ฟิล โฟเดน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฟิล โฟเดน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ฟิลิป วอลเทอร์ โฟเดน[1]
วันเกิด (2000-05-28) 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2000 (23 ปี)
สถานที่เกิด สต็อกพอร์ต อังกฤษ
ส่วนสูง 5 ft 7 in (1.71 m)[2]
ตำแหน่ง ปีก / กองกลางตัวรุก
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
แมนเชสเตอร์ซิตี
หมายเลข 47
สโมสรเยาวชน
2009–2017 Manchester City
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2017– แมนเชสเตอร์ซิตี 159 (49)
ทีมชาติ
2016 อังกฤษ อายุไม่เกิน 16 ปี 8 (2)
2016–2017 อังกฤษ อายุไม่เกิน 17 ปี 23 (11)
2017 อังกฤษ อายุไม่เกิน 18 ปี 2 (1)
2018 อังกฤษ อายุไม่เกิน 19 ปี 3 (1)
2018–2019 อังกฤษ อายุไม่เกิน 21 ปี 15 (4)
2020– อังกฤษ 33 (4)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 3 เมษายน 2024
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 26 มีนาคม 2024

ฟิลิป วอลเทอร์ โฟเดน (อังกฤษ: Phil Walter Foden; เกิดวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2000) เป็นนักกีฬาฟุตบอลชาวอังกฤษ ที่เล่นในตำแหน่งปีกให้กับทีมแมนเชสเตอร์ซิตี ในพรีเมียร์ลีก และ ทีมชาติอังกฤษ

หลังจากที่เขาได้รับรางวัล FIFA U-17 World Cup Golden Ball ในปี ค.ศ. 2017 โฟเดน ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2017 โฟเดนได้รับรางวัล BBC Young Sports Personality of the Year.

สโมสรอาชีพ[แก้]

โฟเดนเกิดที่ สต็อกพอร์ต, เกรตเตอร์แมนเชสเตอร์ ในวัยเด็ก โฟเดนเป็นแฟนบอลของแมนเชสเตอร์ซิตี, เมื่ออายุ 8ขวบ โฟเดนได้รับทุนจากอคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ซิตี ในเดือนกรกฎาคม 2016.

วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2016, เปป กวาร์ดีโอลา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ซิตี ใส่ชื่อของโฟเดนลงในเกมส์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในรอบแบ่งกลุ่ม พบเซลติก; เขามีรายชื่ออยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง แต่ไม่ได้ลงเล่น จบเกมส์นั้น แมนเชสเตอร์ซิตี เปิดบ้านเสมอเซลติก 1-1.

ในเดือนกรกฎาคม 2017, โฟเดนมีชื่ออยู่ในทีมชุดปรีซีซั่น ICC2017 ณ ประเทศ สหรัฐอเมริกา, โฟเดนเล่นได้อย่างน่าประทับใจ แต่พลาดท่าพ่ายต่อแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไป 2-0 และในเกมส์ต่อมาโฟเดนได้ลงเป็นผู้เล่นตัวจริงในกมส์ชนะ เรอัลมาดริด 4-1 .[3]

กวาร์ดีโอลา พูดถึง โฟนเดน หลังเกมส์ แมนเชสเตอร์ซิตีพลาดท่าแพ้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเกมส์ปรีซีซั่น ICC2017 ณ ประเทศ สหรัฐอเมริกา: "ผู้ชมเกมนี้ถือว่าโชคดีที่ได้เห็นการเล่นของเขาในเกมแรกร่วมชุดใหญ่แมนเชสเตอร์ซิตี เป็นเวลานานแล้วล่ะที่ผมได้เห็นอะไรแบบนี้ ฟอร์มของเขาอยู่ในอีกระดับ ทั้งๆ ทีเพิ่งอายุ 17 ปี เขาคือนักเตะซิตี้ที่เติบโตจากอะคาเดมี่ เขารักสโมสรและเป็นแฟนซิตี้ตัวยง สำหรับเรา เขาคือของขวัญอันล้ำค่า เขาจะอยู่กับเรา ร่วมฝึกซ้อมกับเราในพรีซีซั่นและบางทีอาจจะได้อยู่กับเราในฤดูกาลนี้ เพราะเขามีความพิเศษ"[4]

หลังจากนั้นโฟเดนมีชื่อติดทีมในเกมส์พรีเมียร์ลีกเป็นระยะ , โฟเดนลงสนามให้แมนเชสเตอร์ซิตีในเกมส์แรกอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2017 ในรายการ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก พบกับ ไฟเยอโนร์ด ลงสนามในนาทีที่ 75 แทน ยาย่า ตูเร. โฟเดนเป็นผู้เล่นอายุน้อยลำดับที่4 ในบรรดานัดเตะอังกฤษที่ได้ลงเล่นเกมส์แชมป์เปี้ยนส์ลีก (17 ปี 177 วัน).

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2017, โฟเดนได้รับการบันทึกว่าเป็นผู้เล่นอังกฤษที่อายุน้อยที่สุดได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมส์แชมปเปี้ยนส์ลีก (17 ปี, 192 วัน) ในเกมส์พบ ชัคตาร์โดเนตสค์ เกมนั้นแพ้ไป 2-1. โฟเดนลงเล่นเกมส์แรกในพรีเมียร์ลีกในเกมส์พบ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2017, โดยการเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 83 แทน อิลไค กึนโดอัน.

ทีมชาติ[แก้]

โฟเดนเริ่มต้นจากการติดทีมเยาวชน. ในเดือนพฤษภาคม 2017, เขาทำประตูในรอบสุดท้ายของ 2017 UEFA European Under-17 Championship ในนัดที่ทีมชาติอังกฤษU-17แพ้การดวลจุดโทษกับทีมชาติสเปนU-17 .

ในเดือนตุลาคมของปีเดียวกัน, โฟเดนได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนอย่างกว้างขวางหลังจากได้ทำ2ประตูในรอบสุดท้ายของรายการ 2017 FIFA U-17 World Cup, ในนัดพบกับทีมชาติสเปน, และทีมชาติอังกฤษได้แชมป์รายการนี้ โฟเดนถูกคัดเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมที่สุดของรายการนี้

สถิติอาชีพ[แก้]

สโมสร[แก้]

ณ วันที่ 4 มกราคม 2020 [5]
สโมสร ฤดูกาล ลีก เอฟเอคัพ ลีกคัพ ยุโรป รายการอื่น รวม
ระดับ ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
แมนเชสเตอร์ซิตี 2016–17[6] พรีเมียร์ลีก 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0
2017–18[7] พรีเมียร์ลีก 5 0 0 0 2 0 3[a] 0 10 0
2018–19[8] พรีเมียร์ลีก 13 1 3 3 5 2 4[a] 1 1[b] 0 26 7
2019–20[9] พรีเมียร์ลีก 10 0 1 1 2 0 4[a] 2 1[b] 0 18 3
รวมทั้งหมด 28 1 4 4 9 2 11 3 2 0 54 10

เกียรติประวัติ[แก้]

สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี[แก้]

ทีมชาติ[แก้]

รางวัลส่วนตัว[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Premier League clubs publish retained lists". Premier League. 9 June 2017. สืบค้นเมื่อ 17 December 2017.
  2. "2017 Under-17 World Cup squad lists" (PDF). FIFA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 30 October 2017. สืบค้นเมื่อ 31 October 2017.
  3. Clayton, David (27 July 2017). "City 4 Real Madrid 1". Manchester City F.C. สืบค้นเมื่อ 17 December 2017.
  4. "มาเหนือเมฆ! เป๊ปชมฟิล โฟเด้น". th.mancity.com. 21 July 2017. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2018.
  5. "Phil Foden Socceway Profile". สืบค้นเมื่อ 17 December 2017.
  6. "Games played by ฟิล โฟเดน in 2016/2017". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 25 April 2018.
  7. "Games played by ฟิล โฟเดน in 2017/2018". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 9 August 2018.
  8. "Games played by ฟิล โฟเดน in 2018/2019". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 10 March 2019.
  9. "Games played by ฟิล โฟเดน in 2019/2020". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 13 August 2019.
  10. "Phil Foden: Overview". Premier League. สืบค้นเมื่อ 17 May 2019.
  11. McNulty, Phil (18 May 2019). "Manchester City 6–0 Watford". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 13 August 2019.
    Cummings, Pete (27 May 2019). "Foden called up to England U21 squad". Bitter and Blue. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 13 August 2019.
  12. McNulty, Phil (25 February 2018). "Arsenal 0–3 Manchester City". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 25 February 2018.
  13. McNulty, Phil (24 February 2019). "Chelsea 0–0 Manchester City". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 10 March 2019.
  14. Begley, Emlyn (4 August 2019). "Liverpool 1–1 Manchester City". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 4 August 2019.
  15. Shamoon Hafez (17 January 2019). "England's U17 World Cup winners - where are they now?". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 17 January 2019.
  16. "Young Lions Beaten on Penalties in UEFA EURO U17 Championship Final". The Football Association. 19 May 2017. สืบค้นเมื่อ 6 February 2018.
  17. "Technical Report – Team of the Tournament". UEFA. สืบค้นเมื่อ 17 December 2017.
  18. "FIFA U-17 World Cup India 2017 – Awards". FIFA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-11-19. สืบค้นเมื่อ 17 December 2017.
  19. "BBC Young Sports Personality of the Year 2017: Footballer Phil Foden wins". BBC Sport. 17 December 2017. สืบค้นเมื่อ 17 December 2017.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]