ข้ามไปเนื้อหา

ชอกเวฟ (ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ช็อคเวฟ (อังกฤษ: Shockwave) เป็นชื่อตัวละครหุ่นยนต์ฝ่ายเดสทรอน หรือ ดีเซปติคอนส์ จากการ์ตูนชุดเรื่อง ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส (Transformers)

ประวัติ

[แก้]

ฉบับการ์ตูน

[แก้]

ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส เจเนเรชั่น 1

[แก้]

ช็อคเวฟ ในทรานส์ฟอร์มเมอร์ส เจเนเรชั่น 1 (ยุค G1) ให้เสียงภาษาอังกฤษโดย โครี่ เบอร์ตัน (Corey burton) และให้เสียงภาษาญี่ปุ่นโดย ยูตากะ ชิมาคะ (Yutaka shimaka) มีลักษณะเป็นตุ๊กตาตาเดียว ตัวสีม่วง เขามีตำแหน่งเป็นถึงรองผู้นำ ของหุ่นยนต์ฝ่ายคอมมิวนิสต์ (รองจากเมกะทรอนซึ่งเป็นผู้นำ) มีอาวุธร้ายแรงประจำกาย นั่นคือ ปืนใหญ่เลเซอร์ (Laser cannon) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง ช็อคเวฟนี้ก็ได้มีส่วนร่วมในการทำลายล้าง ดาวไซเบอร์ทรอน เช่นเดียวกับหุ่นยนต์ฝ่ายเดสทรอนตัวอื่นๆ

ทีวีซีรีส์

[แก้]

ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส ไซเบอร์ตรอน

[แก้]

ช็อคเวฟ ได้หวนกลับมาสู่บริษัทผู้ผลิตของเล่น ประเภทหุ่นยนต์จากภาพยนตร์เรื่องทรานส์ฟอร์มเมอร์ส ภายในสหรัฐอเมริกา ในทรานส์ฟอร์มเมอร์ส ตอน ไซเบอร์ตรอน ปี ค.ศ.2005 (พ.ศ. 2548) ในภาคนี้ช็อคเวฟทำการร่วมมือกับ แทงเคอร์ หุ่นยนต์ฝ่ายมินิคอน ซึ่งแทงเคอร์นั้น ในอดีตเคยเป็นหุ่นยนต์ฝ่ายออโต้บ็อทส์มาก่อน ถึงแม้ว่าช็อคเวฟจะไปร่วมมือกับแทงเคอร์ แต่ก็ยังมีความจงรักภักดีต่อดีเซปติคอนส์อยู่

ต่อมาช็อคเวฟได้มีแนวร่วมเพิ่มชึ้นหนึ่งตัว คือ มัดแฟล็ปส์ ซึ่งในขณะนั้น มัดแฟล็ปส์ยังเป็นหุ่นยนต์ฝ่ายดีเซปติคอนส์

ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส ไพรม์

[แก้]

ช็อคเวฟ ในภาคไพรม์ จะทำหน้าที่ตามหาเศษซากของเทคโนโลยีโบราณที่สำคัญซึ่งยังหลงเหลืออยู่ในดาว "ไซเบอร์ทรอน" ที่ยังกลายเป็นเพียงดวงดาวที่ตายซาก นอกจากนั้นช็อคเวฟยังมีความสามารถด้านการสร้างสะพานข้ามมิติและสะพานอวกาศเป็นอย่างมาก ลักษณะร่างกายของช็อคเวฟในภาคนี้ก็แทบจะไม่ต่างอะไรกับทรานส์ฟอร์มเมอร์สยุคแรกเท่าไหร่นัก นั่นก็คือมีตาสีแดงดวงเดียว แต่สีของร่างกายในภาคนี้มีสีม่วง ซึ่งเข้มกว่ายุคแรก และมีอาวุธประจำกายก็คือปืนใหญ่เลเซอร์ ที่ติดอยู่กับแขนขวาของเขา ถือได้ว่าปืนใหญ่เลเซอร์นั้นเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของช็อคเวฟซึ่งเห็นได้ในทรานส์ฟอร์มเมอร์สแทบทุกภาค ช็อคเวฟไม่ค่อยถูกกับสตาร์สครีมอันเนื่องมาจากเหตุการณ์เมื่อครั้งที่คลิฟฟ์จัมเปอร์และอาร์ซีเข้าทำลายระบบเชื่อมมิติของช็อคเวฟ และช็อคเวฟถูกสตาร์สครีมทอดทิ้งให้สู้รบกับคลิฟฟ์จัมเปอร์และอาร์ซีเพียงลำพัง จนถูกอาร์ซียิงเข้าที่ตาอาการสาหัสต้องหลบไปรักษาตัวอยู่นาน

เสียงพากย์ช็อคเวฟในภาคนี้ ให้เสียงภาษาไทยโดย อิทธิพล มามีเกตุ (ฉบับช่องเอ็มคอตแฟมมิลี่) ให้เสียงภาษาอังกฤษโดย เดวิด โซโบโลฟ (David Sobolov) และให้เสียงภาษาญี่ปุ่นโดย เคนตะ มิยาเกะ (Kenta Miyake)

ฉบับคนแสดง

[แก้]

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ช็อคเวฟได้ปรากฏตัวในฉบับภาพยนตร์คนแสดง ลักษณะร่างกายของช็อคเวฟก็เป็นหุ่นยนต์ตาเดียวเช่นกัน แต่สีของร่างช็อคเวฟ ได้ปรับเปลี่ยนเป็นสีเทาดำ จากเดิมที่ฉบับการ์ตูนนั้นร่างกายมีสีม่วง เรื่องได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อช็อคเวฟได้ถูกเมกะทรอนดูดร่างจากไซเบอร์ทรอน เพื่อมาตามล่าหาออลสปาร์ค ช็อคเวฟมีลูกน้องมือขวา เป็นหุ่นยนต์หนอนสว่าน ชื่อว่า ดริลเลอร์ (Driller) และสั่งให้หุ่นยนต์หนอนสว่านตัวนั้น เก็บชิ้นส่วนเครื่องยนต์ของยานบินออโต้บ็อตส์ที่สาบสูญไปนานเอาไว้ และรอจังหวะเข้าโจมตีกลุ่มออโต้บ็อตส์ ที่นิคมร้างเชอร์โนบิล ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศยูเครน จนออพติมัส ไพรม์และทหารของหน่วยเนสท์ แย่งชิงชิ้นส่วนเครื่องยนต์ของยานบินนั้นมาได้ และตัวช็อคเวฟเอง ก็ได้มีส่วนร่วมในการทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์บนโลก และปราบพวกหุ่นยนต์ออโต้บ็อตส์ตัวอื่นๆ แต่พอไม่นานนัก ช็อคเวฟก็ถูกอ็อพติมัส ฆ่าตายในเวลาต่อมา ในภาค 6 ช็อคเวฟกลับมาทำลายกองทัพออโต้บ็อตส์ที่ไซเบอร์ทรอน ความสูงของช็อคเวฟอยู่ที่ 24 ฟุต อาวุธของช็อคเวฟคีอ ปืนใหญ่เลเซอร์ทำลายล้างสูง , กรงเล็บขนาดใหญ่ และ สลิงช็อค

เสียงพากย์ช็อกเวฟในภาคนี้ ให้เสียงภาษาอังกฤษโดย แฟรงค์ เวลเกอร์ (Frank welker) ให้เสียงภาษาญี่ปุ่นโดย จิโระ ซาอิโตะ (Jirō saitō) และให้เสียงภาษาเยอรมัน โดย โฮร์ส แลร์มเพ (Horst lampe)

อ้างอิง

[แก้]