ | 2006 | 28 | 5 | 4 | 3 | 1 | 1 | – | 1 | 0 | 34 | 9 | |
2007 | 25 | 3 | 0 | 0 | 2 | 1 | 8 | 2 | 2 | 0 | 37 | 6 | |
โบคุม | 2007–08 | 12 | 0 | – | – | – | – | 12 | 0 | ||||
2008–09 | 8 | 0 | 2 | 0 | — | – | — | 10 | 0 | ||||
2009–10 | 9 | 0 | 1 | 0 | — | – | — | 10 | 0 | ||||
ชิมิซุ เอส-พัลส์ | 2010 | 30 | 2 | 5 | 1 | 6 | 1 | – | – | 41 | 4 | ||
2011 | 26 | 6 | 2 | 1 | 2 | 1 | – | – | 30 | 8 | |||
2012 | 14 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | – | – | 14 | 0 | |||
เวสเทิร์น ซิดนีย์ วอนเดอเรอส์ | 2012-13 | 24 | 7 | – | – | – | 2 | 1 | 26 | 8 | |||
2013-14 | 23 | 2 | – | – | 6 | 1 | 2 | 0 | 31 | 3 | |||
คอนซาโดเล ซัปโปโระ | 2014 | 7 | 0 | 0 | 0 | — | — | — | 7 | 0 | |||
2015 | 17 | 2 | 2 | 0 | — | — | — | 19 | 2 | ||||
รวม | 424 | 66 | 29 | 7 | 15 | 7 | 43 | 6 | 10 | 3 | 521 | 89 |
1รวมทั้งรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบคัดเลือก ยูฟ่าซูเปอร์คัพ เจแปนนีสซูเปอร์คัพ ฟีฟ่าคลับเวิร์ลด์คัพ และเอลีกไฟนอลซีรีส์
เกียรติยศ
[แก้]ระดับชาติ
[แก้]- ฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ปี 1994 (U-16) ชนะเลิศ (ญี่ปุ่น)
- ฟุตบอลเอเชียนคัพ ปี 2000 ชนะเลิศ (ญี่ปุ่น)
ระดับสโมสร
[แก้]- ยูฟ่าคัพ ปี 2002 ชนะเลิศ (ไฟเยอโนร์ด)
- ยูฟ่าซูเปอร์คัพ ปี 2002 รองชนะเลิศ (ไฟเยอโนร์ด)
- KNVB Cup ปี 2003 รองชนะเลิศ (ไฟเยอโนร์ด)
- ซีร็อกซ์ ซูเปอร์คัพ ปี 2006 ชนะเลิศ (อูราวะ เรดไดมอนส์)
- เจลีก ดิวิชัน 1 ปี 2006 ชนะเลิศ (อูราวะ เรดไดมอนส์)
- ถ้วยพระจักรพรรดิ ปี 2006 ชนะเลิศ (อูราวะ เรดไดมอนส์)
- เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ปี 2007 ชนะเลิศ (อูราวะ เรดไดมอนส์)
- เอลีก พรีเมียร์ชิพ ฤดูกาล 2012-13 (เวสเทิร์น ซิดนีย์ วอนเดอเรอส์)
- เอลีก ฤดูกาล 2012-13 รองชนะเลิศ (เวสเทิร์น ซิดนีย์ วอนเดอเรอส์)
- เอลีก ฤดูกาล 2013-14 รองชนะเลิศ (เวสเทิร์น ซิดนีย์ วอนเดอเรอส์)
ระดับบุคคล
[แก้]- MVP ฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ปี 1998
- นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเชีย ปี 1998
- นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี เจลีก ปี 1998
- หนึ่งใน 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม เจลีก ปี 1998
- หนึ่งใน 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก 1999
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเชีย ปี 2002
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "ONO Shinji". Japan National Football Team Database. สืบค้นเมื่อ 7 October 2012.
- ↑ "Shinji Ono". worldfootball.net. สืบค้นเมื่อ 15 October 2012.
- ↑ Hassett, Sebastian (22 September 2012). "Japan's genius ponders taking wander out west". smh.com.au. สืบค้นเมื่อ 15 October 2012.
- ↑ "About Shinji Captain". Ono Shinji Official Web Site. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-25. สืบค้นเมื่อ 15 October 2012.
- ↑ "Feyenoord midfielder Ono on his way home to join Urawa Reds". thestar.com.my. 15 January 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-21. สืบค้นเมื่อ 15 October 2012.
- ↑ "Wes Sneijder: analysis of world class player". International Football News - World Cup Blog. 31 October 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-14. สืบค้นเมื่อ 18 February 2013.
- ↑ "Shinji Ono im exklusiven Abschiedsinterview: Wegen der Familie zurück nach Japan" (ภาษาเยอรมัน). goal.com. 9 January 2010. สืบค้นเมื่อ 15 October 2012.
- ↑ "Shinji Ono to return to Japan at season's end". Football Federation Australia. 16 January 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-04. สืบค้นเมื่อ 6 June 2014.
- ↑ Nippon Sports Kikaku Publishing inc./日本スポーツ企画出版社, "2016J1&J2&J3選手名鑑", 10 February 2016, Japan, ISBN 978-4905411338 (p. 196 out of 289)
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- ชินจิ โอโนะ – สถิติการลงแข่งจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) (ในภาษาอังกฤษ)
- ชินจิ โอโนะ ที่ National-Football-Teams.com
- Shinji Ono at the ฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น
- Western Sydney Wanderers profile เก็บถาวร 2012-10-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เว็บไซต์ทางการ (ญี่ปุ่น อังกฤษ)