ยูฟ่ายูโรปาลีก นัดชิงชนะเลิศ 2023

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ยูฟ่ายูโรปาลีก นัดชิงชนะเลิศ 2023
ปุชกาชออเรนอ ในบูดาเปสต์ จะเป็นสนามแข่งขันในนัดนี้
รายการยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2022–23
หลังต่อเวลาพิเศษ
เซบิยา ชนะในการดวลลูกโทษ 4–1
วันที่31 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 (2023-05-31)
สนามปุชกาชออเรนอ, บูดาเปสต์
ผู้เล่นยอดเยี่ยม
ประจำนัด
ยัสซีน บูนู (เซบิยา)[1]
ผู้ตัดสินแอนโธนี เทย์เลอร์ (อังกฤษ)[2]
ผู้ชม61,476 คน[3]
สภาพอากาศกลางคืนสดใส
18 องศาเซลเซียส (64 องศาฟาเรนไฮต์)
63% ความชื้นสัมพัทธ์[4]
2022
2024

ยูฟ่ายูโรปาลีก นัดชิงชนะเลิศ 2023 จะเป็นนัดชิงชนะเลิศของยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2022–23 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ 52 ของการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรประดับที่สองที่จัดการแข่งขันในยูฟ่า และเป็นฤดูกาลที่ 14 นับตั้งแต่ได้รับการเปลี่ยนชื่อจากยูฟ่าคัพ เป็นยูฟ่ายูโรปาลีก โดยจะแข่งขันที่ปุชกาชออเรนอ ในบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ในวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 2023[5][6] เนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19 ทำให้เกิดการย้ายสนามแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ ในปี ค.ศ. 2020 ทำให้กำหนดการเป็นเจ้าภาพรอบชิงชนะเลิศในครั้งต่อไปถูกเลื่อนลำดับออกไปหนึ่งปี ทำให้บูดาเปสต์ได้จัดการแข่งขันในปีนี้[7]

ทีมชนะเลิศจะได้รับสิทธิ์ในการลงเล่น กับทีมชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2022–23 ในยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2023

ทีม[แก้]

การแข่งขันในช่วงก่อนปี ค.ศ. 2009 ใช้นามว่า ยูฟ่าคัพ ก่อนที่นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 จะใช้นามว่า ยูฟ่ายูโรปาลีก

ทีม ปีที่ลงเล่นรอบชิงชนะเลิศที่ผ่านมา (ตัวหนาหมายถึงชนะเลิศ)
สเปน เซบิยา 6 (2006, 2007, 2014, 2015, 2016, 2020)
อิตาลี โรมา 1 (1991)

เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศ[แก้]

หมายเหตุ: ในตารางทั้งหมดด้านล่างนี้ ผลการแข่งขันของทีมที่เข้าชิงชนะเลิศจะขึ้นต้นก่อน (H: เหย้า; A: เยือน)

สเปน เซบิยา รอบ อิตาลี โรมา
แชมเปียนส์ลีก ยูโรปาลีก
คู่แข่งขัน ผล รอบแบ่งกลุ่ม (CL, EL) คู่แข่งขัน ผล
อังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี 0–4 (H) นัดที่ 1 บัลแกเรีย ลูโดโกเรตส์รัซกราด 1–2 (A)
เดนมาร์ก โคเปนเฮเกน 0–0 (A) นัดที่ 2 ฟินแลนด์ เอชเจเค 3–0 (H)
เยอรมนี โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ 1–4 (H) นัดที่ 3 สเปน เรอัลเบติส 1–2 (H)
เยอรมนี โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ 1–1 (A) นัดที่ 4 สเปน เรอัลเบติส 1–1 (A)
เดนมาร์ก โคเปนเฮเกน 3–0 (H) นัดที่ 5 ฟินแลนด์ เอชเจเค 2–1 (A)
อังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี 1–3 (A) นัดที่ 6 บัลแกเรีย ลูโดโกเรตส์รัซกราด 3–1 (H)
อันดับที่ 3 กลุ่ม จี
อันดับ ทีม เล่น คะแนน
1 อังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี 6 14
2 เยอรมนี โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ 6 9
3 สเปน เซบิยา 6 5
4 เดนมาร์ก โคเปนเฮเกน 6 3
แหล่งที่มา : ยูฟ่า
ตารางคะแนน รองชนะเลิศ กลุ่ม ซี
อันดับ ทีม เล่น คะแนน
1 สเปน เรอัลเบติส 6 16
2 อิตาลี โรมา 6 10
3 บัลแกเรีย ลูโดโกเรตส์รัซกราด 6 7
4 ฟินแลนด์ เอชเจเค 6 1
แหล่งที่มา : ยูฟ่า
ยูโรปาลีก
คู่แข่งขัน รวมผลสองนัด นัดแรก นัดที่สอง รอบแพ้คัดออก คู่แข่งขัน รวมผลสองนัด นัดแรก นัดที่สอง
เนเธอร์แลนด์ เปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน 3–2 3–0 (H) 0–2 (A) รอบแพ้คัดออกเพลย์ออฟ ออสเตรีย เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค 2–1 0–1 (A) 2–0 (H)
ตุรกี เฟแนร์บาห์แช 2–1 2–0 (H) 0–1 (A) รอบ 16 ทีมสุดท้าย สเปน เรอัลโซซิเอดัด 2–0 2–0 (H) 0–0 (A)
อังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 5–2 2–2 (A) 3–0 (H) รอบก่อนรองชนะเลิศ เนเธอร์แลนด์ ไฟเยอโนร์ด 4–2 0–1 (A) 4–1
(ต่อเวลา) (H)
อิตาลี ยูเวนตุส 3–2 1–1 (A) 2–1
(ต่อเวลา) (H)
รอบรองชนะเลิศ เยอรมนี ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน 1–0 1–0 (H) 0–0 (A)

นัด[แก้]

รายละเอียด[แก้]

ทีม "เจ้าบ้าน" จะได้รับการกำหนดขึ้น โดยการจับสลากเพิ่มเติมหลังจากเสร็จสิ้นการจับสลากรอบก่อนรองชนะเลิศ และรอบรองชนะเลิศ เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการ

เซบิยา[4]
โรมา[4]
GK 13 โมร็อกโก ยัสซีน บูนู
RB 16 สเปน เฆซุส นาบัส (กัปตัน) Substituted off in the 94 นาที 94'
CB 44 ฝรั่งเศส ลออิก บาเด
CB 6 เซอร์เบีย เนมาญา กูเด็ลย์ Substituted off in the 120+8 นาที 120+8'
LB 3 บราซิล อาแลกส์ แตลิส Substituted off in the 94 นาที 94'
CM 20 บราซิล เฟร์นังดู Substituted off in the 120+8 นาที 120+8'
CM 10 โครเอเชีย อิวัน รากิติช โดนใบเหลือง ใน 65 นาที 65'
RW 55 อาร์เจนตินา ลูกัส โอกัมโปส โดนใบเหลือง ใน 120+10 นาที 120+10'
AM 21 สเปน โอลิเบร์ ตอร์เรส Substituted off in the 46 นาที 46'
LW 25 สเปน บรายัน ฆิล Substituted off in the 46 นาที 46'
CF 15 โมร็อกโก ยูสเซฟ เอน-เนซีริ
ผู้เล่นสำรอง:
GK 1 เซอร์เบีย มาร์กอ ดมิตรอวิช
GK 31 สเปน อัลเบร์โต โฟลเรส
DF 2 อาร์เจนตินา กอนซาโล มอนติเอล โดนใบเหลือง ใน 120+4 นาที 120+4' Substituted on in the 94 minute 94'
DF 4 เนเธอร์แลนด์ การิม เรกิก Substituted on in the 94 minute 94'
DF 14 ฝรั่งเศส ต็องกี นีย็องซู
DF 23 บราซิล มาร์เกา Substituted on in the 120+8 minute 120+8'
MF 8 สเปน โยอัน ฆอร์ดัน โดนใบเหลือง ใน 120 นาที 120' Substituted on in the 120+8 minute 120+8'
MF 24 อาร์เจนตินา ปาปู โกเมซ
MF 43 สเปน มานู บูเอโน
FW 7 สเปน ซูโซ Substituted on in the 46 minute 46'
FW 12 สเปน ราฟา มีร์ โดนใบเหลือง ใน 36 นาที 36'
FW 17 อาร์เจนตินา เอริก ลาเมลา โดนใบเหลือง ใน 109 นาที 109' Substituted on in the 46 minute 46'
ผู้จัดการทีม:
สเปน โฆเซ ลุยส์ เมนดิลิบาร์
GK 1 โปรตุเกส รุย ปาตรีซียู
CB 23 อิตาลี จันลูกา มันชินี โดนใบเหลือง ใน 48 นาที 48'
CB 6 อังกฤษ คริส สมอลลิง
CB 3 บราซิล โรเฌร์ อิบาเญซ
RM 19 ตุรกี เซกิ เชลิก โดนใบเหลือง ใน 74 นาที 74' Substituted off in the 91 นาที 91'
CM 4 อิตาลี บรายอัน กริสตันเต โดนใบเหลือง ใน 65 นาที 65'
CM 8 เซอร์เบีย เนมาญา มาติช โดนใบเหลือง ใน 21 นาที 21' Substituted off in the 120 นาที 120'
LM 37 อิตาลี เลโอนาร์โด สปินัซโซลา Substituted off in the 106 นาที 106'
AM 7 อิตาลี โลเรนโซ เปเยกรีนี (กัปตัน) โดนใบเหลือง ใน 45 นาที 45' Substituted off in the 106 นาที 106'
CF 21 อาร์เจนตินา เปาโล ดิบาลา Substituted off in the 68 นาที 68'
CF 9 อังกฤษ แทมมี อับราฮัม Substituted off in the 75 นาที 75'
ผู้เล่นสำรอง:
GK 63 อิตาลี ปิเอโตร โบเอร์
GK 99 เซอร์เบีย มิเล สวิลาร์
DF 2 เนเธอร์แลนด์ ริค คาร์สดอร์ป โดนใบเหลือง ใน 120+10 นาที 120+10'
DF 14 สเปน ดิเอโก ยอเรนเต Substituted on in the 106 minute 106'
MF 20 กินี มาดี กามารา
MF 25 เนเธอร์แลนด์ จอร์จีนีโย ไวนัลดึม Substituted on in the 68 minute 68'
MF 52 อิตาลี เอโดอาร์โด โบเว Substituted on in the 120 minute 120'
MF 59 โปแลนด์ นิโคลา ซาเลวสกี โดนใบเหลือง ใน 105 นาที 105' Substituted on in the 91 minute 91'
MF 62 อิตาลี กริสเตียน โวลปาโต
MF 68 บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา เบนจามิน ทาฮิรอวิช
FW 11 อิตาลี อันเดรอา เบลอตตี Substituted on in the 75 minute 75'
FW 92 อิตาลี สเตฟาน เอล ชาราวี Substituted on in the 106 minute 106'
ผู้จัดการทีม:[note 1]
โปรตุเกส โชเซ มูรีนโย

ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด:
ยัสซีน บูนู (เซบิยา)[1]

ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:[2]
แกรี บีสวิค (อังกฤษ)
แอดัม นันน์ (อังกฤษ)
ผู้ตัดสินที่สี่:[2]
ไมเคิล โอลิเวอร์ (อังกฤษ)
ผู้ช่วยผู้ตัดสินสำรอง:[2]
สจวร์ต เบิร์ต (อังกฤษ)
ผู้ช่วยผู้ตัดสินใช้วีดิทัศน์:[2]
สจวร์ต แอตต์เวลล์ (อังกฤษ)
ผู้ช่วยของผู้ช่วยผู้ตัดสินใช้วีดิทัศน์:[2]
คริส คาวานาฟ (อังกฤษ)
ผู้ช่วยผู้ตัดสินใช้วีดิทัศน์ด้านการล้ำหน้า:[2]
บัสเตียน ดันเคอร์ต (เยอรมนี)

กฎการแข่งขัน[8]

  • แข่งขันในเวลาปกติ 90 นาที
  • ต่อเวลาพิเศษ 30 นาที หากเสมอกันในเวลาปกติ
  • ดวลลูกโทษตัดสิน หากเสมอกันหลังต่อเวลาพิเศษ
  • ส่งรายชื่อตัวสำรองได้เจ็ดคน
  • อนุญาตให้เปลี่ยนตัวได้สูงสุดห้าคน และจะอนุญาตให้เปลี่ยนตัวเพิ่มขึ้นเป็นหกคนเมื่อต่อเวลาพิเศษ[note 2]

สถิติ[แก้]

ดูเพิ่ม[แก้]

บันทึก[แก้]

  1. ซัลวาโตเร โฟติ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมโรมา ได้รับใบเหลืองในนาทีที่ 82
  2. แต่ละทีมจะมีสิทธิ์ในการเปลี่ยนตัวสามครั้ง และจะได้สิทธิ์ครั้งที่สี่ในช่วงต่อเวลาพิเศษ สิทธิ์ดังกล่าวจะไม่นับรวมหากการเปลี่ยนตัวเกิดขึ้นในช่วงพักครึ่งเวลา ช่วงก่อนเริ่มการต่อเวลา และช่วงพักครึ่งเวลาในการต่อเวลา

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "Yassine Bounou named official UEFA Europa League final Hankook Player of the Match". UEFA.com. Union of European Football Associations. 31 May 2023. สืบค้นเมื่อ 31 May 2023.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6 "Referee teams appointed for 2023 UEFA club competition finals". UEFA. 22 May 2023. สืบค้นเมื่อ 22 May 2023.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 3.5 "Full Time Summary Final – Sevilla v Roma" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 31 May 2023. สืบค้นเมื่อ 31 May 2023.
  4. 4.0 4.1 4.2 "Tactical Lineups – Final – Wednesday 31 May 2023" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 31 May 2023. สืบค้นเมื่อ 31 May 2023.
  5. "International match calendar and access list for 2022/23". UEFA Circular Letter. No. 51/2021. Union of European Football Associations. 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 5 November 2021.
  6. "Budapest to host 2022 UEFA Europa League Final". UEFA.com. Union of European Football Associations. 2 March 2020. สืบค้นเมื่อ 2 March 2020.
  7. "UEFA competitions to resume in August". UEFA.com. Union of European Football Associations. 17 June 2020. สืบค้นเมื่อ 17 June 2020.
  8. "Regulations of the UEFA Champions League, 2022/23 Season". UEFA.com. Union of European Football Associations. 2022. สืบค้นเมื่อ 30 April 2021.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]