ยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2022

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2022
อาเรนากอมเบอตาเร ใน ติรานา จะเป็นเจ้าภาพสำหรับนัดชิงชนะเลิศ.
รายการยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก ฤดูกาล 2021–22
วันที่25 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 (2022-05-25)
สนามอาเรนากอมเบอตาเร, ติรานา
ผู้เล่นยอดเยี่ยม
ประจำนัด
คริส สมอลลิง (โรมา)[1]
ผู้ตัดสินอิสต์วัน คอวัคส์ (โรมาเนีย)[2]
ผู้ชม19,597 คน[3]
สภาพอากาศแดดจัด
23 องศาเซลเซียส (73 องศาฟาเรนไฮต์)
51% ความชื้นสัมพัทธ์[4]
2023

ยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2022 เป็นการแข่งขันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศของยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก ฤดูกาล 2021–22, ฤดูกาลแรกของการแข่งขันฟุตบอลสโมสรลำดับที่สามของยุโรป จัดขึ้นโดยยูฟ่า นัดนี้จะลงเล่นในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 (ค.ศ. 2022) ที่ อาเรนากอมเบอตาเร ในเมือง ติรานา ประเทศแอลเบเนีย,[5][6] ระหว่างสโมสรจากอิตาลี โรมา และสโมสรจากเนเธอร์แลนด์ ไฟเยอโนร์ด.

ผู้ชนะจะมีสิทธิ์เข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มของ ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2022–23, เว้นแต่พวกเขาจะได้ผ่านเข้ารอบสำหรับแชมเปียนส์ลีกหรือยูโรปาลีกผ่านผลงานในลีกของพวกเขาแล้ว (ในกรณีนี้ที่รายการเข้าถึงจะได้รับการปรับสมดุล).

สนามแข่งขัน[แก้]

สนาม อาเรนากอมเบอตาเร ใน ติรานา จะเป็นเจ้าภาพสำหรับนัดชิงชนะเลิศ.

นี่จะเป็นแมตช์รอบชิงชนะเลิศยูฟ่าครั้งแรกที่จะลงเล่นที่ประเทศแอลเบเนีย. ที่นั่ง 21,690 อาเรนากอมเบอตาเร เป็นสนามเหย้าของ ทีมชาติแอลเบเนีย,เช่นเดียวกับสโมสร ดีนาโม ติรานา และ ปาร์ตีซานี. สนามกีฬาเริ่มก่อสร้างในปี 2559,[7] และเปิดในเดือนพฤศจิกายน ปี 2019.[8]

การคัดเลือกเป็นเจ้าภาพ[แก้]

ยูฟ่าเปิดตัวกระบวนการประมูลเพื่อเลือกสถานที่แข่งขันรอบชิงชนะเลิศของยูฟ่า ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก ในปี 2022 และ 2023. สมาคมที่สนใจเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศมีเวลาจนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 เพื่อยื่นเอกสารเสนอราคา.

สมาคมที่จัดประมูลยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก รอบชิงชนะเลิศ 2022
ประเทศ สนามกีฬา เมือง ความจุ หมายเหตุ
 แอลเบเนีย อาเรนากอมเบอตาเร ติรานา 22,500 เสนอตัวสำหรับ 2019 และ 2020 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ
 ฝรั่งเศส สนามกีฬาฌอฟรัว กีชาร์ แซ็งเตเตียน 41,965 แมตช์ที่ใช้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1984 และ 2016, ฟุตบอลโลก 1998, 2003
 กรีซ สนามกีฬาพันคริติโอ ฮีราคลีออน 26,240 แมตช์ที่ใช้เป็นเจ้าภาพ การแข่งขันฟุตบอลในโอลิมปิก 2004
 มาซิโดเนียเหนือ ตอเช ปรอเอสกี อารีนา สโกเปีย 33,460 เป็นเจ้าภาพจัด ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2017

สนาม อาเรนากอมเบอตาเร ได้ถูกรับเลือกโดยคณะกรรมการบริหารยูฟ่าระหว่างการประชุมของพวกเขาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 2020.[9][10][6][11]

เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศ[แก้]

หมายเหตุ: ในตาราง, ผลการแข่งขันของผู้เข้าชิงชนะเลิศจะได้รับเป็นชื่อแรก (H = เหย้า; A = เยือน).

อิตาลี โรมา รอบ เนเธอร์แลนด์ ไฟเยอโนร์ด
คู่แข่งขัน รวมผลสองนัด นัดแรก นัดที่สอง รอบคัดเลือก คู่แข่งขัน รวมผลสองนัด นัดแรก นัดที่สอง
บาย รอบคัดเลือกรอบสอง คอซอวอ ดริตา 3–2 0–0 (A) 3–2 (H)
รอบคัดเลือกรอบสาม สวิตเซอร์แลนด์ ลูเซิร์น 6–0 3–0 (A) 3–0 (H)
ตุรกี ทรับซอนสปอร์ 5–1 2–1 (A) 3–0 (H) รอบเพลย์ออฟ สวีเดน ไอเอฟ เอล์ฟสบอร์ก 6–3 5–0 (H) 1–3 (A)
คู่แข่งขัน ผล รอบแบ่งกลุ่ม คู่แข่งขัน ผล
บัลแกเรีย ซีเอสเคเอ โซเฟีย 5–1 (H) นัดที่ 1 อิสราเอล มัคคาบีไฮฟา 0–0 (A)
ยูเครน ซอร์ยา ลูแฮนส์ค 3–0 (A) นัดที่ 2 เช็กเกีย สลาเวียปราฮา 2–1 (H)
นอร์เวย์ โบโด/กลิมต์ 1–6 (A) นัดที่ 3 เยอรมนี อูนีโอนแบร์ลีน 3–1 (H)
นอร์เวย์ โบโด/กลิมต์ 2–2 (H) นัดที่ 4 เยอรมนี อูนีโอนแบร์ลีน 2–1 (A)
ยูเครน ซอร์ยา ลูแฮนส์ค 4–0 (H) นัดที่ 5 เช็กเกีย สลาเวียปราฮา 2–2 (A)
บัลแกเรีย ซีเอสเคเอ โซเฟีย 3–2 (A) นัดที่ 6 อิสราเอล มัคคาบีไฮฟา 2–1 (H)
ชนะเลิศ กลุ่ม ซี
อันดับ ทีม เล่น คะแนน
1 อิตาลี โรมา 6 13
2 นอร์เวย์ โบโด/กลิมต์ 6 12
3 ยูเครน ซอร์ยา ลูแฮนส์ค 6 7
4 บัลแกเรีย ซีเอสเคเอ โซเฟีย 6 1
แหล่งที่มา : ยูฟ่า
ตารางคะแนน ชนะเลิศ กลุ่ม อี
อันดับ ทีม เล่น คะแนน
1 เนเธอร์แลนด์ ไฟเยอโนร์ด 6 14
2 เช็กเกีย สลาเวียปราฮา 6 8
3 เยอรมนี อูนีโอนแบร์ลีน 6 7
4 อิสราเอล มัคคาบีไฮฟา 6 4
แหล่งที่มา : ยูฟ่า
คู่แข่งขัน รวมผลสองนัด นัดแรก นัดที่สอง รอบแพ้คัดออก คู่แข่งขัน รวมผลสองนัด นัดแรก นัดที่สอง
บาย รอบแพ้คัดออกเพลย์ออฟ บาย
เนเธอร์แลนด์ ฟีเตสเซอ 2–1 1–0 (A) 1–1 (H) รอบ 16 ทีมสุดท้าย เซอร์เบีย ปาร์ติซาน 8–3 5–2 (A) 3–1 (H)
นอร์เวย์ โบโด/กลิมต์ 5–2 1–2 (A) 4–0 (H) รอบก่อนรองชนะเลิศ เช็กเกีย สลาเวียปราฮา 6–4 3–3 (H) 3–1 (A)
อังกฤษ เลสเตอร์ซิตี 2–1 1–1 (A) 1–0 (H) รอบรองชนะเลิศ ฝรั่งเศส มาร์แซย์ 3–2 3–2 (H) 0–0 (A)

นัด[แก้]

รายละเอียด[แก้]

ทีม "เจ้าบ้าน" (สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดการ) จะได้รับการกำหนดขึ้นโดยการจับสลากเพิ่มเติมเกิดขึ้นหลังจากเสร็จสิ้นการจับสลากรอบก่อนรองชนะเลิศและรอบรองชนะเลิศ.

โรมา[4]
ไฟเยอโนร์ด[4]
GK 1 โปรตุเกส รุย ปาตรีซียู โดนใบเหลือง ใน 84 นาที 84'
CB 23 อิตาลี จันลูกา มันชีนี
CB 6 อังกฤษ คริส สมอลลิง
CB 3 บราซิล โรเฌร์ อิบาเญซ
DM 77 อาร์มีเนีย แฮนริค มะคีทาเรียน Substituted off in the 17 นาที 17'
DM 4 อิตาลี บรายัน กริสตันเต
RM 2 เนเธอร์แลนด์ ริค คาร์สดอร์ป Substituted off in the 89 นาที 89'
LM 59 โปแลนด์ นิโคลา ซาลิวสกี โดนใบเหลือง ใน 66 นาที 66' Substituted off in the 67 นาที 67'
AM 22 อิตาลี นีโกเลาะ ซานีโอโล Substituted off in the 67 นาที 67'
AM 7 อิตาลี โลเรนโซ เปลเลกรีนี (กัปตัน) โดนใบเหลือง ใน 37 นาที 37'
CF 9 อังกฤษ แทมมี อับราฮัม Substituted off in the 89 นาที 89'
ผู้เล่นสำรอง:
GK 87 บราซิล ดาเนียล ฟูซาโต
DF 5 อุรุกวัย มาติอัส บิญญา Substituted on in the 89 minute 89'
DF 15 อังกฤษ เอนส์ลีย์ เมตแลนด์-ไนลส์
DF 24 แอลเบเนีย มาราช คุมบุลลา
DF 37 อิตาลี เลโอนาร์โด สปีนัซโซลา โดนใบเหลือง ใน 90+4 นาที 90+4' Substituted on in the 67 minute 67'
MF 17 ฝรั่งเศส ฌอร์ด็อง แวร์ตูร์ Substituted on in the 67 minute 67'
MF 27 โปรตุเกส แซร์ฌียู โอลิเวยรา Substituted on in the 17 minute 17'
MF 52 อิตาลี เอโดอาร์โด โบเว
FW 11 สเปน การ์เลส เปเรซ
FW 14 อุซเบกิสถาน เอลดอร์ โชมูโรดอฟ Substituted on in the 89 minute 89'
FW 64 กานา เฟลิกซ์ อเฟนา-กียาน
FW 92 อิตาลี สเตฟาน เอล ชาราวี
ผู้จัดการทีม:[note 1]
โปรตุเกส โชเซ มูรีนโย
GK 1 เนเธอร์แลนด์ จัสติน บิจโลว์ (กัปตัน)
RB 3 เนเธอร์แลนด์ ลุตชาเรล เกียร์ทรุยดา
CB 18 ออสเตรีย เกอร์น็อต เทราเนอร์ โดนใบเหลือง ใน 25 นาที 25' Substituted off in the 74 นาที 74'
CB 4 อาร์เจนตินา มาร์กอส เซเนซี
LB 5 เนเธอร์แลนด์ ไทเรลล์ มาลาเซีย Substituted off in the 88 นาที 88'
CM 26 เนเธอร์แลนด์ กึส ตีล Substituted off in the 59 นาที 59'
CM 17 นอร์เวย์ เฟรดริค เอิร์สเนส
CM 10 ตุรกี ออร์คูน ค๊อกคู Substituted off in the 88 นาที 88'
RF 14 อังกฤษ รีสส์ เนลสัน Substituted off in the 74 นาที 74'
CF 33 ไนจีเรีย ไซเรียล เดสเซอร์ส
LF 7 โคลอมเบีย หลุยส์ ซินิสเตร์รา
ผู้เล่นสำรอง:
GK 16 โรมาเนีย วาเลนติน โคโจคารู
GK 21 อิสราเอล โอฟีร์ มาร์เซียนู
GK 30 เนเธอร์แลนด์ ไทจ์ส ยันส์เซิน
DF 2 นอร์เวย์ มาร์คุส โฮล์มเกรน พีเดอร์เซน Substituted on in the 74 minute 74'
DF 13 เนเธอร์แลนด์ ฟิลิปเป ซันด์แลร์
DF 25 เนเธอร์แลนด์ ราโมน เฮนดริกส์
DF 32 เนเธอร์แลนด์ เด็นเซล ฮอลล์
MF 6 เนเธอร์แลนด์ ยอร์ริต เฮนดริกซ์
MF 28 เนเธอร์แลนด์ เยนส์ ตูร์นสตรา Substituted on in the 59 minute 59'
FW 9 อิหร่าน แอลีเรซอ แจฮอนแบฆช์ Substituted on in the 88 minute 88'
FW 11 เนเธอร์แลนด์ บรายอัน ลินส์เซิน Substituted on in the 74 minute 74'
FW 23 สวีเดน พาทริก วาเลมาร์ค Substituted on in the 88 minute 88'
ผู้จัดการทีม:
เนเธอร์แลนด์ อาร์เนอ สลอต

ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด:
คริส สมอลลิง (โรมา)[1]

ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:[2]
Vasile Marinescu (โรมาเนีย)
Ovidiu Artene (โรมาเนีย)
ผู้ตัดสินที่สี่:[2]
Sandro Schärer (สวิตเซอร์แลนด์)
ผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ:[2]
Marco Fritz (เยอรมนี)
ผู้ช่วยของผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ:[2]
Christian Dingert (เยอรมนี)
ผู้ช่วยสนับสนุนผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ:[2]
Bastian Dankert (เยอรมนี)

ข้อมูลในการแข่งขัน[12]

  • แข่งขันเวลาปกติ 90 นาที
  • ต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที เมื่อทั้งสองทีมเสมอกันในเวลาปกติ
  • ตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษ เพื่อหาผู้ชนะ
  • มีชื่อรายชื่อผู้เล่นสำรอง 12 คน
  • การเปลี่ยนตัวผู้เล่นสูงสุดห้าคน, กับอนุญาตเปลี่ยนผู้เล่นคนที่หกได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ[note 2]

ดูเพิ่ม[แก้]

หมายเหตุ[แก้]

  1. ผู้ช่วยผู้จัดการทีมโรมา ซัลวาตอเร ฟอติ ได้รับใบเหลืองหนึ่งใบ (59').
  2. แต่ละทีมจะได้รับสิทธิ์สามครั้งที่จะได้เปลี่ยนตัวผู้เล่น, กับโอกาสครั้งที่สี่ในช่วงต่อเวลาพิเศษ, ไม่นับรวมการเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่เกิดชึ้นในช่วงพักครึ่งแรก, ก่อนที่จะเริ่มต้นของช่วงต่อเวลาพิเศษและช่วงพักครึ่งเวลาแรกในการต่อเวลาพิเศษ.

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "Smalling named official UEFA Europa Conference League final Laufenn Player of the Match". UEFA.com. Union of European Football Associations. 25 May 2022. สืบค้นเมื่อ 25 May 2022.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 "Referee teams appointed for 2022 UEFA club competition finals". UEFA.com. Union of European Football Associations. 11 May 2022. สืบค้นเมื่อ 11 May 2022.
  3. 3.0 3.1 "Full Time Summary Final – Roma v Feyenoord" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 25 May 2022. สืบค้นเมื่อ 25 May 2022.
  4. 4.0 4.1 4.2 "Tactical Lineups – Final – Wednesday 25 May 2022" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 25 May 2022. สืบค้นเมื่อ 25 May 2022.
  5. "UEFA Europa Conference League: all you need to know". UEFA.com. Union of European Football Associations. 2 December 2020. สืบค้นเมื่อ 3 December 2020.
  6. 6.0 6.1 "Tirana to host first UEFA Europa Conference League Final". UEFA.com. Union of European Football Associations. 3 December 2020. สืบค้นเมื่อ 3 December 2020.
  7. "Fillon zyrtarisht prishja e stadiumit Qemal Stafa" [The demolition of Qemal Stafa Stadium has officially begun] (ภาษาแอลเบเนีย). Albanian Public Television. Albanian Public Television. 9 June 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 August 2016. สืบค้นเมื่อ 9 June 2016.
  8. "2022 UEFA Europa Conference League final: Tirana". UEFA. 5 May 2022. สืบค้นเมื่อ 7 May 2022.
  9. "EPO plans to submit bid to host UEFA Europa Conference League final". AGONAsport. 28 December 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-05-18. สืบค้นเมื่อ 12 August 2020.
  10. "UEFA Executive Committee agenda for December meeting". UEFA.com. Union of European Football Associations. 27 November 2020. สืบค้นเมื่อ 27 November 2020.
  11. "Tirana to stage first Europa Conference League final in 2022". UEFA.com. Union of European Football Associations. 3 December 2020.
  12. "Regulations of the UEFA Europa Conference League, 2021/22 Season". UEFA.com. Union of European Football Associations. 2021. สืบค้นเมื่อ 30 April 2021.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]