ตำนานพระร่วง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระร่วงและขอมดำดิน

พระร่วง เป็นตำนานว่าด้วยวีรบุรุษของคนไทย ปรากฏเป็นนิทานประจำถิ่นของชาวบ้านแถบจังหวัดสุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก อุตรดิตถ์และตาก

การบันทึก[แก้]

มีอยู่ 2 เนื้อหาตำนาน คือ พระร่วงสวรรคโลกและพระร่วงชาวละโว้[1] ปรากฏเป็นตำนานปรัมปรา มุขปาถะ และนิทานชาวบ้าน เช่น พงศาวดารเหนือ พงศาวดารมอญพม่า ตำนานเมืองนครศรีธรรมราชมีการเอ่ยถึงพระร่วงซึ่งเป็นกษัตริย์สุโขทัยมาอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ขึ้นไปประดิษฐานที่เมืองสุโขทัย ยังปรากฏในจุลยุทธการวงศ์ฉบับความเรียงภาษาไทย ประชุมพงศาวดารภาคที่ 66 ประชุมพงศาวดารภาคที่ 1 คำให้การชาวกรุงเก่า ราชพงษาวดารกัมพูชา พงศาวดารเมืองเชียงใหม่ฉบับใบลานยาวเลขที่ 1/ณ พงศาวดารโยนกและชินกาลมาลีปกรณ์[2]

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำมาพระราชนิพนธ์เป็นบทละครเรื่องพระร่วงฉบับชาวละโว้ และละครร้องเรื่อง อานุภาพพ่อขุนรามคำแหง ของหลวงวิจิตรวาทการ (วิจิตร วิจิตรวาทการ)[3]

เนื้อหาตำนาน[แก้]

ภาพวาดจาก พระราชนิพนธ์พระร่วง พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ในพงศาวดารเหนือกล่าวว่าพระร่วงเป็นต้นวงศ์ของกษัตริย์สุโขทัยมีอยู่ 2 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ พระร่วงสวรรคโลก กล่าวถึงพระร่วงที่เป็นโอรสของกษัตริย์องค์หนึ่ง ซึ่งครองเมืองแล้วออกไปบำเพ็ญพรตอยู่ในป่าชื่อพระอภัยราชาคามณี เหตุเกิดที่เมืองสวรรคโลก บริเวณแก่งหลวงซึ่งอยู่ในเขตอำเภอหน้าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เนื้อหาตอนหนึ่งเล่าว่าพระร่วง แห่งเมืองสวรรคโลกกับน้องชายคือ เจ้าฤทธิกุมาร ได้เสด็จไปเมืองจีน เพราะโกรธที่กรุงจีนไม่มาช่วงพระองค์ทำพิธีลบศักราช สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สันนิษฐานว่าพระร่วง คือ พ่อขุนรามคำแหงและไปเอาช่างจีนเข้ามาทำถ้วยชามสังคโลกในครั้งนั้น ส่วนนักประวัติศาสตร์สมัยใหม่เชื่อว่าพระร่วงคือเจ้านครอินทร์ กษัตริย์เจ้าเมืองสุพรรณบุรี ซึ่งต่อมาจะย้ายมาครองราชย์เป็นสมเด็จพระนครินทราชา[4]

อีกเรื่องคือ พระร่วงชาวละโว้ผู้มีวาจาสิทธิ์ ซึ่งเป็นเป็นบุตรของนายคงเครา หัวหน้าชาวไทยที่ต้องส่งส่วยน้ำให้ขอม ครั้งต้องส่งส่วยน้ำโดยบรรจุในเครื่องดินเผาจากเมืองลพบุรีไปเมืองขอม แต่เครื่องดินเผานั้นหนัก พระร่วงจึงใช้วาจาสิทธิ์ขอให้ชะลอมสามารถใส่น้ำได้จึงทำให้การขนส่งน้ำมีน้ำหนักเบาและจัดส่งได้ทันเวลา พระเจ้าปทุมสุริยวงศ์กษัตริย์ขอมเกิดคิดอาฆาตพระร่วง ทำให้ต้องหนีไปบวชที่เมืองสุโขทัย กษัตริย์ขอมก็ส่งสายลับดำดินไปโผล่ที่ลานวัด พระร่วงจึงเอ่ยวาจาสิทธิ์ให้หยุดอยู่ตรงนั้นทำให้สายลับกลายเป็นหิน[5]

นาม[แก้]

การใช้คำว่าพระร่วงแทนพระนามของกษัตริย์สุโขทัยนั้น ปรากฏอยู่ในพงศาวดารเหนือในเหตุการณ์ที่กษัตริย์ 3 พระองค์ที่เป็นพระสหายร่วมสาบานชี้พื้นที่สำหรับสร้างนครพิงค์ ได้แก่ พญามังรายของล้านนา พญางำเมืองของรัฐพะเยา และพระร่วงของสุโขทัย ซึ่งหมายถึง พระยารามราช หรือพ่อขุนรามคำแหงมหาราช สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงมีสันนิษฐานว่า กษัตริย์ที่สืบเชื้อพระวงศ์ต่อจากพ่อขุนรามคำแหงจะแทนด้วยคำว่าพระร่วงทั้งหมด แม้แต่ในสมัยอยุธยาก็ยังคงออกนามเชื้อพระวงศ์ที่สืบสายมาจากกษัตริย์สุโขทัยว่า วงศ์พระร่วง

คติความเชื่อ[แก้]

คติความเชื่อในเรื่องพระร่วงที่ปรากฏในงานประติมากรรมประเภทพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย ได้แก่ หลวงพ่อพระร่วง วัดมหรรณพาราม พระร่วงโรจนฤทธิ์ พระพุทธรูปประทับยืนที่ประดิษฐานอยู่ ณ วิหารเหนือของพระปฐมเจดีย์ ประติมากรรมพระร่วง-พระลือที่ประดิษฐานอยู่ที่กุฏิพระร่วงภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุราชวรวิหาร สถานที่อันเกี่ยวข้องกับตำนาน ได้แก่ รอยอัณฑะพระร่วง น้ำพุร้อนพระร่วง วัดตระพังทองหลาง[6]

นอกจากนั้นยังมีการเรียกชื่อสถานที่โบราณต่าง ๆ เช่น โซกพระร่วงลองพระขรรค์ และถนนพระร่วง เป็นต้น[5] มีสิ่งที่ออกพระนามพระร่วงด้วยหลายสิ่ง เช่น ข้าวตอกพระร่วง ปลาพระร่วง ทำนบพระร่วง ไตรภูมิพระร่วง สุภาษิตพระร่วง ปากพระร่วง (ผู้มีวาจาสิทธิ์ว่าอะไรเป็นอย่างนั้น) และเรือรบของไทยลำหนึ่งก็ชื่อ เรือหลวงพระร่วง

อ้างอิง[แก้]

  1. "เล่าขาน ตำนานพระร่วง". ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน.
  2. "นิทานพระร่วง". สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุโขทัย. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-08-26. สืบค้นเมื่อ 2022-08-26.
  3. "มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-08-26. สืบค้นเมื่อ 2022-08-26.
  4. ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ. "เจ้านครอินทร์ 'พระร่วง' ผู้เสด็จเมืองจีน และนำเอาการทำเครื่องสังคโลกกลับมายังสยาม". มติชนสุดสัปดาห์.
  5. 5.0 5.1 "ตำนานพระร่วง". ไทยศึกษา.
  6. "คติความเชื่อเรื่องพระร่วงในสังคมไทย: บทบาทและการดำรงอยู่". มหาวิทยาลัยบูรพา.